ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) - ตอนที่ 2 เกิดใหม่ทั้งที่ก็มีแต่เดธแฟล็กซะแล้ว
- Home
- ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)
- ตอนที่ 2 เกิดใหม่ทั้งที่ก็มีแต่เดธแฟล็กซะแล้ว
พอลืมตาขึ้นมา ผมก็กลายเป็นตัวละครสุดน่ารำคาญในโลกของเกมยูริไปซะแล้วล่ะครับ
แต่สิ่งที่ทำให้ผมพอจะสงบใจลงได้ นั่นก็คือคู่ยูริที่เดินถือแฮมเบอร์เกอร์ด้วยกันอยู่ในซอยนั่นเอง
ไม่ผิดแน่
ที่ที่ผมอยู่ในตอนนี้ก็คือ โลกของเกม [Everything for the Score] ล่ะ
ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะผู้ชายมันก็ไม่ค่อยจะมีตัวตนที่ชัดเจนยังไงล่ะ
อย่างผู้ชายที่เดินไปมาตามถนนที่อยู่ตรงหน้านั่น
ถึงแม้จะรู้สึกได้ว่ามีตัวตนจริง แต่มันก็กลับเหมือนเป็นแค่พื้นหลังที่จับต้องไม่ได้เลย
ในเรื่องตัวตนของผู้ชาย นี่ถือเป็นรูปแบบที่ 3 และ 4 รวมกัน
ประเภทตัวตนผู้ชายในเกมยูรินั้นมีอยู่สี่ประเภทด้วยกัน
1.พวกผู้ชายไม่มีตัวตนอยู่เลย
2.เรื่องราวดำเนินในสถานที่ที่ไม่มีพวกผู้ชาย เลยไม่มีผู้ชายโผล่มาให้เห็นเลย (โรงเรียนหญิงล้วน)
3.พวกผู้ชายก็มีตัวตนอยู่ แต่ก็เป็นแค่ตัวละครเสริม ตัวประกอบ หรือเป็นแค่ฉากหลัง
4.พวกผู้ชายก็มีตัวตนอยู่ แต่เป็นตัวร้ายไม่ก็เป็นตัวเกะกะ
นี่ก็คือประเภททั้ง 4 แบบ ที่ผมคิดขึ้นมาเอง ซึ่งก็ไม่คิดว่ามันจะเอามาใช้ได้ถึงขนาดนี้เลย
ในโลกนี้นั้น ไม่ว่าใครต่อใครที่เป็นผู้หญิง ก็ทั้งจูบทั้งกอดกันในตรอกซอยทั้งนั้น
“นี่สวรรค์รึเนี่ย…?”
ดูเหมือนว่าผมจะถูกดึงตัวขึ้นสวรรค์ไปซะแล้วสิ
แต่ทว่า ความสุขนั้นก็อยู่ได้เพียงไม่นาน
พอคิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ผมก็อยู่ในสถาการณ์ที่ค่อนข้างย่ำแย่เลยทีเดียว
ถ้าผมเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงในโลกเกมยูรินี่ล่ะก็
ผมคงจะคุกเข่าและสวดภาวนาด้วยความขอบคุณไปแล้ว…
แต่ผมดันเกิดใหม่เป็นเจ้าฮิอิโระคนนั้นซะได้
ผู้ที่ถูกกำหนดมาให้ถูกรังเกียจ ตัวละครน่ารำคาญ ผู้ชายที่อยู่ท่ามกลางยูริ…
ผู้ที่ถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องตายอย่างอนาถ ฮิอิโระจาก [Everything for the Score] คนนั้น
“แย่แล้ว…แบบนี้ดูท่าจะแย่แล้ว…เลยสินะ”
ผมไปที่ห้องน้ำหน้าสถานีและคลายเน็คไทที่อก
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมก็เถอะ แต่ฮิอิโระนั้นกำลังสวมชุดสูทอยู่
อาจจะเป็นเพราะทั้งรูปร่างหน้าตาดูกลาง ๆ ล่ะมั้ง ตอนใส่สูทจึงค่อนข้างดูดีผิดคาด
แต่หน้าตาดูหงุดหงิดและบิดเบี้ยวนี่มันดูน่าอนาถเอาสุด ๆ
