ไหปีศาจ - บทที่ 1033 หินเคลื่อนย้าย
บทที่ 1033
หินเคลื่อนย้าย
เนื่องจากมีการบันทึกพิกัดมิติไว้ จึงกลับมาได้ไม่ยาก
ประมาณสิบวันต่อมา พวกเขากลับมายังมิติหลัก
ความแตกตื่นจากการบุกรุกของนรกมนตราและเหตุการณ์สะเทือนขวัญของราชินีภูติค่อย ๆ สงบลงไปแล้ว
จักรพรรดิหลี่ชิกลับมาและควบคุมอาณาจักรทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ในเวลาอันสั้น เขาได้สงบการจลาจลทั่วประเทศลง
ในตอนแรก การปรากฏตัวของปรมาจารย์ปีศาจหว่านเซียงทำให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างมาก
ลั่วอู๋ต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะทำให้เรื่องมันสงบลงได้
ครั้งนี้ความหนักหนามันยิ่งกว่านั้นไปอีก ด้วยการบุกรุกของนรกมนตรา ปีศาจนับไม่ถ้วนเล็ดลอดออกมา นอกจากนี้ ราชินีภูติยังนำเทวทูตทั้งเก้า และนายพลภูติอีก 100,000 ตนมาด้วย เรียกได้ว่าน่าตกใจเลยทีเดียว
แสงภูติที่ทำให้โลกตกตะลึงสะท้อนอยู่ถึงเก้าวันและท้องฟ้าก็งดงาม
ทุกที่อยู่ในความโกลาหลอย่างควบคุมไม่ได้
เมื่อเผชิญกับภัยพิบัติวันโลกาวินาศ ปฏิกิริยาแรกของทุกคนคือการหลบหนี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสั้น ๆ จักรพรรดิหลี่ชิได้ปลอบประโลมประชาชนและทำให้วิกฤตทั้งหมดหายไป
หลังจากสอบถามเรื่องนี้แล้ว ลั่วอู๋ก็ได้รู้ว่าจักรพรรดิได้ไปที่ต่าง ๆ ด้วยตัวเองเพื่อแสดงพลังของเขา และออกคำสั่งมากมายให้ขนส่งวัสดุไปยังที่ต่าง ๆ และทำให้ประชาชนมีเสถียรภาพ บรรดาผู้ที่พยายามใช้ประโยชน์จากความโกลาหลและวางแผนทำเรื่องผิดกฎหมายจะถูกลงโทษด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาบรรลุผล
เมื่อรู้เรื่องนี้ ลั่วอู๋ก็อดไม่ได้ที่จะประทับใจวิธีการและความกล้าหาญของจักรพรรดิหลี่ชิ
ทุกอย่างจบลงแล้ว
ลั่วอู๋กลับไปยังสำนักโล่พิทักษ์และเลือกที่จะเก็บตัว
แม้ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเอ๋าเฉียนจุนโดยสิ้นเชิง แต่เขาก็พูดถูกอย่างหนึ่ง มีเพียงการมีพลังสูงสุดเท่านั้นที่จะสามารถควบคุมชะตากรรมได้
เมื่อฟ้าถล่ม คนตัวสูงต้องเป็นผู้แบบรับก่อน
แต่ลั่วอู๋เริ่มอยากเป็นคนตัวสูงคนนั้นแล้ว
หากเขาต้องการปกป้องคนรอบข้าง เขาก็ไม่สามารถฝากความหวังไว้กับคนอื่นได้ทั้งหมด
“ถ้าเจ้ามีผลไม้วิญญาณ สมุนไพรวิญญาณ และสัตว์วิญญาณที่หายาก ช่วยส่งพวกมันทั้งหมดให้ข้าที” ลั่วอู๋พูดตรง ๆ
เสี่ยวชาและอาฟูรับคำสั่ง
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป จู่ ๆ ลั่วอู๋ก็นึกถึงสิ่งที่ภูติไหพูด มนุษย์ปราบทุกเผ่า และเจริญรุ่งเรือง แต่มันเป็นประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายและมืดมนสำหรับทุกเผ่า
วิธีการฝึกพลังวิญญาณถูกสร้างขึ้นโดยภูติไหในเวลานั้น
ราชาผีดิบก็กล่าวไว้ว่าจุดประสงค์แรกของการฝึกฝนพลังวิญญาณคือการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์กับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ โดยหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะกลายเป็นความสามัคคี
