โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 655 - ลำเอียงนี่นา
ที่นี่มีผู้ใช้พลังเลเวล C อยู่มากมาย
ในสนามรบบางแห่ง ตัวอย่างเช่นหลงฉวน เลเวล C ถือเป็นตัวตนทรงพลังในการสนับสนุน ทว่าในทะเลนรก เลเวล C กลับมีหน้าที่เป็นแค่แนวหลังเท่านั้น ส่วนผู้นำทัพจะเป็นเลเวล B
หากไม่มีเลเวล B เป็นผู้นำ ยามปกติคงไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ที่เผชิญกับสถานการณ์อันตราย ทั้งกองทัพคงถูกทำลาย ตกลงสู่ความตาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการคัดเลือกเลเวล C พวกเขามีหน้าที่เตรียมพร้อมยิงปืนใหญ่เท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเลเวล B มักจะมีสมาชิกเป็นของตนเอง ดังนั้นงานสำคัญๆจะไม่มอบให้คนแปลกหน้า
ฉินเฟิงมาถึงท่าเทียบเรือ ไม่นานก็เจอช่องจอดไห่หลิง ไห่หลิงได้ถูกเปิดรอไว้อยู่ก่อนแล้ว เรือดำน้ำทะเลลึกลำที่เป็นของเมืองตงไห่ จะมีค่าเช่าวันละ 1,000 ล้าน
ยังไงก็ตามเงินนี้ เหอเจี๋ยจะไม่ยอมให้ฉินเฟิงเป็นคนจ่าย เพราะนี่ถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับฉินเฟิงในการมาเยือนครั้งนี้
แต่ถ้าให้พูดกันตามตรง ฉินเฟิงได้รับการจ้างวานให้มาเป็นกำลังเสริม ดังนั้นไม่ว่าภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ ทุกคนล้วนได้รับเงินเดือนกันถ้วนหน้า
แต่ในตอนนั้นเอง แรงกดดันอันแข็งกล้าพลันกวาดตรงเข้ามา ฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปยังต้นทางและพบกับเลเวล B กำลังเดินดิ่งเข้ามาอย่างกระตือรือร้น
“มิสเหอยังคงงดงามเหมือนเคย!”
น้ำเสียงของผู้มาเยือนฟังดูน่าขนลุก แฝงร่องรอยของความลากมกหื่นกาม สายตาตกลงบนหน้าอกของเหอเจี๋ย มุมปากเริ่มหยดน้ำลายสอ ทำท่าทีเหมือนปรารถนาจะยื่นมือออกไป และขยำมันซะเดี๋ยวนี้
สีหน้าของเหอเจี๋ยแปรเปลี่ยนกลับกลาย รอยยิ้มทรงสเน่ห์ของเธอถูกหุบกลับคืน เอ่ยปากว่า “ที่แท้ก็เป็นมิสเตอร์ไป่เว่ย!”
ฉินเฟิงกวาดมอง สำรวจไป่เว่ยผู้นี้ และพบว่าตราสัญลักษณ์บนอกอีกฝ่ายคือเลเวล B3 และสังเกตจากกลิ่นอาย ดูเหมือนจะเป็นผู้ใช้อบิลิตี้
แต่การเรียกขานของเหอเจี๋ยก็ฟังดูชวนให้คิดเช่นกัน เพราะสำหรับผู้ใช้พลังธรรมดา หากใครก็ตามที่มีตำแหน่งสูงกว่าตนเองหนึ่งขั้น คนผู้นั้นจะถูกเรียกว่าท่านผู้ใหญ่ สิ่งนี้อ้างอิงตามความแข็งแกร่ง เมื่อแกร่งกว่า สถานะก็มากกว่า จุดยืนก็สูงกว่า ดังนั้นมีวิธีการเรียกขานที่มันชัดเจน
เหอเจี๋ยคือสมาชิกอย่างเป็นทางการของพันธมิตรมนุษย์ อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นนายพลด้านคมนาคมของเมืองตงไห่ หากเธอเรียกอีกฝ่าย ‘ท่านผู้ใหญ่’ นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของพันธมิตรมนุษย์ แต่ถ้าเรียก ‘มิสเตอร์’ แสดงว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ
“อะไรกัน ไม่นอนด้วยกันแค่แปปเดียว นั่นเป็นวิธีที่เธอใช้เรียกคนหรอ? หลังจากนี้สนใจไปเที่ยวด้วยกันสักหน่อยไหม?” ไป่เว่ยเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
สีหน้าของเหอเจี๋ยดูน่าเกลียดลงไปอีกส่วน เธอลอบกวาดตามองฉินเฟิง แต่กลับไม่พบถึงความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของฉินเฟิงเลย ดังนั้นจึงรู้สึกโล่งใจ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกใจหาย
เพราะอย่างไรเธอคือผู้หญิง มีความมั่นใจในหน้าตาและรูปร่างของตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ฉินเฟิงเหมือนจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย อาจเรียกได้ว่าไม่แยแสด้วยซ้ำ
แน่นอน เหอเจี๋ยไม่ชอบไป่เว่ยมากๆ ดังนั้นแสดงออกถึงความไม่พอใจ เรื่องบางเรื่องสมควรพูดกันเป็นการส่วนตัว แต่มันดันเอ่ยปากในที่สาธารณะแบบนี้ ถือว่าหยามเกียรติเธอมาก ไป่เว่ยคนนี้ ไม่มีความเคารพเกรงใจเธอเลย
แต่ใครใช้ให้อีกฝ่ายเป็นผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล B กัน? คนแข็งแกร่งก็แบบนี้ ปฏิบัติต่อผู้คนที่อ่อนแอกว่าเหมือนไม่ใช่มนุษย์
“ต้องขอโทษด้วยมิสเตอร์ไป่เว่ย ช่วงนี้ฉันยุ่งนิดหน่อย ต้องไปเดินเรือในทะเล”
“โอ้? เดินทางโดยใช้ไห่หลิงงั้นหรอ? ก่อนหน้านี้ฉันเองก็คิดเช่ามันเหมือนกัน แต่เธอดันเปลี่ยนให้คนอื่นมารับผิดชอบดูแลมันแทน เลยต้องปล่อยผ่านไป แต่ตอนนี้เธอกลับมาดูแลมันแล้ว แต่ไม่ยอมบอกฉัน แบบนี้มันไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ?”
