โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” - ตอนที่ 93 บทที่ 6 ตอนที่ 10
บทที่6ตอนที่10
พวกโนโซมุที่มาส่งเอลเดอร์ในเมืองแล้วก็รายงานเรื่องทำคำขอเสร็จและออกจากกิลด์มา
ดวงตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว และท้องฟ้ายามค่ำก็ถูกปกคลุมด้วยสีแดงอ่อน
「อืม ! คำขอก็เสร็จสิ้นแล้วแล้วจะทำอะไรต่อไปล่ะ?」
「เอ๋?」
โนโซมุที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเล็กน้อย
「ข้าน้อยหิวแล้วและก็ได้รางวัลจากการทำคำขอซะด้วยสิ อยากจะไปที่ “เรือนร่างของโค”กันหน่อยไหมล่ะ?」
「คิดจะไปเล่นพนันอีกแล้วเหรอไง? เดี๋ยวก็กลับมาจนอีกหรอก?」
「อะไรกัน ถ้าชนะก็รวยเลยนะขอบอก!」
「คิดได้อยู่แค่นั้นล่ะสิ……」
เห็นได้ชัดว่าเพราะคิดแบบนั้นแหละเลยหมดตัวอยู่บ่อยๆ
ตอนได้มันก็มีความสุขอยู่หรอกแต่ตอนเสียก็ต้องมานั่งอมทุกข์จะไม่แปลกเลยหากหมดตัวและกลับมานั่งเศร้าอีกเนี่ยไอ้จิ้งจอกนี่
「…………」
โนโซมุเงียบไป ตาแก่ข้างๆก็พอๆกัน
ตาแก่กำลังคิดอะไรอยู่นะ? รู้สึกไม่ดีเลยพอเห็นตาแก่มองพวกสาวๆแบบนั้น
「พูดอะไรแบบนั้นกันชีวิตละก็คือปาร์ตี้ไง แม้ว่าจะชนะหรือแพ้ แต่ว่าคนที่ได้สนุกกับมันที่สุดก็คือผู้ชนะนั่นแหละ!」
「ความคิดโครตจะเด็กน้อยเลย ! ความอยากที่มีแต่กำเนิดมันก็ต้องพิชิตใจสาวงามสิฟะ! ผู้ท้าชิงหลายคนต่างก็พ่ายแพ้ก่อนจะเจอความยากลำบาก ! การจะเผชิญหน้ากับความยุ่งยากนั้น เราต้องตั้งจิตอธิษฐานว่า “มันต้องได้ยังงี้สิ” ในใจ!」
แน่นอนว่าซอนเน่ก็อยู่ในโหมดน่ารำคาญแล้วเพราะฟีโอ
ทั้งสองคนประกาศเช่นนั้นขณะที่ชูมือขึ้นบนท้องฟ้า คนหนึ่งมีแววตาสีทองลุกโชน ส่วนอีกคนมีลมหายใจสีชมพูออกมาจากจมูก
「และใจจริงคืออะไรกันแน่?」
「แน่นอนสิฟะ ! ได้พบกับเหล่าสาวสวย ! ออกเดทกัน ! สกินชิพ ! จากนั้นก็เพียงเราสองหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว!」
ความปรารถนาที่เต็มไปด้วยตัณหานั้น ทำให้โนโซมุได้แต่ถอนหายใจ
ปล่อยให้อยู่ในโลกส่วนตัวไปเถอะสองคนนั้นขณะนั้นเองโนโซมุก็แหงนหน้ามองท้องฟ้า
「…………」
เฮ้ออ….โนโซมุถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอริสเองก็รู้สึกแปลกๆภายในอกของเธอ
หลังจากที่กลับมาที่อาร์คาซัมแล้ว โนโซมุนั้นครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่หลายครั้ง
เกิดอะไรขึ้นยังงั้นเหรอ…………ไอริสถามโนโซมุออกไป
「โนโซมุเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ? เห็นท่าทางแปลกๆตั้งแต่กลับเมืองมา……」
「อ่าาาาา ก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอริสจะเข้าใจรึเปล่า……」
โนโซมุเกาหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น เขาหันกลับไปและค่อยๆพูดอย่างช้าๆ
「กำลังคิดเรื่องของพวกเอลเดอร์น่ะ」
「พวกเอลเดอร์เหรอคะ?」
เมื่อโนโซมุกลับมาที่อาร์คาซัม เขาก็ส่งพวกนั้นกลับไปที่หอพัก โดยพิจารณาผลกระทบด้านจิตใจของพวกเขา
เนื่องจากพวกเราต้องมารายงานคำขอที่กิลด์ ก็เลยมารายงานได้ในเวลาเดียวกัน
โนโซมุกำลังจ้องไปยังเส้นทางเดิมที่เดินจากมา ราวกับเห็นพวกเอลเดอร์อยู่ตรงนั้น
รอยยิ้มอันขมขื่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโนโซมุ
「ผมคิดว่ามันน่าทึ่งมากเลยล่ะ……」
โนโซมุพึมพำราวกับอยากจะระบายอะไรบางอย่างออกมา ราวกับว่าเขากำลังอิจฉา?
