โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 136
ตอนที่ 136 – แขกไม่ได้รับเชิญ!
“เจ้าคนเลว..”
เสียงของจูเลียดังขึ้นด้านหลังพวกเขา
“ฮ่าฮ่า…”
พอเย่เทียนเห็นจูเลียก็อดหัวเราะไม่ได้ ตอนนั้นผมของจูเลียยุ่งไปหมด ใบหน้าเธอเป็นสีน้ําตาลดําเพราะฝุ่นดินทําให้เธอดูน่าอายหน่อยๆ
“เจ้ากล้าหัวเราะเหรอ..”
จูเลียจะร้องไห้แล้ว
“ข้าขออภัย ข้าเสียมารยาทจริงๆ กลับบ้านไปกับข้าแล้วกัน ข้าจะให้เจ้าอาบน้ําอุ่นๆ…”
เย่เทียนกล่าวอภัยเพราะลืมไปจริงๆว่าจูเลียตามหลังมา เขาเสียใจมากๆ
“ข้าไม่เอา!!”
จูเลียกล่าวด้วยความโมโหแล้วควบม้าหนีไปทันที. พอควบไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงของก็ดังขึ้นมาว่า “เจ้าติดข้าไว้หนนึ่ง, ครั้งหน้าที่เราพบกันท่านต้องไถ่โทษข้า!”
จากนั้นเธอก็จากไป.
“ที่รัก, ข้าอยากจะกลับไปอาบน้ํา, ข้ารู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว”
พอจูเลียจากไป เคซ่าก็กล่าวกับเย่เทียนอย่างเนือยๆ.
“ไม่ เดี๋ยวข้าไปส่งเจ้าที่บ้านเอง! นี่เป็นหน้าที่ของผู้ชาย. ถ้าเจ้ากลัวว่าออเรเลียจะเห็น ข้าจะอยู่ข้างนอกแล้วกัน!”
เย่เทียนกล่าวอย่างหนักแน่น
“ขอบคุณนะคะที่รัก”
เคช่าซาบซึ้งมากๆจึงไม่ได้ปฏิเสธไปแล้วเธอก็ตามเย่เทียนเอาม้าไปเก็บที่บ้านแล้วก็ให้เย่เทียนไปส่งบ้าน
ที่บ้านของฟิลิปนั้น ไดอาน่ากับแองเจล่ากําลังช่วยภรรยาของฟิลิป คาเนียและลูกสาวเขาจัดกระเป๋าอยู่ เพราะพวกเขาต้องไปอยู่บ้านเย่เทียนซักพัก
แต่ทว่าขณะที่เก็บของอยู่นั้น ก็มีเสียงดังออกมาจากที่หน้าบ้าน “ท่านหญิงคาเนียผู้งดงาม ท่านอยู่บ้านรึปาว?”
“โอ๊ะ…ไม่คิดเลยแหะว่าจะเจอสาวงาม2คนอยู่นี่ด้วย? เจ้าฟิลิปบ้านั่นไปหาทาสหญิงงามแบบนี้โดยที่ข้าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
มาโคเนียหยาบคายมากๆ เขาเปิดประตูออกทันที. พอเห็นไดอาน่ากับแองเจล่าสายตาของเขาก็ลุกโชนไปด้วยตัณหา
“นายน้อยสุละ แม้ว่าท่านจะเป็นชายชั้นสูงแต่ท่านกลับเข้ามาในบ้านข้าโดยมิได้รับอนุญาต ท่านช่างหยาบคายมากๆ นี่ไม่ใช่กริยาที่ชนชั้นสูงควรจะมี…”
คาเนียเริ่มกังวลหนักมากที่มาโคเนียโผล่มา. เธอรู้สึกแหม่งๆในใจแต่ก็ตั้งสติกลับมาได้ จากนั้นก็กล่าวกับมาโคเนียอย่างรุนแรง
“โทดที, มันหยาบคายมากจริงๆ. เพื่อเป็นการไถ่โทษต่อความหยาบคายของข้า ข้าจึงขอเชิญท่านกับซาร่าตัวน้อยไปที่บ้านข้าครับ!.
มาโคเนียยิ้มแล้วก็กลายเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมาซะอย่างงั้น
“ข้าว่านายน้อยแห่งสุละอยากจะลักลอบขโมยผู้หญิงที่สามีไม่อยู่มากกว่านะ? เหล่าชนชั้นสูงตกต่ําถึงเพียงนี้เชียวรึ?”
ความรู้สึกกลัวแว่บขึ้นมาในดวงตาของคาเนีย นางจึงตะโกนออกไปอย่างดัง
“คาเนีย, ท่านเข้าใจข้าผิดแล้วครับ. หากข้าจะมาลักขโมยผู้หญิงจริงๆ ข้าก็ร่าจะพาเด็กสาวตัวน้อยหรือไม่ก็สาวงามทั้งสองข้างๆท่านไปแทนสิ. ความจริงคือท่านแม่ของข้าอยากจะเชิญชวนให้ท่านไปอยู่กับพวกเราซักวันสองวันเพื่อถามอะไรเสียหน่อย. ดังนั้นได้โปรดเถิด พวกเรามาด้วยความจริงใจจริงๆ…”
มาโคเนียไม่ถือสาและอธิบายไปอย่างสุขุม.
“ท่านหญิงสุละอยากเชิญข้าไปงั้นรึ?”
ความรู้สึกไม่ดีก่อตัวขึ้นในใจของคาเนีย, นางรู้ดีว่าตระกูลสุละจะมาหาเรื่องสามีของนาง
“ครับ, ท่านแม่ของข้าเชิญด้วยตัวเองเลย ดังนั้นข้าคิดว่าท่านควรรักษาหน้ากันหน่อย ใช่มั้ยครับ?”
