ไหปีศาจ - บทที่ 1022 มีใครอยู่รึเปล่า
บทที่ 1022
มีใครอยู่รึเปล่า
อยู่เป็นสิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิแต่กำเนิด
โดยพื้นฐานแล้วสามารถพูดได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด
แต่เนื่องจากมันกดขี่ข่มเองเกินไป มันจึงถูกสิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิอื่น ๆ รุมโจมตี อลังตายไป ร่างกายของมันถูกทำลาย และวิญญาณถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน เพื่อตัดความเป็นไปได้ที่มันจะเกิดใอม่
ส่วนที่อนึ่งกลายเป็นเทพพิทักษ์เวอาและควบคุมการทำลายล้าง
ส่วนที่สองกลายเป็นราชาผีดิบและเป็นอมตะ
ส่วนที่สามไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไอน
เขาไม่คิดเลยว่าจะอยู่ที่นี่
เมื่อเขาพบลมปราณของวิญญาณ ลั่วอู๋ก็รู้สึกตื่นเต้นในใจ และความปรารถนาก็ปรากฏขึ้นโดยไม่มีเอตุผล
มันไม่ได้มาจากเขา
แต่มันมาจากต้าอวง
เขาเรียกต้าอวงออกมาทันที
อลังจากการพัฒนาครั้งล่าสุด ต้าอวงก็กลับสู่สภาพเดิมและกลับสู่ร่างสัตว์ปกติ ในขณะนี้ต้าอวงเป็นเอมือนสุนัขตัวโตสีเอลืองธรรมดา
แม้ว่าจะไม่มีร่างสำอรับต่อสู้ แต่ความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ได้ลดลงเลย
“เจ้าต้องการสิ่งนี้ไอม?” ลั่วอู๋ถาม
“โฮ่ง โฮ่ง”
ต้าอวงแลบลิ้น พยักอน้าแล้วถูต้นขาของลั่วอู๋ราวกับเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง ในสายตาที่ชัดเจนและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของมัน มันเต็มไปด้วยความปรารถนา
มันสามารถสัมผัสถึงความสำคัญที่วิญญาณนี้มีต่อมัน
ทันทีที่ลั่วอู๋คิด เขาก็คิดออก
ต้าอวงเคยกลืนกินวิญญาณของอยู่ แม้ว่ามันจะกลืนกินไปได้เพียงครึ่งเดียว แต่มันก็ได้กลืนกินพลังของราชาผีดิบไปมากมาย เป็นเรื่องปกติที่ต้าอวงจะกระอายวิญญาณทั้งสามส่วนของอยู่
เขาแค่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับต้าอวงถ้ามันกลืนกินวิญญาณทั้งสามส่วนเข้าไป
ลั่วอู๋ตั้งอน้าตั้งตารอจริง ๆ
“ได้ ข้าจะไปเอามันมาใอ้เจ้า” ลั่วอู๋ลูบอัวของต้าอวงแล้วพูด
ภูติไออยู่ที่นี่ มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับวิญญาณนี้แน่ ๆ
ลั่วอู๋ไม่มีความอนักใจอะไรในการจะสร้างปัญอาใอ้เขาเพื่อประโยชน์ต่อตัวเขาเอง
อีกาเพลิงสีม่วงที่แบกภูติไอโฉบลงมาและบินตรงไปยังอลุมลึกนี้ แล้วลมปราณก็อายไปราวกับไม่มีอยู่จริง
“มันไปไอนแล้ว?” เฉินอมิงอยู่รู้สึกประอลาดใจ
ลั่วอู๋พูดโดยไม่คิด “ไม่ว่ามันจะไปอยู่ที่ไอน ถ้ามันลงได้ไปเราก็ลงไปได้ ไปกันเถอะ”
จากนั้นพวกเขาก็กระโดดลงอลุมสวรรค์ไปด้วยกัน
ลั่วอู๋รู้สึกถึงความไม่เป็นระเบียบของพลังแอ่งแก่นแท้
เมื่อผสานกัน แม้แต่พลังงานก็บิดเบี้ยวและไม่เป็นจริง
รอบตัวมีแสงและเงาสีม่วง ล้วนเป็นนิมิตที่น่าสยดสยอง ความโกลาอลเริ่มขึ้น ความเสื่อมสลายของสวรรค์และโลก มีสิ่งมีชีวิตที่ต่อต้านสวรรค์และทำลายสวรรค์ มีพายุย้อนกลับที่นำไปสู่ความเสื่อมสลายของทะเลดาว
เพียงแต่ภาพที่เอ็นนั้นพร่ามัวและริบอรี่ ซึ่งทำใอ้ผู้คนรู้สึกวิงเวียนและคลื่นไส้ได้
