โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” - ตอนที่ 121 บทที่ 7 ตอนที่ 6
บทที่7ตอนที่6
「แฮ่ก แฮ่ก……」
ขณะที่เธอยืนอยู่บนดาดฟ้ามองดูเหล่านักเรียนที่กำลังออกจากสถาบันไป คามิลล่าถอนหายใจออกมา
「แล้วฉันจะช่วยเธอได้ยังไง……」
เหตุการณ์ของเคนนั้นถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชนและความอาฆาตที่ทิ่มแทงใส่โนโซมุก็ย้อนเข้าหาตัวลิซ่าและพยายามขับไสไล่ส่งเธอ
ในสายตาของพวกเขานั้นไม่มี “ความเห็นอกเห็นใจ” หลงเหลืออยู่อีกแล้ว ลิซ่ายังคงถูกจ้องมองด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม เธอพยายามให้กำลังใจลิซ่าทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่เพียงพอเลยแม้แต่น้อย
กระทั่งตอนที่พยายามเรียกหาเธอๆก็บอกว่า “ไม่เป็นไร” และขอโทษว่า “ขอโทษนะที่ลากมาเกี่ยวข้อง”
「ไม่ ไม่ ไม่ใช่ ! โนโซมุในตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่บนเตียง ฉันต้องเข้มแข็งกว่านี้……」
เธอส่ายหัวและเปลี่ยนใจ
โชคดีสำหรับเธอ โนโซมุไม่ได้หมกมุ่นกับการแค้นเคืองลิซ่า
เพราะโนโซมุไม่ได้คิดร้ายอะไรต่อลิซ่า เขาไม่เคยโกรธหรือเกลียดมีแต่ความห่วงใย เพราะแบบนั้นลิซ่าก็ไม่อยากจะยอมแพ้
ถ้าโนโซมุโกรธลิซ่า กำลังใจของลิซ่าคงไม่เหลืออยู่อีกแล้ว
“ถึงอย่างนั้น มันก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว” ลิซ่านั้นอ่อนแอลงเรื่อยๆเพราะความอาฆาตต่อผู้คนโดยรอบ
「ยังไงก็ตามตอนนี้ต้องอยู่กับลิซ่าให้มากที่สุด ต้องทำในสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้……」
“ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเยียวยาหัวใจอันแสนบอบช้ำของเพื่อนสนิทได้ แต่เธอก็มุ่งมั่นในสิ่งที่ต้องทำ” จากนั้นเธอก็ตบแก้มตัวเอง
「เอาล่ะ ถ้างั้นก็ไปหาลิซ่าดีกว่า เอ๋?」
「โอ้ว……」
เมื่อคามิลล่าหันไปหาลิซ่า เธอเห็นร่างหนึ่งที่กำลังมองไปรอบๆอย่างกระสับกระส่ายที่ดาดฟ้า
ทิม่า เพื่อนร่วมชั้นของคามิลล่า
เธอมองไปรอบๆสงสัยว่ากำลังมองหาใครบางคน และค่อนข้างร้อนรน
「……เป็นอะไรไปเหรอ?」
「อ่า คามิลล่าซัง……」
หลังจากถูกเรียก ทิม่าก็รู้สึกตัวว่ามีคามิลล่าอยู่
เนื่องจากข่าวลือที่กลับตาลปัตรคามิลล่าแทบจะไม่ได้คุยกับทิม่าอีกเลย
อีกอย่าง ทิม่ามีบุคลิกเป็นคนเงียบๆอยู่แล้ว การพูดคุยกับเธอจึงค่อนข้างจะง่าย
แต่ถึงยังงั้นพวกเราก็ไม่ได้คุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเพราะยังมีความรู้สึกผิดบาปต่อโนโซมุ
「เอ่อ อ่า อืม……..คือว่าฉันกำลังตามหาไออยู่แต่ว่าไม่เห็นเลย พอจะเห็นไอบ้างไหมคะ?」
เรื่องราวของคามิลล่าเองก็ซับซ้อนสำหรับทิม่า ดังนั้นจึงประหม่า
คำที่พูดออกมาจากปากนั้นดูค่อนข้างกังวลและน้ำเสียงก็สั่นๆ
「เอ่อไอริสดิน่าเหรอคะ? ไม่ใช่ว่าเธอไปหาโนโซมุคุงงั้นเหรอคะ……」
「งั้นเหรอคะ….สงสัยฉันจะมาไม่ทัน」
ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินชื่อไอริส
ทิม่าวางแผนไว้ว่าจะคุยกับไอริสในตอนช่วงเลิกเรียน แต่เธอก็ไม่มีโอกาสจนกระทั่งเลิกเรียนไปแล้ว
ทันทีหลังจากเลิกคลาส ไอริสก็ออกจากห้องด้วยความรวดเร็วและทันทีที่ไล่ตามก็หาไม่เจอแล้ว
ในทางกลับกัน คามิลล่ากำลังมองเธอด้วยสีหน้าซับซ้อน
「……นี่ ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ?」
「เอ๋?」
คำถามนั่นออกจากปากของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ
ตาของทิม่ากระพริบกับคำพูดฉับพลัน
「นี่ จากมุมมองของเธอแล้ว พวกเธอเองก็คงจะโกรธและเกลียดฉันมากเลยใช่ไหมล่ะ……」
หลังจากเหตุการณ์ที่เคนก่อขึ้น มันกลายเป็นเรื่องคลุมเครือท่ามกลางความสับสนมากมาย
ตอนนี้ก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว ไม่มีอะไรให้พูดมากมาย ความจริง มีเพียงความกังวลที่ขาขวาเท่านั้น
“ทำไมถึงได้ทำกับเราแบบนั้น”
เธอไม่ได้พูดแต่คำถามนั้นติดอยู่ในใจเธอมานานแล้ว
「ฉันเห็นด้วย เมื่อได้ยินเรื่องราวจากโนโซมุคุง ทุกคนโกรธมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาร์คุงโกรธมากจนเข้าใกล้ แต่ว่าโนโซมุก็ไม่ได้โกรธอะไรเลย……」
「ฮ่าฮ่าฮ่า…..นั่นสินะ」