สำหรับตอนจบของฮิอิโระใน [Everything for the Score] นั้นมีเพียงแค่แบบเดียวเท่านั้น
นั่นคือความตาย
ในรูทหนึ่งก็ตายเพราะสะดุดล้ม อีกรูทหนึ่งก็จมน้ำตาย อีกรูทหนึ่งก็อดอยากจนตาย
อีกรูทหนึ่งก็ตกใจจนตาย มีกระทั่งรูทที่ถูกน้องสาวฆ่าตายด้วย
แต่ยังไงซะ ฮิอิโระมันก็เป็นตัวละครที่เกะกะลูกหูลูกตา
แถมยังทำมาเพื่อเป็นตัวที่ทำให้ผู้เล่นเกลียดอยู่แล้วด้วยน่ะนะ
แต่ในท้ายที่สุด การตายอันน่าอนาถของฮิอิโระนั้นมันก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกชื่นใจอะนะ
ไม่ตายไม่ได้แล้วสิแบบนี้
สาเหตุการตายของฮิอิโระส่วนใหญ่นั้น จะมีส่วนเกี่ยวกับทั้งตัวนายเอกและนางเอก
ถ้าผมจะอยู่รอดในฐานะฮิอิโระให้ได้ละก็…
คงจะต้องเข้าหาเหล่าตัวเอกไม่ทางใดก็ทางหนึ่งล่ะนะ
อย่างเช่น การรอให้ตัวเอกตายไปซะก่อน
“ไม่ได้เด็ดขาด!! ต่อให้ชีวิตจะหาไม่ ฉันก็จะต้องปกป้องยูริไว้!!”
ถึงจะเป็นวิธีการที่ดูเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ แต่จริง ๆ มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
เพราะถ้าตัวเอกถูกทำลายไปละก็ฮิอิโระที่อยู่ในพื้นที่
ก็จะถูกทำลายไปด้วยเหมือนกัน(สเปเชียลเอฟเฟค)
ฉะนั้นลำดับความสำคัญก็ต้องเป็น ยูริ>>>>>>>>>>>ผม>>คนอื่นๆ ตามนี้
ถ้างั้นก็คงต้องลองคิดหาทางอื่นแล้วล่ะ
ถ้าลองพยายาม ก็น่าจะหาทางรับมือกับการถูกทำลายได้ทุกรูปแบบแน่
บางทีแล้ว อย่างฮิอิโระเอง ถ้าเขามีการฝึกฝนอย่างถูกวิธีล่ะก็
บางทีเขาก็อาจจะหลีกเลี่ยงจากชะตาที่ต้องตายได้ก็ได้…
เอาเถอะ เจ้าตัวอาจจะมีเหตุผลที่ไม่อยากพยายามก็ได้
ผมเดินไปมารอบสถานีจนกระทั่งหมดไอเดีย–
“ท่านพี่คะ”
มีเสียงดังขึ้นมา
พอหันกลับไปก็เจอกับผู้หญิงผมยาวสีดำยืนอยู่
ดวงตามีสีดำที่เห็นแล้วชวนให้นึกถึงห้วงอวกาศ
รูปร่างและหน้าตาที่ดูสง่างามและร่างกายที่ดูนุ่มนวลของเธอนั้น
ทำให้เธอดูโดดเด่นยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนที่ยืนอยู่บนถนนแห่งนี้
ไม่ว่าใครก็ต่างจ้องมองมาที่เธอ และพอเธอมองย้อนกลับไปหาคนนั้น
มันก็ทำให้คนนั้นต้องเขินจนหน้าแดง
เธอสวมชุดเดรสที่ดูทางการสีน้ำเงินที่ไล่ระดับสีขึ้นมาเรื่อยๆ
เธอคือ ซันโจ เรย์– หนึ่งในนางเอกของ [Everything for the Score]
และเป็นน้องสาวของฮิอิโระ
“จู่ ๆ ก็หายตัวไป ทำเอาเป็นห่วงแทบแย่เลยนะคะ”
น้ำเสียงช่างเย็นยะเยือกเหลือเกิน
เสียงกระซิบที่เย็นราวกับน้ำค้างนั่น
เอาจริง ๆ แล้วดูเหมือนจะไม่ได้กังวลอะไรเลยด้วยซ้ำนะ
“เดี๋ยวก็ไม่ทันทานมื้อเย็นหรอกนะคะ แล้วข้างนอกนี่ก็มีรถลีมูซีนรออยู่ค่ะ คงจะเข้าใจความหมายของมื้อเย็นวันนี้นี้ใช่มั้ยคะ?”
