โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 621 - กวาดล้างกลุ่มปีศาจชินระ
ไป๋หลีโฉบกายมาขวางหน้าฉินเฟิงอย่างกะทันหัน แม้แต่ชินระก็ไม่ทันตั้งตัวกับเหตุการณ์นี้
ต่อมา พลังมิติอันน่าหวาดกลัวระเบิดออก ชั้นอากาศรอบตัวชินระเริ่มบิดเบี้ยวและพังทลายลง
มิติอันมืดมิดเริ่มแทรกซึมลงเข้าสู่โล่ปราณกำลังภายในของชินระ
“นี่มันอะไรกัน?”
เป็นครั้งแรกเลยที่ชินระพบพานการโจมตีเช่นนี้ เขาร้องอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่นาน เมื่อสังเกตลักษณะของรูน เขาก็ตระหนักได้ถึงมัน
“รูนมิติ … ที่แท้มิติในบ้านเมื่อกี้เป็นฝีมือของเธอ!”
สิ่งที่กระทั่งชินระก็ไม่สามารถทำลายมันได้ในตอนแรก เจ้าของๆมันกลับกลายเป็นไป๋หลีที่ตนมองว่าเป็นแจกันประดับมาโดยตลอด!
ชินระเพ่งมองเด็กสาวเบื้องหน้าที่ตนเฝ้าปรารถนามานาน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าหวาดกลัวจากอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่อาจระบุระดับความแข็งแกร่งของเธอได้อย่างชัดเจน
ส่วนไอ้ตราผู้ใช้พลังเลเวล C บนอกของไป๋หลี นั่นมันเรื่องไร้สาระ ชินระย่อมรู้แจ้งแก่ใจ ว่ากำแพงอุปสรรคที่สามารถป้องกันการโจมตีของเขา มิใช่สิ่งที่เลเวล C จะปลดปล่อยออกมาได้อย่างแน่นอน
ไป๋หลีจู่ๆก็เอ่ยปากออกมา “มีใครในหมู่บ้านที่อยากช่วยชีวิตอยู่ไหม?”
“ทำไมเธอถึงถามแบบนั้น?” ฉินเฟิงถามกลับไป
“ก็เพราะฉันจะได้โจมตีแบบไม่ต้องยั้งมือ!” ไป๋หลีเฉลย อาศัยความแข็งแกร่งของเธอในปัจจุบัน อย่างไรก็สามารถกวาดล้างหมู่บ้านเล็กๆนี้ได้อย่างสิ้นเชิง
ฉินเฟิงยิ้ม ปลดปล่อยพลังสมาธิกวาดไปทั่ว ภายในหมู่บ้านอาจมือเชลยถูกจับตัวมาบ้างก็จริง แต่นั่นเป็นจำนวนน้อยมาก ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า พวกเขาและเธอไม่ใช่คนจากพันธมิตรหัวเซี่ย
ด้วยเหตุนี้ฉินเฟิงเลยไม่เกิดความรู้สึกผูกพันธ์อะไรมากมาย เพราะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ เรื่องจำพวกรายละเอียดปลีกย่อยน่ะ เขาไม่มีเวลามามัวสนใจอีกแล้ว
“ลุยได้เต็มที่ ไม่ต้องยั้งมือ!”
ฉินเฟิงก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าไป๋หลีในสภาวะโจมตีเต็มพิกัด มันจะเป็นอย่างไร!
ไป๋หลีพยักหน้า ปลดปล่อยพลังสมาธิในกาย แผ่ขยายมันออกไปราวไร้ที่สิ้นสุดจากนั้น ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด เริ่มปรากฏรังสีแสงสีเงินขึ้นอย่างกะทันหัน
รังสีแสงสีเงินเบื้องบนเดิมมีความกว้าง 30 เมตร พริบตาที่มันปรากฏขึ้น ก็เริ่มขยับขยาย ฉากนี้ราวกับว่าเหนือศีรษะของผู้คน มีผ้าโปร่งลอยลงมา โดยมีไป๋หลีเป็นจุดศูนย์กลาง เมื่อขยายจนคลุมทั้งหมู่บ้านแล้ว รังสีแสงก็ทิ้งดิ่งลงมาจากฟากฟ้า ปิดล้อมหมู่บ้านเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
“ผนึก!”
ไป๋หลีเอ่ยคำหนึ่ง ทั้งหมู่บ้านถูกไป๋หลีจองจำเอาไว้อย่างกะทันหัน นี่มันเหมือนกับห้องเล็กๆที่ถูกเธอใช้เทคนิคมิติเอกเทศก่อนหน้านี้เลย แต่ปัจจุบัน มันไม่ใช่แค่ทั้งห้อง แต่เป็นทั้งหมู่บ้าน!
เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของชินระพลันแปรเปลี่ยนไป เพราะในการรับรู้ของเขา มันให้ความรู้สึกว่ามิติแห่งนี้ถูกผนึกเอาไว้แล้วจริงๆ
“เธอเป็นผู้ใช้อบิลิตี้มิติงั้นหรอ?” ความหวาดระแวงฟุ้งเข้ามาในหัวใจของชินระ เขาเริ่มตื่นตัวถึงขีดสุด เพราะอย่างไรเสีย ยามเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่ที่ตนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน มักทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเสมอ
ขณะเดียวกัน ในเวลานี้ กล่าวได้ว่าพื้นที่รอบๆได้ถูกไป๋หลีควบคุมเอาไว้แล้ว ตกเป็นของเธอโดยสิ้นเชิง
หากนึกภาพไม่ออก สามารถอ้างอิงได้ว่ามิติเอกเทศแห่งนี้ มีความคล้ายคลึงกับเทคนิคเพลิงบรรจบของฉินเฟิง แต่กินอาณาเขตกว้างไกลกว่า
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไป๋หลีคือผู้ที่ได้ไปเหยียบเลเวล B เป็นที่เรียบร้อย
“จงล่มสลาย!”
ไป๋หลีเริ่มเคลื่อนไหว เธอชี้นิ้วไปทางชินระ
วินาทีนั้นสัญชาตญาณของชินระพลันร้องเตือน ขนแขนลุกเกรียว โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด เจ้าตัวระเบิดวิชาตัวเบาฉีกหลบไปอีกทาง และในเสี้ยววินาทีต่อมา ตำแหน่งที่ชินระเคยยืนอยู่ ปรากฏรังสีแสงสีเงินในอากาศที่ว่างเปล่า หลังจากแสงสีเงินผุดออกมา มันก็เริ่มปริร้าว กลายเป็นรอยแยกมิติสีดำนับไม่ถ้วน ถูกกลืนกินเข้าไปข้างใน
ต่อมา ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ใบหญ้า กำแพงด้านนอกของกระท่อม ทั้งหมดเริ่มล่มสลาย ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันถูกส่งไปยังมิติใด
ชินระยกมือขึ้นปาดเหงื่อเย็น
อย่างไรก็ตาม การโจมตีของไป๋หลียังไม่หมดเพียงเท่านี้
เธอวาดมือ ชี้นิ้วไปยังจุดที่ห่างไกล ชั้นอากาศเริ่มเกิดสภาวะพังทลาย รอยแยกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น เมื่อกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกคราว สถานที่ที่เคยถูกโจมตีเหล่านั้น ทั้งหมดสูญหาย กลายเป็นความว่างเปล่า ไม่หลงเหลืออะไรอยู่อีกเลย!
ชินระโฉบวูบ โดดซ้ายโดดขวาหลบเลี่ยงรอยแยกมิติอย่างต่อเนื่อง ในแววตาที่กำลังจ้องมองไป๋หลี ไม่มีความหื่นกระหายหลงเหลืออยู่อีกต่อไป ถูกความประหวั่นเข้ามาแทนที่
ความปรารถนาในกายเธอเหือดหาย ชินระเริ่มแสดงออกถึงเจตนาฆ่า
นางเสือดุแบบนี้ อย่างไรไม่มีทางเชื่องเป็นลูกแมวได้ งั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกนอกจากฆ่าทิ้ง!
“อย่าดูถูกกันเกินไป ห้ามลืมสิว่า ฉันคือผู้ใช้พลังเลเวล A ! ถึงเทคนิคโจมตีของเธอมันจะแปลกพิสดาร แต่ความแข็งแกร่งของเธอไม่มีทางเกินเลเวล B แน่ๆ เพราะฉะนั้นตายซะ!”
ชินระคำรามเกรี้ยวกราด ไม่คิดยั้งมืออีกต่อไป เร่งเร้ากำลังภายในเต็มพิกัด
มหาสมุทรกำลังภายในอันไพศาล โหมทะยานสู่ฟากฟ้า ม้วนเป็นเกลียวคลื่นจากตำแหน่งของชินระ โถมซัดเข้าหาไป๋หลี
“ผ่าสวรรค์!”
มีดตัดขุนเขาในมือ ถูกห้อมล้อมปกคลุมด้วยกำลังภายอันไร้ที่สิ้นสุด
ตูมมม!
กำลังภายส่งเสียงระเบิดทำลาย
ไป๋หลีเหยียดมือเข้าขับสู้ มิติสีดำปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเธอ กำลังภายในจากมีดตัดขุนเขา ถูกดูดซับลงไปทันที จากนั้นเป็นฝ่ายชิงระเบิดพลังอันดุร้ายเข้าตอบโต้บ้าง
“หายไปซะ!”
บรรยากาศรอบกายไป๋หลี รวมไปถึงกระท่อมหรูก่อนหน้านี้ พลันปริร้าว แหลกละเอียดเป็นชิ้นๆ!
