โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” - ตอนที่ 124.1 บทเสริม สิ่งที่ควรระวังในงานเลี้ยง ครึ่งแรก
- Home
- โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”
- ตอนที่ 124.1 บทเสริม สิ่งที่ควรระวังในงานเลี้ยง ครึ่งแรก
บทเสริม สิ่งที่ควรระวังในงานเลี้ยง ตอนที่ 1
ทุกอย่างเริ่มต้นทันทีหลังจากโนโซมุที่ผล็อยหลับไปหลังจากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับเคน ตอนนี้ได้ออกโรงพยาบาลแล้ว
ฟีโอและมิมูรุที่ชอบงานเฉลิมฉลองตัดสินใจจัดงานเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสที่โนโซมุออกจากโรงพยาบาล
ผู้หญิงทั้งหลายได้แก่ ไอริส โซเมีย และ ทิม่าเองก็ตกลงที่จะจัดงานเลี้ยงนี้ด้วย
มาร์(ตัวแทนชั่วคราว)ของร้านตกลงที่จะจัดงานเลี้ยงให้กับเหล่าเพื่อนสนิทของเขาที่ร้าน
หลังจากคุยกันฮันนะและคนอื่นๆที่ดูแล เรือนร่างของโคแล้วพวกเขาก็ได้เตรียมการเสร็จสรรพและมาที่ร้านกันอย่างลับๆ
จากนั้นทันทีที่โนโซมุเปิดประตูร้านมา โดยที่ไม่รู้อะไรเลย ก็เจอเข้ากับงานฉลอง
「โนโซมุ ยินดีด้วยนะที่ออกจากโรงพยาบาล!」
พร้อมกับเสียงตะโกนของไอริส ฟีโอและมิมูรุก็ขว้างปากระดาษใส่โนโซมุ
ไอริสและซีน่าต่างจับตามองโนโซมุ ที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่โนโซมุนั่งลง มาร์และเอนะก็เริ่มวางอาหารลงบนโต๊ะทีละโต๊ะ
「……เอ่อ? อะไรกันเนี่ย?」
「อย่างที่เห็นไง ก็เลี้ยงฉลองที่โนโซมุออกจากโรงพยาบาล」
「ก็นะ อยากจะเก็บเป็นความลับเอาไว้เพื่อเซอร์ไพร์ส เมื่อวานฟีโอและคนอื่นๆต่างแนะนำให้จัดงาน ก็เลยรีบเตรียมการโดยทันที พอได้เห็นนายแปลกใจแบบนี้ ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้ว」
ซีน่าและไอริสอธิบายสถานการณ์ให้โนโซมุฟัง
ในขณะเดียวกัน อาหารที่มาร์และคนอื่นๆนำมามันกระตุ้นความอยากของโนโซมุ
ไก่ที่ย่างด้วยสมุนไพรและซุปที่เคี่ยวมาทั้งวันกำลังปล่อยกินโชยกระตุ้นความอยาก
ตอนที่สลบไปแทบไม่ได้กินอะไรเลย และแม้กระทั่งตอนตื่นขึ้นมาก็หิวมากๆและได้กินแต่อาหารเลวเป็นหลัก อาจเป็นเพราะแบบนั้น น้ำลายก็เลยไหลย้อยเลยทีเดียว
แต่เหนือสิ่งอื่นใด จิตใจของโนโซมุรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากเพื่อนๆของเขา
「ทุกคน……」
「โนโซมุ มีอะไรอยากจะพูดหน่อยไหม…..เอ่อฉันเองก็อยากจะพูดนะแต่ว่ามันจะไม่ให้เกียรติเจ้าของงาน」
「อืม นั่นสินะ」
ไอริสและคนอื่นๆยิ้มให้กับโนโซมุที่ตื้นตันหัวใจ
ไม่ได้อยากพูดอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงแค่ความอบอุ่นเท่านั้นที่เติมเต็มหัวใจของเขา
สักพักก็แจกน้ำผลไม้ให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่น ไม่มีพวกแอลกอฮอล์บนโต๊ะ
เนื่องจากเอนะ บอกว่าไม่ให้ดื่มที่นี่
โซเมียอายุน้อยก็เข้าร่วมงานด้วย และมันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเธอเคยก่อความวุ่นวายมาก่อนในร้านอาหารเนื่องจากเคยเผลอดื่มแอลกอฮอล์
มาร์แอบดีใจที่เขาสามารถดื่มได้ในตอนเตรียมการ แต่ก็ไม่พอใจกับคำเตือนของเอนะที่ห้ามดื่ม
งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้น ผู้เสนอเป็นฟีโอและมิมูรุ
อย่างไรก็ตามไม่มีทางที่ทั้งสองจะคิดอะไรตื้นๆแค่นี้
「เอาล่ะทุกคนวันนี้กินให้เต็มที่เลยเพื่อฉลองแก่การที่โนโซมุได้ออกจากโรงพยาบาลละน้อ!」
「คิดแบบนี้ไว้แต่แรกแล้วสินะ ฟีโอ!?」
「ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงาน พรีเวดดิ้งของฉันและทอมน้าาาา!」
「มิมูรุพูดอะไรน่ะ!? ไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องแบบนั้นมาก่อนเลย!?」
「「ไม่ต้องใส่ใจหรอกน่า วันนี้ดื่ม กิน และสนุกสนานให้เต็มที่กันดีกว่าน้าาาาา คัมปายยยยย!」」
「ฟังก่อนสิ!」「ฟังก่อนสิเฮ้ย!」
แม้ว่างานเลี้ยงจะยังไม่เริ่มแต่ ฟีโอก็ทำหน้าที่ตั้งแต่ต้นแล้ว แถมยังรวมมิมูรุด้วย
โนโซมุและทอมตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการละทิ้งจุดประสงค์หลักของงานเลี้ยงอย่างกะทันหัน
อย่างไรก็ตามทั้งสองไม่ฟังคำประท้วง
ดูเหมือนคนอื่นๆเองก็ยอมแพ้ สายเกินไปที่จะหยุด พวกนั้นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และถือแก้วอยู่ในมือ
โนโซมุและทอมที่โดนทิ้งไว้ข้างหลังอย่างกระทันหัน กลืนสิ่งที่อยู่ในแก้วลงไปด้วยความสิ้นหวัง
กลิ่นหอมอ่อนๆและความหวานของน้ำผลไม้กระจายไปทั่วปาก
ทันทีที่ดื่มเข้าไป ความรู้่สึกเสียวซ่าก็กระทบเข้าที่คอ แต่ไม่ได้ชวนให้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด มันช่วยเพิ่มความหวานของน้ำผลไม้ด้วยซ้ำ
มันเป็นน้ำผลไม้ที่ไม่เคยดื่มมาก่อน แต่บอกได้เลยว่าอร่อยมาก
「สิ่งที่ข้าน้อยเตรียมมาในวันนี้ก็คือน้ำผลไม้ที่ข้าน้อยได้มาจากพ่อค้าเร่ในเมือง」
「ฮะฮะฮะ เพิ่งเคยดื่มครั้งแรกเลย แต่นี่เป็นเครื่องดื่มที่ชวนใจเต้นดีนะ」
「เสียดายเนอะที่ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้!」
ใบหน้าของทอมและมาร์ยิ้มให้กับการกระตุ้นของน้ำผลไม้ที่เพิ่งเคยดื่มเป็นครั้งแรก
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจที่ไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ความไม่พอใจของมาร์ก็หายไปทันทีที่ดื่มสิ่งนี้
「ดื่มไปก็นานแล้วแต่มันทำให้ลิ้นซ่าอยู่เลย……」
「ไอริสเคยดื่มไหม?」
「เอ่อก็เคยดื่มตอนจัดปาร์ตี้ในบ้านเกิดของฉัน เมื่อตอนที่ดื่มมันเป็นครั้งแรก รู้สึกเหมือนว่ากลืนเข็มลงไปก้อนหนึ่งเลยค่ะ」
เพื่อตอบคำถามของซีน่า ไอริสค่อยๆเอียงแก้วขณะพูดว่า ฉันชินแล้ว
ท่าทางของเธอที่ดูเหมือนเป็นลูกสาวของชนชั้นสูง และเธอก็เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีอย่างน่าประหลาด
แม้แต่โนโซมุก็ไม่คัดค้านว่าน้ำนี่มันอร่อย เขากระดกดื่มเข้าไปในคราวเดียว พยายามขจัดความรู้สึกไม่สบายในอกออกไป
「อึก อึก ฟูฮะ~! ไอบ้าเอ้ย ! แม้ว่าจะถูกบอกว่าสำหรับงานเลี้ยงก็เถอะแต่อร่อยเป็นบ้าเลย!」
และอาหารอันแสนอร่อยก็สามารถระงับความโกรธของผู้คนได้ เมื่อโนโซมุเหลือบมองฟีโอ หมอนั่นก็ยิ้มออกมาและยกนิ้วโป้งขึ้นมาด้วยท่าทางดีใจ เห็นได้ชัดว่าเครื่องดื่มนี่เอามาช่วยลดความโกรธให้เขาอีกด้วย
ในขณะนั้นมาร์เรียกโนโซมุด้วยรอยยิ้มจางๆ
「เป็นไง มีเซอร์ไพร์สแบบนี้ดีไม่หยอกเลยใช่ไหมล่ะ?」
「เรียกได้ว่าเซอร์ไพร์สสุดๆเลยล่ะ……」
「ที่สถาบันก็เพียงพอแล้วสำหรับการทักทาย แต่ว่าแน่ใจว่าต้องมีจุดประสงค์แอบแฝงสำหรับการจัดงานเหล่านี้รึเปล่า?」
เป็นความจริงที่มาร์พูดมีเหตุผล มิฉะนั้นจะไม่มีการเตรียมงานให้โนโซมุ
รอยยิ้มของสหายที่ต้อนรับโนโซมุที่เข้าไปในร้านนั้นจริงใจ และโล่งอกที่เขาปลอดภัย
「แถมยังดีใจอีกที่โดนแกล้ง?」
หลังจากพูดแบบนั้น มาร์ก็ยิ้มอย่างสนุกสนาน
「……ถ้าจำไม่ผิด แกก็มีบทบาทในการตบมุกเรื่องการโดนแกล้งนี่น่า?」
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่จำเป็นของมาร์ โนโซมุก็สูญเสียคำพูดในการแสดงความขอบคุณและตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยาบๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าจะมีบรรยากาศมาคุระหว่างทั้งสอง มันเป็นภาพที่ชวนโล่งใจ
「มาเร็ว~ ตัวละครหลักในวันนี้ มาสนุกกันเถอะ」
มาร์กลับไปที่งานเลี้ยงพร้อมกับรอยยิ้ม
「ให้ตาสิ จู่ๆ แขกผู้มีเกียรติก็โดนแกล้งซะแล้ว ทอมนายล่ะ……」
「มิมูรุ ! พรีเวดดิ้งนี่หมายความว่ายังไงฮะ ไม่เห็นเคยได้ยินเลยนะ!?」