คามิลล่าก้มหน้าลงและก้มศีรษะราวกับว่าเธออดทนและพูดออกมาอีกครั้งหนึ่ง
「โนโซมุยังคงกล่าวอีกว่า ยิ่งโกรธมันจะทำให้ยิ่งเศร้า พอได้เห็นโนโซมุที่เป็นแบบนั้นพวกเราก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน」
ได้ยินเช่นนั้นคามิลล่าก็ “น้ำตาไหล”
เธอรู้ แม้ว่าโนโซมุพยายามอย่างหนักให้ลิซ่ากลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เขาเลยเลือกที่จะไม่โกรธ
และบรรดาสาวๆต่างก็เคารพการตัดสินใจของโนโซมุ
「ถ้าโนโซมุคุงไม่พูดอะไร ฉันก็จะไม่พูดอะไรเช่นกัน ตอนนี้ฉันอยากให้เขาตื่นขึ้นมา คิดแค่นั้น แต่สำหรับไอแล้ว……」
「…………」
ท่าทางของทิม่าที่ปกติจนถึงตอนนี้ก็มีรอยยิ้มเศร้าๆขึ้นมา
ชื่อของไอริสหลุดออกมาอีกแล้วทำให้สีหน้าของคามิลล่านั้นแข็งทื่อ
「ฉันแน่ใจว่าคามิลล่าซังก็คงสังเกตเห็น ช่วงนี้ไอทำตัวแปลกๆไปใช่ไหมล่ะ? ราวกับว่า “กำลังกดดันตัวเอง” อยู่เลย……」
「แบบนั้นมัน……」
ทิม่าที่กำลังลังเลก็พยักหน้าให้กับคำพูดของคามิลล่า
「ใช่แล้วความรู้สึกที่พวกเราต่างมีให้โนโซมุนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยล่ะ……」
ไอริส มีความรู้สึกดีๆต่อกับโนโซมุ แม้ว่าจะเป็นคนนอกที่ไม่มีประสบการณ์มองยังไงก็รู้สึกได้
คามิลล่ายังเห็นไอริสซุกตัวอยู่ข้างๆเขาเมื่อเธอบังเอิญพบกับโนโซมุในเมือง
「ไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งแรกรึเปล่า แต่ว่าไอดูท่าทางจะเจ็บปวดอย่างมาก……」
ทิม่าพึมพำออกมาเช่นนั้น
คามิลล่าไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจากต้องนิ่งเงียบ
อย่างไรก็ตามด้วยความเศร้าของทิม่าก็เป็นที่บ่งบอกได้แล้วว่าเป็นห่วงทั้งสองมากแค่ไหน
「แล้วคามิลล่าซังล่ะ คิดจะทำอะไร?」
ทิม่าหันกลับมามองคามิลล่า
คามิลล่ามองต่ำลงและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆแหงนมองท้องฟ้า
ดวงอาทิตย์ยามอัสดงกำลังย้อมท้องฟ้าเป็นสีแดง
「ตอนนี้ได้แต่สงสัยตัวเองว่ามีความรู้สึกแบบเดียวกับโนโซมุรึเปล่า ฉันอยากให้ลิซ่ากลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะเธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันและเป็นผู้มีพระคุณของฉันด้วย……」
ในแง่หนึ่งลิซ่ากับเธอต่างก็มีความผิดเหมือนกัน คามิลล่าคิดว่าไม่สามารถเชื่อใจโนโซมุได้ สุดท้ายก็เป็นผลพวงทำให้ต้องทรมานโนโซมุถึงสองปี
“ฉันอยากให้ลิซ่าก้าวไปข้างหน้าเหมือนกับเขา” อย่างไรก็ตาม ฉันนั้นแตกต่างกับเขาอย่างแน่นอนเพราะว่าต้องแบกรับบาปที่ได้ก่อเอาไว้
แค่มองลิซ่าในตอนนี้ก็เข้าใจ
แต่ถึงแบบนั้นก็ยัง……。
「……เข้าใจแล้ว」
ทิม่ายิ้มเล็กน้อยและคามิลล่าก็ได้แต่พยักหน้า
「นอกจากนี้ฉันยังไม่ได้ขอโทษโนโซมุคุงอย่างถูกต้อง เขาอาจจะบอกว่าไม่สนใจ แต่ถึงแบบนั้นฉันก็อยากจะขอโทษออกมาจากใจจริง」
แม้ว่าจะมีรอยยิ้มราวกับประชดประชันอยู่บนริมฝีปาก แต่น้ำเสียงนั่นก็จางหายไปในความเศร้า
ในเวลานั้นคามิลล่าจับตามองกลุ่มคนที่อยู่หลังอาคารเรีบนที่รกร้างว่างเปล่า
ไม่สามารถบอกได้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่จากระยะไกล แน่นอนไม่มีทางที่จะได้ยินเสียงของพวกเขาด้วย แต่อย่างใดก็ตามมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่
「นั่นมัน……!」
「บางทีอาจจะเป็นลิซ่า?」
ผมสีแดงเข้มเป็นประกายระยิบระยับของเธอ
ความรู้สึกไม่ดีกำลังทิ่มแทงทะลุหน้าอกของฉัน
คามิลล่ารีบวิ่งออกไปทางบันไดพร้อมกับลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ทิม่าเองก็ตามไปด้วยเช่นกัน
◆◇◆
ขณะมองลงมา ลิซ่าก็เดินอย่างรวดเร็วไปตามทางเดินโดยไม่สบตาใคร
การจ้องมองดูถูกของคนรอบช้างค่อยๆทำลายจิตใจอันเยือกเย็นของเธอ
ลิซ่าอยากจะหนีจากสายตาที่เป็นดั่งลูกศรทิ่มแทงหัวใจ จึงได้หันเท้าไปยังทางหลังอาคารเรียนที่ว่างเปล่า กำแพงที่ปกคลุมสถาบันนั้นสูงและยังค่อนข้างที่จะมืดบางทีอาจจะป้องกันการสอดรู้สอดเห็นได้บ้าง
อย่างไรก็ตามก่อนที่ เธอจะโล่งอก ก็มีนักเรียนหลายคนพุ่งออกมาต่อหน้าเธอ
ทุกคนต่างมีรอยยิ้มน่าขนลุกบนใบหน้า
「ลิซ่า พอจะมีเวลาสักครู่ไหม?」
เด็กสาวที่ก้าวออกมาจากกลุ่มนั้นเป็นตัวตนที่เธอไม่คุ้นเคย
พวกนั้นน่าจะอยู่ปี 3 เช่นเดียวกัน แต่พวกเขาก็กอดอกและทำหน้ามีชัยเหนือกว่า
「……ต้องการอะไร」
「ช่วยทำตามคำร้องของฉันจะได้ไหมล่ะ ไม่ได้ขอร้องนะ?」
ลิซ่าถอยออกไปโดยไม่ตั้งใจ
เธอรู้สึกหนาวไปจนถึงกระดูกสันหลังเพราะรอยยิ้มแสนซาดิสต์ตรงหน้า
「……ขอโทษด้วยพอดีฉันไม่ว่างน่ะ」
「มานี่ นังตัวดี!」
「อึก! ทำอะไรเนี่ย!」
ผมหางม้าของลิซ่าถูกดึงออกอย่างสุดกำลังขณะที่เธอหันหลังและพยายามเดินจากไป
เส้นผมของลิซ่าขาดไปหลายเส้น
ขณะที่เพิกเฉยต่อเสียงกรีดร้องของเธอ หญิงสาวเหล่านั้นก็กระแทกร่างของลิซ่าเข้ากับผนัง
มีผู้ชายที่รออยู่ข้างหลังเธอกำลังรุมล้อมลิซ่าพร้อมกระแอมไอ
จับแขนและขาของลิซ่า ปิดปากของเธอเพื่อไม่ให้ร่ายเวทย์
「เออนี่แน่ใจแล้วใช่ไหม……?」
「ไม่สนใจหรอก ใครจะมาสนใจกับนังร่านคนนี้? แถมอีกอย่างก็เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจ เป็นแค่สามัญชนธรรมดาแท้ๆ……」
「อุ๊บบบบบบบบบบบบบ!」
ขณะพูดแบบนั้นก็เปิดใช้บาเรียนปกปิด
หยิ่งผยองเพราะครอบครัวที่มีฐานะอันสูงส่ง บางทีพวกเขาคงจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้มาจนถึงตอนนี้เพราะมีเคนอยู่ แต่ตอนนี้เคนเป็นคนทำลายชื่อเสียงและเกียรติยศของลิซ่าจนป่นปี้ไปหมด ดังนั้นมันถึงเวลาที่จะลงมือ
พูดตรงๆนะก็เป็นแค่พวกสวะชั้น 3
โดยธรรมชาติแล้วลิซ่าไม่ใช่นักเรียนท็อปคลาสของพวกปี 3 เลย
เขายกคางของเธอขึ้นจากนั้นก็มีนักเรียนชายที่พยายามจะแหวกขาลิซ่าแต่เธอก็เตะสะบัดพวกนั้นออกไป
「แกก!」
「ฟู่ว!」
เด็กชายที่กำลังจับขาซ้ายก็พยายามเอื้อมมือไปจับขาขวาแต่ก็โดนลูกเตะเข้าไปที่แก้ม
ขณะที่เปล่งเสียงร้องอู้อี้ นักเรียนที่ถูกเตะเข้าที่คางก็ทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวด
สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือเหล่านักเรียนที่ยกร่างกายส่วนบน
「อย่ามาล้อเล่นกันนะ!」
ยังไงก็ตามสายฟ้าที่ยิงโดยนักเรียนหญิงที่กัดฟันแน่นก็เข้าใส่ลิซ่าผู้ที่ต่อต้าน
「อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!」
ร่างกายของลิซ่าสั่นสะท้านขณะที่กรีดร้อง
เป็นการโจมตีอันแสนรุนแรงทำให้เสื้อผ้าของเธอฉีกขาดจากนั้นก็เผยผิวที่แดงช้ำ
「จับนังนี่ไว้ให้แน่นเลย」
「คุ……!」
ลิซ่าที่โดนสายฟ้าช็อตเข้าไปเคลื่อนไหวไม่ได้ถูกผู้ติดตามของเธอกดทับเอาไว้อีกครั้ง
ถึงกระนั้นลิซ่าก็พยายามขยับแขนขาที่ชาของเธออย่างสิ้นหวัง
「ไม่ต้องห่วง ตัวเธอที่ถูกมัดไว้อยู่แบบนี้เดี๋ยวก็ได้เป็นของผู้ชายหลายๆคนแล้วล่ะ」
「อย่ามาล้อเล่นนะ…..พวกเธอคิดจะทำอะไรกันแน่……!」
จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาเลียลิ้นใกล้ๆหูของเธอ ทำให้รู้สึกขยะแขยงขึ้นมา
ลิซ่าใช้พลังเวทที่แขนของเธอในขณะที่ระงับความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่ถูกผูกมัดอยู่ทั้งร่าง
ตอนนี้ลิ้นของเธอนั้นชาจนไม่สามารถร่ายเวทย์ได้
อย่างไรก็ตามทันทีที่ได้ยินชื่อของหญิงสาวร่างกายของลิซ่าก็สั่นสะท้าน
「คิดว่าพูดอะไรอยู่หะนังเวรนี่ คิดว่าตัวเองสวยมากเหรอไงยะ?」
「หะ!?」
「ฉันรู้นะว่าเธอแอบไปเจอเขาทุกวัน เธอคิดว่าหลังจากที่ทำเขาจนเจ็บปวดแสนสาหัสแบบนั้นจะทำให้กลับมาคบกันได้อีกยังงั้นเหรอ มันไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอไง?」
เมื่อเห็นท่าทางของลิซ่าแข็งทื่อเธอก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวนั่นทำให้รู้สึกได้ถึงชัยชนะ ราวกับว่ามีความสุขที่ได้บดขยี้ลิซ่า
นอกจากนี้เธอยังจับผมของลิซ่าและด่าทอต่อไป
「จะบอกว่าตอนนี้เธออยู่เคียงข้างโนโซมุคุงได้แล้วงั้นเหรอนังร่านนี่?」
คำพูดเหล่านั้นทำให้ลิซ่าหมดกำลังใจที่จะต่อต้านอย่างสิ้นหวัง
ดวงตาของเธอเบิกกว้างและแสงที่ดวงตาก็เริ่มที่จะหายไป
「อืม ดูเหมือนจะเติบโตขึ้นแล้วสินะ อย่างที่คิดชื่อของเขานั้นส่งผลต่อเธอมากเลยใช่ไหม?」
「ถึงอย่างนั้นก็น่าขยะแขยงจริงๆ」
「อืม ฉันบอกแกแล้ว ไม่ชอบเลยสักนิด อดทนมาตลอดตอนนี้มันถึงขีดจำกัดแล้ว “ยัยร่านที่เป็นดั่งโสเภนีคนนี้เป็นเพียงแค่เศษสวะของพวกสามัญชนแท้ๆ”」