“มันได้ถูกจองเอาไว้แล้ว พวกเราต้องใช้ไห่หลิงอำนวยความสะดวกแก่กำลังเสริมจากภายนอก ฉันต้องขอโทษด้วย”
เหอเจี๋ยตอบกลับอย่างสุภาพ ทว่าฝั่งไป่เว่ยกลับแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด การที่เขามาที่นี่ จริงๆแล้วไม่ได้เพื่อมาเจอเหอเจี๋ย แต่มาที่นี่เพื่อไห่หลิง
ทะเลนรกอันตรายแค่ไหน ใครๆต่างก็รู้ เรือดำน้ำที่มีคุณภาพถือเป็นยันต์คุ้มภัยที่ดีที่สุด
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในทะเลลึก ต่อให้ผู้ใช้พลังจะทรงพลังแค่ไหน แต่อย่างไรย่อมไม่อาจต้านทานอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมรอบกายได้
“กำลังเสริมจากภายนอก?” ไป่เว่ยขมวดคิ้วชั่วขณะ
เมืองตงไห่ไม่ใช่แค่เมืองธรรมดาๆ มันอาจเทียบได้เลยกับเมืองเป่ยหัวทางภูมิภาคเหนือ ที่สำคัญ เมืองตงไห่แห่งนี้ยังมีจ้าวพรมแดนตงหยางของพวกเขาเป็นผู้ครอบครอง
ในกรณีที่มีกำลังเสริมถูกจ้างวานจากภายนอก เกรงว่าผู้มาเยือนคงเป็นตัวตนทรงพลังที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้จักกันดี บางทีอาจเป็นถึงผู้ใช้พลังเลเวล A …
“ไม่ทราบว่าท่านผู้ใหญ่คนไหนที่มาเยือนในฐานะกำลังเสริมจากภายนอก?” ต่อให้เป็นเขา แต่ไป่เว่ยก็ยังกลัวว่าตัวเองไปเผลอเตะแผ่นเหล็กเข้า เลยหยั่งเชิงเอ่ยถาม
ช่วงเวลานี้ เหอเจี๋ยเบนสายตามามองฉินเฟิงโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าไม่ควรบอกไป่เว่ยเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ฉินเฟิงจะทรงพลัง กระทั่งหม่าหลานยังเอ่ยขอให้เธอต้อนรับขับสู้เขาเป็นอย่างดี อย่าเผลอดูหมิ่นอีกฝ่ายเพราะเห็นแค่ว่าเป็นเลเวล C ถึงกระนั้น เกรงว่าแค่เลเวล C มันยังไม่เพียงพอที่จะข่มไป่เว่ย
ไป่เว่ยเองก็ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเหอเจี๋ย เขาก็กวาดสายตาไปมองฉินเฟิงทันที
ที่พบคือใบหน้าที่ยังดูเยาว์วัย สูงประมาณ 190 ซม. หล่อเหลา ทั้งร่างเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศทรงพลัง อายุยังน้อย แต่สามารถก้าวขึ้นมาเหยียบเลเวล C แล้ว
อย่างไรก็ตาม แค่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สำหรับไป่เว่ยไม่นับว่าเป็นสิ่งใด
ไม่ต้องเสียเวลาขบคิด ไป่เว่ยขมวดคิ้วทันที หันกลับมามองเหอเจี๋ยอีกครั้ง สีหน้ากลายเป็นมืดมน
“เหอเจี๋ย เธอจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรอ ถึงกับนำไห่หลิงออกมา เพื่อให้ไอ้เด็กหน้าขาวนี่ใช้งานเนี่ยนะ?”
เหอเจี๋ยเร่งกล่าว “แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเหตุผลแค่นั้น!”
