โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง - ตอนที่ 189 เธอต้องการอะไร
คำพูดเหล่านี้หมายความว่าไง หรือว่าเธอฝันก็เลยละเมอออกมา
ฮั่วเทียนหลันมีสีหน้าสงสัย สักพักอันหรันก็พูดขึ้นอีกว่า“ฮั่วเทียนหลัน ทำไมคุณจำฉันไม่ได้ พวกเรา……”
คำพูดที่มันปะติดปะต่อกัน ทำให้ฮั่วเทียนหลันพอจับใจความได้
เขาดูแปลกใจเล็กน้อย เมื่อหญิงคนนนี้ฝันถึงเขา
ตัวเขาเองทำไมต้องจำเธอได้ด้วย?
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่ใบหน้าของอันหรัน บอกได้เลยว่า เธอเป็นคนที่สวย อ่อนโยน ใครที่เห็นก็ย่อมต้องหลงใหล
หรือว่าตัวเขาเอง อาจมีความรักให้เธอบ้าง
ความรู้สึกนี้มันค่อยๆพัฒนา เพราะวันนี้ที่อันหรันบอกว่าเธอถูกบังคับ มันทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกเจ็บปวดใจ
ฮั่วเทียนหลันดูภาพวงจรปิดวันนั้นอยู่หลายสิบรอบ
ยิ่งดู เขายิ่งนึกถึงคำพูดของฮัวเส้าซู่
อันหรัน หรือว่าเธอจะถูกใส่ความ
มู่เหว่ย เป็นคนก่อเรื่อง
ความรู้สึกที่ฮั่วเทียนหลันมีให้กับมู่เหว่ย นั้นซับซ้อนมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองคิดไม่ตรงกันกับเธอ
ทั้งๆที่รู้อยู่ว่ามู่เหว่ย ดูแลและเอาใจใส่เขาเป็นอย่างดี แต่การเอาใจใส่บางที่ก็เป็นเรื่องไม่ดีกับเขา บางทีเขาก็คิดว่าสุดท้ายแล้วมู่เหว่ย อาจจะเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาที่สุดในชีวิต
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกลับดูวุ่นวายไปหมด
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮั่วเทียนหลัน รู้สึกว่าตนเองมีชีวิตที่วุ่นวายยุ่งเหยิง
เขามองอันหรัน จัดผ้าห่มให้เธอ ค่อยๆลูบคิ้วของเธออย่างเบามือ สัมผัสกับลมหายใจของอันหรัน ซึ่งดูเหมือนว่าเธอหลุดพ้นจากฝันร้ายนั้นแล้ว เขาค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่ระเบียง
หลังจากออกมาที่ประตู เขาก็ทอดมองไปยังแสงจันทร์ด้านนอก ในใจของฮั่วเทียนหลันเหมือนกำลังสู้รบกันเอง
เขาเป็นคนไม่เคยเชื่อในความรักนิรันดร์ ดังนั้นครั้งแรกที่เจออันหรัน จึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
เห็นได้ชัดว่าสิ่งต่างๆด้านดีและไม่ดีที่ผ่านเขามาด้วยน้ำมือของเขา มันทำให้ชีวิตของอันหรันต้องวุ่นวาย
วันเวลาก็ผ่านไป เขาก็รับรู้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ เขาสร้างมันมาและทำให้มันเกิดความวุ่นวาย
วันนี้อันหรันบอกกับเขาเอง ว่าเธอถูกบังคับ
ในใจของฮั่วเทียนหลันนั้น อันหรันเป็นผู้หญิงที่มีค่าสำหรับเขา
เขาเริ่มสงสัยเป็นครั้งแรก ว่าตัวเองทำสิ่งผิดพลาดมากมายเลยใช่ไหม
อันหรันตื่นขึ้นมา เวลาประมาณ9โมงเช้า
เธอลงมาข้างล่าง มองไปรอบๆไม่เห็นฮั่วเทียนหลัน ในใจก็รู้สึกแปลกๆ
เมื่อวานได้พูดความจริงออกมา แต่ที่จริง ความจริงก็ยังมีอีกมากมาย
