โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 654 - เดินทางสู่เมืองตงไห่
ผลงานของฉินเฟิงมีอะไรบ้างน่ะหรือ?
จากทะเลทรายทะเลเหนือที่มากไปด้วยอันตราย ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร? มันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นโอเอซิสไปแล้ว!
แล้วรอยแยกในป่าหยวนเล่า? ปัจจุบันมันกลายเป็นเขตแดนลับแห่งใหม่ของเมืองหัวเป่ยเป็นที่เรียบร้อย
ล่าสุดก็ลุ่มน้ำตู่ซาน เนื่องจากการสังหารหมู่ของฉินเฟิง ส่งผลให้แนวกั้นเขตแดนของมนุษย์ ขยับขยายออกไปไกลกว่าเดิมถึง 20 กิโลเมตร อีกทั้งมีโอกาสเป็นไปได้สูง ว่าในอีกสิบปีจากนี้ จะไม่มีกองทัพสัตว์ร้ายปรากฏขึ้น
ดังนั้นในครั้งนี้ ฉินเฟิงคงสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในทะเลนรกได้เช่นกันใช่หรือไม่?
แต่เมื่อฉุกคิดขึ้นได้ว่ามหาสมุทรช่างกว้างใหญ่ไพศาล หม่าหลานก็ไม่กล้าคาดหวังมากเกินไป เธอปรารถนาแค่ให้ปีนี้ผ่านพ้นไปอย่างปลอดภัยก็พอ
เมื่อเกิดความปรารถนานี้ หม่าหลานจึงตัดสินใจติดต่อหาฉินเฟิง
ฉินเฟิงเองก็คาดไม่ถึงว่าหม่าหลานจะใจร้อนขนาดนี้ เลยเอ่ยถามกลับไปว่า “ปัจจุบันสถานการณ์ทางทะเลนรกเป็นยังไงบ้าง รอต่อไปไม่ไหวแล้วหรือ?”
“สถานการณ์ในทะเลนรกวิกฤตตลอดเวลา ไม่อาจผ่อนผันได้อีก ตอนนี้เส้นเขตแดนเกิดหายนะครั้งใหญ่ทั้งสึนามิ ทั้งพายุทอร์นาโดเริ่มถาโถมเข้ามา”
ภายใต้หายนะที่มาเยือน มีผู้เสียชีวิตตกตายมากแค่ไหน หม่าหลานไม่ต้องการจะเอ่ยถึง
ฉินเฟิงเองก็ตระหนักดีถึงความน่าสะพรึงของทะเลนรก แต่ตัวเขาเองก็คิดไม่ถึงว่าแค่เพิ่งย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขนาดนี้ และประเด็นก็คือ ภัยธรรมชาติเหล่านี้มิได้เกิดขึ้นเอง มิใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หากแต่เป็นผลพวงจากกองทัพสัตว์ร้ายที่ออกอาละวาด แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ สุดท้ายมักเป็นเมืองที่อยู่ใกล้เคียงเสมอ
เมื่อสถานการณ์ลุกลามมาถึงจุดนี้ ดูเหมือนว่าฉินเฟิงจะไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธอีกต่อไป
“ก็ได้ งั้นหลังจากนี้อีกหนึ่งชั่วโมง ผมจะเดินทางไปเมืองตงไห่”
ดวงตาของหม่าหลานเปล่งประกายสดใส รีบตอบรับว่า “ฉันจะรีบจัดคนไปรับคุณทันที!”
“อืม!”
ทั้งสองวางสายสนทนา หม่าหลานเร่งตระเตรียมการเดินทางทันที ส่วนฉินเฟิงเริ่มประกาศแจ้งเตือนฉุกเฉิน
ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงได้ตบปากรับภารกิจ ดังนั้นตัวเชื่อมมิติของเมืองตงไห่จึงถูกส่งมาถึงมือเขาแล้ว ตราบใดที่ใช้งานมัน เขาจะสามารถไปถึงเมืองตงไห่ได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ฉินเฟิงตัดสินใจว่าอยากจะลงมือทำมันด้วยตนเอง
“ไป๋หลี ครั้งนี้ฉันตั้งใจจะออกทะเลคนเดียว เรื่องของป้อมปราการลาวาเดือด ขอฝากเธอจัดการด้วยนะ” ฉินเฟิงกล่าว
“ไว้ใจได้เลย ที่นี่คืออาณาเขตของฉัน ใครกล้ามาวุ่นวายฉันจะตีมันให้กระเจิง!”