「พูดตามตรง ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะพูดคุยกับพวกลิซ่ายังไงดี แต่เอลเดอร์นั้นสามารถตัดสินใจคำตอบของเขาได้อย่างรวดเร็วและก้าวไปข้างหน้าแทบจะทันที」
ก่อนแยกทางที่ทางเข้าเมือง เอลเดอร์ขอโทษเขาสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในกิลด์ก่อนหน้านี้
จากนั้นเขาก็ขอโทษมันออกมาจากใจจริงจนก้มหัวศีรษะแนบพื้นเลย
พวกเขาต่างขอบคุณที่พวกโนโซมุเข้ามาช่วยเอาไว้
โนโซมุที่เห็นแววตานั่นก็รู้สึกสับสน
อย่างไรก็ตาม โนโซมุเองก็ยอมรับคำขอโทษแต่โดยดี
ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วราวกับคนละคน
ไม่สิ บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นตัวตนของเขาจริงๆ
ที่สถาบันโซลมินาติมี “การคัดเลือก” บุคลากรตามความสามารถและความสามารถที่อาจจะตื่นขึ้นมาหลังจากการลงทะเบียนได้เริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้การปฏิบัติตัวของผู้คนนั้นแตกต่างออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนอดีตเพื่อนของโนโซมุ
ในเวลาเดียวกัน โนโซมุเองก็ประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของเอลเดอร์
เขากล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาดของตัวเอง เขาละทิ้งความอาย และความขายขี้หน้าและยอมรับมันออกมาตรงๆและก้าวไปข้างหน้า แต่สำหรับผมแล้วยังค้นหาคำตอบให้กับลิซ่าไม่ได้เลย
แน่นอนว่าโนโซมุไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อันที่จริงแล้วแม้ว่าจะสามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาก็คิดในใจว่า “ต้องไม่เป็นไร”
「…………」
โนโซมุยังไม่สามารถก้ามข้ามอดีตได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากความเจ็บปวดในอกข้างนี้ รูปร่างหน้าตาของพวกลิซ่ายังคงสะท้อนอยู่ภายในใจของเขา
ความทรงจำอันแสนเจ็บปวดยังคงสั่นคลอนจิตใจของเขา และอารมณ์ที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้นั้น
เพราะความทรงจำของความสุข และความทรงจำอันแสนเศร้าและเจ็บปวดมันซ้อนทับกัน
「…เจ้าหนู นั่งลงตรงนั้นสักครู่สิ」
จู่ๆซอนเน่ก็พูดแบบนั้นและนั่งลงตรงถนน
「เอ๋ กำลังทำอะไรเนี่ย?」
「ข้าเองก็อยากจะตอบแทนเจ้าบ้าง เพราะงั้นข้าจะให้คำแนะนำแก่เจ้าเพื่อเป็นการขอบคุณ」
ซอนเน่นั่งลงบนพื้นหยิบลูกบอลคริสตัลออกมาจากอกของเขา บางทีมันอาจจะใช้ในการดูดวงของโซเมียมาก่อน แต่คราวนี้เขาจะดูดวงให้กับโนโซมุ
ซอนเน่กวักมือเรียกโนโซมุที่ถามว่าคริสตัลนั่นมาจากไหน
「ก็บอกว่าจะดูดวงให้ไงเพราะงั้นรีบมาเร็วเข้าสิ」
「เอ่อ แต่….ก็ได้」
เขาสับสน แต่ไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธ
โนโซมุนั่งลงตรงหน้าซอนเน่และสัมผัสกับลูกบอลคริสตัลด้วยรอยยิ้มขมขื่น นอกจากนี้ซอนเน่ยังจับมือโนโซมุเอาไว้
เมื่อพิจารณาตอนของโซเมียลูกบอลจะเปลี่ยนสีไปตามความกังวลและสภาพจิตใจของผู้ที่สัมผัสมัน
อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของโนโซมุ สีของลูกบอลคริสตัลอย่างโปร่งใสและไม่เปลี่ยนแปลง
「ตาแก่ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย?」
「หืมมม? นี่มันน่าสนใจ……」
ซอนเน่เอามือเท้าคางและมองเข้าไปในลูกบอลขณะขมวดคิ้ว สำหรับโนโซมุซอนเน่ดูจริงจังผิดปกติ
การแสดงออกทางสีหน้านั้นต่างไปจากเดิม โนโซมุรู้สึกแปลกๆ จากนั้นซอนเน่ก็จับมือโนโซมุอีกครั้ง
วินาทีต่อมานิ้วของโนโซมุก็ชาทันที
「เอ๋!」
โนโซมุถอนมือออกเมื่อสัมผัสกับลูกบอล สีหน้าของซอนเน่ที่จับมือของเขาไว้ก็กลับมาเป็นตามปกติ
「อืม? แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ?」
「ปะปะปะเปล่า ไม่มีอะไรหรอก……」
「นี่พลังเวทย์มันรั่วรึเปล่านะ? ไม่เป็นไร ดูสิลองจับลูกบอลดู」
「อ่าาา……」
ขณะเอียงคอด้วยความสงสัยโนโซมุก็สัมผัสกับลูกบอลอีกครั้ง และคริสตัลก็เริ่มจางไป
ตอนแรกลูกบอลเรืองแสงสีฟ้า ในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นสีเทาอ่อนและค่อยๆมืดลง
ในไม่ช้าซอนเน่ก็ค่อยๆอ้าปากของเขา ขณะที่จ้องมองไปยังลูกบอลคริสตัลที่ถูกย้อมไปด้วยสีเทาเข้ม
「สีเทาเช่นเดียวกับแม่หนูโซเมียในตอนนั้นเลย ดูเหมือนจะลังเลในสิ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตามดูเหมือนมาความกังวลของเจ้าจะเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานมากเพราะงั้นลูกแก้วเลยย้อมเป็นสีเข้มขนาดนี้」
ขณะพูดอย่างนั้นซอนเน่ก็สกิดลูกบอลคริสตัลที่ถูกย้อมไปด้วยสีเทาจนหมด
「อย่างไรก็ตามเจ้าก็ยังคงรักษาความสงบเหล่านั้นไว้ได้ สีฟ้าที่เห็นในตอนแรกหมายถึงความฉลาดและความสงบ」
เมื่อพูดถึงจุดนั้น ซอนเน่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดต่อ
「อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาอันแสนลึกล้ำนี่ เจ้าอาจจะคิดมากเกินไปสำหรับบางสิ่ง……」
「เอ๋?」
คำพูดของซอนเน่ทำให้โนโซมุพูดอะไรไม่ออก
ตาแก่ตรงหน้าทำสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย ถึงกระนั้นก็ยังจ้องมองโนโซมุด้วยท่าทางอ่อนโยน
แววตาที่ดูคล้ายกันนั้นทำให้เขานึกถึงอาจารย์ของเขา เป็นสีหน้าแห่งความเศร้าโศกและเสียใจ
อย่างไรก็ตามซอนเน่ก็ยังคงพูดต่อไปขณะยิ้มที่มุมปากราวกับเดาใจของโนโซมุ
「เดิมทีความสัมพันธ์ระหว่างคนมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็ขึ้นอยู่แค่นั้น แน่นอนว่ามีสิ่งที่อีกฝ่ายที่ชอบเจ้าและไม่ชอบเช่นกัน…..จากภายนอกแล้ว เจ้านั้นดูจะคิดมากเกินไปและยึดติดกับตัวเองเกินไปนั่นแหละ」
หัวใจของโนโซมุถูกกระแทกอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ขณะที่คิดว่าจะต้องก้าวไปข้างหน้า แต่เขาก็ไม่รู้จะก้าวไปที่ไหน
แน่นอนโนโซมุยังคงลังเลเรื่องระยะห่างระหว่างลิซ่าที่เปิดห่างในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้
แน่นอนแม้ว่าจะเคยพยายามย่นระยะห่างให้สั้นลงอย่างไรก็ถูกทำลายโดยเพื่อนสนิท
ข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้โนโซมุลังเลว่าควรจะก้าวข้ามผ่านมันไปอีกดีไหม ไม่สิเขาคิดยังไงกับอดีตเพื่อนของเขาตั้งแต่แรก
「ผม……」
คนที่อยากจะอยู่เคียงข้าง คนที่อยากจะปกป้อง
แผ่นหลังที่อยู่ไกลเกินเอื้อม แม้แต่ตอนนี้ความปรารถนาของเขาก็ยังคงคลุมเครือ
「ยิ่งห่างหายไปนาน ยิ่งทำให้คิดมากขึ้นเท่านั้น พอยิ่งคิดมาก หัวใจก็จะมัวแต่ยึดติดคิดไปเอง โดยเฉพาะความทรงจำอันแสนเศร้าที่ทำให้เจ้าต้องน้ำตาซึมครั้งแล้วครั้งเล่า」
ช่วงเวลาที่ผมได้ให้คำมั่นสัญญามันผุดขึ้นมาอีกครั้ง ความทรงจำที่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกตอนที่อยู่บ้านเกิด
“ถ้าคนที่รักอยากจะทำความฝันให้เป็นจริง ผมเองก็อยากจะช่วย!”
คำพูดนั้นย้อนเข้ามาในจิตใจของโนโซมุ ที่มาของเขาและทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ทุกเขาต้องแปรเปลี่ยนทุกสิ่ง ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อคนๆหนึ่ง
มันเป็นความหวังอันแสนสูงส่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกับพิษร้ายที่กัดเซาะจิตใจตัวเอง
ทั้งไอริสและฟีโอกำลังฟังทั้งสองคุยกันอยู่
ฟีโอนั้นดูท่าทางจะมีความสุข
ทางฝั่งไอริสก็เอามือทาบอกราวกับจะบีบมันให้แน่น ราวกับว่าเธอนั้นกังวล
ในไม่ช้าโนโซมุก็พูดต่อ
「ผมไม่เคยคิดแบบนั้นหรอก…..แต่บางทีก็」
คำพูดยืนยันจากปากของเขา ตัวเขาเองไม่มีเหตุผลหรือพื้นฐานจะปฏิเสธสิ่งที่ซอนเน่พูดได้เลย อย่างไรก็ตามยังคงมีความขมขื่นที่อธิบายไม่ได้อยู่
「ผมอาจจะยังต้องการให้ลิซ่ามุ่งมั่นตามฝันของเธอไป」
คำพูดที่เหมือนกับพูดอยู่ตัวคนเดียว โนโซมุพูดออกมาราวกับว่ามั่นใจในตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใครทั้งนั้น
แน่นอนก็ว่ามีความรู้สึกที่ว่า“ชอบ”แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองยังหลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่รึเปล่า แต่ว่าข้อเท็จจริงต่างๆล้วนอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำ
และด้วยเหตุนั้นทำให้เขามาอยู่ที่นี่ ความจริงนั้นยืนยันความเดียวดายของเขา มันเป็นความจริงที่ว่าตอนแรกเขาก็ได้สนับสนุนเธอมาจนถึงตอนนี้ และแม้ตอนนี้เขาจะต้องหลีกหนีมาจากมันก็ตาม
อาจารย์ยังเคยบอกไว้อีกว่า
“หนีความจริงได้ ไม่เป็นไรหรอก แต่จงรู้ตัวไว้เถิดว่าตัวเองกำลังหนีความจริงเหล่านั้นอยู่”
ชิโนะไม่เคยคาดคั้นคำตอบจากปากของโนโซมุ โนโซมุนั้นคือคนที่จะต้องตัดสินใจเองในส่วนสุดท้าย จากนั้นเขาก็จำคำพูดของชิโนะและซอนเน่ไว้ในใจ
สิ่งที่อยู่ในหัวของเขาตอนนี้คือภาพของลิซ่าที่ยังเด็ก พูดถึงความฝันของเธออย่างภาคภูมิใจ
แต่ว่าทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นหญิงสาวผมดำที่จ้องมองมาที่เขาด้วยความอ่อนโยน
เธอจ้องมาที่โนโซมุโดยไม่ละสายตา สายตาของเธอที่แสดงความสับสนและกังวลกับตัวเขา
เมื่อเขาเห็นแววตาเช่นนั้น สิ่งที่โนโซมุคิดก็ได้แต่ว่ามันช่วยไม่ได้ ความขมขื่นที่แผ่ซ่านอยู่ในปากนี้ โนโซมุถอนหายใจออกมาและพูดมัน
「ผมจริงๆแล้ว……」
ใจตัวเองยังคงหวั่นไหว โนโซมุยังคงพูดต่อไปในขณะรับรู้ถึงสิ่งเหล่านั้น อย่างไรก็ตามเขาก็หลับตาลงชั่วครู่นึกถึงภาพที่เข้ามาในหัว
ร่างของหญิงสาวผมแดงที่สะท้อนเข้ามาในดวงตาของเขา ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าตัวเขามีความรู้สึกเช่นใดกับเธอคนนั้นจิตใจของเขาเต้นรัว แต่ไม่รู้ว่านี่คือความชอบหรือความเกลียดชัง
「ลิซ่า……」
「โนโซมุ……」
มีเพียงเสียงกระซิบที่เล็ดลอดออกมาจากปากตามธรรมชาติเท่านั้นที่หายไปท่ามกลางความมืดมิดของเมืองอาร์คาซัม
◆◇◆
พระอาทิตย์กำลังตกดิน เด็กชายและเด็กหญิงทั้งสามกกำลังเดินอยู่บนทางเท้าหินที่ส่องสว่างด้วยหินเวทย์
เด็กชายผมบอลนด์คาดดาบไว้ที่เอว และหญิงสาวที่ถือไม้เท้า และเด็กผู้หญิงอีกคนที่มีผมสีแดงเพลิงมีดาบและมีดสั้นคาดเอวของเธอเอาไว้
เด็กชายคนนั้นถือถุงป่านอยู่ในมือ
จุดหมายปลายทางก็คือกิลด์ของเมืองอาร์คาซัม
ตอนนี้ก็มืดแล้วและนักผจญภัยที่ทำคำขอเสร็จก็ต่างค้นหาที่พัก ไม่ก็โรงเตี๊ยมที่ชอบ หรือไปย่านบันเทิงต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักผจญภัยจำนวนไม่น้อยที่เข้าและออกจากกิลด์นี้ กำลังยืนยันคำขอและแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
ทั้งสามคนยืนอยู่หน้ากิลด์ ซึ่งยังคงมีความคึกคักและหญิงสาวที่ถือไม้เท้าก็เดินออกไปข้างหน้า
「ถ้างั้นฉันจะไปรายงานและรับเงินรางวัลมาเอง ดังนั้นทั้งสองคนไปจองที่นั่งในร้านก่อนได้เลยนะ」
「อืม ฝากด้วยนะ คามิลล่า」
คามิลล่าพยักหน้าเล็กน้อยและรับถุงป่านไปจากมือเคนและหายเข้าไปในกิลด์
「งั้นก็ไปกันเถอะลิซ่า」
「อือ……」
ลิซ่าพยักหน้าเล็กน้อยตามเสียงของเคน และเมื่อเธอเห็นคามิลล่าที่จากไปแล้วก็ไปยังร้านอาหารที่พวกเธอชอบกัน
ขณะฟังเสียงความคึกคักของเมือง ทั้งสองก็เดินผ่านการค้าในตอนกลางคืน
ทั้งสองเดินกอดกันจนไหล่แนบชิดกันแต่จิตใจของลิซ่าไม่ได้อยู่กับตัวเลยตอนนี้
เคนที่กำลังมองหน้าลิซ่าก็เรียกเธอ
「นี่ลิซ่า เป็นอะไรไปน่ะ? วันนี้เห็นทำท่าเหม่อลอยทั้งวันเลย……」
「เอ๋!? อะเอ่อ เหรอ?」
「ใช่ ทั้งตอนที่เก็บรวมรวมวัตถุดิบยืนยันคำขอเอย และตอนที่ต่อสู้กับสัตว์อสูรด้วย?」