「ไม่เป็นไร เข้าใจแล้วน่า ! ทอมยังอยากเรียนเล่นแร่แปรธาตุต่อไปใช่ม้า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง ฉันจะเป็นภรรยาที่ดีสนับสนุนความฝันของทอม!」
ดูเหมือนจะไม่ได้หยอกกันเล่นนะเนี่ย
บทสนทนาที่ดูเหมือนจะกำหนดชะตาชีวิตทอมได้เริ่มขึ้นแล้ว
ในขณะที่โนโซมุเลิกคุยกับทอมชั่วคราว และตัดสินใจเดินไปดูรอบๆว่ามีอะไรคืบหน้าไปบ้าง
「แน่นอนว่ายังมีอีกมากมายที่ต้องทำเพื่อเป็นภรรยาที่ดีของทอม ! นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าฉันต้องฝึกการเป็นเจ้าสาวให้มากกว่านี้」
「นี่ มิมูรุฟังผมอยู่รึเปล่า?? นี่มันอะไรกันเนี่ย?」
ราวกับขัดจังหวะของทอมมิมูรุยื่นอาหารจานหนึ่งมาให้
ด้านบนของจานก้นลึกเป็นกองแป้งพายที่อบแล้ว มองแวบแรกก็ดูเหมือนพายอะไรสักอย่าง
「เป็นอาหารจานใหม่ที่คิดค้นขึ้นเลยนะทอม ! แน่นอนว่าอัดแน่นไปด้วยความรักอันล้นเหลือ!」
กลิ่นหอมของแป้งพายอบกระจายไปทั่ว ราวกับว่าเป็นอาหารที่ใช้ฝีมืออย่างมาก
อย่างไรก็ตามสีหน้าของทอมนั้นซีด ราวกับนักโทษที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต
「นอกจากนี้ยังมีต้นแบบอีกประมาณสองสามอัน แต่ว่าอันนี้แหละเด็ดสุดขอบอก!」
มันมีกลิ่นหอมชวนน่าอร่อย อย่างไรก็ตามสำหรับโนโซมุที่ครั้งหนึ่งเคยประสบอันตรายจากการทำอาหารของเธอ พูดตามตรง แค่เห็นอาหารของเธอก็ทำเอาเขาหัวเย็นลงแล้วล่ะ
และเธอก็บอกว่ามีตัวต้นแบบ แล้วต้นแบบตอนนี้อยู่ไหน……。
「จ้าาาาาาาาาาาาก ! เธอ ! นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!」
「บางที……」
ในขณะนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังขึ้นมาจากทางห้องครัว
เมื่อโนโซมุเข้าไปในครัวก็เห็นเดลเจ้าของร้านนอนดิ้นอยู่กับพื้น
จานต้นแบบจำนวนหนึ่งที่มิมูรุทำขึ้นเรียงรายอยู่บนโต๊ะครัว เนื่องจากมีจานต้นแบบที่กินไปครึ่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าเดลจะกินเข้าไป
「อาาาา เข้าใจแล้ว……」
จานหรรษาที่บางครั้งมิมูรุได้รังสรรค์ออกมา ดูเหมือนว่าความสามารถนั่นจะเข้าได้กับอาหารทุกรูปแบบ
โชคดีที่มันเป็นแบบสุ่มล่ะนะ ดังนั้นปกติแล้วก็คงทำอาหารที่พอกินได้นั่นแหละ
ไม่สิ เมื่อพิจารณาถึงความอันตรายที่ไม่รู้ว่าจะเข้าโจมตีเมื่อใด อาจจะมีปัจจัยลบเพียงอย่างเดียว
จากการที่เดลโดนเอนะและฮันนะดูแล โนโซมุกลับมาที่โต๊ะ
「เหยื่อในครั้งนี้ก็คือเดล……」
「เข้าใจแล้ว ขอโทษน้า แต่ฉันหวังว่าเจ้านี่พอจะช่วยได้……」
ทอมรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
ความจริงที่ว่าพายที่เดลกินไปมัน “โป๊ะแตก” ดังนั้นอันอื่นก็น่าจะกินได้แหละ
ขณะที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทอมเริ่มวางมือลงบนพายของมิมูรุ
เมื่อเอาช้อนตักแป้งพายขึ้นมา สตูว์ร้อนๆก็รั่วออกมาจากข้างใน เห็นได้ชัดว่าเป็นพายสตูว์
ซอสที่ทำจากเห็ด ไก่ และผักตามฤดูกาลจำนวนมากซึมซับเข้าไปในพาย
ถ้ากินเข้าไป เปลือกพายที่กรอบและสตูว์ที่เข้มข้นจะสร้างรสชาติที่ดีอย่างมาก
แม้แต่เพื่อนๆที่กำลังโวยวายต่างก็กินพายที่มิมูรุทำขึ้น
แน่นอนว่าโนโซมุก็อยากกิน
「อืม คิดว่ายังเร็วเกินไปนะที่จะแต่งงาน แต่สำหรับตอนนี้….ขอชิมหน่อยนะ」
ทอมนำพายสตูว์เข้าปาก แม้แต่โนโซมุก็ได้ยินเสียงความกรอบของพาย
แต่ในวินาทีถัดมาทอมก็เบิกตากว้างทันที
「อั่ก!?」
「……เอ๋?」
ด้วยสีหน้าประหลาดใจ ทอมทรุดตัวลงบนโต๊ะ
ลักษณะการกระตุกนั้นเหมือนกบเดลไม่มีผิด
「……บางทีนี่ก็ “โป๊ะแตก” เหมือนกันเหรอ?」
ดูเหมือนว่าพายที่ทอมกินก็โดนของดีเข้าไปด้วย
เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆกินอยู่ตามปกติไม่เป็นไร
“ไม่ใช่แค่โป๊ะเดียวงั้นเรอะ”
