โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง - ตอนที่ 165 แพ้ชนะขึ้นอยู่กับการลงมือทำในครั้งนี้
- Home
- โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง
- ตอนที่ 165 แพ้ชนะขึ้นอยู่กับการลงมือทำในครั้งนี้
ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นสักพัก เขาครุ่นคิดถึงประวัติชีวิตอันยุ่งเหยิงของอันหรันเมื่อก่อน พลันนึกถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างอันหรันและหยางจื่อหยิน
มันช่างน่าขันเสียจริง มีช่วงหนึ่งที่เขาอยากจะเห็นอกเห็นใจอันหรัน และอยากจะเริ่มทำความรู้จักกับเธอใหม่
แต่ผู้หญิงคนนี้กลับสามารถทำเรื่องเลวทรามได้ลง ยังดีที่ตอนนั้นเขาไม่ถูกเธอปั่นหัว
ขณะนี้เอง โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาเหลือบมองก่อนจะหยิบขึ้นมากดรับสาย แล้วเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน : “เสี่ยวเหว่ย”
เสียงออดอ้อนของมู่เหว่ยดังเข้ามาในสาย : “เทียนหลัน คืนนี้คุณมาอยู่กับฉันได้ไหมคะ ฉันอยู่คนเดียวรู้สึกเหงามากเลย นอนก็ไม่หลับ แล้วก็กลัว… ”
เดิมทีฮั่วเทียนหลันคิดว่าจะไปนอนที่ห้องรับแขก แต่พอได้ยินดังนั้นเขาก็เกิดความลังเลเล็กน้อย จนในที่สุดก็เอ่ยตอบกลับไป : “รอฉันก่อนนะ”
หลังจากวางสายแล้ว เขาเหลือบมองไปที่ห้องนอนชั้นบนที่เป็นของเขาและอันหรัน ก่อนจะลุกขึ้นและเดินจากไป
อันหรันนอนไม่หลับอีกต่อไป เธอยืนอยู่ที่ระเบียงมองดูรถของฮั่วเทียนหลันที่มีไฟสว่างขึ้น แล้วก็ขับออกไปไกลเรื่อยๆ
ทิศทางนั้นคือทิศทางที่ไปหามู่เหว่ย เธอจำมันได้อย่างชัดเจน
หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับสู่จุดเดิม
อันหรันยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น พิงตัวไปกับกรงนกที่อยู่ตรงระเบียง มือทั้งสองข้างของเธอกอดเข่าแน่น ราวกับว่ามีเพียงทางนี้ทางเดียวที่จะทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
หลังจากวันนั้น อันหรันก็แวะเวียนไปที่บ้านตระกูลฮัวอยู่บ่อยครั้ง
หลี่รูยามักจะถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮั่วเทียนหลันอยู่เสมอ เรื่องทั้งหมดถูกหลี่รูยาจับได้แล้ว ดังนั้นอันหรันจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องแสร้งทำเป็นสนิทสนมกันอีกต่อไป
ทุกครั้ง เธอมักจะยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แล้วตอบกลับไป : “ก็โอเคดีค่ะ”
แต่คำว่าก็โอเคดีของอันหรันนั้น กลับทำให้หลี่รูยารู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่เธอเอ่ยเลย
ส่วนฮั่วเทียนหลัน เมื่อถูกหลี่รูยาถามคำถามเกี่ยวกับเขาและอันหรัน ก็มักจะไม่เอ่ยปากพูดอะไรออกมา
ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนมาถึงทางตัน
เดิมทีป้า Ding อยากจะกลับมากับอันหรันด้วย แต่ถูกอันหรันปฏิเสธไป
เธอพูดอ้างว่า : “ฉันกลับมาที่นี่บ่อยจะตาย ป้า Ding อยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนคุณแม่นั่นแหละดีแล้ว”
ครั้งนี้หลี่รูยาไม่ได้บังคับแต่อย่างใด เพราะการเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกจนปัญญาที่จะเป็นครั้งแรกเช่นกัน
