โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 620 - เผชิญหน้ากับชินระ
Ep.620 – เผชิญหน้ากับชินระ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การโจมตีของชินระ ถือเป็นพลังงานอันห้าวหาญชนิดหนึ่ง
“มีใครบางคนคิดบุกเข้ามา!” ไป๋หลีร้องเตือน “แต่อำนาจระดับนี้ คิดว่าคงเป็นชินระ!”
ได้ยินแบบนี้ ดวงตาของผู้ใช้พลังในห้องที่กำลังดิ้นรนขัดขืน พลันสว่างไสวไปด้วยประกายของความปรารถนาในการเอาชีวิตรอดทันที
“พวกแกสองคนหยุดแค่นี้จะดีกว่า ถ้ายอมทำตาม ฉันจะร้องขอให้บอสไว้ชีวิตพวกแกเอง แต่ถ้ายังไม่หยุด เชื่อได้เลยว่าฉันจะทำให้แกมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตกตาย!” ผู้ใช้พลังร้องตะโกน
“พล่ามมากจริงๆ” ฉินเฟิงฟาดฝ่ามือ ตีอีกฝ่ายกระอักเลือดออกมา
“ในเมื่อมันรู้ตัวแล้ว ก็สลายมิติเอกเทศเถอะ เธอไปรั้งตัวชินระไว้ ส่วนฉันจบเรื่องที่นี่แล้วจะรีบตามไป” ฉินเฟิงกล่าว
ไป๋หลียิ้มตาหยี กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ “ไม่จำเป็นหรอก แค่ฉันคนเดียวก็เกินพอ”
แน่นอน ว่าไป๋หลีมิได้พูดล้อเล่น! เพราะท้ายที่สุดแล้ว ปัจจุบันเธอคือจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล B !
“จงกลับคืน!”
ไป๋หลีเรียกรูนมิติกลับมา ทันใดนั้นความมืดมิดรอบกายพลันจางหาย รูปลักษณ์ดั้งเดิมของบ้านกลับคืนมาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น กำแพงบ้านและสภาพรอบนอก กลับถูกทำลายลงจนหมดสิ้น แหลกสลายกลายเป็นว่างเปล่า
เห็นได้ชัดว่านี่คือฝีมือของชินระ!
ดวงตาของผู้ใช้พลังเปล่งประกายสดใสทันใด เขากระโจนออกมาข้างนอกโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด
“ท่านผู้นำ ได้โปรดช่วยฉันด้วย!”
เดิมทีผู้ใช้พลังคนนี้ระมัดระวังตัวอย่างถึงที่สุด ดิ้นรนป้องกันไม่ยินยอมจมสู่ความตาย ฉินเฟิงสู้ตั้งนานก็ไม่สามารถหาช่องโหว่ของศัตรูได้สักที ทว่าเวลานี้ สิ่งที่กล่าวมากลับถูกเผยโฉม ฉินเฟิงไร้ซึ่งความลังเล ชักมีดกษัตริย์คราม วาดสะบัดมันออกไป!
“กระบวนท่าพลุไฟสงคราม!”
เปลวเพลิงสีแดงอมม่วงปะทุโหม หลอมรวมกันแลคล้ายริบบิ้นสีบานเย็นกรีดผ่านอากาศ เจาะทุลวงเข้าร่างของผู้ใช้พลังเลเวล B อย่างกะทันหัน และยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น มันยังพุ่งเป็นเส้นตรง มุ่งเข้าหาชินระที่อยู่ข้างนอก
หึ่ง หึ่ง!