มาโคเนียกล่าวอย่างมั่นใจ
“นายน้อยสุละ, ข้าขออภัยจริงๆ. ก่อนท่านจะมาถึงนายของเราได้สั่งมาว่าให้มาเชิญท่านหญิงคาเนียและคุณหนูซาร่าและพวกนางก็ตกลงไปแล้ว ดังนั้นข้าต้องขออภัยจริงๆ. ท่านชวนพวกเขาครั้งหน้าดีกว่านะคะ!”
ไดอาน่าเปิดปากพูดขึ้นมาไม่สุภาพหรือจองหองเกินไป. นางรู้ดีว่าคาเนียคงรับมือพวกชนชั้นสูงเหล่านี้ไม่ไหวแน่จึงออกหน้าให้.
“นายเจ้าเป็นใคร? เจ้านี้โชคดีจังนะแต่เสียดาย เจ้านายเจ้าไม่ได้บอกเจ้าเหรอ ว่าเจ้าเป็นแค่ทาสชั้นต่ํา? เจ้ากล้าดียังไงมาเปิดปากพูดต่อหน้าชนชั้นสูง!”
มาโคเนียขมวดคิ้วแล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น
“นายของพวกเราคือ ซาตาน เย่ เทียน, ผู้ที่ให้สิทธิ์เราเอ่ยปากพูดได้และในใจของพวกเรานั้นขอเคารพนายผู้เดียวก็พอแล้ว!”
ไดอาน่าพูดอย่างภาคภูมิใจ. นางรู้ว่าตระกูลสุละเป็นศัตรูกับเย่เทียน นางจึงไม่เกรงกลัวมาโคเนียมากนักและไม่กลัวที่จะทําให้เขาไม่พอใจเลย
“ซาตาน!!”
มาโคเนียกล่าวด้วยน้ําเสียงทุ้มแล้วสายตาของเขาก็เริ่มเย็นชาขึ้นหน่อยๆ
“ก็แค่เจ้าหน้าใหม่ กล้าดียังไงมาต่อต้านข้าและตระกูลสุละ, มันช่างโอหังนัก!!”
มาโคเนียพูดอย่างเยือกเย็น.
“ไม่ใช่! ท่านผิดแล้ว. นายของข้าตั้งใจที่จะเชิญแขกมาร่วมสังสรรค์เท่านั้น หากท่านคิดว่าเขาต่อต้านท่านแล้ว เช่นนั้นมันก็เป็นแค่สิ่งที่ท่านคิดเท่านั้น!”
ไดอาน่ากล่าว ไม่สุภาพและไม่โอหัง
“เจ้านี่เป็นทาสหญิงที่ปากกล้านักนะ, นายของเจ้าไม่ได้มาด้วยตัวเอง แต่ข้ามาด้วยตัวเอง, ดูก็รู้แล้วว่าข้านั้นจริงใจกว่านายของเจ้าเป็นไหนๆ ดังนั้นคาเนียต้องไปกับเราวันนี้!”
มาโคเนียกล่าวอย่างหนักแน่นมากๆ
“ได้โปรดเถิด ท่านหญิงผู้งดงาม!!”
มาโคเนียส่งสัญญาณจากนั้นทหารจํานวนหนึ่งด้านหลังเขาก็เข้ามาใกล้ๆ
“ขออภัยค่ะนายน้อยสุละ ข้าได้ตอบตกลงคําชวนของท่านลอร์ดซาตานไปแล้ว, ข้ามิอาจคืนคําพูดได้ ขออภัยด้วยค่ะ!”
คาเนียถอยหลังไปสองก้าวแล้วมองหาความช่วยเหลือจากไดอาน่า.
“นายน้อยสุละ ได้โปรดอย่าหยาบคายกับแขกของเจ้านายพวกเราเลย มิเช่นนั้นแล้วท่านจะไม่สามารถรับมือกับความพิโรธจากซาตานได้แน่!!”
ไดอาน่ากล่าวอย่างหนักแน่น
“ฮ่าๆๆ วันนี้ข้าต้องเชิญนางไปให้ได้. ต่อให้ทาสหญิงกล้ามาขู่ข้าก็ตาม ข้าก็อยากรู้เห มือนกันว่าตระกูลสุละจะรับมือความพิโรธของซาตานได้รึป่าว! จับพวกมันให้หมด!”
มาโคเนียกล่าวด้วยความโมโหและเย้ยหยัน
“โฟบี้, มีคนหยาบคายต่อเจ้านายและแขกของเขา, ต้องทําอย่างไร!”
แองเจล่าตะโกนเสียงดัง
“ตาย!!!”
เสียงพิโรธดังออกมาจากสวน.
ตู้ม, ตู้ม, ตู้ม….
วินาทีต่อมาทั่วทั้งบ้านก็เหมือนจะสั่นสะเทือน
“ผู้ใดลบหลู่นายเหนือหัวของข้า!”
ยักษ์สาวโผล่ออกมาแต่งตัวครบชุด, เธอใส่ชุดเกราะหนาพร้อมกับถือขวานยักษ์ในมือ. นางสูงมากๆจนแสงที่สาดเข้ามาผ่านประตูถูกตัวเธอบังมิดหมด
แคร้ก!!!
เธอตบมือแค่ทีเดียวบานประตูไม้ก็แหลกเป็นชิ้นๆขณะที่เข้ามาในบ้าน เธอรู้สึกน่าเกรงขามมากๆ
“อะไรวะ, สัตว์ประหลาดอะไรกันเนี่ย…”
มาโคเนียกล่าวอย่างทุลักทุเลขณะกลืนน้ําลาย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและช็อคมาก.