ฉินเฟิงย่อมเชื่อมั่นใจตัวไป๋หลี แต่ก็ยังเอ่ยสำทับอีกว่า “เธอไม่จำเป็นต้องอยู่เฉยๆ สามารถไปออกล่าปีศาจโทรลลาวาเดือดเหมือนคนอื่นๆ จะได้เก็บผลึกปีศาจโทรลไปใช้แลกเปลี่ยนกับแก่นจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล B ถ้าทำแบบนี้ อย่างน้อยการวิวัฒนาการของเธอก็จะไม่หยุดนิ่ง แต่น่าเสียดายจริงๆที่คราวก่อนพวกเราไม่ได้แก่นอบิลิตี้ของต้นไม้เพลิงมา”
วัตถุดิบส่วนที่ดีที่สุดของต้นไม้เพลิงถูกแซดนำไปแล้ว ยังไงก็ตาม ช่วงเวลาที่ต้นไม้เพลิงตาย พลังงานของมันได้ถูกสูบเข้ามาในกายฉินเฟิง ช่วยให้เขาสามารถยกระดับไปได้อีกขั้นในคราวเดียว! ท่านสามารถลองจินตนาการดูได้ ว่าแก่นจักรพรรดิของต้นไม้เพลิงอัดแน่นไปด้วยพลังงานมหาศาลขนาดไหน
ด้วยความแข็งแกร่งของไป๋หลี หากเปลี่ยนร่างไปในรูปแบบสัตว์ยักษ์ระดับจักรพรรดิ ไม่แน่ว่าอาจต่อกรกับต้นไม้เพลิงได้
นี่เองคือเหตุผลที่ฉินเฟิงทิ้งไป๋หลีไว้ที่นี่ เอ่ยปากมอบอิสระแก่เธอ จะไม่ได้จำกัดการวิวัฒนาการของไป๋หลี
“ถ้าคุณต้องการ ฉันจะไปเก็บมันมาให้เอง”
“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฉันอยากให้เธอให้ความสำคัญกับตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกมากกว่า ถ้าไม่จำเป็นต้องก็ไม่ต้องไปเก็บมัน อย่าขัดแย้งกับคนอื่นเป็นการดีที่สุด” ฉินเฟิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เลยย้ำเตือนเพิ่มอีกว่า “แต่ถ้าเกิดความชัดแย้งขึ้นจริงๆ ก็ขอให้เธอฆ่าพวกเขาให้หมด อย่าปล่อยให้ใครรอดไปได้ แล้วกลับมาแก้แค้นภายหลัง”
ไป๋หลีย่อมยึดถือวาจาของฉินเฟิงดั่งคำประกาศิต พยักหน้ารับฟังเขา
ฉินเฟิงไม่สนว่าคำสอนของเขาจะทำให้ถูกตนเองมองว่าเป็นฆาตกรจิตใจโหดเหี้ยมหรือไม่ ขอแค่ไม่ให้ไป๋หลีต้องทนทุกข์ทรมานจากความผิดพลาด แค่นั้นก็พอแล้ว
เพียงแต่ว่า หากไม่ไปมีปัญหากับพวกเลเวล B คนอื่นๆ นั่นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็เริ่มสั่งการแก่คนอื่นๆ พอเตรียมตัวพร้อมสรรพแล้ว เขาก็เริ่มเปิดใช้งานตัวเชื่อมมิติทันที สภาพแวดล้อมเกิดการบิดผันเปลี่ยนแปร เมื่อวิสัยทัศน์กลับคืน ทิวทัศน์โดยรอบ ท้องฟ้า และสภาพอากาศทั้งหมดก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
อุณหภูมิที่นี่ ร้อนกว่ารัฐทะเลเหนืออย่างน้อยประมาณ 20 องศา
ที่ตั้งของรัฐทะเลเหนือ แม้ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อุณหภูมิโดยประมาณ ต่ำสุดก็อยู่ที่ราวๆ -10 องศา อย่างไรก็ตามในทะเลตะวันออกมันสูงถึง 15 องศา
แน่นอน สำหรับผู้ใช้พลังสภาพอากาศเย็นหรือร้อนไม่อาจส่งผลร้ายต่อพวกเขา แต่ผิวหนังจะสามาถรับรู้ถึงสภาพอากาศได้โดยอัตโนมัติ อากาศชื้นจะพลอยทำให้ลมหายใจของพวกเขาชื้นตามไปด้วย
เมืองตงไห่เป็นเมืองที่ปลอดภัย ดังนั้นตำแหน่งที่หมายของตัวเชื่อมมิติจึงอยู่นอกเมือง เหมือนกับในกรณีของเมืองหลวงมังกร
ช่วงเวลานี้ เมื่อฉินเฟิงปรากฏตัวขึ้น ผู้หญิงที่ออกมารออยู่ก่อนแล้ว ก็ร้องเรียกเขาด้วยแววตาวาววับ
“ผู้การฉิน!”
สายตาของฉินเฟิงถูกดึงดูดไปตามเสียงของอีกฝ่าย เห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง ทรงเสน่ห์ แต่งกายด้วยชุดรบที่ทำจากหนังดูเซ็กซี่ ข้างในสวมเสื้อกล้ามทับอีกที เผยให้เห็นถึงรูปร่างอันเย้ายวน ผมหยิก สวมหมวกคาวบอย ทำให้เธอดูเป็นสาวสุดร้อนแรง!