แต่สิ่งนี้นำไปสู่การกดขี่อย่างป่าเถื่อนและเป็นการกดเผ่าพันธุ์อื่นเป็นทาส
ลั่วอู๋จึงกล่าวว่า “สัตว์วิญญาณไม่ต้อง เอาแค่ผลไม้วิญญาณกับสมุนไพรวิญญาณก็พอ”
เสี่ยวชาและอาฟูสงสัยเล็กน้อย แต่พวกเขาเลิกสงสัย
ในสำนักโล่พิทักษ์ คำพูดของนายน้อยเป็นเหมือนคำสั่งจากจักรพรรดิ
อำนาจของสำนักโล่พิทักษ์นั้นใหญ่แค่ไหน? ภายใต้การดำเนินการอย่างรวดเร็ว พืชวิญญาณหายากทั้งหมดจากทั่วประเทศก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าลั่วอู๋ในเวลาเพียงครึ่งวัน
นี่คือพลังของร้านค้าชั้นนำ
ลั่วอู๋ตื่นตระหนก
เขาคงคาดไม่ถึงกับฉากนี้
“ไม่เลวนี่” ลั่วอู๋นิ่งไปครู่หนึ่งและชมเชย
ทั้งสำนักโล่พิทักษ์ตื่นเต้นมาก
ดูเหมือนว่าการได้รับคำชมจากนายน้อยเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ลั่วอู๋กลับสู่โลกไหพร้อมกับพืชพรรณวิญญาณ
จากดวงดาวที่มืดมิดนั้น ลั่วอู๋ได้หยิบวัตถุวิญญาณใหม่ ๆ มามากมาย และตอนนี้เขาสามารถลองสังเคราะห์มันได้
หลังจากผ่านไปหลายปี ลั่วอู๋ก็มีเวลาเพื่อสังเคราะห์สิ่งต่าง ๆ อีกครั้ง
ตอนนี้เขาไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว
ในระดับเพชร มีความต้องการในวัตถุแปลกปลอมเพียงเล็กน้อย
ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยพลังวิญญาณและสามารถสังเคราะห์ได้ตามต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าพลังวิญญาณจะหมด ดังนั้นในเวลาเพียงไม่กี่วัน เขาก็ได้ใช้พืชพรรณวิญญาณไปทั้งหมด
มีสิ่งล้ำค่ามากมาย
ยา 57 ชนิด
เป็นระดับแปด
จากทั้งหมดได้สูตรมาหกชนิด ไม่คิดเลยว่าแม้จะผลิตตอนเป็นระดับเพชรแล้วก็ยังไม่ได้สูตรครบถ้วน
และของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ลั่วอู๋ส่งพวกมันทั้งหมดไปที่สำนักโล่พิทักษ์
สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับเขา แต่มันมีค่ามากจริง ๆ พวกมันเคยช่วยสำนักโล่พิทักษ์ในการแย่งชิงตลาดหลายครั้งในเมืองหลวงของจักรวรรดิ จนทำให้อิทธิพลของสำนักโล่พิทักษ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นอีกครั้ง
แน่นอน ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย
หินสีเข้มสองก้อน ซึ่งประกอบจากหญ้าพระจันทร์สีเงินกับเหลียงซิงเหลียนดึงดูดความสนใจของลั่วอู๋
หินสองก้อน ก้อนหนึ่งใหญ่ก้อนหนึ่งเล็ก
ก้อนใหญ่ขนาดเท่าฝ่ามือ ก้อนเล็กขนาดเท่าไข่
มันแปลกมาก
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผลที่ได้เป็นสองสิ่ง
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า ลั่วอู๋ก็พบว่าดูมันเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์เชิงมิติระหว่างหินทั้งสองก้อน ซึ่งมันถือว่าไม่ใช่ของสองชิ้นโดยสมบูรณ์
ลั่วอู๋ศึกษาพวกมันเป็นเวลานานและในที่สุดก็พบว่าพวกมันทำอะไรได้