ลองคิดดู โนโซมุและฟีโอเป็นเหยื่อของแซนวิชครั้งก่อน
แม้ว่าเขาจะตกใจกับหายนะที่อยู่ด้านหน้าเขา โนโซมุก็ตัดสินใจที่ไม่สนใจมันและผลักมันไปแถวๆขอบโต๊ะ
มิมูรุในตอนนี้น่ะเหรอ「ทอม อร่อยมากจนสลบไปเลย มีความสุขมากเลยสิน้าาาา~~!」พูดแบบนั้น แต่แน่นอน เขาเมินเฉย เป็นไปไม่ได้ที่จะกินเจ้านี่ลงไปเพราะเขาเพิ่งหายป่วย ไม่สิแม้แต่ตอนสบายดีก็ไม่อยากกินด้วย
ในเวลานั้นหูของโนโซมุก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดูกระฉับกระเฉง
「คุณโนโซมุ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่ได้ออกจากโรงพยาบาล!」
เป็นโซเมียที่วิ่งเข้าหาโนโซมุด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
ข้างหลังเธอมีไอริสและซีน่า
「อืม ขอบคุณนะโซเมียจัง ขอบคุณไอริสและซีน่าด้วยนะ」
「ไม่ต้องกังวลไปหรอก ก็แค่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้นเอง」
「พวกเราไม่ได้ทำอะไรมากในการเตรียมงานเลี้ยงครั้งนี้เลย」
「ไม่หรอก ไม่ใช่แบบนั้น แต่ว่าแม้ยามที่ผมหลับก็ด้วยขอบคุณจริงๆ」
โนโซมุมองตรงไปที่ไอริสและคนอื่นๆด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวเล็กน้อย
เมื่อมองไปที่โนโซมุ ไอริสและซีน่าก็มีท่าทีเขินอาย
「ก็นะ……」
「พอดีผมได้ยินจากหมอหญิงคนนั้นที่ตรวจร่างกายผม พวกเธอช่วยดูแลตอนที่ผมหลับทุกวัน ผมไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงดี แต่อย่างน้อยก็ให้ผมได้ขอบคุณเถอะ ขอบคุณมากๆนะ」
「ไม่เป็นไรหรอก พวกเราเองก็ได้รับการช่วยเหลือจากนายมามาก……」
「นั่นสินะ อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้เลย ทั้งโซเมียและฉันต่างก็เป็นหนี้บุญคุณนาย เป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันต้องคอยดูแล」
ทั้งสองรู้สึกร้อนรนเมื่อได้รับคำขอบคุณอย่างจริงใจ
ทั้งสองต่างขัดจังหวะโนโซมุเพื่อปกปิดความเขินอายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเธอไม่สามารถซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำได้
「แน่นอนว่าผมเองก็เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ช่วยเอาไว้ก็คงไม่รอด……」
อย่างไรก็ตามโนโซมุยังคงรัวไม่หยุด
แม้แต่สำหรับเขาเหตุผลที่รู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณกับไอริสและคนอื่นๆเพราะความจริงใจของพวกเธอ
พวกเธอนั้นช่วยตอนที่เขาคุมสติตัวเองไม่ได้ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม
สำหรับเรื่องนั้น โนโซมุรู้สึกว่าขอบคุณยังไงก็ไม่พอ
อย่างไรก็ตาม ไอริสและซีน่าก็ทนไม่ไหวต่อคำขอบคุณที่มากเกินไปของโนโซมุ
ตอนนี้พวกเธอต่างตระหนักถึงความรู้สึกของตนเองกันแล้วหลังจากที่โนโซมุได้หมดสติไป เพียงแค่คำขอบคุณเล็กน้อยนั่นก็มากมายยิ่งกว่าของขวัญร้อยชิ้นที่ถูกมอบให้
อย่างไรก็ตาม พวกเธอเองก็รู้สึกเขินอายที่โดนขอบคุณแบบนี้จนขนาดที่ว่าอาจจะฟินจนตัวแตก
「เอ่อ ทั้งสองคน……」
「อะเอ่อ เข้าใจแล้วน่า」
ดังนั้นไอริสเลยบังคับให้จบการสนทนา
เสียงของเธอแหบแห้ง แต่เมื่อโนโซมุขอบคุณอีกครั้ง เธอก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ได้แต่เกาแก้มด้วยความเขินอาย
อืม จากมุมมองของบุคคลที่สาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนจะต้องอยากตะโกนว่า เหม็นความรัก
ไอริสและคนอื่นๆต่างนั่งลงบนที่นั่งข้างๆโนโซมุและเริ่มสนทนากันขณะที่มีแก้วเครื่องดื่มในมือ
ทั้งสี่นั่งลงบนโต๊ะกลม ไอริสและซีน่านั่งประกบโนโซมุและโซเมียนั่งชนหน้าเขา
ระหว่างที่กำลังพูดถึงเรื่องต่างๆกัน ก็ได้เล่าเรื่องราวของโซเมียให้ซีน่าฟัง
「หา โซเมียจังมีอุปกรณ์เวทย์สลักอยู่ในจิตวิญญาณของเธองั้นเหรอ แบบนั้นไม่มีปัญหาแน่นะ?」
「หมายถึงเตาหลอมวิญญาณใช่ไหม? อืม จนกระทั่งวันเกิดของหนู หนูเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าไม่เคยมีอาการล้มป่วยเลยแม้แต่น้อยนะคะ」
แม้ว่าจะมีรูปร่างที่แตกต่างไปจากโนโซมุ แต่โซเมียเองก็มีสิ่งแปลกปลอมผสมอยู่ในวิญญาณของตัวเอง ก็เลยได้แต่สงสัยว่ามีผลเสียต่อเธอหรือไม่
อย่างไรก็ตามความกังวลของซีน่าก็ถูกกลบไปด้วยคำพูดอันแสนตรงไปตรงมาของโซเมีย
ในเวลานั้น โนโซมุก็ตกใจที่ซีน่ารู้ความลับของโซเมียด้วย
「เอ๋ หรือว่าซีน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเตาหลอมวิญญาณงั้นเหรอ?」
「อืม ตอนที่ถามไอริสเกี่ยวกับเรื่องพลังของนายก็เลยได้ยินเรื่องนี้มาด้วย」
เมื่อได้ยินคำพูดของซีน่า โนโซมุก็ทำท่าทางพึงพอใจ
แน่นอนความสัมพันธ์ของเธอกับโนโซมุนั้นตึงเครียดตอนที่เจอกับมังกรแห่งความตาย เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับพลังของโนโซมุจากไอริส
ถ้าในเวลานั้นไอริสอธิบายพลังของเขา และจำเป็นต้องพูดถึงข้อตกลงลับๆกับตระกูลวาเซียร์ต
ข้อตกลงที่ตระกูลฟรานซิสได้ทำกับตระกูลวาเซียร์ตเมื่อหลายร้อยปีก่อนเป็นสิ่งที่ครอบครัวฟรานซิสไม่ต้องการให้คนภายนอกรับรู้
อย่างไรก็ตามไอริส ให้ความสำคัญกับโนโซมุมากกว่า
โนโซมุรู้สึกสุขใจ แต่ในขณะเดียวกัน เขารู้สึกเสียใจที่ทำให้พวกเธอต้องมาเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
แต่ว่าไม่เห็นร่องรอยแบบนั้นบนสีหน้าของพวกเธอเลยแม้แต่น้อย ไม่มีร่องรอยแห่งความเสียใจบนใบหน้าของไอริส แต่ถ้าไปตรอกย้ำมันจะเหมือนไปเหยียบย่ำความประสงค์ของอีกฝ่าย
โนโซมุพยายามกลืนคำพูดที่จะพูดออกไป จากนั้นก็ดื่มสิ่งที่อยู่ในแก้ว
ลองคิดดู ว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้อตกลงลับๆนั่น
โนโซมุถามไอริสอย่างตรงไปตรงมา
「เอ่อ ไอริสแล้วเกิดอะไรขึี้นกับการเจรจากับตระกูลวาเซียร์ตงั้นเหรอ?」
「พอได้ยินเรื่องนี้ พ่อก็รีบลงมือทันทีเลยล่ะ ดูเหมือนว่าจะทำการเจรจากันอย่างลับๆ เพราะไม่สามารถให้ภายนอกรับรู้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะตกลงกันได้แล้ว」
「งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ」
เมื่อได้ยินคำพูดของไอริสโนโซมุก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
「แม่บ้านคนนั้นไว้ใจได้สินะ……」 (TN: แม่บ้านคนนี้ก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นแต่ไม่ถูกกล่าวถึง)
「เธอมีชื่อว่ามีนา รับใช้พ่อของฉันเป็นเวลานาน และตอนที่ฉันยังเด็กเธอก็รับใช้ท่านแม่ด้วยเช่นกัน เธอเป็นคนดีนะ แต่บางครั้งก็เข้มงวดมากเลยล่ะ」
「นั่นสินะคะ ถูกสอนหลายๆอย่างทั้งเรื่องการเรียนและมารยาท แต่ว่าก็มักจะถูกดุ แล้วดูเหมือนว่าช่วงนี้พี่จ๋าเองก็มีเรื่องว้าวุ่นใจมากๆ……」
「เอ่อ คือ……」
จู่ๆไอริสก็ถอนหายใจและแหงนหน้ามองท้องฟ้า บางทีอาจจะนึกถึงอะไรบางอย่างได้จากคำพูดของโซเมีย การแสดงออกทางสีหน้านั่นทำให้ผมตกใจเล็กน้อย
ซีน่าเองก็ทักท้วง
「ส่งอะไรมางั้นเหรอ?」
「เอ่อ มันก็ไม่ใช่อะไรที่ใหญ่โตขนาดนั้นหรอก ก็แค่เอกสารดูตัวคู่หมั้นมาให้ฉันดูน่ะ」
「ดูตัวคู่หมั้น!?」
เสียงดังออกมาจากปากของโนโซมุ
ในทางกลับกันไอริสนั้นนิ่งเฉยและมีสีหน้าที่บอกอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
「ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย แต่ที่แปลกกว่านั้นโซเมียเองก็ได้ด้วยนี่สิ」
「เอ่อก็ได้ยินว่าเคยพูดกันมาก่อนหน้านี้นะ……」
ขณะที่โนโซมุพึมพำ เขาก็จำได้ตอนที่ไปออกเดทกับโซเมีย
เมื่อเห็นโนโซมุท่าทีแบบนี้ โซเมียก็พูดออกมาพร้อมกับพูดเรื่องการดูตัว
「อืมนั่นสินะคะ เดือนนี้ก็มีมาประมาณ 5 ฉบับได้」
「ส่วนของฉันมีประมาณ 20 ฉบับ เรื่องแบบนี้ฉันยังไม่มีประสบการณ์และการจะมีสามีมันก็เร็วไปสำหรับฉันด้วย……」
สมมติว่าได้จดหมาย 20 ฉบับต่อเดือน 240 ฉบับต่อปี กล่าวอีกนัยหนึ่งมีผู้มีอิทธิพลมากมายต้องการแต่งงานกับไอริส
แม้แต่โซเมียที่อายุเพียง 11 ปี ก็ยังได้รับจดหมาย 5 ฉบับต่อเดือน เป็นเรื่องที่โนโซมุจินตนาการไม่ออกเลย
「แต่ว่ามีนาก็บอกว่า “ยิ่งเร็วได้ยิ่งดีนะคะ”」
โซเมียยังคงพูดอย่างสบายๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ดูว่าจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ
ถึงแม้ว่าโนโซมุจะตกใจ แต่ซีน่าเองก็ขัดขวางการสนทนา
「ฉันเองก็ได้รับมาเหมือนกัน」
「ซีน่าก็มีด้วยเหรอ?」
「อืม เนื่องจากเอลฟ์ประชากรในเผ่าลดลงค่อนข้างมากจากเหตุการณ์บุกรุกครั้งใหญ่ และคนเถ้าคนแก่ก็หมดหวังเรื่องการแต่งงานเลยกะจะให้พวกหนุ่มสาวได้แต่งงาน อันที่จริง ฉันก็เคยได้รับข้อเสนอให้แต่งงานด้วยซ้ำ」
เป็นอีกครั้งที่ได้ยินเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่พอมาคิดดูอีกทีมันก็พอฟังขึ้น
「แล้วคู่หมั้นเป็นคนแบบไหนล่ะ?」
「เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลที่คอยดูแลเมืองของเหล่าเอลฟ์น่ะ」
「หืม อีกฝ่ายเองก็ระดับสูงใช่ย่อยเลยนะ? แต่ว่าถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นซีน่าเกี่ยวกับเวทย์ภูตินั้น」
โซเมียเองก็อยากรู้อยากเห็น ไอริสเองก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งสองซีน่าก็โบกมือ
「ไม่หรอก พี่สาวและแม่ของฉันมีอิทธิพลมากกว่าอีกแทนที่จะเป็นฉันอะนะ เพราะพวกเขาเป็นหนึ่งในคนที่ใช้เวทย์ภูติและคอยดูแลต้นไม้ใหญ่ด้วย」
โนโซมุคิดไม่ออก แต่ต้นไม้ใหญ่ น่าจะหมายถึงต้นไม้สูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ที่ป่าฟอร์เซีย
บ้านเกิดของเอลฟ์ จนกระทั่งมีการรุกรานครั้งใหญ่ ป่าก็แข็งแกร่งจนสามารถเทียบได้กับกำแพงปราสาทเลยล่ะ
จากข้อมูลของซีน่าที่เป็นผู้คุ้มครองต้นไม้ยักษ์เกือบ 20 คนเพื่อคอยดูแลค้นไม้นั่น และด้วยการใช้เวทย์สื่อสารกับต้นไม้ผ่านพิธีกรรม พวกเขาก็ได้ทำการกระจายหมอกไปทั่วทั้งผืนป่าและป้องกันไม่ให้มีศัตรูจากภายนอกเข้ามา
พี่สาวและแม่ของซีน่าก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดูแลต้นไม้ยักษ์อีกด้วย
คิดเกี่ยวกับมันแล้วก็พอเข้าใจเรื่องพลังเวทย์ภูติอันทรงพลังของเธอ แม้ว่าเธอจะได้รับการสนับสนุนจากอุปกรณ์เวทย์และทิม่า แต่เธอก็ยังสามารถสร้างเครือข่ายสื่อสารที่ครอบคลุมอัลคาร์ซัมได้
「อย่างไรก็ตาม….เป็นโลกแห่งขุนนางจริงๆ……」
รู้สึกเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้นในประเทศที่ห่างไกล โนโซมุพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเธอทุกคนก็ถอนหายใจราวกับไม่อยากจะเชื่อ
「ทำเหมือนเป็นเรื่องคนอื่นคนไกลไปได้……」
「แม้แต่โนโซมุเองก็ไม่ใช่คนทั่วไปแล้วนะ ถ้าถูกรู้ว่าเป็นดราก้อนสเลเยอร์ละก็จะมีคนมากมายที่นี่และที่นั่นมารุมขอแต่งงานแน่นอน」
「อึก……」
เมื่อซีน่าและไอริสชี้ให้เห็น โนโซมุก็บ่นอุบ
「เอ่อคงไม่เป็นแบบนั้นหรอกมั้ง?」
「ไม่หรอก อาจจะถูกส่งไปเป็นหนูทดลองเอย ส่งไปยังสนามรบเอง แต่ว่าคนธรรมดาทั่วไปที่มีสติดีน่ะ ใครจะไปฆ่ามังกรได้ด้วยตัวคนเดียวล่ะ?」
นอกจขากนี้ยังมีเรื่องราวของดราก้อนสเลเยอร์ที่ได้มีภรรยาและมีลูกด้วยกัน จนเหล่าภรรยาได้เป็นนายหญิงกันเลยทีเดียว
มีเรื่องราวที่ได้สืบทอดพลังอันยิ่งใหญ่จากพ่อและกลายเป็นวีรบุรุษ ในขณะที่มีเรื่องราวที่ว่าได้หายตัวในบรรดาในหมู่คนที่ไม่มีพรสวรรค์ด้วย
มีเรื่องราวมากมายหลากหลายประเภท เช่น เรื่องที่ว่าย้ายไปยังประเทศตะวันออก และเรื่องที่หายสาบสูญไปในเมืองก้นทะเลสาบ
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ดราก้อนสเลเยอร์ที่สืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องแต่ลูกๆของพวกเขาที่ได้รับพลังส่งต่อกันมาก็เริ่มที่จะเลือนหายไปในประวัติศาสตร์
「ไม่มีตัวอย่างในกรณีนี้เลย แม้ว่าความสามารถจะไม่ได้ถูกส่งต่อไปยังเด็ก มันก็จะกลายเป็นโซ่ที่ผูกมัดการมีอยู่ ต่อผู้หญิงและเด็กที่กำลังจะเกิด」
อันที่จริงก็มีเรื่องเล่าที่ว่าดราก้อนสเลเยอร์ได้ก่อตั้งประเทศขึ้นมา
เช่นเดียวกับจักรวรรดิเคร์มาโซน ซึ่งตั้งถัดอยู่กับฟอร์ซิน่า
ราวหนึ่งพันปีที่แล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นประเทศที่ถูกกล่าวขานว่าถูกก่อตั้งโดยดราก้อนสเลเยอร์และกลายเป็นจักรพรรดิองค์แรก จักรพรรดิองค์แรกได้ทรงอภิเษกสมรสกับมเหสีหลายคนและให้กำเนิดบุตรมากมาย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่สิ้นพระชนม์ ประเทศก็ได้เกิดความเสียหายหลายสิบปีเนื่องจากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างสายเลือด
ท่ามกลางความโกลาหล ประเทศแตกแยก ปฏิเสธการรวมเข้าด้วยกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนสุดท้ายก็กลายเป็นจักรวรรดิเคร์มาโซน
อย่างไรก็ตาม เลือดของดราก้อนสเลเยอร์ได้หายไปจากความวุ่นวายครั้งหนั้นและไม่มีการสืบทอดหลงเหลืออยู่
ปัจจุัยที่ผูกมัดผู้ทรงพลังทั้งหลายมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะมีอิทธิพลหรือพลังมากแค่ไหนก็ตาม
เงิน ผู้หญิง อำนาจ
แม้แต่ในเรื่องความไม่แน่นอนที่ว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกมนุษย์ซึ่งเรียกว่าดราก้อนสเลเยอร์ ในไม่ช้าก็ถูกผูกติดอยู่กับหนึ่งในนั้น
「แต่สายเลือดของดราก้อนสเลเยเอร์ ก็เพียงพอแล้วสำหรับใช้เป็นโล่ป้องกันตัว?」
「อืมมันก็ใช่อยู่หรอก แต่ยังมีความเสี่ยง อำนาจที่หนีไม่พ้นที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ความกดดันจากภายนอกและความไม่สงบภายในที่จะเพิ่มพูนจากการที่ได้ครอบครองไพ่ตาย และผลประโยชน์ที่เชื่อมโยงกันที่ทับซ้อนมากขึ้นอาจก่อให้เกิดสิ่งที่คาดเดาไม่ได้」
「ปวดหัวน่าดูเลยแหะ……」
โนโซมุปวดหัวเพราะอนาคตที่ไม่แน่นอนนั่น
แม้ว่าจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของขุมพลังอื่น แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในท้ายที่สุด
「อย่างไรก็ตาม หากนึกถึงตอนที่ถูกจับได้จริงๆ มันก็ถึงคราวต้องเลือกฝ่ายที่ดีกว่า มีความผูกพันหลายอย่างแต่อย่างน้อยก็หลีกเลี่ยงความโดดเดี่ยวในการเข้าสังคมได้」
「แต่ถึงจะพูดแบบนั้นมันก็เป็นการหมั้นกระทันหัน……」
การแต่งงานเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและแน่นอนที่สุดในการกระชับความสัมพันธ์ทางอำนาจ เพราะงั้นก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าทำไมจักรพรรดิองค์แรกถึงมีภรรยาหลายคน
อย่างไรก็ตาม โนโซมุอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความไม่ลงรอยกัน
ความรู้สึกคลุมเครืออยู่ในส่วนลึกของหน้าอก ราวกับพยายามสลัดมันออกไป โนโซมุก็เคี้ยวไก่ที่อยู่ใกล้ๆ
「โนโซมุ…หรือว่าไม่เก่งเรื่องแบบนี้เหรอ?」
「ไม่ใช่ว่าไม่เก่งหรอก แต่แค่นึกภาพไม่ออก ไม่สิ ต้องบอกว่ามีภาพในหัวแล้วแต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยอมรับไม่ได้อยู่ นอกจากนี้ผม……」
「อะไรกันทำสีหน้าเคร่งเครียดไปได้ นี่เป็นปาร์ตี้ฉลองนะทำหน้าให้มันมันส์ๆหน่อย」
「อืม!」
ฟีโอพิงหลังโนโซมุพร้อมกับเสียงดัง โนโซมุเกือบทำแก้วตก
「เฮ้ย ฟีโอมันอันตรายนะ」
「มาม๊า คุณตัวแทนขออีกแก้ว!」
「ใครเป็นตัวแทนกันแน่หะ……」
ขณะที่ไม่สนใจแรงผลักดันของโนโซมุ ฟีโอก็เติมน้ำผลไม้ลงบนแก้วของโนโซมุ
หลังจากเติมน้ำผลไม้ลงในแก้วของไอริส ก็นั่งลงระหว่างที่นั่งโซเมียและซีน่า
「ดูเหมือนว่าจะคุยกันเรื่องขอแต่งงานกันอยู่ใช่ม้า แล้วกำลังพูดถึงใครกันอยู่ล่ะ “โนโซมุกับเจ้าหญิงผมดำ” หรือ “โนโซมุกับเอลฟ์สุดสวย” หรือว่าจะกับ “เจ้าหญิงตัวน้อยล่ะ”……」
「เดี๋ยวนะ กล้าพูดแบบนั้นได้ไง?」
รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยแต่ฟีโอก็เข้ามาด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น แต่โนโซมุยังคงคุยกับฟีโอต่อ
「เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ข้าน้อยเข้าใจเรื่องของเจ้าหญิงผมดำกับซีน่าดี แต่แปลกใจเล็กน้อยที่แม้แต่เจ้าหญิงตัวน้อยของเราก็ได้รับคำขอดูตัวตั้ง 5 ครั้งต่อเดือน」
ฟีโอยังคงเอื้อมมือออกไปหยิบอาหารขณะพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
เป็นการยากที่ว่าจะพูดว่ามารยาทดี แต่ดูเหมือนซีน่าจะไม่บ่นอะไรเพราะเป็นงานเลี้ยงที่มีแต่เพื่อน
「แล้วใครกันน้อที่จะเป็นว่าที่ผู้สมัครคู่หมั้นโดนตาโดนใจ? ดูเหมือนซีน่าเองก็มีชื่อเสียงมาก แต่อยากจะรู้เรื่องของเจ้าหญิงผมดำ กับเจ้าหญิงน้อยมากกว่าน้า~」
「ฟีโอ แก……」
โนโซมุบ่นกับฟีโอที่ถามตรงๆ แต่ดูจะไม่สนใจ
「ข้าน้อยอยากรู้นะ แต่ว่าโนโซมุไม่สนใจงั้นเหรอ?」
「…………」
เมื่อได้ยินคำพูดของฟีโอ โนโซมุก็เถียงไม่ออก
คู่ชีวิตในอนาคตของเธอ จะเป็นคนแบบไหน
ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้มันจุกอยู่ที่คอ
「……บังคับตัวเองให้ฟังเรื่องแบบนี้ไม่ได้」
โนโซมุเอียงแก้วของเขาราวกับสลัดความคิดที่ยังเผาไหม้อยู่ในอก
ฟีโอไม่พอใจที่โนโซมุไม่ยอมตามน้ำ แต่ยักไหล่ราวกับว่าช่วยไม่ได้
อย่างไรก็ตามฟีโอยกมุมปากขึ้นด้วยรอยยิ้มและถามไอริสด้วยคำถามที่อุกอาจ
「หนวกหูน่า ! แล้วทั้งสามคนอยากแต่งงานกับคนแบบไหนงั้นเหรอ?」
「ฟู่วววววววว!」
กับคำถามที่ตรงไปตรงมาโนโซมุถึงกับพ่นน้ำผลไม้ออกมา
「อืม นั่นสินะ……」
「…………」
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วครู่หนึ่ง
ไอริสใช้ขายาวเรียวงามของเธอไขว้กันและหลังเยียดตรง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง สายตานั้นส่ายไปมา
ซีน่าเองก็เหมือนสัตว์น้อยตัวเล็กๆที่เอามือถือแก้วทั้งสอง
ทั้งสองแสดงท่าทางต่างกัน อย่างไรก็ตามแก้มนั้นเริ่มเป็นสีแดงทั้งคู่
「นี่ ฟีโอ……」
「ไฮโย่ โนโซมุน่ะเงียบไปเลย~」
「อึกกกกกกกกก!」
ฟีโอวางขนมปังชิ้นหนึ่งยัดเข้าปากโนโซมุไป
โนโซมุไม่สามารถแม้แต่จะคายขนมปังได้
โนโซมุพยายามอย่างยิ่งที่จะคายขนมปังที่ยัดเข้าปากออกมา พยายามจะหายใจ
เมื่อมองไปที่โนโซมุฟีโอก็กระซิบเบาๆที่หูของเขา
「ดูเหมือนว่าช่วงนี้สองคนนี้จะสนใจเป็นพิเศษเลยนะ……」
คำพูดนั้นทำให้แก้มของทั้งสองแดงขึ้นในทันใด
ดวงตาที่เหมือนออบซิเดียนของไอริสเบิกกว้างและแววตาก็สั่นไปมา สายตาของเธอจ้องมองไปยังเด็กชายที่อยู่ข้างๆเขาที่กำลังเจ็บปวด
ใบหน้าของซีน่าก็ก้มต่ำลงกว่าเดิมจนแทบจะมุดอยู่ใต้โต๊ะ
「ก็ใช่น่ะสิ งั้นก็ขอฝากตัวด้วยนะ……」
「ฟูฮะ ! ฟีโอนี่เอ็งอยากตายนักเหรอไง!」
「เฮ้ ! ฟื้นแล้วเหรอเนี่ย……」
โนโซมุกลืนสิ่งที่อยู่ในปากของเขาและหายใจได้ทันพอดี
ฟีโอเดาะลิ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ จนโนโซมุเส้นเลือดขึ้นหน้า
โนโซมุไม่เข้าใจสิ่งที่ไอริสพูดเพราะหายใจไม่ออก และเอาแต่พูดฝ่ายเดียว
ในขณะนั้นเด็กสาวข้างๆก็ได้ทิ้งระเบิดอันน่าเกรงขามด้วยเสียงอันน่ารัก
「หนูน่ะ ชอบคนแบบคุณโนโซมุค่ะ」
「……เอ๋?」
ในขณะนั้นบรรยากาศโดยรอบก็แข็งตัวโดยทันใด