เธอสามารถบังคับลูกคนรองไม่ให้ไปเจอมู่เหว่ยได้ แต่ถ้าลูกคนรองของเธอไม่ได้ชอบอันหรัน เธอก็ไม่อาจไปบีบบังคับให้เขามาชอบพอกันได้อยู่ดี
เรื่องนี้เธอได้พูดคุยกับฮั่วเทียนหลันอีกครั้งแล้ว
แน่นอนว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่คิด
อย่างไรก็ตามฮั่วเทียนหลันจดเอาไว้แล้วว่าอันหรันได้แอบมารายงานให้คุณแม่ทราบเรื่องอีกแล้ว และเขาก็เตรียมกลับไปคิดบัญชีกับเธอเอาไว้แล้วเช่นกัน
อันหรันกลับมามีใช้ชีวิตคนเดียวอีกครั้ง ทุกๆคืนเธอมักจะใช้เวลาไปกับการวิดีโอคอลคุยกับลั่นลานเป็นเวลานานสองนาน
คนกลุ่มลึกลับที่เคยตามสืบข้อมูลของลั่นลานในตอนนั้น ตอนนี้หายไปหมดแล้ว
เพราะมีวังเทียจุนคอยดูแลปกป้อง อันหรันจึงรู้สึกสบายใจมากขึ้น
บางครั้งเธอก็คิดว่าชีวิตแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
สุสานของครอบครัวอันในตอนนี้ไม่มีคนคอยดูแลแล้ว อันหงไชและยี่เฉียวถงก็เหมือนจะหยุดตามคุกคามเธอแล้วเช่นกัน
อันหรันจ่ายเงินจ้างสองสามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งมาช่วยจัดการทำความสะอาด
เรื่องเงินนั้นก่อนหน้ามีคนใจดีคนนึงได้ให้เธอมาจำนวนสองร้อยล้าน กินดอกเบี้ยในธนาคารแล้วก็คงจะเพียงพอให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ขาดเหลือในอนาคต
ในช่วงนั้นจางหยาโทรมาหาเธอสองครั้ง ครั้งแรกคือแจ้งเรื่องที่อันเฮาถูกไฟคลอกเสียชีวิต ครั้งที่สองคือแจ้งเรื่องสถานที่ตั้งสุสานของอันเฮา
จางหยาบอกกับอันหรันว่าเธอไม่เหลือลูกชายแล้วและไม่มีความคิดที่จะต่อสู้ดิ้นรนต่อไปอีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะกลับมาที่ประเทศจีน
อันหรันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเกลี้ยกล่อมจางหยาไม่ให้เธอกลับมา
อันหรันรู้ว่าจางหยาใช้ชีวิตอยู่กับเศรษฐีคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่เพียงแค่เรื่องเงินเท่านั้น แต่เศรษฐีคนนั้นยังปฏิบัติกับจางหยาเป็นอย่างดี
มีคนคอยดูแลก็ดีอยู่แล้ว ทำไมจางหยาถึงอยากกลับมาใช้ชีวิตตามลำพังที่ประเทศจีนล่ะ ตกดึกบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบลงทำให้รู้สึกคิดถึงอันเฮาขึ้นมา สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในตอนนี้ก็คงจะมีแค่ความรู้สึกเศร้าเสียใจที่ไม่มีวันสิ้นสุดล่ะมั้ง
อันหรันนับดูเวลาใหม่อีกรอบ เพื่อเตรียมตัวไปเจรจากับฮั่วเทียนหลันเรื่องสัญญาแต่งงานที่กำลังใกล้จะสิ้นสุดลงในอีกไม่ช้า
ชีวิตของอันหรันเป็นไปอย่างเรียบง่ายสบายๆ แต่มู่เหว่ยในช่วงนี้กลับเต็มไปด้วยความกังวล เธอพยายามพูดสื่อกับฮั่วเทียนหลันอยู่หลายครั้ง ว่าเธออยากแต่งงานกับเขาและใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเป็นทางการ
แม้ว่าฮั่วเทียนหลันจะมาหาเธออยู่บ่อยๆ แต่เขากลับไม่ยอมเอ่ยปากใดๆในเรื่องนี้
“คุณเหว่ย ช่วงนี้ดูเหมือนคุณจะมีอะไรในใจนะ” มู่เหว่ยที่เพิ่งถ่ายละครเสร็จนั่งลงบนเก้าอี้ยาวในห้องพัก เธอรู้สึกมีความกลัดกลุ้มอยู่ภายในใจเป็นอย่างมาก
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผู้ช่วยมิลลี่ แล้วจึงเอ่ยขึ้น : “เรื่องในใจของฉันคืออะไร เธอก็น่าจะรู้ดีนะ!”