เมื่อหินก้อนเล็กถูกบดขยี้แล้ว จะเกิดช่องมิติเล็ก ๆ ที่นำไปสู่บริเวณที่หินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ พูดง่าย ๆ คือมันเป็นหินเคลื่อนย้าย
แต่มันมีข้อจำกัดมาก
อย่างแรก ระยะห่างระหว่างหินทั้งสองก้อนไม่ควรเกิน 100 กิโลเมตร หากเกิน 100 กิโลเมตรจะใช้ไม่ได้ผล
และสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่สามารถใช้อย่างไม่จำกัดได้
ไม่เพียงแต่เป็นวัสดุสิ้นเปลืองแบบใช้แล้วทิ้ง แต่ยังมีข้อจำกัดอีกมากมาย
นี่ไม่ใช่สิ่งที่มีประสิทธิภาพสำหรับลั่วอู๋ แต่ลั่วอู๋ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งนี้ดี
“ของแบบนี้จะปล่อยออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้” ลั่วอู๋คิดกับตัวเอง
เขาตั้งชื่อมันว่า “หินเคลื่อนย้ายแม่ลูก” และสังเคราะห์อย่างรวดเร็ว 50 ชุด จากนั้นจึงมาที่ค่ายที่ตั้งขึ้นเป็นพิเศษสำหรับทีมล้างแค้น
ครั้งล่าสุดพวกเขาถูกส่งไปปกป้องเฒ่าเฉิน
พวกเขาได้รับการปลดปล่อย
ไม่จำเป็นต้องอยู่ในค่ายฝึกเดียวกัน และผลัดกันปฏิบัติหน้าที่ได้ ดังนั้นจึงค่อนข้างมีอิสระ ว่ากันว่ามีเด็กผู้ชายตัวเหม็นอยู่สองสามคนที่มีปัญหา
ลั่วอู๋ไม่สนใจเรื่องนั้น
ตราบใดที่ไม่ยอมแพ้ ก็ไม่ผิดที่จะจริงจัง
“ถ้าใครอยากออกไปก็ไปบอกกู่ฉวน” นั่นคือสิ่งที่ลั่วอู๋พูดกับพวกเขา
เมื่อได้ยินคำนี้ เด็กชายตัวเหม็นเหล่านี้ก็ตื่นตระหนกและคุกเข่าลงทีละคนเพื่อแสดงความรู้สึกจากใจจริง
ลั่วอู๋มอบทุกอย่างให้กับพวกเขา
แน่นอน ไม่มีใครอยากจากไป
แม้ว่าลั่วอู๋ไม่ได้ตั้งใจจะบังคับพวกเขา แต่เขาก็ยังรู้สึกตื้นตันมาก อย่างน้อยเขาไม่ได้เลี้ยงกลุ่มหมาป่าตาขาวขึ้นมา ดังนั้นลั่วอู๋จึงซื้อที่ดินขนาดใหญ่ในเขตชานเมืองของเมืองหลวงและตั้งค่ายที่โลกภายนอก
“ข้าขอคารวะนายท่าน”
ทันทีที่ลั่วอู๋มา ทุกคนในค่ายฝึกก็คุกเข่าลงคำนับ
ความก้าวหน้าของพวกเขาดีมาก ส่วนใหญ่ผ่านไปถึงระดับทองขั้นสูงแล้ว
“อ่าใช่ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องพาพวกเจ้าไปที่หุบเขามรณะอีกหลายครั้ง ความสามารถในการสอนผู้คนของสัตว์ประหลาดเหล่านั้นดีจริง ๆ นะ” ลั่วอู๋กล่าว
พวกเขาทั้งหมดหัวเราะอย่างขมขื่น แต่พวกเขาไม่ได้โต้แย้ง
แม้ว่าจะไม่เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับกลุ่มสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวเช่นนี้
แต่พวกเขาก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่เกินจะบรรยายเหล่านั้นที่พวกเขาสอนก็มีประโยชน์มาก
“ไร้หน้า แจกจ่ายของพวกนี้ไป” ลั่วอู๋ยื่นหินให้ไร้หน้า
แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ไร้หน้าก็ยังทำตามคำสั่งของลั่วอู๋ ส่งของไปให้คนในทีมล้างแค้น
หินแม่ลูกห้าสิบคู่ เท่ากับ 50 สมาชิกในทีม
กู่ฉวนสงสัย “นายท่าน สิ่งนี้ใช้ทำอะไร”
“ข้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องพัฒนาวิธีการโจมตีร่วมกัน มันเหมาะสำหรับพวกเจ้ามาก” ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม