โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 619 - เลเวล A ชินระ
Ep.619 – เลเวล A ชินระ
ประกายแสงสีทองฟาดกวาดออกไป ผู้ใช้พลังเลเวล B ร้องคำรามเกรี้ยวกราด ม้วนตัว กลิ้งหลบไปอีกทางหนึ่ง ทว่าผู้หญิงสองคนบนเตียงเขาไม่โชคดีเช่นนั้น ปะทะเข้ากับกรงเล็บมังกร ถูกเปลี่ยนเป็นซอสเนื้อ ยังไม่พอ กระทั่งเตียงใหญ่ยังถูกบดขยี้เป็นขี้เลื่อย
“แกเป็นใครกัน?”
เลเวล B ยังมีความกระดากอายอยู่บ้าง คว้าผ้าห่มพันรอบเอวเขา จ้องเขม็งมาทางฉินเฟิงกับไป๋หลีด้วยความโกรธ
แต่หลังจากที่เห็นไป๋หลี ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง มิอาจละสายตาไปได้เลย
“ฮึ่ม!”
ฉินเฟิงส่งเสียงเย็นชาผ่านลำคอ ฟาดอีกฝ่ามือออกไป “ก็เป็นคนที่จะมาฆ่าแกยังไงเล่า!”
ฉินเฟิงในวันนี้ หลังจากสั่งสมประสบการณ์และฟันฝ่าการฝึกฝนมามากมาย เขาก็ไม่เหมือนกับแรกเริ่มที่สังหารกวงเว่ยอีกต่อไป ความแข็งแกร่งก้าวกระโดดขึ้นจนเห็นได้ชัด หากคิดสังหารผู้ใช้พลังเลเวล B ไม่ถือว่าเป็นเรื่องยากเย็น
หึ่ง หึ่ง!
ปราณกำลังภายในถูกปลดปล่อยออกมา แต่ทันทีหลังจากมันกระทบเข้ากับหมัดของฉินเฟิง ก็ถูกบดขยี้เป็นเสี่ยงๆ
เพล้ง!
หมัดของฉินเฟิงทะลุโล่ปราณ ซัดเข้าใส่ไหล่ของชายคนนั้น
กร๊อบ!
ตรงตำแหน่งหัวไหล่บังเกิดเสียงกระดูกแตกร้าว
ตูม ตูม ตูม!
หมัดที่สอง สาม สี่ ตามมาติดๆ ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B ไร้ซึ่งอำนาจตอบโต้
แม้อีกฝ่ายจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินเฟิง แต่ก็ยังคงพยายามปัดป้อง ปกป้องตนเองอย่างแข็งขัน ไม่ยินยอมให้ฉินเฟิงโจมตีเข้าจุดตายในคราวเดียว
ทว่าหลังจากทานรับการโจมตีอยู่หลายครั้ง ศัตรูก็สูญสิ้นกำลังป้องกัน กระดูกปริร้าวไปทั้งตัว
“ทักษะลับกลืนดารา!”
ฉินเฟิงกดฝ่ามือลงบนท้องของคู่ต่อสู้ พลังภายในจากอีกฝ่ายเริ่มถูกดูดซับเข้าหาฉินเฟิง ร่างของผู้ใช้พลังเลเวล B สั่นสะท้าน ปากกระอักเลือดคำโต
ไม่นาน กำลังภายในของศัตรูก็ถูกฉินเฟิงดูดซับจนหมดสิ้น ฉินเฟิงง้างฝ่ามือ สับลงตรงคอของเลเวล B ที่ไม่อาจขัดขืน
“อั๊ก ….”
กลิ่นอายฝ่ายตรงข้ามสลายหายไป
เลเวล B ตกตายอย่างไร้ปราณี
ฉินเฟิงดีดนิ้ว เปลวเพลิงลุกไหม้บนปลายนิ้วเขา ก่อนตกลงบนศพเลเวล B แผดเผาเป็นขี้เถ้า เหลือทิ้งไว้เพียงอุปกรณ์รูนมิติหลายชิ้นร่วงตกลงกับพื้น ทั้งหมดถูกจับยัดใส่กระเป๋าของฉินเฟิง
พอเสร็จเรื่องราว ไป๋หลีถึงค่อยยกเลิกมิติเอกเทศ โลกภายในไม่มีใครรู้เรื่องราว ไม่ทราบว่าเคยมีการต่อสู้เกิดขึ้น ไม่ทันได้ตระหนักว่าหนึ่งในตัวตนทรงพลังเลเวล B ได้เสียชีวิตไปแล้ว!