อำนาจอันแข็งกร้าวกดดันให้ชินระต้องถอยร่นอย่างกะทันหัน
การต่อสู้ระหว่างทั้งสอง ยิ่งมายิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน คนอื่นๆในหมู่บ้าน ทั้งหมดได้ตื่นจากห้วงนิทรา และตระหนักถึงสถานการณ์แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังทราบว่า ศัตรูที่บุกเข้ามา น่าหวาดกลัวขนาดไหนย
“หนีเร็ว!”
คนเหล่านั้นหวาดกลัวว่าหายนะจะเข้าถึงตัว ทั้งหมดแตกฮือ ทว่าเมื่อวิ่งไปถึงจุดหนึ่งและพบกำแพงอุปสรรค ก็ต้องหยุดฝีเท้าลง
ฉินเฟิงมองคนเหล่านั้น ถึงแม้เขาจะรู้ว่ามิติเอกเทศของไป๋หลี ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ ทว่าทุกตำแหน่ง พลังงานล้วนเชื่อมถึงกัน หากมันถูกโจมตีจากภายใน อาจสร้างภาระให้แก่ไป๋หลีได้
ดังนั้น ฉินเฟิงจะไม่ยอมให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น
“นานมากแล้วจริงๆ ที่ไม่ได้เพลิดเพลินไปกับการสังหารหมู่มนุษย์แบบนี้!”
ในแววตาของฉินเฟิง สาดประกายกระหายเลือด
ต่อมา พลังสมาธิพลันระเบิดออก เทคนิคเพลิงบรรจบถูกเร่งเร้า แผ่ขยายอาณาเขตออกไป
ผืนดินแข็งกลายเป็นอ่อนนุ่ม บังเกิดอุณหภูมิร้อนลวก ค่อยๆถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง
ต้นไม้ที่งอกเงยสว่างวาบ ลุกพรึบไปด้วยเปลวเพลิง กระท่อมหรูยุบตัวลง จมหายไปในแอ่งลาวา
“อ๊าา!!”
“ช่วยฉันด้วย!”
“ไม่! มันต้องไม่เป็นแบบนี้!”
ฝูงชนกรีดร้องแตกตื่น ผู้ใช้พลังบางคนคิดเหินบินหลบหนีไปข้างบน ทว่าหนีขึ้นไปได้ไกลเพียง 30 เมตร ก็ถูกมังกรไฟและเสาลาวาของฉินเฟิง โถมเข้าใส่ กลืนลงมาใต้ลาวาอยู่ดี
ฐานหลักของกลุ่มปีศาจชินระ สวรรค์ของเหล่าอธรรม แปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นแดนชำระล้างในพริบตา!
เทคนิคเพลิงบรรจบของฉินเฟิง ปัจจุบันสามารถขยายอาณาเขตได้ถึง 600 เมตร เมื่อเทียบกับในช่วงแรกที่เขาได้เรียนรู้มันแล้ว อำนาจตอนนี้ทรงพลังยิ่งกว่าสองเท่า เมื่อผสานงานกับมิติเอกเทศของไป๋หลี ก็สามารถสังหารผู้คนได้อย่างสิ้นเชิง ไม่มีที่ว่างให้ใครหลบหนี
“ไม่ดีแล้ว! เหล่าพี่น้อง พวกเราต้องร่วมมือกันฆ่าเขา ถึงจะสามารถออกไปได้!”
“ว๊ากกก โจมตี!”
“ช่วยกันฆ่าเขา!”
เหล่าฝูงชนคำรามโกรธแค้น อย่างไรก็ตาม ที่ตะโกนนั่นมีเพียงเลเวล C เท่านั้น ในขณะที่สองเลเวล B ไม่กล้าขยับเขยื้อน เพราะพวกเขาจดจำได้ดีว่าฉินเฟิงคือใคร
แต่ยังไงซะ ต่อให้พวกเขาจะลงมือหรือไม่ ยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าตนเองคงจบสิ้นแล้วอยู่ดี
ไม่กี่ลมหายใจต่อมา ฝูงชนก็ถูกกลืนลงไปใต้ทะเลเพลิง
กลุ่มปีศาจชินระ หากไม่นับตัวหัวหน้า ทั้งกองกำลังถูกสังหารเกลี้ยงไม่มีเหลือ!
ส่วนชินระเอง ในเวลานี้ตามตัวเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บฟกช้ำ เขากวาดตามองรอบด้าน พบว่าหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นทะเลลาวาไปแล้ว ต้นไม้ใบหญ้าที่แต่เดิมเขียวขจี ทั้งหมดได้หายไป
ในขณะที่ตัวเขาเอง ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางกำจัดไป๋หลี กระทั่งตัวเชื่อมมิติก็ยังไม่อาจใช้ออก
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็มาตายด้วยกัน!” ชินระร้องคำราม ตัดสินใจขั้นเด็ดขาด