ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) - ตอนที่ 3 เมดอินยูริ
งานเลี้ยงมื้อเย็นของตระกูลซันโจนั้นจบลงไปด้วยดี
ผ่านไปได้อย่างราบรื่น…แต่เอาจริงๆก็ไม่รู้ว่าจะพูดแบบนั้นได้เต็มปากรึเปล่า
เพราะยังไงซะ ตัวผมหรือก็คือฮิอิโระนั้น ก็ถูกเมินในการร่วมทานมื้อค่ำอยู่แล้ว
ยังไงเรย์ที่เป็นลูกสาวคนโตก็ถูกตัดสินให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลซันโจอยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนว่าลูกคนชายโตอย่างผม จะได้รับเชิญมาด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
ถ้ามองแค่ผิวเผินละก็ ยังกับพวกที่จะไปฆ่าใครยังไงยังงั้นเลยล่ะ…เจ้าพวกนี้น่ะ
มันน่าแปลกใจมากที่ได้เห็นพวกป้า ๆ ใส่ชุดกิโมโนอย่างกับยากูซ่าแบบนี้
บรรยากาศที่ปล่อยออกมาค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียวเชียว
ไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องคอยประจบ
คงต้องพยายามกันหนักมากแน่ ๆ ที่จะทำให้พวกเขาพึงพอใจกัน
แถมดูเหมือนว่าเรย์เองก็จะนั่งอยู่ข้างๆ ผู้ชายตัวโตด้วย
วิธีการยิ้มอย่างจอมปลอมของเธอนั่น ทำให้รู้สึกประทับใจขึ้นมาเลย
กลับกันแล้ว ไม่มีใครเข้ามาทักทายผมเลยแม้แต่คนเดียว
ตระกูลสาขาก็ดูจะไม่ค่อยพอใจกับเรย์ที่เป็นตระกูลหลักเท่าไหร่
อาจจะเป็นเพราะพวกเขามองผมเป็นแค่ก้อนกรวดข้างทางล่ะมั้ง
พวกคนข้างๆก็เลยพูดจาแย่ๆกับผมแบบโต้ง ๆ
ผมก็เลยตอบโต้กลับไปด้วยการใส่ของเข้าไปในหลอดและเป่ามันใส่พวกนั้น
“ฮิอิโระ”
และช่วงที่งานเลี้ยงมีชีวิตชีวาที่สุด
หลังจากที่ชง ไซเดอร์ ไปได้ไม่นานนั้น ก็มีคุณป้าที่ดูอวดดีที่สุดพูดกับผม
(ไซเดอร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากผลไม้)
“นี่เธอน่ะ ปีหน้าก็ไปเรียนที่โรงเรียนหญิงโอโตริซะนะ”
โรงเรียนหญิงโอโตรินั้น…ก็คือโรงเรียนเวทมนตร์ที่อยู่ใน [Everything for the Score]
ที่นั่น เป็นที่ที่ตัวเอกจะได้เจอกับเหล่านางเอก
แน่นอนว่าฮิอิโระเองก็ได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้และได้มาอยู่ท่ามกลางเหล่ายูริ
แต่สุดท้ายก็ต้องตายอย่างน่าอนาถ น่าเศร้าซะจริงๆนะ
“โอ๊ะโอ๋ ไม่ต้องตอบอะไรทั้งนั้น เพราะเธอว่าจะต้องทำ ถ้าเกิดมาในตระกูลซันโจแล้ว เธอไม่มีสิทธิที่จะทำอะไรทั้งนั้นหรอกนะ อย่างน้อยๆ พวกเราเองก็ยังรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ต้องทำอะไรกับเธอบ้างล่ะนะ”
แถมในบางตอนจบ ก็จะมีแบบที่ฮิอิโรถูกตระกูลซันโจลอบสังหารเพื่อที่จะกำจัดตัวปัญหาทิ้งอีกด้วย
หรือว่าผู้ชายคนนี้จะเกิดใต้ดาวแห่งความโชคร้ายกันแน่นะ
“แล้วทำไมถึงต้องไปที่โรงเรียนเวทมนตร์ด้วยล่ะ?”
“ก็เพราะมันอิสระไงล่ะ อิสระน่ะ ดูเหมือนว่าเธอจะขอเงินจากตระกูลสาขาหลาย ๆ ครั้งเลยนี่ แถมยังได้ยินมาว่าใช้วิธีที่เลวทรามด้วย พวกบ้าที่มีพลังมากเกินไปอย่างเธอน่ะ ควรจะไปเรียนรู้วิธีใช้เวทมนตร์ซะบ้างนะ”
คร้าบเพ่ ไอ้นั่นน่ะเรื่องโกหกทั้งเพเลยคร้าบ
โรงเรียนนั้นมันอยู่ในเขตของตระกูลซันโจไม่ใช่รึไงฟะ
ถ้าแบบนั้นก็จะทำให้สามารถลอบสังหารได้ทุกเมื่อนี่หว่า!!
คงเตรียมตัวพร้อมแล้วสินะ แน่จริงก็เข้ามาเลยเด้!!
ถ้าคิดว่าตูคือฮิอิโระตัวจริงน่ะนะ!!
“เอาเถอะ ตั้งใจและพยายามเข้าก็แล้วกัน เดี๋ยวจะคอยช่วยสนับสนุนเอง”
————————————————————–
“แล้ว ไอ้นี่น่ะเหรอ การสนับสนุนที่ว่าน่ะ….”
ผมมองไปที่อุปกรณ์เวทย์ (เมจิคดีไวซ์) ที่อยู่บนเตียง
กลับมาแล้วครับ
ตอนนี้เป็นเวลา 7 โมงเช้าแล้ว
ผมตื่นนอน 6 โมงเช้า และเพิ่งกลับมาหลังจากวิ่งกับอาบน้ำเสร็จ
จากนั้นผมก็หันไปดูของสนับสนุนที่ได้จากตระกูลซันโจ
มันคืออุปกรณ์เวทย์
สิ่งนั้นน่ะ ถ้ามองดูเผินๆแล้วก็คงเหมือนกับดาบญี่ปุ่นเลย
ฝักดาบตกแต่งด้วยเครื่องประดับที่ดูเรียบง่าย
แต่ถ้าลองมองดูดีๆแล้ว จะเห็นว่าฝักดาบมีรอยอยู่หลายจุด เหมือนกับว่าจะใส่อะไรเข้าไปในฝักได้
แต่ว่า พอดึงออกมาดูแล้ว มันกลับไม่ใช่ดาบธรรมดาทั่วไป
นั่นก็เพราะว่าดาบเล่มนี้มันไม่มีคมยังไงล่ะ
ทั้งด้ามและช่องทางเข้าฝัก ถูกแก้ไขด้วยพลังเวทย์
มีทริกเกอร์(ไก)อยู่ที่แถว ๆ ด้ามจับโค้ง และมีรูคล้ายปากกระบอกปืนตรงปลาย
ที่มันมีลักษณะแบบนี้นั้น…
ก็เป็นเพราะมันเป็นลักษณะพิเศษของการเปิดใช้งานเวทมนตร์
ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ [Everything for the Score] ไงล่ะ
ก่อนอื่นเลย ในโลกนี้น่ะ การจะใช้เวทมนตร์ได้ จะต้องใช้งานผ่านอุปกรณ์เวทย์เท่านั้น
เพราะงั้นต่อให้จะตะโกนว่า [ไฟเออร์บอล!!] ออกมา มันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน
สิ่งที่จะออกมาก็มีแค่เสียงตะโกนที่ดูเหมือนคนบ้าเท่านั้นแหละ
ไอ้ที่เรียกว่าเวทมนตร์น่ะ จะสามารถใช้งานได้ด้วยการกดทริกเกอร์ที่อุปกรณ์เวทย์นี้เท่านั้น
อุปกรณ์เวทย์น่ะ นอกจากจะมีรูปแบบดาบแล้ว ก็ยังมีรูปแบบอื่น ๆ อีก