คำขอที่พวกเขารับในวันนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่คำขอที่เอาสมุนไพรที่ใช้ทำยามาจากป่า
แม้ว่าสิ่งของที่เอามาจากเมืองจะมายื่นเควสได้เหมือนกันแต่มันก็มีราคาแพง
ถึงอาร์คาซัมจะได้รับเงินทุนแต่ละประเทศมา แต่ก็ต้องมีความประหยัดในระดับหนึ่ง
มิฉะนั้น เส้นทางคมนาคมคงถูกตัดขาดด้วยเหตุผลบางประการ และเสี่ยงต่อการล่มสลายของเมือง
「ไม่จริงสักหน่อย……」
「…………」
ลิซ่าพยายามปฏิเสธคำพูดของเคนในขณะที่แสร้งทำตัวเป็นสงบนิ่ง แต่เคนก็ขมวดคิ้ว
ลิซ่าส่ายหัวขณะที่กำลังคิดถึงภาพของโนโซมุที่เธอเห็นตอนที่ เขาไปกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอไปทำคำขอด้วยกัน
ภาพของหญิงสาวผมดำนั้นตราตึงเข้ามาในใจเธอ
สำหรับลิซ่าแล้ว ตัวตนของ โนโซมุ เบลาตี้ นั้นไม่สามารถให้อภัยได้อย่างแน่นอน พูดตามตรงแค่เห็นก็โกรธจนร่างกายร้อนผ่าวไปทั้งตัว
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้แทนที่จะเป็นหอกเพลิงที่เสียดแทงร่างกายของเธอ แต่มันกลับเป็นลูกศรน้ำแข็งอันแสนเยือกเย็น
ความรู้สึกเย็นชาส่งผ่านจากแกนกลางไปยังทั่วร่างกาย ทำให้ลิซ่าเห็นตัวเองที่อยู่ในโลกเพียงคนเดียว
รู้สึกเหมือนกับตอนนั้น ตอนที่เสียพ่อไปและถูกแฟนสุดที่รักหักหลัง
ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้อีกครั้ง? ความคิดดังกล่าวแล่นผ่านหัวของลิซ่า
ฉันควรที่จะโกรธเขาต่อไปสิ
เธอกอดตัวเอง พร้อมกับย่อตัวรับลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความเสน่หาของเธอ ความหนาวที่เย็นยะเยือกทะลุหน้าอกของเธอค่อยๆทำให้ร่างกายของเธอหยุดนิ่ง
「ลิซ่า ไม่เป็นไรใช่ไหม?」
ในขณะนั้นเอง เคนก็เข้ามากอดไหล่ลิซ่าเบาๆ ความร้อนจากมือค่อยซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของลิซ่า
ความร้อนที่ส่งผ่านทำให้แก้มของลิซ่าเริ่มผ่อนคลาย ลิซ่าบิดตัวเล็กน้อยเพื่อปลดปล่อยความร้อนออกจากร่างกาย ราวกับว่าคนที่อยู่ท่ามกลางพายุหิมะมีกองไฟอยู่ตรงหน้า
อย่างไรก็ตาม ภาพของโนโซมุยังคงอยู่ในใจของลิซ่า
แผ่นหลังของโนโซมุที่ต่อสู้ปกป้องพวกเธอต่อหน้ามังกรแห่งความตาย และตัวเขาที่ถูกไอริสดิน่าพาตัวไป
ศรน้ำแข็งที่แทงทะลุหน้าอกมันไม่ยอมละลายและแม้พยายามเอาความร้อนมาบรรเทาแค่ไหนก็ไม่หาย
ลิซ่าเข้าไปในอ้อมกอดของเคนเพื่อค้นหาความอบอุ่น ราวกับเด็กที่ตื่นกลัวในยามค่ำคืน ในเวลานั้นเคนแตะคางของเธอและหันหน้าไปทางเธอ
ระยะห่างของทั้งสองค่อยๆลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ใบหน้าของเคนในดวงตาของลิซ่าค่อยๆใกล้เข้ามา
ลมหายใจของกันและกันลูบไหล้ใบหน้าของอีกฝ่าย และริมฝีปากที่กำลังจะสัมผัสกัน
อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมา ร่างกายของลิซ่าก็สั่นสะท้าน
「อะ!! แย่แล้ว!」
「อึก!」
แขนของลิซ่าที่มีแรงกลับมาชั่วขณะเมื่อเธอเห็นแบบนั้นก็รีบฉุดร่างของเคนออกจากตัวเธอทันที
「อา….ขอโทษนะเคน!」
「ไม่เป็นไรหรอก ลิซ่า ไม่ต้องกังวล」
ลิซ่ารีบขอโทษเคน เคนโบกมือด้วยรอยยิ้มราวกับบอกว่าไม่ต้องใส่ใจ
「ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ……」
ถึงกระนั้นลิซ่าก็ยังขอโทษราวกับว่าเธอไม่สบายใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา และเธอก็ร้องไห้ออกมา
ขณะที่เขาปลอบลิซ่า เคนนั้นรู้สึกขมขื่นจนสุดพรรณนา
เธอที่โดนโนโซมุหักหลัง ตั้งแต่นั้นมา ลิซ่าก็ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อเพศตรงข้ามได้อีกเลย
แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะจับมือกันและกอดกัน แต่ถ้าเป็นการกระทำที่ล่วงเกินกว่านี้ตัวเธอมันก็มีภูมิคุ้มกันราวกับปฏิเสธ
เรียกได้ว่าเธอเป็นโรคกลัวความรัก แม้ว่าจะสนทนากับเพศตรงข้ามได้ตามปกติ แต่เมื่อพยายามมีความสัมพันธ์โรแมนติกกับพวกเขาเหล่านั้น ก็จะรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากและปฏิเสธในทันที
แม้แต่เคนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ตอนแรกเคนคิดว่าคงไม่เป็นปัญหาที่ว่าโนโซมุโดนกำจัดทิ้งให้พ้นทาง สิ่งที่ต้องทำก็แค่ต้องยัดเยียดความโกรธความเกลียดชังโยนใส่โนโซมุทั้งหมด แล้ววันหนึ่งลิซ่าก็จะฟื้นตัวเองกลับมาและเห็นตัวเขาที่อยู่ข้างๆเธอ
อย่างไรก็ตามสภาพของลิซ่านั้นไม่ได้ดีขึ้นเลย
ถึงกระนั้น เขาก็เป็นคนเดียวที่อยู่ใกล้กับเธอได้ในตอนนี้ ความจริงนั้นก็ทำให้เคนรู้สึกพอใจอยู่บ้าง เพราะโนโซมุมักจะแย่งคนที่เขารักไปอยู่ตลอดเวลา