มู่เหว่ยมีลางสังหรณ์ว่า หากเธอไม่รีบแต่งงานกับฮั่วเทียนหลันล่ะก็
เกรงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น อาจจะถูกเปิดเผยในสักวันแน่
ถ้าหากฮั่วเทียนหลันพบว่าตอนนั้นไม่ใช่เธอ และพบว่าเธอวางแผนหลายอย่างเพื่อโกงเขา มู่เหว่ยคงรับผลที่ตามมาไม่ไหวแน่นอน
ตอนนี้ที่เธอมีทุกอย่างก็เพราะว่าฮั่วเทียนหลัน
ฮั่วเทียนหลันสามารถมอบให้เธอได้ เขาก็สามารถเอาคืนกลับไปได้เช่นกัน
“เรื่องคุณชายฮั่วเหรอ เรื่องนี้จัดการไม่ง่ายเลยนะ ครั้งก่อนที่คุณให้ฉันไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเมือง W แต่แล้วมันก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆเลย แต่ที่แปลกคือเด็กคนนั้นใช้คนละนามสกุลกับพ่อแม่ของเขา… ”
“ในเมื่อสืบมาแล้วว่ามันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอันหรัน ก็แปลว่าเบาะแสนี้ใช้ไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องตามสืบต่อไปแล้ว” มู่เหว่ยเอ่ยตัดบทผู้ช่วยอย่างเย็นชา
มิลลี่พยักหน้าและกล่าวว่า : “คุณเหว่ยพูดถูก แต่ครั้งก่อนที่คุณพยายามทำให้เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ แล้วช่วยประธานฮั่วเอาไว้ได้ ฉันว่าประธานฮั่วก็ต้องมีความรู้สึกดีต่อคุณอยู่มากเหมือนกัน อย่างน้อยถ้าเทียบกันกับอันหรันแล้ว คุณก็ยังอยู่เหนือกว่าอยู่ดี”
“เธอจะไปรู้อะไร อันหรันเป็นภรรยาที่ถูกต้องของเขา ภรรยาหว่านสเน่ห์มัดใจสามีอะรู้จักไหม ถ้าเขาเกิดมีความรู้สึกกับอันหรันขึ้นมา แผนทั้งหมดของฉันมันก็หมดประโยชน์”
พูดถึงตรงนี้ มู่เหว่ยก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
“คุณเหว่ย ฉันคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องกังวลใจไปเลย อันหรันแค่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวฮัวก็เท่านั้น ดังนั้นถึงประธานฮั่วจะไม่ได้เต็มใจ แต่เขาก็ต้องจำยอมอยู่ดี แล้วอันหรันเธอก็เคยช่วยฮั่วเทียนหลันเอาไว้ เรื่องนี้จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ปัญหาไม่ได้เลย ขอเพียงแค่… ”
ขณะที่มิลลี่พูดขึ้น เธอก็โน้มตัวเข้าไปใกล้มู่เหว่ยก่อนจะกระซิบแผนการของเธอให้มู่เหว่ยรู้
มู่เหว่ยมองไปที่เธอด้วยความตกใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : “แบบนี้มันจะเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า”
มิลลี่รู้จักมู่เหว่ยดี ถ้าเธอต้องการทำอะไรสักอย่างแล้ว ขอเพียงแค่มีเรื่องที่สามารถมากระตุ้นได้มากพอ เธอก็พร้อมที่จะลงสู้สักตั้ง
“หมาป่าเดินทางหลายพันไมล์เพื่อกินเนื้อ สุนัขเดินทางหลายพันไมล์เพื่อกินขี้ คุณเหว่ย จะแพ้หรือชนะก็ขึ้นอยู่กับการลงมือทำในครั้งนี้!” คำพูดของมิลลี่เต็มไปด้วยแรงกระตุ้น ทำให้หัวใจของมู่เหว่ยที่เต้นตึกตักเมื่อกี้นี้ค่อยๆสงบลง
“เอาวะ สู้อีกสักตั้งแล้วกัน ฉันไม่เชื่อหรอกว่าโชคชะตาของตัวเองจะแย่ขนาดนั้น!”
อันหรันได้รับข้อความหนึ่งข้อความ เป็นมู่เหว่ยที่นัดให้เธอไปเจอที่ร้านน้ำชา
เธอตอบปฏิเสธไปโดยไม่ต้องคิด
การพบกับมู่เหว่ยไม่เคยมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น เขาคงคิดจะหาวิธีจัดการกับเธออยู่แน่
แต่เธอไม่คิดเลยว่า มู่เหว่ยจะมาหาเธอถึงที่
เมื่อมองเห็นมู่เหว่ยที่อยู่ด้านนอก อันหรันก็เตรียมจะปิดประตูลง
แต่มู่เหว่ยกลับยื่นแขนทั้งสองข้างเข้ามา มองอันหรันอย่างยั่วยุ ราวกับจะสื่อว่าถ้าเธอกล้าก็ปิดประตูทับแขนของฉันไปเลยสิ อย่างไงอย่างงั้น