ในรูทของซันโจ เรย์นั้น จะจบลงด้วยการที่เธอวางแผนที่จะฆ่าฮิอิโระ
แน่นอนว่านั่นก็เป็นผลมาจากการกระทำของเจ้าตัวฮิอิโระเองล่ะนะ
ผมที่ทั้งโยกหัวทั้งคอยเชียร์นี่บอกเลยว่าคงพูดอะไรไม่ได้
ถึงจะพูดอะไรไม่ได้ก็เถอะ แต่ในฐานะที่มาเผชิญหน้ากับเธอในฐานะของฮิอิโระแล้ว
มันก็อดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกกลัวล่ะนะ
พอได้ฟังคำพูดนั้นแล้วก็เข้าใจได้เลยในทันที
ว่าเธอนั้นไม่มีความปราถนาดีให้กับผมเลยแม้แต่น้อย
“อะ…อา…”
“เช่นนั้น ก็รีบขึ้นรถเลยเถอะค่ะ เราเสียเวลาไปมากแล้วกับการตามหาตัวท่านพี่นะคะ”
เธอยกแขนที่สวมถุงมือโอเปร่าอันงดงามขึ้นมาแล้วมองดูที่นาฬิกาข้อมือของเธอ
“……”
เธอขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
แล้วหัวของผมก็หมุนติ้วอย่างรวดเร็ว
มื้อเย็นเนี่ย…ถ้าพูดถึงมื้อเย็นแล้วก็ต้องเป็นมื้อเย็นของตระกูลซันโจสินะ?
ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฮิอิโระถึงกำลังใส่ชุดสูทอยู่
ฮิอิโระนั้น เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลดยุกซันโจ
ใน [Everything for the Score] นั้น
มีเซ็ตติ้งเป็นญี่ปุ่นยุคปัจจุบันที่ยังมีชนชั้นอยู่นั่นเอง
ดยุก มาร์ควิส เอิร์ล ไวเคานต์ และบารอน
ขุนนางแต่ละตระกูลนั้นก็จะมีแบ่งแยกตามกฎหมายของขุนนาง
และตระกูลซันโจนั้น ก็เป็นตระกูลดยุก
ส่วนสถานะของตระกูลนั้นก็จะถูกกำหนดด้วยคะแนน
หรือก็คือ ยังไงๆ ตัวฮิอิโระนั้น ก็เป็นถึงทายาทตระกูลขุนนางเลยทีเดียว
เพราะแบบนี้ เขาก็เลยรู้สึกพอใจในฐานะของตัวเอง
และไม่มีทะเยอทะยานอะไรเลยจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต…
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม
ถ้าในตอนนี้ฮิอิโระจะเข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำของตระกูลซันโจสายละก็ จะต้องมีปัญหาแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้น ก็อย่ามัวรอช้าอยู่เลย”
“เอ๊ะ เอ๋ เดี๋ยวก่อนนะ”
ผมพูดแบบนั้นออกไปอย่างใจเย็นก่อนที่เรย์จะไป
“…มีอะไรงั้นเหรอคะ?”
“ดูทำหน้ารังเกียจกันแบบออกนอกหน้าน่าดูเลยนะ”
ดูทำหน้ารังเกียจกันแบบออกนอกหน้าน่าดูเลยนะ
(Translator : อันนี้ความคิดของพระเอกนะครับไม่ได้พูดซ้ำ)
“ห๊ะ? ไม่ได้ทำซะหน่อยค่ะ”
“อ๊ะ โทษที ความเถรตรงตามธรรมชาติมันดันเผลอหลุดออกมาซะแล้ว…เผลอพูดความในใจออกมาซะได้…รอเดี๋ยวนะ”
ผมไปที่ร้านสะดวกซื้อแล้วซื้อผ้าพันแผลกลับมาด้วย
“เอ้านี่”
“…อะไรเหรอคะ?”
“มือเจ็บอยู่ใช่มั้ยล่ะ แบบว่า นั่นไง ถ้าไปทานมื้อเย็นละก็จะต้องใช้ช้อนส้อมนี่ บางทีอาจจะทำให้ทานลำบากก็ได้นะ”
ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น
“ทำไมล่ะ”
“ฉันน่ะ”
ผมพูดออกไปพร้อมทั้งรอยยิ้ม
“ถ้าเป็นเรื่องของยูริ ฉันไม่อยากพลาดไปซักเรื่องหรอกนะ”
“…ห๊ะ?”
รอยแตกได้ปรากฏขึ้นบนหน้ากากที่ไร้ซึ่งความรู้สึกนั่นของเธอ
พอเห็นใบหน้าที่ดูรังเกียจของเธอแบบนั้น ผมก็เลยรีบตอบกลับไป
“เมื่อกี้ตอนที่หยิบนาฬิกาออกมา ดูเหมือนจะรู้สึกเจ็บ ก็เลยคิดว่ามือน่าจะได้รับบาดเจ็บอะไรแบบนี้น่ะนะ แล้วก็มือที่สวยงามของเธอน่ะ ควรจะรักษาไว้สำหรับคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต(ผู้หญิง) ในอนาคตนะ เพราะงั้นก็ต้องดูแลให้ดี ๆ สิ”
เธออ้าปากค้างไปพักหนึ่ง และเริ่มเปิดปาดพูด
“ใช้หัวคิดเหรอคะนั่น?”
“อา ก็ฉันน่ะมียูริไอคิวสูงถึง 180 เลยนี่นะ”
“สวัสดีค่ะ รถฉุกเฉินใช่มั้ยคะ”
“เดี๋ยวเหอะ ๆ ไม่มีเหตุก็อย่าโทร 119 เล่น ๆ เส้”
“ล้อเล่นน่ะค่ะ”
เธอส่งเสียงมาอย่างไร้อารมณ์
“แต่ว่าการที่ท่านพี่ล้อเล่นแบบนี้เนี่ย…ไม่คิดเลยนะคะ ว่าชอบทำอะไรแบบนี้ด้วย”
“ในชีวิตนี้น่ะ ฉันไม่เคยล้อเล่นกับอะไรหรอกนะรู้มั้ย”
“จริง ๆ เลย ถ้าเราไม่รีบมุ่งหน้าไปที่นั่น เราจะไปสายเอานะคะ”
เธอหยิบผ้าพันแผลจากมือของผม แล้วหันหลังไป
“ท่านพี่เองก็อย่ามาช้าแล้วกันนะคะ เพราะเวลาของฉันมันเป็นสิ่งมีค่าค่ะ”
พอเธอจากไป ผมก็ขึ้นรถลีมูซีน และผมก็เข้าใจจุดยืนแล้วว่าทำไมฮิอิโระถึงถูกเกลียด
[ติดตามการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ได้ที่เพจ Okuse-Translator]