คำพูดที่พูดออกมานั้นไม่ได้ออกมาจากคำพูดของลูกผู้ดีมีตระกูลเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงแค่การพ่นคำพูดอันสุดแสนน่ารังเกียจออกมา
นักเรียนหญิงคนนั้นจ้องมองลงมาพร้อมกับ “ฮึ่ม ท่าทางแบบนั้นแหละเหมาะสมกับนังร่านอย่างเธอดี”
「พวกแกน่ะให้ว่องเลยอยากจะกอดจูบลูบคลำขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ก็รีบๆทำซะก่อนที่จะถูกเจอ……」
「เฮะเฮะเฮะ ถ้างั้นชั้นขอก่อนเลยละกันวะ……」
จากนั้นนักเรียนชายคนหนึ่งก็เข้ามาขึ้นคร่อมเหนือร่างกายลิซ่า ผู้หญิงคนนั้นที่มองดูก็ยิ้มด้วยท่าทางพึงพอใจ
「มาเจอเรื่องไม่น่าดูชมเข้าแล้วสิคะเนี่ย……」
「อะ!?」
อากาศแข็งทื่อและความปรารถนาต่างๆก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
ความตกใจวิ่งผ่านนักเรียนหญิงที่ยืนกอดอกและยิ้มอย่างซาดิสต์ นักเรียนชายที่กำลังขึ้นคร่อมร่างลิซ่าก็แข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า
นักเรียนหญิงหันกลับมาก็พบเจอกับนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหา
ผมสีดำเจิดจ้าปลิวไสวตามสายลมและเงาสีเดียวกันที่ส่องออกมากำลังปกคลุมพื้นที่นี้
「อา ไอริสดิน่า ฟรานซิส……」
「ถ้าจำไม่ผิดคุณเป็นลูกสาวของตระกูลทาร์เด้(タルド) มาทำอะไรในที่แบบนี้งั้นเหรอคะ……」
สายตาของไอริสนั้นทิ่มแทงไปยังเธอคนนั้น
จากนั้นเธอก็หันไปมองนักเรียนชายที่อยู่รอบๆและสุดท้ายก็หันไปมองลิซ่าที่ถูกผลักลง
เครื่องแบบที่ฉีกขาดของเธอเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเกิดอะไรขึ้นในที่แห่งนี้
ความรู้สึกดูถูกและโกรธแค้นอยู่ภายในดวงตาของไอริส
ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่สามารถจินตนาการได้จากการควบคุมตนเอง
「ไม่ เอ่อ คือว่า……」
นักเรียนหญิงเริ่มหาข้อแก้ตัวอย่างหมดท่าขณะระงับความกระวนกระวายใจของเธอ
ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่สามารถซ่อนความสับสนวุ่นวายของสถานการณ์นี้ได้
「เอ่อ นั่นไง ใช่แล้ว! นี่เป็นการซ้อมรบในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดไง อ๊าห์!」
「ปล่อยเธอซะ」
ก่อนที่นักเรียนหญิงจะพูดอะไร กระสุนเวทย์ก็กระทบเข้าแทบเท้าเธอ
นักเรียนหญิงกรีดร้องออกมาโดยไม่ตั้งใจกับสิ่งสกปรกที่กระจัดกระจายไปทั่ว
สำหรับไอริสที่มีประสบการณ์มากมายในสังคมชั้นสูง ข้อแก้ตัวของนักเรียนตรงหน้ามันไร้สาระเกินไป
“ในตอนแรกการกระทำแบบนี้ในสถาบัน ที่มีพื้นที่เล็กๆไม่ใหญ่มากแบบนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกเห็นได้ง่ายๆอยู่แล้ว”
อุปสรรคที่ซ่อนอยู่นั้นไม่ได้ปิดล้อมซะจนเป็นจุดบอดสนิท พูดตรงๆก็คือการจะหาที่ระบายอารมณ์กับเป้าหมายแบบนี้เป็นการกระทำอันแสนโง่เขลาสิ้นดี
หากอยากจะบดขยี้อีกฝ่ายจริงๆต้องทำให้ศัตรูคู่อาฆาตนั้นเงียบจนพูดอะไรไม่ได้ แต่นักเรียนหญิงคนนี้ไม่มีความคิดที่จะทำเช่นนั้น
หากเธอเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเอง จะใช้จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ หักอกพวกมัน จับตัวประกันและในที่สุดก็ลงมือ….
「อึก!」
ไอริสตกตะลึงกับความคิดที่ผุดเข้ามาในหัวของเธอ
“นี่กำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย” เธอได้แต่ถามตัวเองเช่นนั้น
เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อลบล้างความเกลีดชังในจิตใจของเธอ
「อา ไอริสดิน่าซังนี่มัน…อ่อก!」
「อย่าให้ต้องพูดซ้ำปล่อยเธอซะ」
นักเรียนหญิงพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไอริสไม่ฟัง
กระสุนเวทย์สีดำที่ถูกยิงออกไปบังคับให้เธอหุบปาก น่าแปลกที่ฉากนั้นมันดูเหมือนกับการที่พวกเธอซ้อมลิซ่าก่อนหน้านี้
นักเรียนหญิงจ้องกลับมาที่ไอริส ขณะที่จับหน้าท้องเอาไว้
「ไม่เอาน่า ไม่จำเป็นต้องไปอยู่ข้างยัยร่านนี่หรอก!」
ไอริสกัดฟันแน่น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สำนึกผิดในการกระทำของตัวเอง
โดยไม่สนใจไอริสที่กำลังจ้องมอง เธอยังคงสบถคำด่าทอต่างๆออกมาไม่หยุด