เธอถูกบังคับจริงๆ และก็หลงรักฮั่วเทียนหลันจริงๆเช่นกัน
ขณะทานอาหารเช้า ป้าDingบอกว่าฮั่วเทียนหลันออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว
อันหรันนิ่งไป เพราะเธอคิดว่าฮั่วเทียนหลันเมื่อคืนไม่ได้นอนที่บ้านแน่ๆ
แต่ว่าจากการที่ได้ฟังที่ป้าDingพูดเมื่อครู่ ก็รู้ว่าฮั่วเทียนหลันนอนที่บ้านเมื่อคืน และนอนที่ห้องนอนกับเธอด้วย
อันหรันพูดไม่ออก เพราะสิ่งที่เธอต้องการสื่อออกไป ไม่ได้ต้องการให้ฮั่วเทียนหลันหันมาใส่ใจดูแลเธอ
พูดว่าไม่ต้อง แต่พูดตรงๆคือไม่กล้า เธอกลัวฮั่วเทียนหลันจะกลับมาทำร้ายเธออีก
ดาหลางถูกปล่อยออกมา ลักษณะของมันดูสง่า รับหน้าที่คอยดูแลบ้าน
อันหรันตะโกนเรียกมัน มันก็ดีใจรีบวิ่งเข้ามาเบียดอยู่ตรงขาของอันหรัน
หางกระดิกไปมา ทำให้อดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอดลูบ
อันหรันคีบแฮมมาหนึ่งชิ้น ป้อนเข้าปากดาหลาง
ดาหลางค่อยๆอ้าปากงับ แล้วกินอย่างรวดเร็ว
มันยังตัวเล็ก แต่กินเยอะมาก
อันหรันนำเนื้อสัตว์ที่อยู่ในจานอาหารเช้าของเธอให้มันจนหมด
ที่ไทม์สแควร์ มู่เหว่ย กับมิลลี่ได้รับการต้อนรับไปที่ห้องรับรองวีไอพี
เรียกว่าเป็นการต้อนรับก็ไม่เชิง ที่จริงแล้วจะว่าถูกบังคับก็ได้
เพราะมู่เหว่ย ให้มิลลี่ไปหาคนมาช่วยเหลือเพื่อที่จะได้เข้ามาในห้องดังกล่าว
เข้าไปในห้องรับรอง มู่เหว่ย ก็ตกใจเล็กน้อย
เธอไม่คิดว่า ผู้บริหารระดับสูงของครอบครัวฮั่วจะมาที่นี่ด้วย
เธอทำสีอ่อนแรง แล้วพูดเบาๆว่า “ คุณป้า มายังไงคะ?”
หลี่รูยายิ้มเบาๆที่มุมปาก พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ ฉันคิดว่า พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะ?”
“ทำไมจะไม่สนิทล่ะคะ?ฉันกับเทียนหลันยังไงก็เป็นแฟนกันนะคะ!”มู่เหว่ย รู้ดีว่าที่หลี่รูยามาหาเธอนั้นต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ แต่เธอมีฮั่วเทียนหลันที่คอยหนุนหลัง ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวหลี่รูยานัก
ไม่ว่าหลี่รูยาจะโหดเหี้ยมแค่ไหน แต่เสือจะร้ายแค่ไหนมันก็ไม่กินลูกตัวเอง เธอก็คงจะประนีประนอมอยู่บ้าง
หลี่รูยามีสีหน้าโกรธ หลังจากนั้นเธอก็หัวเราะแล้วตอบกลับว่า “ ฝีปากเธอนี่มันไม่เลวจริงๆ ถึงว่าทำไมบังคับให้อันหรันยอมถอยให้เธอง่ายๆ”
“บังคับ?คุณป้าพูดตลกอะไรกันคะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่เทียนหลันชอบฉันมากกว่าก็แค่นั้นเอง”
มู่เหว่ย ตั้งใจทำเสียงเล็กเสียงน้อย
หลี่รูยาตบโต๊ะเบาๆ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “โอเค ฉันจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว เธอน่าจะรู้ดีนะว่าฉันมาที่นี่ทำไม”
มู่เหว่ย เม้มปาก ส่ายหัวแสร้งไม่รู้ แล้วพูดว่า “คุณป้ามาหาฉันมีเรื่องอะไรหรอคะ?”