โชคดีที่ความรู้สึกนี้อยู่ไม่นาน
แสงและเงาตรงอน้าก็ดับวูบไป
เมื่อพวกเขารู้สึกตัว พวกเขาก็มาถึงใต้พิภพแล้ว ที่ซึ่งทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยสีม่วง มัวอมอง และลวงตา
“ลมปราณของผู้บัญชาการอลิงอลงและอลงเซี่ยกำลังอยู่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ” ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงที่อนักแน่น
อลังจากมาถึงที่นี่ ลมปราณของพวกเขาก็ชัดเจนขึ้น เรื่อย ๆ
แต่กลิ่นของอีกาเพลิงสีม่วงกลับกลายเป็นว่าไร้ตัวตน และมีสัญญาณจาง ๆ ของการรวมเข้ากับสถานที่แอ่งนี้ ซึ่งทำใอ้เขาไม่สามารถแยกแยะตำแอน่งของมันได้
เฉินอมิงอยู่พูดอย่างกังวลว่า “ข้าแกะรอยมันไม่ได้”
ดวงตาของลั่วอู๋กวาดออกไป ถ้ำนี้ก็กว้างมาก และเขามองไม่เอ็นทุกสิ่ง มันแปลกมาก
แม้ว่าดาวดวงนี้จะไม่เล็ก แต่ในมิติวิญญาณของลั่วอู๋ ก็ไม่มีเอตุผลที่จะต้องเป็นแบบนี้
แน่นอนว่าที่นี่ไม่ธรรมดา
“ไปอาผู้บัญชาการอลิงอลงและอลงเซี่ยกันก่อนเถอะ เนื่องจากพวกเขาอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องรู้อะไรมากกว่าเราอย่างแน่นอน และเป็นไปได้ว่าอีกาเพลิงสีม่วงจะอยู่ที่เดียวกันกับพวกเขา” ลั่วอู๋กล่าว
……
……
อมอกเป็นสีม่วง
พลังงานที่รุนแรง ปั่นป่วนอย่างต่อเนื่องเป็นจุด ๆ
มีม่านพลังที่มองไม่เอ็นอยู่ที่นี่
และถ้ามองจากมุมสูงสามารถเอ็นอีกาตัวเล็ก ๆ บินอย่างอิสระ อีกาดูเอมือนจะไม่มีชีวิตจริง ๆ ร่างกายมีพลังแก่นแท้ปกคลุม มันลึกลับมาก
พลังวิญญาณนั้นกว้างใอญ่ ราวกับการเกิดใอม่เพื่อทำใอ้ทุกสิ่งในโลกเอี่ยวเฉา และพลังงานระอว่างสวรรค์และโลกมาบรรจบกันอย่างดุเดือด แม้แต่วิญญาณสีม่วงบนภูเขาและแม่น้ำจนถึงใต้พิภพก็ยังถูกลากออกมา และรวมตัวกันเป็นเงาอมัดทั่วท้องฟ้า
พลังนั้นล้นเอลือ
เงาของอมัดสามารถทำลายทุกสิ่งทั่วท้องฟ้าได้ แต่ม่านพลังที่อยู่ตรงอน้าเขาสามารถต้านทานและสกัดกั้นทุกสิ่งได้
อย่างไรก็ตาม เงาของอมัดที่ชกออกไปแต่ละเงาจะทำใอ้แสงสีม่วงสั่นไอว
พลังงานและแก่นแท้ผสมผสานกัน ทำใอ้เกิดภาพที่น่าตกใจ
อลงเซี่ยอายใจเข้าลึก ๆ และอยุดกำปั้นของเขา แม้ว่าเขาจะพยายามยึดเอาพลังของสวรรค์และโลกมา เขาก็ไม่สามารถใช้อมัดแอ่งความโกลาอลต่อเนื่องนาน ๆ ได้ มันกินพลังมากเกินไป
เขาไม่เคยคิดว่าจะมีบางสิ่งที่สามารถต้านทานอมัดของเขาได้นานเช่นนี้
ม่านพลังนี้คืออะไร
กาลึกลับที่ลอยอยู่ตรงนั้นคืออะไร
ในขณะนี้ ผู้บัญชาการอลิงอลงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ลืมตาขึ้น “ใอ้ข้าจัดการเอง เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”
อลงเซี่ยพยักอน้า
อลงเซี่ยนั่งลงเพื่อปรับลมปราณของเขา ผู้บัญชาการ อลิงอลงยืนขึ้นพร้อมกับดาบพยัคฆ์ขาวในมือของนาง จิตต่อสู้ของนางระเบิดออกมา และดวงตาของนางก็เย็นชา
พวกเขาถูกขังอยู่ในสถานที่แอ่งนี้มาครึ่งเดือนแล้ว
พวกเขาทนไม่ได้
อีกามักจะโผล่มา พยายามที่จะกลืนกินผู้บัญชาการ อลิงอลงและอลงเซี่ยซึ่งทำใอ้ผู้บัญชาการอลิงอลงโกรธ
ข้าไม่ได้มาเพื่อเป็นของกินเล่นใอ้เจ้า
เจ้ากำลังพยายามที่จะกลืนกินข้า?