「อ่า เธอเองก็คงคิดว่าผู้หญิงคนนี้มันน่ารำคาญใช่ไหมล่ะ! เธอยกโทษให้นังร่านนี่ได้เหรอ? นังร่านที่ทิ้งโนโซมุคุงไป แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนก็ส่ายหางกลับมาและพร้อมจะคืนดีอย่างง่ายดาย……」
「……หุบปาก」
กระสุนเวทย์จำนวนมากก่อตัวขึ้นรอบๆไอริสและพุ่งเข้าใส่นักเรียนหญิงในคราวเดียว
ฝุ่นมากมายกระจัดกระจายไปทั่วเพราะกระสุนเวทย์ที่ตกลงพื้น
「คิย๊าาาาาาาา!」
ไอริสยังคงกระหน่ำโจมตีด้วยกระสุนเวทย์ต่อไป
กระสุนจำนวนมากไม่มีเวลาแม้แต่จะให้พักหายใจเข้าปกคลุมล้อมรอบนักเรียนหญิงในเวลาไม่นาน
「ฮี่……」
ไม่นานนัก พายุกระสุนเวทย์ก็ผ่านไปและนักเรียนหญิงก็ตัวสั่น
ดินรอบๆถูกตักออกจนเกิดรูพลุนมากมาย
ไอริสนั้นไม่ได้ยิงกระสุนเวทย์ใส่เด็กสาวแต่แค่เล็งบริเวณรอบๆ
เวทย์ของไอริสนั้นเบากว่าของทิม่าแต่ถึงกระนั้น หากกระสุนเวทย์แต่ละนัดเข้าเป้ามันก็มีพลังเพียงพอที่จะบดขยี้กระดูกของศัตรู
เมื่อเห็นพายุแห่งความรุนแรง นักเรียนหญิงก็เงียบสนิท
ร้องไห้ไม่ออก กลัวเหมือนกับเด็กทารก
「ว๊ากกกกก!」
เมื่อเห็นพายุแห่งความรุนแรง นักเรียนชายที่ตึงเครียดจนถึงขีดสุดก็เริ่มกรีดร้องและหันหลังพยายามจะหนี
ลูกธนูแทงทะลุหน้าเท้าของนักเรียนเหล่านั้น
「คิดว่าจะหนีไปได้งั้นเหรอ」
เมื่อพวกนักเรียนชายหันไปมองทิศทางของลูกธนูก็พบเด็กสาวเอลฟ์ที่มีผมสีฟ้าปลิวไปตามสายลม กำลังขึงคันธนูไว้แน่น
「ซีน่า・จูเรียล……」
「อืม ถ้าคิดว่าหนีได้ก็ลองดู แน่นอนว่าบนร่างพวกนายอาจจะมีของไม่พึงประสงค์ติดไปสองสามลูก……」
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของซีน่าเล็งไปที่คิ้วของนักเรียนชายพร้อมกับขู่
น้ำเสียงนั้นอาจจะฟังดูอ่อนโยน แต่การที่ลูกธนูถูกขึงไว้แน่นนั้นแสดงให้เห็นว่าเธอเอาจริง
อย่างน้อยก็มีของฝากติดตัวไปหนึ่งถึงสองลูก
「อึก……」
「ในสถานการณ์แบบนี้อย่าให้ ก็อยากให้เล่าให้ฟังโดยละเอียดเลยนะคะ」
「อาจารย์อินด้า……」
คราวนี้อาจารย์อินด้าปรากฏตัวขึ้นพร้อมหันงสือเรียนต่อหน้านักเรียนชายที่กำลังครางอู้อี้
「พอได้ยินรายงานก็มาที่เกิดเหตุ แต่อย่างที่คาดเอาไว้ไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยเลยตามเลยได้」
「อูววววววว……」
เมื่อเหลือบมองนักเรียนชายที่กำลังหลบตา อินด้าก็รีบใช้เวทย์พันธนาการ
นักเรียนทุกคนที่พยายามจะหนีถูกล่ามโซ่เหล็กเอาไว้
「ลิซ่า ไม่เป็นไรนะ!?」
「ไอและก็อาจารย์อินด้า!」
คามิลล่าและทิม่าที่กำลังดูจุดเริ่มต้นของสิ่งต่างๆบนดาดฟ้าก็มาถึงที่เกิดเหตุ
「ไม่ต้องกังวลดูเหมือนว่า “ดวงตา” จะสอดส่องได้อย่างถูกต้อง……」
อินด้าเหลือบมองทั้งสองคนที่กระโดดเข้ามาแล้วเหลือบมองเงาของอาคารเรียนที่อยู่ไกลออกไป
ร่างสะท้อนในเงาของพระอาทิตย์หายไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเป็นกลุ่มของแสงดาวที่ยังคงอยู่ในสถาบันเพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์
อินด้านั่งลงจับมือนักเรียนที่กำลังสั่นเทาให้ลุกขึ้นยืน
「มีนักเรียนสองสามคนที่หลุดจากการเฝ้าระวัง….แต่ซีน่าและคนอื่นๆ ฉันจะพานักเรียนพวกนี้ไปรายงานต่ออาจารย์จิฮัด ขอโทษด้วยนะคะแต่ว่าฝากดูแลลิซ่าด้วย」
ซีน่า คามิลล่าและทิม่าพยักหน้าตามคำพูดแนะนำของอินด้าพวกเขาก็จับมือนักเรียนหญิงที่กำลังหดหู่พร้อมกับนักเรียนชายไป
สิ่งที่พวกเขาทำนั้นเป็นอาชญากรรมอย่างแน่นอน และไม่ว่าจะหนียังไง พวกเขาแม้จะไม่ถูกไล่ออกจากสถาบัน แต่ว่าก็ต้องไปนั่งกินอาหารเหม็นๆในคุกสักพัก
สายตาของไอริส ซีน่า และลิซ่าสบตากันและทิม่ากับคนอื่นๆที่มองเห็นก็มองมาด้วยท่าทีแปลกๆ
「อ่า ขอบคุณนะ……」
เธอต้องตกใจมากที่โดนทำร้าย เสียงของลิซ่าสั่นเล็กน้อยขณะที่พยายามซ่อนเครื่องแบบที่ฉีกขาด
ไอริสขมวดคิ้ว มือของเธอกำแน่นสั่นเล็กน้อยราวกับทนอะไรสักอย่าง
ไอริสกระชับริมฝีปากแน่นขึ้นโดยไม่พูดอะไร
「……ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?」
ลิซ่าพูดแบบนั้น
แม้แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าพูดอะไรแบบนี้ออกมา
「แล้วจะให้พูดอะไรล่ะ?」
ไหล่ของไอริสสั่นเทา ก่อนที่จะรู้ตัวเธอก็จ้องมองลิซ่าด้วยความโกรธ
เธอหันมามองลิซ่าด้วยความโกรธจัดและคว้าคอเสื้อเธอเอาไว้