หลี่รูยาใช้ชีวิตมานานพอ ที่จะไม่หลงกลมู่เหว่ย เธอพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “ที่ฉันมาวันไม่ไม่ใช่จะมาต่อปากต่อคำกับเธอ พูดมาสิ เธอต้องการอะไรกันแน่?”
มู่เหว่ย ตาแดงก่ำ แล้วพูดว่า “คุณป้า สิ่งที่ฉันต้องการก็คือเทียนหลัน คุณป้าให้ได้ไหมคะ?”
เธอทำตัวให้ดูน่าสงสาร ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็คงต้องหลงกล รวมไปถึงฮั่วเทียนหลัน
แต่ถึงอย่างไร หลี่รูยาเป็นผู้หญิง และเป็นผู้หญิงแกร่งที่เป็นอาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่ว่าจะมีเล่อุบายมากแค่ไหนมีเหรอที่เธอจะดูไม่ออก
“ฉันไม่ต่อปากต่อคำกับเธอแล้ว เธอบอกมาว่าต้องการเท่าไหร่ แค่เธอไปจากเทียนหลันซะ มีเงื่อนไขอะไรฉันก็พร้อมที่จะนำไปพิจารณา”
“คุณป้า ฉันไม่ใช่คนอย่างนั้นนะคะ….. อะไรฉันก็ไม่ต้องการทั้งนั้น ฉันเพียงต้องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเทียนหลันเงียบๆ ฉันสาบานเลยว่า แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยที่จะสร้างปัญหาเลย”
“จริงหรอ? การเป็นมือที่สามเนี่ยนะ ยังกล้ามาบอกว่าตัวเองดีเลิศ ละครที่เธอเล่นอยู่ ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน แม้มันจะหลอกเทียนหลันได้ แต่มันหลอกฉันไม่ได้นะ”
คุณนายฮั่วขณะพูดก็มีน้ำเสียงที่ดุดันขึ้น
มู่เหว่ย ใจสั่น เธอรู้ดีว่าไม่ควรจะต้องตื่นตระหนกเธอรีบแสดงสีหน้าไร้เดียงสาพร้อมกับตอบกลับว่า “คุณป้า คุณป้าพูดอะไรอยู่คะ ฉันไม่เข้าใจ”
หลี่รูยาโกรธ เธอไม่ใช่คนที่ชอบบังคับขืนใจใคร
การที่เธอใช้ชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน เพียงแค่ใช่เงินก็ตอบสนองเธอได้ทุกสิ่ง
คุณนายฮั่ว อยู่ในฐานะผู้ที่ชนะมานับครั้งไม่ถ้วน กับแค่สาววัยรุ่นสมองน้อยอย่างมู่เหว่ย จะมาสู้ได้หรือ
เธอยิ้มเยาะ แล้วพูดว่า “ฉันนำข้อเสนอดีๆมาให้เธอเลือกถึงที่แล้วนะ ถ้าเธอใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองzไม่ได้ก็อย่ามาต่อว่าฉันแล้วกัน”
หลี่รูยาเพียงเอ่ยคำเดียว ไม่ว่าบริษัทไหนในเมืองzก็ไม่กล้าที่จะร่วมงานกับมู่เหว่ย
จะให้ล้างบาง ก็ทำได้
มู่เหว่ย สีหน้าเปลี่ยนทันที หญิงสูงวัยคนนี้ทำไมถึงทำกับเธอเช่นนี้
เธอมีสีหน้าแดงก่ำ โกรธแต่ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไป
เธอจะกลั่นแกล้งอันหรันอย่างไรก็ได้ เพราะอันหรันไม่มีคนมาคอยหนุนหลัง