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงเพียงกวาดตามองผ่านๆ เป้าสายตาเขาตกลงบนตราสัญลักษณ์บนอกที่แสดงถึงเลเวล C3 หลังจากนั้นถอนสายตากลับคืน
“สวัสดี” ฉินเฟิงตอบกลับเสียงเรียบเฉย
ผู้หญิงคนนี้ เมื่อยืนยันสถานะของฉินเฟิง ก็เร่งเดินเข้าหาเขาทันที เผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์
“ฉันชื่อว่าเหอเจี๋ย เป็นคนที่เลขาหม่าติดต่อให้มารับคุณ” เหอเจี๋ยยื่นมือเรียวงามออกไป ฉินเฟิงเชคแฮนด์อย่างสุภาพ แตะแค่นิดหน่อยก็ถอนมือกลับมา
“อ่าฮะ งั้นไปที่ท่าเรือกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว เขาไม่อยากเสียเวลาพิรี้พิไร ดังนั้นขอเดินทางทันที และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาออกสู้ในทะเล ดังนั้นอันที่จริงอาจกล่าวได้ว่าเขามีประสบการณ์รบมากกว่าคนในพื้นที่เสียอีก
เหอเจี๋ยประหลาดใจไปชั่วขณะ แต่สักพักกล่าวว่า “คิดไม่คิดจะพักซักหน่อยหรือ? ฉันอยู่ในเมืองตงไห่ และได้จัดเตรียมที่พักเอาไว้ให้คุณแล้ว ก่อนอื่นขอเชิญไปผ่อนคลาย เพลิดเพลินไปกับมันก่อนเถอะ”
เมื่อเอ่ยถึงความเพลิดเพลิน เหอเจี๋ยเลียริมฝีปากของเธออย่างสื่อความหมาย เห็นได้ชัดว่าสวัสดิการเพลิดเพลินนี้ มันรวมถึงตัวเธอเองด้วย
อย่างไรก็ตาม คิ้วของฉินเฟิงกลับย่นเข้าหากัน เหลือบมองหญิงสาว กล่าวเสียวเย็นชา “เลขาหม่าเร่งเร้าให้ผมมาที่นี่ ไม่ใช่เพื่อให้มาเพลิดเพลิน!”
ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงรับปากไว้แล้ว ว่าจะมาเป็นกำลังเสริมแก่ที่นี่เป็นระยะเวลาครึ่งเดือน ไม่เหมือนกับในลุ่มน้ำตู่ซาน เพราะถ้าจะให้พูด หนึ่งเดือนมันเสียเวลามากเกินไป
ในความทรงจำของเขา มีโอกาสอีกมากมายกำลังรอให้ไขว่คว้า ดังนั้นแต่ละช่วงเวลาของเขา มันมีค่าเสมอ
เมื่อเผชิญกับวาจาเย็นเยียบ ใบหน้าของเหอเจี๋ยร้อนผ่าว แสดงท่าทีอึดอัดไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าฉินเฟิงจะเย็นชาขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันของฉินเฟิงทรงพลังมาก อีกอย่างเหอเจี๋ยก็ได้รับการจ้างวานจางหม่าหลานแล้ว ดังนั้นไม่กล้าฝ่าฝืน หลังขบคิดอย่างรอบคิดเล็กน้อยก็เร่งกล่าวว่า “เอาล่ะๆ งั้นไปที่ท่าเรือกันเลยเถอะ ฉันเตรียมเรือดำน้ำให้คุณเอาไว้แล้ว”
“ตกลง!”
ฉินเฟิงไม่ปฏิเสธ ส่วนเหอเจี๋ยเรียกรถล่องเวหาออกมา
“ผู้การฉิน เชิญ!”
ฉินเฟิงขึ้นไปนั่งบนเบาะหลัง รถเริ่มแล่นไปตามถนนใหญ่อย่างราบรื่น มุ่งหน้าสู่ทิศทางของท่าเรือ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ท่าเรือก็ปรากฏแก่สายตาของฉินเฟิง มันครึกครื้นมีชีวิตชีวามาก
อย่างน้อยก็มีเรือดำน้ำทะเลลึกจอดอยู่ในท่าเรือกว่าหลายสิบลำ
เจ้าสิ่งนี้ ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการออกสู่ท้องทะเล
เรือดำน้ำทะเลลึก มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในทะเลนรก กระทั่งเรือเหาะของฉินเฟิงยังเทียบไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้เรือเหาะ แต่เรือดำน้ำทะเลลึกเป็นสิ่งจำเป็นมาก
อย่างไรก็ตาม เรือดำน้ำเหล่านี้ ยังมีจุดบกพร่องอยู่หลายส่วน
“ผู้การฉิน ฉันได้จัดเตรียม ‘ไห่หลิง’ ไว้อำนวยความสะดวกแก่คุณในครั้งนี้ มันคือเรือดำน้ำทะเลลึกที่ทรงพลังมาก ในทะเลนรก นอกจากสามารถต้านทานการโจมตีของสัตว์น้ำระดับราชันย์เลเวล B ได้แล้ว ความเร็วของมันยังสูงเป็นอันดับต้นๆ!”
เหอเจี๋ยอธิบายแก่ฉินเฟิง ในเวลาเดียวกันก็กล่าวว่า “ส่วนพวกลูกเรือ คุณสามารถรับสมัครได้ที่นี่ ขอแค่จ้างพวกเขาในราคาที่เหมาะสม”