ฉินเฟิงเอ่ยเสียงเย็น “หาเหยื่อหลังต่อไป”
จากนั้น ทั้งสองก็หายวับไปจากสถานที่เดียวกัน ดำเนินการล่าสังหารอีกรอบ
ผ่านพ้นมาหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้ายิ่งดึกยิ่งมืดสลัว จวบจนกระทั่งเวลาเที่ยงคืน นับตั้งแต่หายนะในครั้งนี้เกิดขึ้น ผู้คนเริ่มหลับไหล จมอยู่ในห้วงของการพักผ่อน
อย่างไรก็ตาม ในฐานะบอสของที่นี่ เป็นธรรมดาที่ชินระจะยังคงมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เขาผุดลุกจากเตียงอย่างสง่าผ่าเผย
ปัจจุบัน ชินระอยู่ในห้องใต้ดิน โดยมีวัยรุ่นสาวหน้าตาสวยสดงดงามนอนแผ่อยู่บนเตียงที่ชุ่มไปด้วยเลือด ขณะนี้ ตามตัวเธอฟกช้ำดำเขียว ทั้งยังมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก ดวงตาเบิกกว้าง แววตาที่สะท้อนออกมากลายเป็นสีเทา สองแขนสองขา ทั้งหมดอยู่ในรูปลักษณ์ที่ดูบิดเบี้ยว
–เธอตายไปแล้ว
ถูกสังหารอย่างโหดร้ายทารุณ
ชินระยืนขึ้น สวมชุดคลุม และค่อยๆก้าวเดินขึ้นบันได
“น่าเบื่อจริงๆ เล่นได้ไม่เท่าไหร่ก็หมดสนุกแล้ว”
วัยรุ่นสาวบนเตียง แม้อายุยังน้อย แต่ความแข็งแกร่งได้มาถึงเลเวล E แล้ว สำหรับสถานชุมชนบางแห่ง การดำรงอยู่ของเธอย่อมถูกยกย่องว่าเป็นเด็กสาวอัจฉริยะ แต่ดันโชคร้ายถูกชินระจับตัวมา กระทำเป็นของเล่น ได้รับประสบการที่เจ็บปวด ทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด สุดท้ายต้องจบชีวิตลง
กระทั่งผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่ออยู่ในเงื้อมมือของชินระ อย่างไรไม่มีทางรอดได้เกินเจ็ดวัน
ไม่นานมานี้ ความกระหายโรคจิตของชินระยิ่งมานยิ่งกล้าแข็ง ช่วงสิบวันที่ผ่านมา มีวัยรุ่นสาวถูกเขากระทำชำเราจนตายมากถึงเจ็ดคน
ชินระพอขบคิดเกี่ยวกับมัน ก็เปิดอุปกรณ์สื่อสาร
“สาวงามคนนั้น ถ้าฉันไม่ได้ครอบครองเธอ จิตใจคงไม่สงบ ทั้งๆที่เป็นแค่เลเวล C แต่กลับฆ่าคนของฉันได้ แต่เธอจะหนีไปได้นานแค่ไหนกัน? หรือต้องให้ฉันไปจับตัวกลับมาด้วยตัวเอง?”
ชินระหรี่ตาลง คนที่เขาพูดถึง แน่นอนว่าย่อมเป็นไป๋หลี
พวกฉินเฟิงได้สังหารติหรังกับฟูโลวเก๋อ อันที่จริงแล้วชินระไม่คิดนิ่งเฉย เขาส่งคนสืบความเป็นมาของฉินเฟิง และไม่นาน ข้อมูลของฉินเฟิงก็มาถึงหูของชินระ
–คว้าอันดับหนึ่งในงานประลองลูกรักของพระเจ้าเมื่อปีที่แล้ว , รั้งตำแหน่งผู้การรัฐทะเลเหนือ
แค่สองสถานะนี้ ก็พอแล้วที่จะทำให้ชินระรู้สึกว่าฉินเฟิงนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป
บุคคลเช่นนี้ ชินระสมควรระมัดระวังตัวให้มากเข้าไว้ กระทั่งตัวเขาเอง ยังเกิดความคิดที่ว่า หากโจมตีฉินเฟิง แล้วอีกฝ่ายหลบหนีไปได้ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เลเวล A ในเมืองกลางตู่ซานอาจออกหน้ามาเอาคืนให้แก่มัน
ด้วยข้อกริ่นเกรงนี้เอง นำมาสู่สาเหตุที่สิบกว่าวันที่ผ่านมา ชินระถึงไม่กล้าเคลื่อนไหว
ความแข็งแกร่งของชินระได้มาถึงจุดสูงสุดของตัวเขาเองแล้ว ดังนั้นไม่คิดฝึกฝนอีก และนั่นก็ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดตลอดเวลา ดังนั้นเลยจำเป็นต้องหาผู้หญิงมาเป็นที่ระบาย
ส่งผลให้ยิ่งนาน หญิงสาวก็ยิ่งตกตายลงมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
ชินระยกข้อแขนขึ้น กดอุปกรณ์สื่อสาร เขาตั้งใจจะโทรหาเลเวล B บางคนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของฉินเฟิง
แต่อุปกรณ์สื่อสารดังนานกว่าห้าครั้งแล้ว ก็ยังไม่มีใครรับสาย นี่ทำให้สีหน้าของชินระเริ่มหมองลง
“ไอ้บ้านี่มัวแต่เล่นกับสาวจนลืมรับสายรึไง?”