พลุไฟสงครามปะทะเข้ากับโล่ปราณกำลังภายในของชินระ ส่งเสียงฮึมฮัมฉวัดเฉวียน ปราณกำลังภายในของชินระถูกแผดเผาจนเต็มไปด้วยควันไฟคละคลุ้ง ทว่าจวบจนกระทั่งเส้นแสงพลุไฟสงครามเหือดหายไป โล่ปราณกำลังภายในของชินระก็ยังไม่สลายลง
และจุดที่ถูกโถมโจมตีจนเปราะบางลง ก็ค่อยๆถูกเติมเต็มโดยกำลังภายในอันแข็งแกร่งอย่างช้าๆ
นี่เป็นครั้งแรกเลย ที่มีคนต้านทานพลุไฟสงครามได้
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงก้าวเดินไปยังรูใหญ่บนผนังห้อง ภายนอก บนต้นไม้ใหญ่ ชินระที่ยืนอยู่บนกิ้งไม้ เฝ้ามองฉากตรงหน้าด้วยสีหน้าแข็งกระด้างดั่งเหล็กหลอม
เขาได้สูญเสียลูกน้องเลเวล B ไปคนหนึ่ง
ต่อให้ตนเป็นเลเวล A แต่ก็ใช่ว่าจะมีลูกน้องเยอะแยะมากมายอะไร ลูกน้องเลเวล B ของเขาทุกคนไม่ต่างจากสมบัติล้ำค่า!
แต่ตอนนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าตนต้องมาเห็นหนึ่งในนั้นได้ตายลง ยังไม่พอ เมื่อลองนึกย้อนไปถึงฉากที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ ที่สภาพภายในกระท่อมกลายเป็นว่างเปล่า ทั้งเฟอร์นิเจอร์ยังถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง มันบ่งบอกได้อย่างชัดเจน ว่าฉินเฟิงสังหารไปมากกว่าหนึ่งคน!
“พวกแก!”
เพียงมองฉินเฟิงกับไป๋หลีตรงหน้า ชินระก็จดจำได้ทันทีว่าทั้งสองเป็นใคร!
“ทางไปสวรรค์มีไม่ยอมเดิน ดันตรงมาเคาะประตูนรก ประเสริฐ! ประเสริฐมาก!”
ชินระอารมณ์เดือดดาล ตวาดอย่างรุนแรง
ด้วยความแข็งแกร่งของชินระ เขาสามารถกุมตัวไป๋หลี และสังหารฉินเฟิงได้ก็จริง แต่สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันอยู่ไกลเกินกว่าการควบคุมของเขา!
นี่เองจึงเป็นเหตุให้ชินระรู้สึกโกรธมาก เพราะความยิ่งใหญ่ที่ตนเพาะสร้างมาเป็นเวลาหลายปี กองกำลังของเขา เกือบทั้งหมดกลับถูกทำลายลงในวันเดียว
ดังนั้นสิ่งเดียวที่ชินระต้องการในเวลานี้ ก็คือสังหารทั้งสองซะ!
บังเกิดเพียงเสียงคลิกใต้ฝ่าเท้าของเขา รู้สึกตัวอีกที ชินระก็กระโจนเข้ามาแล้ว
มีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิงกุมแน่น หลังจากกลับมาเกิดใหม่ นี่คือครั้งแรกเลยที่เขาต้องต่อกรกับศัตรูเลเวล A กระทั่งในชีวิตก่อนเอง ระหว่างเลเวล A ด้วยกัน ยังยากนักที่จะหาโอกาสประมือ!
เพราะเมื่อไปถึงเลเวลนั้น ความแข็งแกร่งจะไม่แตกต่างกันมากนัก ดังนั้นหากสู้กันอย่างไรย่อมสูญเสียทั้งสองฝ่าย และมันไม่มีใครหรอกที่ต้องการให้ความแข็งแกร่งที่ตนฝึกฝนมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายสลายไปกับความว่างเปล่า
ผู้คนน่ะ ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหวาดกลัวในความตายมากเท่านั้น พวกเขาหวั่นเกรงว่าจะสูญเสียทุกอย่างไป
ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงมิได้หวาดกลัว!