ใบหน้าของทั้งสองชนกันจนแทบจะหายใจรดกัน
ไอริสจ้องมองไปที่ลิซ่าด้วยความโกรธจัด เมื่อเห็นเช่นนั้นลิซ่าก็เบิกตากว้าง
「อย่ามาพูดบ้าๆนะ !? ฉันมีเรื่องเป็นภูเขาเลากาอยากจะพูดมากมายเลยล่ะ!?」
「เอะ……!」
รูปลักษณ์ของเธอในตอนนี้ต่างออกไปจากปกติ
ไอริสที่โกรธมากจนทิม่าก็ตกตะลึง
ลิซ่าครางออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะที่เอามือจับหน้าอกของเธอ
「แต่จะให้ฉันพูดอะไรได้ !!! ถึงพูดไปโนโซมุก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี นอกจากนี้……」
“มันขัดกับความต้องการของเขา” เมื่อพยายามจะพูดแบบนั้นไอริสก็นิ่งเงียบด้วยท่าทางตกใจ
“นี่พยายามจะพูดอะไร”แม้ว่าจะมีเพียงเธอที่คิดว่าจะพูดแบบนั้นออกมาได้
คำดูถูกเหยียดหยามมันแทบจะไหลออกมาจากปากในตอนที่เธอจะพูด
「ฮึกกกกกกกก!」
เสียงสะอื้อที่ไม่สามารถหยุดได้เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่ปิดสนิทของเธอ ลิซ่าและซีน่าทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก
“เธอจะทำตัวแบบนั้นไปจนถึงเมื่อไร” ไอริสคิดได้แบบนั้นก็ผลักลิซ่าออกและหันหลังกลับวิ่งจากไป
「ไอ!」
ทิม่าขึ้นเสียงโดยไม่ตั้งใจ แต่ไอริสก็ไม่หยุด
「……ทิม่าซัง ฝากที่นี่ให้ฉันจัดการเอง เธอรีบตามไอริสไปเถอะ」
「ซีน่าซัง……」
「เร็วเข้า ก่อนที่จะคลาดสายตาจากเธอ」
「อะ อืม ! ขอบคุณนะ!」
ซีน่าเหลือบมองไปที่ทิม่าและกระตุ้นให้เธอออกไป
ขณะสงสัยว่าต้องทำยังไงทิม่าก็พยักหน้าต่อคำพูดของซีน่าและเริ่มวิ่งตามไอริสไป
ซีน่าที่เห็นทิม่าวิ่งจากไปแล้ว ก็เข้าหาลิซ่าที่ยังคงนอนมึนงงอยู่ที่พื้น
「เธอไม่ได้โง่หรอก แต่หมายความว่ายังไงกับสิ่งที่พูดนั่นน่ะ?」
「…………」
เมื่อได้ยินเสียงที่โกรธเคืองของซีน่า ลิซ่าก็เงียบและมองต่ำลง
เมื่อเห็นเธอเช่นนั้น ซีน่าถอนหายใจและเริ่มรักษาเธอ
คามิลล่าก็เริ่มเข้ามาช่วยเหลือซีน่าในทันทีและชั่วขณะหนึ่งก็ทำการรักษาจนเสร็จ
หลังจากรักษาเสร็จแล้ว ซีน่าก็ค่อยๆพูดขึ้นอีกครั้ง
「เนื่องจากโนโซมุไม่ได้โทษเธอ อย่างน้อยก็ต้องการคำดูถูกตำหนิหรืออะไรทำนองนั้นเหรอ?」
「…………」
ลิซ่ากัดริมฝีปากแน่น
มันไม่ได้เกินจริงเลยที่ซีน่าพูดแบบนั้น
พูดตรงๆชื่อเสียงของลิซ่าในตอนนี้ดิ่งลงเหว เมื่อเดินไปรอบๆสถาบันก็มีแต่คนพูดถึงด้านแย่ๆ โดนดูถูกจากทุกหนแห่ง และสุดท้ายก็โดนทำร้าย
สถานการณ์มันไม่ต่างอะไรกับโนโซมุเมื่อสองปีที่แล้ว
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เหลืออยู่ในหูของลิซ่าคือคำพูดของนักเรียนหญิงว่า “เธอนั้นดีพอที่จะอยู่เคียงข้างโนโซมุในตอนนี้งั้นเหรอ?”
คำพูดเหล่านั้นมันเป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงความผิดบาปที่เธอก่อเอาไว้ ทำให้เธอหมดกำลังใจที่จะขัดขืนไป
「ถ้าจะพูดตรงๆ ก็อยากจะตอกกลับไปว่า “อย่าโง่น่า” เธอก็น่าจะรู้ว่าพวกเรามีความรู้สึกยังไงแต่พวกเราก็พูดอะไรไม่ได้ ต้องให้เจ้าตัวโนโซมุเป็นคนพูดโดยตรง คนอื่นที่ไม่ใช่โนโซมุพูดมันไม่มีความหมายหรอกนะ “ยิ่งกว่านั้นการกระทำของเธอในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการดูถูกความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลยด้วยซ้ำ”」
ต่อหน้าคำพูดของซีน่า ลิซ่านิ่งเงียบ
เธอเองก็รู้ดี ว่าโนโซมุอยากให้เธอก้าวเดินไปข้างหน้ายอมรับความจริง
เธอมีความสุขที่โนโซมุคิดถึงตัวเอง เธออิจฉาไอริสและคนอื่นๆที่ได้อยู่เคียงข้างเขา และรู้สึกสมเพชและเศร้าใจที่ตัวเองไม่ได้เชื่อใจเขาเลย
การไม่ต่อต้านอะไรเลยในตอนนี้ก็เป็นเหมือนกับการหลบหนีของตัวลิซ่าเอง ซึ่งดูเหมือนจะหนักใจกับความผิดที่ตัวเองได้ก่อ
ในเวลาเดียวกัน ลิซ่ารู้สึกอิจฉาเอลฟ์สาวคนนี้ที่คิดถึงโนโซมุแบบนั้น
「……เธอเองก็ชอบโนโซมุเหมือนกันใช่ไหม」
「……หาาาาา!?」
ซีน่าเปล่งเสียงแปลกๆกับคำพูดฉับพลันของลิซ่า
ลิซ่าเอียงคอด้วยความสงสัยราวกับว่าเธอไม่ได้คาดหวังกับปฏิกิริยาดังกล่าว
「……แล้วผิดเหรอ?」
「ไม่หรอก….ฉันเข้าใจแล้วล่ะ?」
「อืมฉันเองก็ด้วย….」
เพราะว่าชอบเขายังไงล่ะ
คำพูดเหล่านั้นไม่เคยออกมาจากปากของลิซ่าเลย และเธอก็กลืนความรู้สึกของตัวเองไปพร้อมกับความรู้สึกผิดบาป