ชินระโทรหาอุปกรณ์สื่อสารของอีกคนหนึ่ง
แต่ครั้งนี้ น่าแปลกที่ไม่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างกะทันหัน
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
ชินระโทรหาหมายเลขของคนที่สาม ครั้งนี้มีสัญญาณแต่ไม่มีใครรับสายอีก
เมื่อเกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันถึงสามครั้ง คราวนี้ชินระเริ่มตะหงิดใจเล็กน้อย พบว่าสถานการณ์มันไม่ถูกต้อง
ชินระคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล A แม้ความสามารถในการรับรู้จะด้อยกว่าผู้ใช้อบิลิตี้ แต่มันก็กว้างไกลกว่าหนึ่งกิโลเมตร สามารถตรวจสอบถึงวิกฤตต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ในการรับรู้ของเขา สามารถตรวจสอบลึกถึงแค่สถานการณ์พื้นฐานเท่านั้น และทันทีที่เขาปลดปล่อยกำลังภายในกวาดออกไป สำรวจพื้นที่รอบๆ ไม่นานก็พบกับเรื่องผิดปกติอย่างรวดเร็ว ว่ากระท่อมไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเขา มันว่างเปล่า
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
ตั้งแต่ที่ชินระขึ้นเป็นเลเวล A นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกขนลุก
ภายในกระท่อมไม้สมควรมีผู้ใช้พลังเลเวล B อยู่ มันจะว่างเปล่าไปได้อย่างไร ทุกคนไปอยู่ที่ไหนกัน?
วูซซซ!
ใต้เท้าของชินระบังเกิดลมหมุน เพิ่มพูนความเร็วของเขา พริบตาเดียวมาโผล่ลงใจกลางกระท่อมหลังนั้น และเห็นว่าสภาพห้องถูกทำลาย
ช่วงเวลานี้ ชินระตระหนักได้ทันที ว่านี่คือฝีมือของศัตรูที่ลอบเข้ามา
“ศัตรูบุก!!”
ชินระคำรามเกรี้ยวกราด กำลังภายในถ่ายเทลงในน้ำเสียงของเขา มันดังสนั่นดั่งอัสนีบาตยามค่ำ กวาดกระจายไปทั้งหมู่บ้าน
ทันใดนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนผุดลุกจากเตียง ลืมตาตื่นจากการหลับไหล แต่ยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง
ชั่วเวลานี้ การรับรู้ของชินระเริ่มค้นหาอย่างไม่ลดละ ไม่นานเขาก็ค้นพบการดำรงอยู่ของกระท่อมไม้หลังหนึ่งที่ผิดแผกออกไป
ทั้งๆที่บ้านหลังนั้นก็ปรากฏอยู่ในสายตา แต่เขาไม่อาจรับรู้ถึงภายในมันอย่างกะทันหัน
“โล่พลังสมาธิ?”
ร่างของชินระสั่นเทิ้ม โฉบกายไปอย่างรวดเร็ว ไม่คิดเข้าทางประตูหน้า เงื้อมกำปั้นชกหน้าต่างกระท่อมอย่างแรง
เพล้งงงง!
เศษแก้วแตกเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งข้างใน ยังปรากฏรังสีแสงสีขาวนวล
ตูม!
แขนของชินระรู้สึกเจ็บแปล่บ มันไม่สามารถทำลายกำแพงอุปสรรคนี้ได้อย่างกะทันหัน
“อย่าบอกนะว่านี่เป็นกำแพงอุปสรรคของเขตแดนลับ? มันคือรูนมิติ?”
ชินระเป็นคนฉลาด เขาสามารถจำแนกได้ทันทีว่านี่คืออะไร
ขณะนั้นเอง ภายในมิติเอกเทศ ไป๋หลีเป็นคนแรกที่สามารถรับรู้ ว่าศัตรูอันทรงพลังได้มาเยือนแล้ว