เช่น ไม้เท้า บอลคริสตัล กำไล ผ้าห่อศพศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องประดับผม
แต่สิ่งที่อุปกรณ์เวทย์เหมือนกันหมดเลยนั่นก็คือมีตัวไกที่จะคอยเปิดใช้งาน
เอาล่ะ อุปกรณ์เวทย์อันนี้มันก็เป็นอย่างที่ว่าไปนั่นแหละ
เพียงแต่ ถึงจะกดทริกเกอร์แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้เวทมนตร์ได้เสมอไป
อย่างสล็อตตรงตัวฝักนี่ ถึงจะถูกเรียกว่าเป็นสล็อตก็เถอะ แต่มันก็ต้องใส่คอนโซลเข้าไปด้วย
เวทมนตร์แต่ละอย่างที่ใช้ได้ จะขึ้นอยู่กับชนิดคอนโซลที่ใส่ลงไป
นอกจากนี้ ถ้านำคอนโซลกับคอนโซลมาเชื่อมกันด้วยตัวนำไฟฟ้าที่อยู่ในฝักแล้วละก็
เอฟเฟคของมันก็จะเปลี่ยนไปด้วย
การผสมผสานแบบนี้ จะทำให้การต่อสู้ใน [Everything for the Score] มีความลึกล้ำมากขึ้น…
แต่มันจะเน้นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ยูริมากเกินไปมั้ยเนี่ย เกมนี้
“อึ๋ย คอนโซลอันนี้เนี่ย โคตรขยะเลย…แย่กว่าอุปกรณ์เริ่มต้นของพวกตัวละครหลักอีกมั้งเนี่ย…จะว่าไป แถมการผสมผสานกันยังแบบโคตรจะไร้ความคิดเลย…ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป คงใช้อะไรไม่ได้แน่ๆ…”
ดูจากการผลิตอุปกรณ์เวทย์แล้ว น่าจะต้องเป็นการผลิตชั้นเยี่ยมแน่ๆ
สมแล้วที่เป็นตระกูลซันโจ ดูจะระวังเรื่องภาพลักษณ์พอสมควรเลยนะ
แม้ฮิอิโระคุงจะไร้ค่าขนาดนี้ แต่ก็ยังส่งของมาให้แบบนี้เนี่ย
แต่คอนโซลอันนี้นี่ โคตรจะขยะเลย ไอ้ของแบบนี้น่ะ คงเอาไว้ให้เด็กสามขวบใช้เรียนได้อย่างเดียวแหละ
แกร๊กๆ แกร๊กๆ (sfx)
“ไม่ไหวแฮะ เรามีคอนโซลไม่พอ…หลังกินข้าวแล้ว ไปดันเจี้ยนดีมั้ยนะ….เอาเป็นว่า ตอนนี้ก็พยายามเพิ่มพลังรบให้ได้อีกซักนิดก่อนเข้าเรียนก็ยังดี เพราะตระกูลซันโจจะมาตัดหัวเราตอนไหนก็ไม่รู้……”
ผมหมกมุ่นสุดๆ และยังคงเล่นกับอุปกรณ์เวทย์ไปเรื่อยๆ–
“……”
“เหวอ!?”
ผมสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงผมสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่ที่มุมห้องโดยที่ไม่พูดอะไร
เธอผู้ดูงดงามในชุดเมด เอียงคอแล้วมองมาที่ผม
“อาหารน่ะค่ะ”
“……เอ๊ะ?”
เธอชี้นิ้วไปที่ประตู
“อาหารน่ะค่ะ”
“เอ๊ะ อ๊ะ ครับ…?”