ซีน่าไม่ได้พูดอะไรกับลิซ่าและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์บนริมฝีปาก
「บางทีการพูดจาดีๆแบบนี้อาจเป็นเพราะว่าฉันรู้สึกกับเขาน้อยที่สุดก็ได้ ฉันเองก็เพิ่งค้นพบว่าตัวเองนั้นชอบเขา……」
เมื่อมองไปที่ซีน่าแบบนั้น ลิซ่าก็สงสัยว่ากำลังพูดถึงอะไร
แม้ว่าจะสายเกินไปสำหรับเขาที่รับรู้ถึงความรู้สึกของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอพยายามสนับสนุนความตั้งใจของโนโซมุอย่างดี
ผู้หญิงคนนี้นั้นช่วยเหลือโนโซมุมากกว่าที่เธอทำเสียอีก ลิซ่ารู้ดีว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หากไม่มีความรู้สึกแรงกล้าเช่นนั้น
「อืมอย่างไรก็ตาม ถ้าคิดถึงโนโซมุคุง อย่าได้คิดหาทางลัดเด็ดขาด มันไม่มีอะไรนอกจากการทรยศความรู้สึกของโนโซมุเลย เพราะงั้นอย่าได้ทำอะไรแบบนั้นกับเขาที่เก็บความเกลียดชังไว้เบื้องลึกของจิตใจ อย่าได้ทรยศความตั้งใจของเขาอีกเลยเข้าใจไหม?」
ซีน่ายังคงพูดต่อไปในขณะที่แก้มสีขาวราวหิมะของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
เมื่อพูดเช่นนั้น ลิซ่าก็พยักหน้าเข้าใจ
“ตัวเธอที่ทรยศโนโซมุมาหลายครั้งแล้ว” อย่างที่นักเรียนหญิงคนนั้นพูด เธออาจจะไม่มีสิทธิ์อยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไป
แต่ความรู้สึกที่ว่า “ฉันไม่อยากทรยศนายอีกแล้ว” เธอไม่อยากดูถูกความรู้สึกของเขา ความตั้งใจนั่นถูกปลุกขึ้นในใจของลิซ่า
「ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี คามิลล่า ฝากที่เหลือได้ไหม?」
ซีน่าลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและจากไป
「อืม…ขอบคุณนะ」
ลิซ่าโค้งศีรษะขณะที่เห็นเธอออกวิ่งไป
โดยไม่หันกลับมาซีน่ายกมือขวาของเธอขึ้นเป็นการตอบคำถาม แล้วหายตัวไปที่ประตูหลัก
หลังจากผ่านประตูหลักและมาถึงสวนสาธารณะกลางแล้ว ซีน่าก็มองรอบๆว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น
「หวาาาาาาา น่าอายจังเลย……」
หากสังเกตดีๆจะเห็นว่าไม่เพียงแค่แก้มเท่านั้นแต่ผ่านนิ้วมือและปลายหูยังแดงฉ่ำ
「พะพะพะพะพะ…………..พอฉันพูดให้คนอื่นว่าตัวเองชอบโนโซมุคุง อ๊าาาา น่าอายจริงๆ……」
วันก่อนจู่ๆ เธอก็รู้ตัวว่าเธอชอบโนโซมุเข้าและก็ขึงขังขึ้นมา
ซีน่าดิ้นรนกับความรู้สึกรักใคร่และความละอายใจจนหัวของเธอหมุนไปหมด !
ทุกครั้งที่ผมยาวสีฟ้าส่ายไปมามันเหมือนกับหางของสุนัขที่ดีใจไม่มีผิดเพี้ยน
แต่ไม่ว่าจะส่ายหัวเท่าไร ความเขินอายที่มีอยู่ก็ไม่ได้ลดลงเลย
ในท้ายที่สุดก็ใช้เวลาอยู่ประมาณ 30 นาทีอยู่ที่นั่นพร้อมกับโดนสายตาแปลกๆจับจ้อง จากคนที่ผ่านไปมาเป็นครั้งคราว
◆◇◆
ในทางกลับกันไอริสที่วิ่งหนีออกมากำลังวิ่งไปรอบๆเมืองพร้อมหอบหายใจรุนแรง
ผู้คนรอบตัวเธอต่างประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะหญิงสาวแสนสวยกำลังวิ่งด้วยความเร็วมหาศาล
ไอริสนั้นไม่ได้สังเกตถึงสายตาของปวงชนและวิ่งต่อไปยังที่แห่งหนึ่ง
โดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จะหยุดเธอ เธอมุ่งหน้าไปยังห้องที่โนโซมุพักอยู่โดยไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหมอหญิงที่เธอชนเข้าที่โถงทางเดิน
ก่อนที่ไอริสจะจ้องมองประตูและเปิดมันอย่างแรง โนโซมุยังคงหลับไหลอยู่
「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……」
ไอริสเดินไปหาโนโซมุที่เตียงโดยไม่ได้พยายามสงบลมหายใจอันร้อนรนเลย
「โนโซมุ……」
ไอริสพึมพำชื่อของเขาขึ้นมา
เธอวางมือลงบนอกที่สั่นเทา
แม้ว่าจะจับหน้าอกของตัวเองแน่นจนมือขาว กัดฟันแน่นและกลั้นเอาไว้ ความเจ็บปวดก็ไหลซึมออกมาราวกับเม็ดฝน
「นี่ ตื่นได้แล้วนะ นอนมากเกินไปแล้ว? ถ้าไม่รีบตื่นเดี๋ยวก็เรียนไม่ทันเพื่อนหรอกนะ?」
คำพูดของเธอที่พูดออกมาพยายามรักษาความสงบให้มากที่สุด แต่เสียงนั้นสั่นและแหบแห้ง
รอยยิ้มที่พยายามสร้างมันขึ้นมานั้นแข็งทื่อ และก่อนที่จะรู้ตัวเธอก็กัดริมฝีปากแน่น
「โซเมียและซีน่ากังวลมากเลยนะ เพราะแบบนั้นแล้ว……」
สมองของเธอนั้นโล่งไปหมด และไม่มีคำพูดอะไรที่เข้ามาในหัวของเธอ เช่นเดียวกับงูที่กัดหางตัวเอง