แต่สำหรับหลี่รูยา เพียงแค่เธอพูดอะไรไม่ดีออกไปหรือทำหลี่รูยาโกรธ ก็กลัวว่าอาจจะสร้างปัญหากับตัวเธอให้วันต่อๆไป
หลี่รูยาพูดจบก็ปลีกตัวออกจากห้องรับรอง
ผู้จัดการไทม์สแควร์ ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างหลี่รูยา ก็พูดขึ้นว่า “คุณนายจะให้พวกเราไล่เขาทั้งสองคนออกไปจากที่นี่ไหม”
หลี่รูยาหันไปมองผู้จัดการก็รู้ว่าเป็นคนที่ฉลาด
“ ต่อไปนี้ฉันไม่อยากเจอพวกเขาที่ไทม์สแควร์ อีก”
“ ทราบครับ ทราบครับ ต่อไปนี้ทางไทม์สแควร์ จะขึ้นบัญชีดำพวกเขาสองคนไว้ครับ”
มู่เหว่ย กับมิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากตัวออกไปด้านหน้าประตูของไทม์สแควร์
มู่เหว่ย ตั้งแต่ไหนมาก็ไม่เคยโกรธแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้เธอโกรธจนตัวสั่น
มิลลี่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ไม่เหมือนกับมู่เหว่ย ที่ทำอะไรมักจะระมัดระวัง เธอต่อว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “ทำไมพวกแกมันช่างตาต่ำแบบนี้ เธอรู้ไหมนี่คือใคร อนาคตคุณนายฮั่ว ถ้าเธอทำแบบนี้ไม่กลัวอนาคตจะลำบากเหรอ”
มิลลี่พูดจบ ก็ได้ยินเสียงมาจากทางข้างกายของเธอ “ใครคือคุณนายฮั่ว”
มู่เหว่ย ตอนแรกก็โกรธแต่พอได้ยินเสียงที่เธอ ตอนแรก ก็รู้สึกโกรธจัด แต่พอได้ยินเสียงที่เธอคุ้นเคยก็รีบหันกลับเปลี่ยนใบหน้าให้ดูน่าสงสาร และเหวี่ยงตัวเข้าไปในอ้อมกอดของฮั่วเทียนหลัน พูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอึ้น “เทียนหลัน ฉันกลัว!”
ฮั่วเทียนหลันค่อยๆลูบหลังมู่เหว่ย สายตาเย็นยะเยือกกวาดมองไปที่มิลลี่ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อไปอย่าพูดอะไรมั่วซั่วนะครับ!”
มิลลี่ตัวสั่ง รีบพยักหน้ารับ “ขอโทษค่ะ คุณฮั่ว ฉันก็แค่”
ช่างงี่เง่าเสียจริง
มู่เหว่ยคิดอยู่ในใจ แต่ทนดูมิลลี่ถูกต่อว่าไม่ได้ จึงพูดด้วยเสียงอ่อนหวานว่า “เทียนหลันอย่าว่าอะไรมิลลี่เลยค่ะ เธอก็โกรธอยู่พักหนึ่งแล้ว …
ฮั่วเทียนหลันหันไปและสายตาของเขาจับจ้องไปที่มู่เหว่ย อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า: “แม่ของฉันพูดอะไร?
มู่เหว่ย นัยน์ตาแดงก่ำ ร้องไห้ออกมา แล้วพูดว่า “คุณป้าไม่ให้ฉันคบกับคุณ…..”
พูดไปก็พลางโอบกอดฮั่วเทียนหลัน
ขณะนี้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาที่ไทม์สแควร์ ต่างก็หยุดเพื่อถ่ายภาพ
ฮั่วเทียนหลันถอนหายใจยาว ดึงมือของมู่เหว่ย แล้วพูดว่า“ฉันส่งเธอกลับบ้านก่อนแล้วกัน!”