เธอหันเท้ากลับไป และหันหน้ากลับมามองแล้วพูดกับผม
“ไอ้~บ้า”
“ห๊ะ ไม่สิ เดี๋ยวนะ เป็นเมดไม่ใช่เหรอ”
เธอที่กำลังจะเดินออกไป ได้หันหน้ากลับมาด้วยหน้าตาที่รู้สึกน่ารำคาญ
“มีอะไรงั้นเหรอคะ?”
“ทำไมเมื่อกี้ถึงมาดูถูกคนเป็นนายแบบนั้นล่ะ? ไม่มีเด็กผู้หญิงที่ชอบอยู่บ้างเลยรึไง?”
“อยากจะเทศนาเรื่องความรักหรือคุยเรื่องความรักกันแน่คะ”
“มีผู้หญิงที่ชอบอยู่รึเปล่า?”
“จะเอาแบบนั้นสินะคะ”
เมดสาวคนนั้นพูดอย่างไร้อารมณ์
“ไม่มีผู้หญิงที่ชอบอยู่หรอกค่ะ ส่วนเรื่องที่ดูถูกนั่น ก็ถือเป็นการแก้แค้นที่มาตะโกนใส่เพื่อนสาวของฉันเมื่อก่อนนี้น่ะค่ะ ไอ้เจ้าหนุ่มหล่อเจ้าปัญหาเอ๊ย ว้ายๆ ถ้าอยากไล่ออกก็ลองไล่ดูสิ ไอ้เจ้าผมทองเน่า! สายสะดือแม่นายใหญ่ยิ่งกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นอีกมั้ง! หายไปจากโลกนี้ซะไป๊!”
ในเวลานั้น ถ้าจะให้พูดก็คงจะเป็นช่วงก่อนที่ผมจะมาเป็น ฮิอิโระ ล่ะนะ
ไอ้เวรนี่ ดันมาสร้างมลพิษให้กับเหล่ายูริที่อาจจะบานสะพรั่งในอนาคตซะได้…
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน ก็เป็นผู้ชายที่ทำให้อารมณ์เสียได้ตลอดเลยจริงๆ
“ไม่ว่าจะมองยังไง นั่นมันก็เป็นความผิดของฉันเองนั่นแหละนะ ฉันขอยอมรับการดูถูกของเธออย่างเต็มใจเลย หลังจากนี้ ฉันจะไปหาเด็กคนนั้นแล้วก็ขอโทษเธอนะ แต่ว่า มีอย่างหนึ่งที่อยากให้เธอจำเอาไว้นะ……ตามหาผู้หญิงที่เธอชอบให้เจอล่ะ นี่ถือเป็นสัญญากับทายาทขุนนางผู้ร่าเริงนะ”
เธอค่อยๆเอียงคอไปด้านข้าง
“…ใครคะเนี่ย?”
“ไม่สิ ก็บอกไปแล้วไงว่าทายาทขุนนางผู้ร่าเริงไง”
“ถ้าพูดถึงผู้ชายเฮงซวยที่ชื่อฮิอิโระแล้วละก็ ต้องเป็นคนที่ที่ผ่านมาไม่เคยก้มหัวให้ใครมาก่อนเลยในชีวิตนี้นะคะ”
“อะไรกัน วางใจเถอะน่า ไม่ว่าจะทำอะไร มันก็ต้องมีครั้งแรกเสมอนั่นแหละนะ อย่างฉันเอง ตอนที่ได้อ่านยูริ*** ครั้งแรก ฉันก็รู้สึกประหลาดใจมากเลยล่ะ”
ผมพาเธอที่กำลังเอียงคอด้วยความสงสัย ไปขอโทษสาวใช้ที่เป็นผู้เสียหาย……
พอขอโทษเสร็จแล้วผมก็มุ่งหน้าไปที่ดันเจี้ยนหลังจากนั้น
ก็มุ่งหน้าไปแหละนะ แต่ว่า
“เดี๋ยวสิ แล้วนี่ตามมาทำไมเนี่ย?”
“……”
ไม่รู้ทำไม แต่จู่ๆ ก็มีเมดมาเข้าปาร์ตี้ซะงั้น