「ฉันขอโทษนะเคน ขอโทษนะคือว่าฉันมันขี้ขลาด……」
แต่เมื่อเห็นลิซ่าร้องไห้ ความแค้นที่ไม่อาจต้านทานได้ก็ผุดขึ้นในใจของเคน
ในขณะที่เปลี่ยนความแค้นเป็นความเกลียดชังต่อโนโซมุ เคนทำได้เพียงปลอบลิซ่าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
มีเพียงความเงียบที่เข้าปกคลุมทั้งสอง ลิซ่าและเคนอยู่ใกล้กันชั่วครู่หนึ่ง แต่เมื่อลิซ่าสงบลงจากนั้นก็แยกกันเดิน
ลิซ่าพยายามหัวเราะออกมาทั้งๆที่โกรธตัวเองที่ไม่สามารถยอมรับความรู้สึกของเคนได้
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น เธอก็สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ
「เอ๊ะ……」
มีคนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
คนที่เคยอยู่เคียงข้างและให้ความอบอุ่น และอีกคนที่ทำให้จิตใจของเธอต้องยุ่งเหยิง
「ลิซ่า……」
「นะโนโซมุ……」
พวกเขาต่างพูดชื่อของกันและกันออกมา เนื่องจากเหตุการณ์มันกะทันหัน ทั้งลิซ่าและโนโซมุต่างตัวแข็งทื่อ
「…………」
ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง
โนโซมุที่จู่ๆก็ต้องมาเจอกับทั้งสอง ก็รู้สึกได้ว่าความเกลียดชังที่คุกกรุ่นอยู่ในใจได้ยกระดับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เหมือนกับไฟที่ตกลงมาใส่หญ้าที่ตายแล้ว ควันสีดำอันแสนน่ารังเกียจก็ลามไปทั่วหัวใจของโนโซมุ
โนโซมุสูดลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ ต้องขอบคุณสิ่งนั้น ความมืดที่เหมือนจะแพร่กระจายไปในใจก็สงบลงชั่วคราว
โนโซมุก้าวมาข้างหน้า
「ลิซ่า ไม่เป็นไรนะ?」
โนโซมุก้าวไปข้างหน้า พูดกับลิซ่า
ไอริสและคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังต่างไม่พูดอะไรและเฝ้าดูสถานการณ์
ลิซ่าขยับถอยหลังเล็กน้อยเพื่อตอบสนองต่อสายตาที่จ้องมองมา ท่าทางของเธอต่างจากเมื่อก่อนที่พยายามแต่สบถคำพูดใส่เขาและปฏิเสธอย่างหนักแน่น
โนโซมุเองก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับลิซ่าแต่ตอนนี้เขาก็อยากเปิดใจเพื่อพูดคุยกับเธอ มีบางอย่างที่เขาอยากจะรู้จริงๆ
ตอนนี้เธอมุ่งเป้าไปยังความฝันได้ด้วยดีอยู่รึเปล่าเหมือนเฉกเช่นตอนเด็กๆ
แม้ว่าความฝันของโนโซมุจะพังทลายแล้ว แต่อย่างน้อยโนโซมุก็อยากให้ความฝันของเธอเป็นจริงขึ้นสักนิดก็ยังดี
อย่างไรก็ตาม เคนยังยืนอยู่ตรงหน้าเขา
「เคน หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ……」
ทันทีที่เขาจำได้ว่าเพื่อนสนิทที่สุดทำให้เขาต้องผิดใจกับคนที่เขารัก ความเกลียดชังที่ถูกกดงำไว้จนถึงตอนนี้ก็ถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
「แกคิดจริงๆเหรอว่าข้าจะถอยกลับเมื่อไม่รู้ว่าแกจะทำอะไรกับลิซ่า?」
「ยังมีหน้ามาพูดได้อีกนะ……」
เคนที่ทำตัวเป็นปกป้องลิซ่ายิ่งทำให้โนโซมุโกรธหนักขึ้นไปอีก
ทั้งสองจ้องมองกัน เคนนั้นมองโนโซมุด้วยความเย่อหยิ่ง และโนโซมุเองก็จ้องเคนด้วยความโกรธจัด
บรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัด
หากมีโอกาสแม้เพียงนิด มันไม่แปลกเลยที่ทั้งสองจะชักดาบออกมา
เป็นฝ่ายเคนที่เริ่มก่อน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ดึงดาบที่คาดอยู่ที่เอวออกและเดินไปหาโนโซมุพร้อมกับเชิดหน้าชูตา
ทั้งสองคนสบหน้ากัน
「เรื่องทั้งหมดที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะแก? แกยังกล้ามีหน้ามาพูดคุยกับเธอได้อีกเหรอวะ?」
「ผมเนี่ยนะต้นเหตุ?」
「ใช่ แกนั่นแหละต้นเหตุ」
เสียงของเขาเบามากจนลิซ่ากับไอริสดิน่าไม่ได้ยินเสียงพูดคุย เคนเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆโนโซมุและพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอันบิดเบี้ยว
เขาบอกว่า “โนโซมุเป็นต้นเหตุ” เพราะเขาอ่อนแอมาจนถึงตอนนี้และคอยฉุดรั้งลิซ่าเอาไว้
คำพูดของเคนเองก็ดูมีน้ำหนักพอที่จะทำให้โนโซมุรู้ตัวดี แต่เมื่อเขาได้ยิน ก็จะสามารถเห็นแววตาแห่งความโกรธและเกลียดชังเหมือนกับโนโซมุในตอนนี้
「อึก!!」
ร่างของมังกรยักษ์นั้นสะท้อนอยู่ในดวงตาของโนโซมุครู่หนึ่ง มังกรที่มี 6 ปีก 5 สี และยังคงส่งเสียงคำรามแห่งความแค้นดังก้องขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ทำให้ความรู้สึกที่อยากจะบดขยี้ทุกอย่างมันตื่นขึ้นมา
วินาทีต่อมา เปลวไฟแห่งความโกรธสีดำก็ระเบิดออกมาจากอกของโนโซมุ ราวกับตอบสนองต่อความเกลียดชังของเทียแมต ความเจ็บปวดอันแสนรุนแรงแล่นผ่านไปทั่วทั้งอก
“เอาล่ะ! ปลดปล่อยข้าซะสิ! ให้ข้าได้ฆ่าพวกมัน! ฆ่าพวกมันเสียให้หมด!!”