แต่นี่ไม่ใช่เพราะเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่มันคือความมั่นใจในตัวไป๋หลี
หากมีไป๋หลี ฉินเฟิงสามารถไปยังที่ใดก็ได้ สามารถหลบหนีศัตรูได้ตลอดเวลา แน่นอน ว่ากรณีนี้ไม่นับพวกวิปริตอย่างแซด แต่ทั่วทั้งโลกใบนี้ จะมีตัวประหลาดแบบแซดซักกี่คนกัน? หยิบมือเดียวเขาว่ายังไม่ถึงเลย!
ด้วยเหตุนี้เอง ฉินเฟิงจึงพกพาความมั่นใจมาอย่างเต็มเปี่ยม
เฝ้ามองชินระโถมเข้ามา มีดกษัตริย์ครามในมือวูบไหว วาดสะบัดออกไปอีกครั้ง
กำลังภายในมหาศาลถูกถ่ายเท มีดกษัตริย์ครามคล้ายมีอำนาจเพิ่มพูนขึ้นหลายสิบเท่า
แต่ฝั่งตรงข้าม ชินระชัดเจนว่าต้องการสังหารฉินเฟิงในกระบวนท่าเดียว เจ้าตัวชักอาวุธประจำกายออกมา และมันยังคงเป็นมีดเฉกเช่นเดียวกัน
ทว่านี่ไม่ใช่มีดธรรมดา หากแต่เป็นมีดตัดขุนเขา!
ตรงขอบใบมีดทั้งหนาและแหลมคม เปี่ยมไปด้วยพลัง
“ไปลงนรกซะ!”
ฮู้มมมม!
มีดตัดขุนเขาสับลงมา แหวกชั้นอากาศก่อกำเนิดเสียงหวีดหวิว ส่งแรงกดดันหนักหน่วง
“ที่พูดนั่นหมายถึงตัวเองใช่ไหม?”
ฉินเฟิงคำรามกราด ย่ำเท้าข้างหนึ่งทุ่มแรงทั้งหมดลงกับพื้น กระโจนออกไปในทำนองเดียวกัน
ตูมมมม!
กระท่อมสองชั้นพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ฉินเฟิงลอยละลิ่วขึ้นกลางอากาศ ปะทะเข้ากับชินระ
เปรี้ยง!
สองคมมีดประสานงา ดั่งเฮอริเคนสองลูกอันน่าหวาดกลัวโถมเข้าหากัน กวาดกระจายไปทุกทิศทาง พืชพรรณและต้นไม้รอบบริเวณ ถูกบดขยี้ยับเยิน
“กระบวนท่าสะบั้นนภาผ่าปฐพี!”
ชินระคำรามก้อง มีดใหญ่คล้ายถูกสนับสนุนโดยอำนาจมหาศาล ฟาดเฉือนลงมาอีกครา ประกายแสงสีดำสาดไสวสะท้อนเข้ามาในดวงตา ราวกับว่ามีดตัดขุนเขาสามารถเชือดเฉือนได้ทุกสรรพสิ่ง ไม่เว้นกระทั่งความว่างเปล่า
ฉินเฟิงมิอาจหลบเลี่ยงกระบวนท่านี้ได้ แต่ใช่ว่าเขาต้องการจะหลบเลี่ยงมันซะที่ไหน
“กระบวนท่าพลุไฟสงคราม!”
สองกระแสพลังงานประสานงากัน ก่อกำเนิดแรงระเบิดหลายระลอก
แต่หากให้กล่าวอธิบายโดยละเอียด ในความเป็นจริงทั้งคู่เพิ่งแลกเปลี่ยนกันแค่สองกระบวนท่าเท่านั้น แต่แค่นี้กลับกินเวลายาวนานกว่าสิบวินาที จนกระทั่งทั้งสองร่วงลงจากฟ้า เมื่อเท้าแตะพื้น ก็ฟาดฟันคมมีดเข้าหากันอย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง
ตูม!
เปรี้ยง!
เคร้งงง!