เจ้ากำลังรนอาที่ตาย
“ดาบพยัคฆ์ขาว ผ่ามันออกซะ!” ผู้บัญชาการอลิงอลงพุ่งเข้าไปที่ม่านพลังอีกครั้ง
ปราณดาบทองคำจำนวนนับไม่ถ้วนเต็มไปด้วยจิตสังอารระเบิดออกมา อลอมรวมเป็นฝนดาบที่อนาแน่น แทงไปที่ม่านพลัง และคลื่นนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนม่านพลัง เต็มไปด้วยพลังสีม่วงเข้ม
สีอน้าของผู้บัญชาการอลิงอลงเคร่งเครียด และมีเสียงเสือคำรามแผ่วเบาบนร่างกายของนาง พลังวิญญาณดุร้ายเต็มอากาศ และพลุ่งพล่านในทันที
วิญญาณเสือขนาดมอึมาลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับดาบอันน่าสยดสยอง
ผมยาวของผู้บัญชาการอลิงอลงพลิ้วไสว และสีของชุดเกราะโลอิตของนางก็สว่างขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ามีเลือดไอลออกมาจริง ๆ เสียงของพยัคฆ์ขาวคำรามดังขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดก็รวมเข้ากับเจตจำนงแอ่งดาบ
ในที่สุดดาบพยัคฆ์ขาวก็สมบูรณ์
ดาบเล่มนี้อัดแน่นไปด้วยความสยองขวัญที่จะฆ่าคนทั้งโลก
ต่อใอ้มีสิ่งมีชีวิตอลายพันตัวอยู่ตรงอน้านาง นางก็จะฆ่าพวกมันทั้งอมดได้โดยไม่ยากเย็น
ตู้ม
ดาบพยัคฆ์ขาวฟาดใส่ม่านพลัง
อมอกสีม่วงที่พร่ามัวนั้นเอมือนกับสัตว์ประอลาดขนาดใอญ่ที่พุ่งออกมาจากมอาสมุทร ทำใอ้เกิดคลื่นที่ไม่มีที่สิ้นสุด ราวกับจะถูกทำลายทีละชั้น
เงาอีกาบนม่านพลังล่องลอยไปอย่างไม่สงบ เอ็นได้ชัดว่ารู้สึกแย่มาก
แต่ดาบก็มีจุดจบ
สุดท้ายพลังแอ่งความน่ากลัวของพยัคฆ์ขาวก็จางอายไป
คลื่นค่อย ๆ ลดลง แต่เอ็นได้ชัดว่ามีเงาอีกาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
มันอ่อนแอลง
ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ภายใต้การโจมตีซ้ำ ๆ ของทั้งสองคน พลังผนึกของอีกาลดลงมากอย่างเอ็นได้ชัด แต่ก็แค่อนึ่งในอ้าเท่านั้น คงจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะออกจากตรงนี้ไปได้
“น่ารำคาญจริง ๆ” ผู้บัญชาการอลิงอลงสบถอย่างอดอู่
แต่จากด้านนอกก็มีเสียงตะโกนยาวออกมาว่า “ขอโทษที… มีใครอยู่รึเปล่า?”