「ตื่นขึ้นมาเถอะนะ ตื่นเถอะ…….ขอร้องล่ะ อย่างน้อยฉันก็อยากได้ยินเสียงของนาย……」
อยากจะหนีจากความเจ็บปวดอันทุกข์ทรมาน ไอริสพยายามเขย่าโนโซมุที่กำลังหลับไหลราวกับเห็นภาพของเขาซ้อนทับกับแม่ของเธอในอดีต
ฉากในวัยเด็กของเธอที่ปรากฏขึ้นมาในใจ ทำให้ไอริสหงุดหงิดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม โนโซมุนั้นไม่มีการตอบสนอง
ดวงตาของไอริสค่อยๆเปียกชื้น
น้ำตาหยดหนึ่งไหลอาบแก้มเธอ และเริ่มที่จะหยุดมันไม่ได้
น้ำตาที่เอ่อล้นดุจน้ำตก ไอริสเข้าไปโผกอดโนโซมุ
「ฮึก ฮืออออออออออ ฉันไม่อยากจะเสียนายไปนะ……!」
เธอเอนตัวไปทางหน้าอกของโนโซมุ ผ้าพันแผลที่พันรอบตัวนั้นกลายเป็นที่สบน้ำตาของไอริสโดยสมบูรณ์
น้ำตายังคงไหลท่วมอกของโนโซมุ แต่เขาก็ยังคงทำได้แค่หายใจตามปกติ
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นใบหน้าที่กำลังหลับไหลนั้นอยู่ใกล้มาก
แม้ว่าจะไม่ได้มีรูปลักษณ์โดดเด่น แต่แค่เห็นใบหน้าของเขา รอยยิ้มของเขา มันก็ทำให้จิตใจของเธอสงบลงได้
「ฮึก ฮึก…….ฮือออออออออ โนโซมุ……」
เธอเอาหน้าเข้าไปใกล้และแตะที่แก้มของโนโซมุเบาๆ
เหมือนเช่นดั่งเดิม ไอริสกดริมฝีปากของเธอเข้ากับริมฝีปากของโนโซมุ
จูบแรกของเธอ
ซีน่าจูบเขาเพื่อให้ทำพันธสัญญาทางวิญญาณกับโนโซมุที่หลุดการควบคุม
เช่นเดียวกับซีน่าในตอนนั้นไอริสก็คิดว่านั่นเป็นการทำเพื่อโนโซมุ เธอทำลงไปเพราะแค่อยากให้โนโซมุตื่นขึ้นมา
อย่างไรก็ตามมันไร้ผล เปลือกตาของเขาไม่ได้เปิดออก
「…………」
ไอริสค่อยๆลุกขึ้นและออกจากห้องพยาบาลไปด้วยท่าทีโซเซ
ไม่รู้สึกเจ็บหน้าอกอีกต่อไป เธอรู้สึกได้ถึงช่องว่างและความหนาวเหน็บอันรุนแรง
ข้างนอกก็มืดแล้ว
เมื่อเธอเดินไปรอบๆเมืองด้วยฝีเก้าที่ไม่มั่นคง ทันใดนั้นก็โดนสวมกอดจากด้านหลัง
「ไอ!」
「ทิม่าเหรอ?」
เสียงที่คุ้นเคยเพื่อนสนิทของเธอกำลังเรียกเธออยู่
แม้ว่าเธอจะตะโกนชื่อของฉันใกล้ๆหู แต่ว่ามันรู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกลเสียเหลือเกิน
「ฮึก……」
「คิดทำอะไรเนี่ย ถึงได้มาในสถานที่แบบนี้?……」
ได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงมาทำอะไรในสถานที่แบบนี้?
ท่ามกลางความคิดที่ไม่มั่นคง มีเพียงปากเท่านั้นที่ขยับ
ทิม่าไม่ตอบคำถามของไอริส และยังคงโอบกอดเธอจากด้านหลัง
「ไม่เป็นไร ฉัน ไม่เป็นไรจริงๆ」
เธอพูดน้ำเสียงใสๆราวกับนกแก้ว แต่บรรยากาศที่ดูอ่อนล้านั้นทำให้คำพูดเธอไม่มีน้ำหนักเอาเสียเลย
ราวกับจะปลอยโยนเธอ แขนของทิม่าโอบกอดไอริสแน่นขึ้น
「ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร….」
ความอบอุ่นนั้นเริ่มถูกจุดประกายในความคิดที่เยือกเย็นของไอริส
ในเวลาเดียวกันน้ำตาที่เหือดแห้งออกมาก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง
เพื่อที่จะซ่อนใบหน้าอันแสนอ่อนแอ ทิม่าจับหัวของไอริสมาซุกอกของเธอ
「ฮึก ฮือออออออออ……」
ไอริสเริ่มสะอื้นอีกครั้งด้วยความอบอุ่นของเพื่อนสนิท
ผู้คนรอบตัวได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าไม่สนใจหรอก
「ฮึก เอ่อ ฮิก ฮ๊าาาาาาาาาาห์!」
「ไอ……」
ผู้คนนั้นไม่สามารถสัมผัสหัวใจของคนอื่นได้โดยตรง
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคิดยังไง ไม่สบายใจแค่ไหน นานแค่ไหนที่ระงับความโกรธเคืองเอาไว้ จิตใจอันแสนบอบช้ำนี่มันจะระเบิดออกมาเมื่อไร ไม่มีใครรู้
หัวใจของเธอแทบจะระเบิดออกมายามที่ไม่ได้เห็นเขาตื่นขึ้นมา และเธอก็อิจฉาลิซ่าที่เป็นอดีตคนรักของเขา พยายามระงับความโกรธแต่ก็ล้มเหลว
ขณะที่ซ่อนใบหน้าเอาไว้ ทิม่ายังคงยอมรับความปรารถนาของเพื่อนสนิทของเธอ
ในขณะนั้น ณ สุดสายตาของทิม่า เธอมองเห็นเงาของคนที่รีบวิ่งไปที่สถาบันด้วยความตื่นตระหนก
「นั่นมัน……」
หมอหญิงในชุดขาวกำลังเดินเข้ามาเธอเริ่มวิ่งไปที่สถาบันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
มีบางอย่างเกิดขึ้นกับโนโซมุ
ลึกเข้าไปในอกของทิม่า ลางสังหรณ์ที่ใกล้กับความแน่นอนก็ผุดขึ้นมา
แปลเสร็จก็ไปทำงานต่อ ถึงช่วงนี้จะได้แปลน้อยลง แต่ก็ QC และเช็คคำมากขึ้นนะ ตอนนึงไม่ยาวหรอกคนอ่านๆแปปเดียวก็จบแล้ว