เสียงแห่งความเกลียดชังของเทียแมตดังก้องอยู่ในใจของโนโซมุ
ไม่รู้ว่าเหตุผลนั้นเพราะเหตุใด แต่เนื่องจากโนโซมุนั้นที่ปลดปล่อยความโกรธออกมาทำให้เทียแมตยิ่งปลดปล่อยความเกลียดชังยิ่งกว่าที่เคยเป็น
ความเกลียดชังและจิตสังหารอันแสนรุนแรง ความโกรธต่อเคนของโนโซมุที่มีอยู่เต็มอกและย้อมจิตใจของโนโซมุให้กลายเป็นสีดำ
หัวใจของโนโซมุที่ยึดติดอยู่กับความโกรธก็ยิ่งมีแรงแค้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“ปลดปล่อยข้าซะ ข้าจะฆ่าพวกมัน!จะฆ่าพวกมันที่ไม่ยอมสนใจในตัวข้า!”
มันเป็นแรงแห่งความเกลียดชังที่เข้มข้นมากกว่าที่เคยมีมา
เหตุผลของเขาฟังดูเป็นเหมือนกับการเตือนตัวเองที่ขับเคลื่อนไปด้วยเสน่หา
“แย่แล้ววววววว……”
โนโซมุที่เผลอไปกระตุ้นตัวเทียแมตเข้า และพยายามหยุดมันอย่างสิ้นหวัง
เหตุผลที่เหลืออยู่ในตอนนี้คือการระงับเทียแมตอย่างสุดกำลัง ไม่ให้มันออกมาอาละวาดและยึดตัวตนของเขาอีกครั้ง และเขาก็รีบกลบเกลื่อนโดยเร็วที่สุด
「นะนะนะนะนะนะนะนี่มันท่าจะไม่ดีแล้ววววววว……」
ฟีโอที่เห็นสีหน้าของโนโซมุที่เปลี่ยนเป็นความโกรธจัดแบบสุดๆพร้อมปล่อยจิตสังหารอันแสนรุนแรงออกมา แม้แต่ซอนเน่ที่อยู่ข้างๆก็เหงื่อออกหน้าผาก อาจเป็นเพราะเห็นบรรยากาศแปลกๆรอบๆโนโซมุ
ไอริสที่เฝ้าดูสถานการณ์ของโนโซมุก็รู้สึกหนาวสั่นราวกับว่าตัวของเธอถูกแช่แข็ง
ในเวลานั้น บรรยากาศของโนโซมุชวนให้นึกถึงเทียแมตที่ตื่นขึ้นมาตอนนั้น แต่ครั้งนี้มันแย่ยิ่งกว่าครั้งนั้นเสียอีก
「อึก! เคนนนนนนน แกกกกกกกกกกกก!!」
โนโซมุที่ถูกเติบเต็มไปด้วยความโกรธ อารมณ์ที่ถูกระงับไว้จนถึงตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอันแสนมืดมิดที่พร้อมจะปลดปล่อยสู่สภาพโดยรอบ
ลิซ่าเองก็ไหล่ตก เคนที่เห็นท่าทางของโนโซมุเองก็ตกใจ
โนโซมุในปัจจุบันพร้อมที่จะปลดปล่อยความโกรธอันแสนบ้าคลั่งออกมาได้ทุกเมื่อ ไอริสคว้ามือของโนโซมุเพื่อพยายามเรียกสติของเขากลับคืนมาเพราะความไม่สบายใจของเธอ
「โนโซมุได้สติสักที!」
“อย่ามาหยุดข้า! ถอยไปซะ!!”
โนโซมุที่ลืมอัตตาของตัวเองเพราะความโกรธที่เข้ากลืนกิน ความรู้สึกอันอบอุ่นที่แผ่นซ่านอยู่ในมือของเขา และน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่ก้องอยู่ในหัว
ในเวลาเดียวกันก็เหมือนกับเสียงระฆังทำให้ตัวเขาตื่นจากภวังค์อันแสนมืดมน
「……เอ๊ะ」
โนโซมุที่คอยๆกลับมาเป็นตัวเองอย่างช้าๆและไอริสที่มีน้ำตาคลอเบ้ากำลังจ้องมองเขา
「โนโซมุ ใจเย็นๆก่อนเถอะค่ะ ได้โปรดล่ะ ขอร้องล่ะ อย่างได้เป็นแบบนั้นอีกเลยค่ะ……」
น้ำเสียงอันแสนเศร้าของไอริสดังก้องกังวาลไปทั่ว ไอริสที่เป็นห่วงโนโซมุมากกว่าใครๆในตอนนี้
เลือดที่ขึ้นหน้าโนโซมุก็ค่อยๆหายไปในทันที อย่างไรก็ตามเทียแมตก็พยายามอาละวาดอยู่
มังกรยักษ์ที่ยังคงแสดงความเดือดดาลอย่างที่เคยเป็น โนโซมุกัดฟันแน่นและอดทนต่อความโกรธของมัน
เหงื่อนั้นไหลท่วมหน้าผากของเขา อย่างไรก็ตาม ความโกรธของหมอนั่นไม่บรรเทาลงเลย
โนโซมุค่อยๆสูดลงหายใจเข้าออกอย่างช้าๆและหลับตาลง เข้าไปในจิตใต้สำนึกของตัวเอง
ร่างของมังกรยักษ์ที่อาละวาดอยู่ริมทะเลสาบถูกฉายขึ้นมาในใจของเขา
ขณะที่ค่อยๆสงบลมหายใจ โนโซมุก็จดจ่อกับความอบอุ่นของไอริสที่จับมือเขาอยู่
ท่าทางของเทียแมตก็ค่อยๆอ่อนแรงลง และก็ค่อยๆหายตัวไป ในโซมุถอนหายใจออกและลืมตาขึ้นมา
「อ่าา เอ่อ…….ขอโทษนะครับไอริส……」
โนโซมุหอบหายใจอย่างรุนแรง ลิซ่าและคนอื่นๆที่กำลังดูสถานการณ์อยู่ก็พูดไม่ออกเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ขณะที่ไอริสที่น้ำตาซึมเพราะเห็นท่าทีของโนโซมุที่จะกลายเป็นแบบนั้นอีกครั้ง เธอก็ยิ้มและจับมือของโนโซมุและบอกว่า “ดีจังเลยนะคะ โชคดีจริงๆเลยค่ะ”
ฟีโอและซอนเน่เองก็ต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก โนโซมุเอามือวางซ้อนมือของไอริสและจับมือเธออย่างแรงจากนั้นก็ค่อยๆปล่อยมือออก
「อา..…」
ขณะฟังเสียงของไอริสโนโซมุก็หันไปมองเคนและลิซ่า
เปลวไฟแห่งความโกรธได้จางหายไปแล้ว
โนโซมุนึกถึงความฝันของลิซ่าที่เคยบอกเขาตอนเด็กๆ
ในพื้นที่ราบอันที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีนักผจญภัยคนหนึ่งที่กลายเป็นเพื่อนกับลิซ่านั่งอยู่ข้างกัน
โคลนนั้นเกาะไปทั่วทั้งตัวและใบหน้าของทุกคนกำลังเหนื่อยล้า
คงจะเป็นหลักจากเอาชนะความยากลำบากมามากมาย การแสดงออกสีหน้าของทุกคนนั้นเหนื่อยพอๆกัน
มีภาพของเธอที่หัวเราะออกมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับเพื่อนๆของเธอ เกราะและอาวุธก็เปื้อนโคลนไปหมด ใบหน้าที่แสนอ่อนล้านั่น