กำลังภายในยิ่งมายิ่งถูกแผดเผา ทว่าโล่ปราณกำลังภายในของทั้งสอง ยังไม่มีฝ่ายใดปริร้าวเสียหาย
‘ใช่จริงๆ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉัน มันยังไม่เพียงพอที่จะสังหารเลเวล A !’
อย่างมากสุดก็แค่สามารถต่อกรกับเลเวล A ได้อย่างสูสี ทว่ากำลังภายในของฉินเฟิง ปัจจุบันกลับถูกรีดเร้น เหือดหายไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าเขาจะครอบครองทะเลสาบกำลังภายในกว่า 99 แห่งก็ตาม
ต่อให้นับฉินเฟิงเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B และครอบครองกำลังภายในเทียบเท่าได้กับเก้าเท่าของผู้ใช้พลังเลเวล A0 ทว่ารูปแบบกำลังภายในที่หลอมกลั่นของทั้งสองคนนี้แตกต่างกัน ดังนั้นผลลัพธ์ที่แสดงย่อมแตกต่าง
นี่ยังไม่กล่าวถึงอาวุธในมือชินระ ที่วิเศษไม่แพ้กัน ในแง่ของความแข็งแกร่ง มีดกษัตริย์ครามยังถือว่าด้อยกว่าอยู่หลายส่วน
ดังนั้น ยิ่งโจมตี ยิ่งเชือดเฉือน ยิ่งฟาดฟัน ฉินเฟิงก็ยิ่งตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ไอ้เด็กน้อย ปลิวไปซะ!”
มีดตัดขุนเขาในมือชินระเหวี่ยงสะบัด พริบตาเดียวยกทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิงลอยขึ้นจากพื้น
เพล้งงง!
โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิง ในที่สุดก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
“ตาย!!”
ดวงตาของชินระฟุ้งไปด้วยเจตนาฆ่า เจ้าตัวก้าวสะอึกไปข้างหน้า เชือดเฉือนมีดตัดขุนเขาจากเหนือหัว คิดสะบั้นฉินเฟิงขาดครึ่งโดยตรง
อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงก็กลับคืนมาอีกครั้ง
ปงงงง!
มีดตัดขุนเขาสับเข้าใส่มัน ฉินเฟิงถูกกระแทกปลิวออกไปอีกคราว
ช่วงเวลานี้ กระท่อมหรูที่ฉินเฟิงกับชินระกำลังต่อสู้กัน ได้ถูกเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว อีกทั้งเมื่อเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ ผู้ใช้พลังคนอื่นๆย่อมทยอยกันปรากฏตัวทีละคน ทีละคน แม้แต่เลเวล B ก็ยังวิ่งออกมาดูชม ทว่ากลับเหลืออยู่เพียง 3 คนเท่านั้น
ที่ไม่โผล่มา ตายหมดแล้ว!
“เกิดอะไรขึ้น? ทั้งสองคนนั้นเป็นใครกัน”
“เดี๋ยวนะ ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นๆจัง เธอ … เธอเป็นคนที่บอสสั่งให้จับตัวมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรอ!”
“ฮึ่ม! ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะกล้ามาเคาะประตูถึงนี่ ในเมื่อเนื้อฉ่ำมันมาส่งถึงที่ พวกเรามาดูกันว่าบอสจะฆ่าพวกมันอย่างไร!”
“ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!”
ฝูงชนตะโกนโห่ร้อง รับชมการต่อสู้ระหว่างฉินเฟิงกับชินระจนเลือดลมพลุ่งพล่าน
ฝั่งฉินเฟิง เขาถูกฟาดปลิวไปอีกที มุมปากปรากฏเลือดหลั่งรินออกมา
“พอแล้ว! เดิมทีเขาเป็นศัตรูของฉัน ฉันจะลงมือเอง!” ไป๋หลีก้าวมาขวางหน้าฉินเฟิง สะบัดแส้มิติออกไป!