“ก็แล้วมันยังมีเหตุผลอะไรอีกล่ะ? เธอเพิ่งพูดมาว่ากำลังเสริมจากภายนอก แต่ฉันยังไม่เห็นใครเลย ทำไมเธอไม่แนะนำพวกเขาให้ฉันซักหน่อยล่ะ ฉันจะได้ดูว่าเป็นท่านผู้ใหญ่คนไหน บางทีพวกเราอาจร่วมมือกันได้”
ฉินเฟิงเป็นคนความอดทนต่ำอยู่แล้ว ในเวลานี้เมื่อเห็นอีกฝ่ายใช้แววตาดูถูกมองมาทางเขา เจ้าตัวก็เอ่ยเสียงเย็น “เรื่องนั้นตัดทิ้งไปได้เลย ผมไม่ต้องการเป็นพันธมิตรกับใคร โดยเฉพาะคนแบบคุณ!”
เดิมไป่เว่ยรู้สึกไม่พอใจฉินเฟิงอยู่ก่อนแล้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ระเบิดความโกรธออกมาทันที “เจ้าหนู แกนับเป็นตัวอะไร กล้ามาพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง!”
สิ้นเสียง พลังสมาธิของไป่เว่ยปะทุออกทันใด ดั่งคลื่นสึนามิร้ายโถมทับลงบนฉินเฟิง
นี่คือคุณสมบัติของอบิลิตี้ธาตุน้ำ เมื่อพลังสมาธิพรั่งพรูออกมา จะปรากฏแสงสีฟ้าวาววับ คล้ายสสารที่บังเกิดขึ้นจริง
ความสามารถในการควบคุมรูนน้ำของไป่เว่ย ทรงพลังมากทีเดียว
“มิสเตอร์ไป่เว่ย คุณจะทำอะไร …” เหอเจี๋ยที่กำลังจะเข้าไปห้าม จู่ๆพลันชะงักไป
แม้ฉินเฟิงจะทรงพลัง แต่ได้ยินมาว่าทรงพลังแค่ในยามเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายเท่านั้น เหอเจี๋ยกลัวว่าฉินเฟิงจะเสียหน้า
อย่างไรก็ตาม คนอย่างฉินเฟิงน่ะเหรอจะเสียหน้า? เหอเจี๋ยยังไม่ทันเอ่ยจบ ดวงตาของเธอก็ต้องเบิกกว้าง สีหน้าแสดงออกชัดว่าไม่อยากจะเชื่อ
เห็นแค่เพียงฉินเฟิงระเบิดกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา พลังสมาธิพรั่งพรู ทว่ามันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับอบิลิตี้ธาตุน้ำของไป่เว่ย
พลังสมาธิของฉินเฟิงฟุ้งไปด้วยอำนาจอันร้อนแรง!
รูนไฟลุกโหม แม้ไม่ได้โจมตีออกไป แต่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากลาวาเดือด
ตูม!
พลังสมาธิทั้งสองปะทะกันคราหนึ่ง คลื่นความผันผวนที่มองไม่เห็นแพร่กระจายออกไป ชวนให้ผู้คนรู้สึกหวาดผวา
“อ๊อก!”
ทั้งร่างของไป่เว่ยสั่นไหว พลังสมาธิถูกตีกลับมาอย่างกะทันหัน ผลกระทบทำให้เขารู้สึกหน้ามืด
แต่โชคยังดีที่มันเกิดขึ้นเพียงครู่เดียวเท่านั้น เขาได้สติทันที ต่างฝ่ายต่างถอนพลังสมาธิกลับคืน
เนื่องจากรอบด้านเต็มไปด้วยเรือดำน้ำ ทั้งยังอยู่บนท่าเรือ การกระทำของทั้งคู่เลยดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย มีกระทั่งเลเวล B หลายคนที่รู้จักไป่เว่ยก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ เตรียมรับชมความสนุกสนาน
ไป่เว่ยมองไปยังฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจ กล่าวเสียงหม่น “แกเป็นใครกันแน่?”
ฉินเฟิงกล่าวน้ำเสียงเย็นชา “คุณนี่มันโง่จริงๆ ยังไม่รู้อีกหรือว่าผมเป็นใคร ผมก็คือกำลังเสริมที่ถูกส่งมาจากภายนอกไง!”
สีหน้าของไป่เว่ยหม่นทะมึนลงทันที กระทั่งแสดงออกถึงร่องรอยบิดเบี้ยวเล็กน้อย
แต่ทั้งหมดนั่นแค่พริบตาเดียว เสี้ยววินาทีต่อมา ไป่เว่ยก็เปลี่ยนท่าที หัวเราะเสียงดัง
“เมืองตงไห่กลายเป็นอะไรไปซะแล้ว? จ้างวานทั้งที ดันจ้างวานคนนอกที่มีเลเวลแค่ C แถมยังยกไห่หลิงให้อีก ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ทั้งๆที่พวกเราอาสามาที่นี่ด้วยความสมัครใจ แต่กลับไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรเลย บอกมาซะดีๆ ว่าแกเป็นลูกของพวกคนใหญ่คนโตใช่ไหม!!”