อย่างไรก็ตามดวงตาของลิซ่านั้นส่องสว่างดั่งดวงอาทิตย์ บางทีรอยยิ้มของเธอที่เป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆนั้น เธอก็หันไปมองเพื่อนๆของเธอ
จากนั้นก็มีคนๆหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า「ไปกันเลยไหม!」จากนั้นทุกๆคนก็ค่อยๆลุกขึ้นมาทีละคน
และพวกเขาก็ออกเดินทางไปยังที่ราบอันไร้ที่สิ้นสุดโดยมีลิซ่านำหน้าอยู่ แผ่นหลังของพวกเขาดูเติบใหญ่เพราะก้าวผ่านพื้นที่ยากลำบากมามากมาย
อย่างไรก็ตามไม่มีร่างของชายที่ชื่อโนโซมุอยู่ ณ จุดนั้น ใบหน้าของเพื่อนทุกคนคือคนที่โนโซมุไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย
ถึงกระนั้นโนโซมุก็รู้สึกพอใจ
แม้ว่าจะประหลาดใจที่หัวใจของเขาสงบลงแม้จะอยู่ต่อหน้าเคนและคนอื่นๆ จากนั้นโนโซมุก็พูดด้วยน้ำเสียงอันเบา จากที่อันแสนไกลพร้อมกับเขาที่เรียกหาลิซ่า
「ลิซ่า ผมมีเรื่องจะถาม」
「นี่โนโซมุ ถ้าจะคุยก็มาคุยกับข้า……」
เคนขมวดคิ้วเข้าหาโนโซมุด้วยน้ำเสียงหยาบๆ ดูเหมือนว่าจะไม่ชอบตัวตนของโนโซมุที่โกรธก่อนหน้านี้มากจนทำให้สติหลุด
อย่างไรก็ตามโนโซมุหันไปมองด้วยสีหน้าเศร้าๆเล็กน้อย
「อึก….แววตาแบบนั้นมันอะไรกันวะ……」
เคนเป็นศัตรูกับโนโซมุโดยสิ้นเชิง
ความเกลียดชังของเคนที่ปลดปล่อยออกมามันรุนแรงและดูโหดร้ายเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นโนโซมุก็ทำได้แต่เพียงยิ้มอย่างเศร้าๆ
อย่างไรก็ตามโนโซมุหันไปมองลิซ่าอีกครั้ง เมื่อโนโซมุจ้องมองลิซ่า เธอก็ยักไหล่อย่างหวาดกลัว
เพราะมันคือตราบาปที่ผมได้ทำไว้ ตัวผมที่วิ่งหนีจนถึงตอนนี้
โนโซมุค่อยๆพูดออกมาขณะนึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับมาจากมือของไอริส
「ลิซ่า จำได้ไหม ที่เธอเคยคุยกับผมตอนสมัยเด็ก ที่เธอบอกว่าอยากจะเป็นนักผจญภัยเหมือนกับพ่อของเธอ?」
「เอ๋!!」
ใบหน้าของลิซ่าบิดเบี้ยวทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของโนโซมุ ผิวของเธอนั้นซีดลงอย่างเห็นได้ชัด และอากาศเย็นๆราวกับลูกศรน้ำแข็งได้ตกกระทบร่างกายของลิซ่าอีกครั้งหนึ่ง
ริมฝีปากของลิซ่านั้นสั่นเพราะความเย็นที่ปกคลุมไปทั่วร่างของเธอ
「ลิซ่า ช่วยบอกผมได้รึเปล่า? เธอน่ะยังคงไล่ตามความฝันนั้นจากใจจริงอยู่รึเปล่าในตอนนี้?」
ในอกของลิซ่า ความทรงจำเมื่อสองปีก่อนก็ผุดขึ้นมาอีกครั้งตอนที่เธอทิ้งโนโซมุไป
ตอนที่เธอคิดว่าโดนทรยศและตกอยู่ในความสิ้นหวัง เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองกำลังถูกแช่อยู่ในกรงน้ำแข็ง
ความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายแช่แข็งจิตใจและร่างกายของเธอ และในตอนท้ายเธอก็ไม่รู้สึกถึงเสียงของเพื่อนสนิทที่เรียกหาเธออยู่ตลอดเวลา
ด้วยการสนับสนุนของเคนและคามิลล่า เธอก็ฟื้นตัวกลับมาได้ แต่ลูกศรน้ำแข็งที่ปักลงอยู่กลางใจยังไม่เคยละลายจางหายไป และบางครั้งร่างกายของเธอก็แข็งราวกับถูกมันกระตุ้นอยู่บ่อยครั้ง
และทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของโนโซมุ ลูกศรน้ำแข็งก็ได้พุ่งเข้าใส่หน้าอกของเธออีกครั้งหนึ่ง
「หุบปากไปเลย ! อย่ามาพูดอะไรแบบนั้นกับฉันนะ !นายน่ะไม่ได้รู้เรื่องของฉันเลยสักนิด! นายไม่ใช่คนสำคัญของฉันอีกต่อไปแล้ว!」
คำพูดปฏิเสธที่ออกมาจากปากของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพูดของเธอดังก้องไปรอบๆ
วินาทีต่อมาที่เธอพูดออกไป เธอก็รู้สึกเศร้าเสียใจสุดแสนจะพรรณนา ความรู้สึกเหล่านั้นมันอัดแน่นอยู่ในอก
อาา….ลิซ่าเผลอขึ้นเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจและพยายามเงยหน้าขึ้น
ใบหน้าของเธอเงยขึ้นมามองโนโซมุ และก็พบกับใบหน้าของโนโซมุที่แสดงสีหน้าเศร้าๆออกมาราวกับว่าเขารู้สึกผิดตลอดเวลาที่ผ่านมา
「อ่า เป็นผมเองที่หนีมาโดยตลอด แต่ว่าขอแค่ครั้งนี้ช่วยเชื่อผมหน่อยได้ไหม? ผมน่ะจริงๆแล้ว……」
「อย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ!!」
เคนนั้นมีใบหน้าแดงก่ำ พยายามคว้าตัวโนโซมุที่แม้โดนลิซ่าปฏิเสธก็ยังคงพูดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ไอริสก็บุกเข้ามาคว้ามือของเคนและดึงมันออกไป
เธอยังใช้เวทย์เสริมพลังกายในทันที และรั้งเคนไว้ เคนเองก็ใช้เวทย์เสริมพลังกาย แต่ก่อนที่หมอนั่นจะได้เปิดใช้งานก็เว้นระยะห่างออกมาแล้ว
「อย่ามาขวางจะได้ไหม!」
「หนอยยยยยยยย!!」
อย่างไรก็ตามเคนคิดว่านี่มันคือเรื่องใหญ่แล้ว และดึงแขนของไอริสออกทันทีและพยายามวิ่งผ่านเธอไป
「ขอโทษด้วยนะแต่ตอนนี้คงให้ผ่านไปไม่ได้หรอก」
อย่างไรก็ตามคราวนี้ก็เป็นฟีโอที่มายืนอยู่ตรงหน้าเคน เคนไม่สามารถสู้แบบ 2 ต่อ 1 ได้
โนโซมุที่โดนขัดจังหวะโดยเคนก็พูดออกมาอีกครั้ง ใบหน้าของลิซ่านั้นซีดเซียว และแม้แต่เท้าของเธอก็ก้าวออกไม่ไหว
โนโซมุรู้สึกเจ็บใจที่เห็นลิซ่าเป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตามโนโซมุยังคงจ้องมองลิซ่า เดินเข้าไปหาเธอ
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นเองเสียงเรียกชื่อลิซ่าก็ดังก้องระหว่างโนโซมุและลิซ่า
「ลิซ่าาาาา!」
ลิซ่าที่ถูกเรียกก็หันไปมองทางด้านหลัง
ลิซ่าพยายามหนีจากที่นี่ไปให้เร็วที่สุด ตัวตนของเธอนั้นหายไปในความมืดมิด
เคนตามลิซ่าไป ขณะที่ไอริสและฟีโอก็คิดว่าพลาดซะแล้ว
โนโซมุพยายามวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าคามิลล่าที่เป็นคนเรียกลิซ่าก่อนหน้านี้ก็หยุดเขาไว้
「โนโซมุ คิดจะทำอะไรกันแน่!!」
「คามิลล่า……」
คามิลล่าพูดเช่นนั้นและคว้าคอโนโซมุ
เธอรู้ด้วยว่าลิซ่าไม่สามารถมีความรักได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะความกลัวที่ฝังลึกเข้าไปในจิตใจ จึงไม่สามารถกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นได้มากนัก และเธอก็จำใบหน้าลิซ่าที่กลายเป็นคนไร้จิตใจได้ในทันที
นั่นคือเหตุผลเธอเป็นศัตรูกับโนโซมุมาจนถึงตอนนี้
「คิดจะทำร้ายจิตใจลิซ่าต่อไปอีกนานแค่ไหน? รู้ไหมว่าตั้งแต่ตอนนั้นลิซ่าเจ็บปวดมามากแค่ไหนแล้ว!?」
เสียงนั้นดังก้องอยู่ในหูของโนโซมุ
อย่างไรก็ตามโนโซมุหันหน้าไปหาลิซ่าที่กำลังวิ่งอยู่ และเขาก็ทำสีหน้าจริงจัง
「คามิลล่าให้ผมไปหาลิซ่าเถอะ……」
「……เอ๋?」
เสียงของโนโซมุนั้นดูค่อนข้างเป็นกังวลอย่างมากและราวกับว่าเขามีบางอย่างต้องพูดกับลิซ่าให้ได้
นานมาแล้ว หน้านั้นเหมือนตอนที่โนโซมุอยู่ด้วยกันกับพวกเขาตามปกติดั่งแต่ก่อน จากนั้น เมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้นที่เสียดแทงเข้าไปในจิตใจของคามิลล่า ในขณะเดียวกันโนโซมุก็เริ่มวิ่งออกไป
「ทำอะไรอยู่ รีบๆไปเร็วเข้าสิ!!」
เสียงของโนโซมุดังก้องไปรอบๆ
คามิลล่า ไอริสรีบวิ่งไล่ตามลิซ่าเพื่อที่จะได้พูดคุยกันสักที
หลังจากนั้นก็เหลือเพียงตาแก่อยู่คนเดียว
เกร็ดความรู้เล็กน้อย จะได้ไม่ด่าลิซ่าอยู่ฝ่ายเดียว ลิซ่าเองก็น่าเห็นใจเช่นกัน (อ่านอย่างมีสติ รู้ว่ามีอารมณ์ แต่อย่าอินเกิน ถถถ)
โรคกลัวความรัก (Philophobia) จัดเป็นโรคกลัวชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยจะรู้สึกกลัวการมีความรักหรือความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้อื่นจนไม่กล้าเริ่มต้น หรืออาจรุนแรงถึงขั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิต ซึ่งความกลัวที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้บางคนมีอาการทางร่างกาย เช่น ตื่นกลัว มีเหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก คลื่นไส้ เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและเสี่ยงทำให้ผู้ป่วยแยกตัวออกจากสังคมได้
อาการของโรคกลัวความรัก
ผู้ป่วยโรคกลัวความรักจะรู้สึกกลัวการตกหลุมรักหรือไม่กล้ามีความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้อื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาการอาจมีความรุนแรงถึงขั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ซึ่งความกลัวที่เกิดขึ้นสามารถส่งผลต่อทั้งร่างกายและอารมณ์ แม้ตัวผู้ป่วยเองก็ตระหนักได้ว่าความกลัวที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถควบคุมความกลัวดังกล่าวได้อยู่ดี โดยเมื่อนึกถึงการตกหลุมรักก็อาจรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างรุนแรงจนมีภาวะตื่นกลัว และอาจมีอาการที่สังเกตได้ เช่น หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า มีเหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก ไม่สามารถทำกิจวัตรต่าง ๆ ได้ตามปกติ คลื่นไส้ เป็นต้น
สาเหตุของโรคกลัวความรัก
สาเหตุของโรคกลัวความรักนั้นค่อนข้างคลุมเครือเช่นเดียวกับโรคกลัวชนิดอื่น ๆ แต่ก็มีการศึกษาพบว่าโรคกลัวบางชนิดอาจมีพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยเสี่ยง หรือบางครั้งก็อาจเกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมอง นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าผู้ป่วยโรคกลัวความรักส่วนหนึ่งมีประวัติได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ถูกทำร้าย หรือถูกทอดทิ้งในวัยเด็กมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ผู้ป่วยฝังใจจนไม่กล้าไว้ใจหรือมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับใคร