ไหปีศาจ - บทที่ 1036 จัดการเทวทูตทั้งเก้า
บทที่ 1036
จัดการเทวทูตทั้งเก้า
หลี่ชิไม่คิดว่าลั่วอู๋จะมีของแบบนี้
และลั่วอู๋ไม่คิดว่าหลี่ชิจะยังติดคำสาปอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อนที่จะทำอะไร
“แก่นแท้แห่งการเป็นจักรพรรดิ?” หลี่ชิรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “นี่ของจริงรึเปล่า?”
ลั่วอู๋กล่าวว่า “ท่านหลงเซี่ยเป็นคนสรุปวิธีนี้ด้วยตัวเอง ดังนั้นไม่น่าจะเป็นของปลอม วิธีนี้ได้ผลจริง ๆ แต่วิธีนี้ก็มีข้อเสียอย่างมากเช่นกัน”
จากนั้นลั่วอู๋ก็บอกหลี่ชิถึงข้อดีและข้อเสียของวิธีนี้ทั้งหมด
หลังจากได้ฟัง หลี่ชิก็ลังเลอย่างเห็นได้ชัด
หากสามารถไปถึงระดับนี้ได้ ใครจะไม่อยาก
แต่ใครจะอยากให้วิธีการของตนเองมีข้อบกพร่องและด้อยกว่าผู้อื่นโดยธรรมชาติ?
ยิ่งหลี่ชิที่เป็นจักรพรรดิ และเขาก็ต้องการความสมบูรณ์แบบมากกว่าคนอื่น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงด้านนี้ให้เห็น แต่เขาก็คิดเสมอว่าเขาเป็นบุตรแห่งสวรรค์ เขาไม่เพียงแต่เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์มังกรเร้นกายเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ที่ต้องคำสาปอีกด้วย แทบจะไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะมาถึงระดับปัจจุบันได้
โดยธรรมชาติแล้ว คนแบบนี้มักไม่เต็มใจที่จะใช้ทางลัดเพียงเพื่อไปเป็นแค่ระดับจักรพรรดิเทียม
แต่
ชีวิตก็มีความสำคัญ
มันช่างน่าอับอาย
หลี่ชิเงียบ
ต่อให้เขาจะยอมรับวิธีนี้ แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกนานในการเป็นจักรพรรดิเทียม
“ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง” หลี่ชิพูดช้า ๆ
ลั่วอู๋ไม่ได้พูดอะไร
ผลลัพธ์นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวเองและโชคชะตา
และในที่สุด หลี่ชิบอกเหตุผลสำคัญเรียกลั่วอู๋มาที่วัง “ข้าจะไปอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ เจ้าไปกับข้าเถอะ”
ลั่วอู๋ตกใจมาก
ในที่สุดก็จะไปแล้ว
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจียโรวไม่ตกอยู่ในอันตราย และนางก็ยังไม่ลืมทุกอย่างในอดีต แต่เขาก็ยังกังวลอยู่
“ท่านแน่ใจหรือ ฝ่าบาท” ลั่วอู๋ถาม
หลี่ชิส่ายหัว “เรื่องแบบนี้จะเอาอะไรมามั่นใจ? แม้ว่าข้าเคยรู้จักหยู่หลงเป็นอย่างดี แต่เวลาก็เปลี่ยนไปแล้ว และข้าก็ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่อีกครั้ง…”
ลั่วอู๋ทำอะไรไม่ถูก
ไม่มีทาง
เมื่อเขารู้ถึงเหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้น เขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่รู้สึกว่าโลกมันยุ่งเหยิง
เป็นการยากที่จะเข้าสู่อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะในขณะนี้
เนื่องจากการบุกรุกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เทวทูตทั้งเก้าจึงปิดกั้นมิติโดยตรง แม้ว่าพวกเขาจะมีพิกัดมิติ แต่ก็ไม่สามารถเปิดช่องมิติได้
แต่ยังดีที่ลั่วอู๋มีประสบการณ์
เขาจำพิกัดด้านนอกมิติของอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะได้
พวกเขาบุกเข้าไปในมิติด้วยกัน เข้าสู่ความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด และในที่สุดก็มาถึงมิติที่อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะตั้งอยู่อยู่
ท้ายที่สุด หลี่ชิก็เป็นชายคนหนึ่งที่เร่ร่อนอยู่ในความว่างเปล่าไร่ที่สิ้นสุดมาหลายปี เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแก่นแท้แห่งมิติ เขาทำลายม่านพลังของมิติอย่างเงียบ ๆ และพาลั่วอู๋เข้าไป
อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะยังคงเหมือนเดิม
แต่อารมณ์ของลั่วอู๋แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
การเดินทางครั้งนี้อันตรายมาก
แต่เขาก็มาแล้ว
“ฝ่าบาท ข้าคิดว่าท่านควรพาซวนชิงหยู่มาด้วยดีกว่า” ลั่วอู๋กระซิบ
หลี่ชิตอบว่า “มันไม่มีประโยชน์หรอก ต่อให้ข้าอยากพาเขามา แต่ถ้าเขาไม่ยอมปรากฏตัวก่อน ข้าก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน”
“เขาจะยอมปรากฏตัวเมื่อไหร่?”
“เมื่อถึงเวลาต้องปรากฏตัว เขาก็จะปรากฏตัวเอง”
รองประธานสำนักหลี่หวู่หยวนก็บอกคล้าย ๆ กัน
ลั่วอู๋ยักไหล่
ช่างเป็นคนลึกลับจริง ๆ
จุดประสงค์ของการเดินทางนี้คือตามหาราชินีภูติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนตัว หลี่ชิกลายเป็นมังกรทองและพาลั่วอู๋ไปที่วังภูติ
เสียงของมังกรทำให้หูหนวก
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะเห็นมังกรทองขนาดใหญ่บินข้ามท้องฟ้าซึ่งทำให้ค่อนข้างตกใจ
ท้ายที่สุด ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมังกรในอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ
เหนือก้อนเมฆ แสงภูติส่องแสงบาง ๆ มีวังที่งดงามนับไม่ถ้วน ศักดิ์สิทธิ์และเป็นประกาย
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมปราณของมังกรแก่นแท้ เทวทูตทั้งเก้าก็ปรากฏตัวพร้อมกัน
แรงกดดันมหาศาลได้พัดออกมา
ภูตินับไม่ถ้วนตามมาและพร้อมรับคำสั่ง
“ใครกัน?” โดมู่เซียนจุนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเปลวไฟสีแดงที่น่ากลัวปกคลุมทั่วร่างกายของนาง ปราณของนางเดือดพล่านและไฟก็ลุกโชนไปทั่วท้องฟ้า
มังกรทองกลายเป็นชายร่างสูงที่มั่นคง
“เป็นเจ้านั้นเอง!”
เทวทูตทั้งเก้าแสดงท่าทีโกรธเคืองและเมินลั่วอู๋ไปโดยตรง
ปัจจุบัน มนุษย์ผู้นี้เป็นตัวการที่ทำให้ราชินีภูติต้องเก็บตัวและทำให้จิตใจสงบเป็นระยะ ๆ
พวกเขาต้องการฉีกหลี่ชิเป็นชิ้น ๆ ทันที
“ใช่ข้าเอง” ดวงตาของหลี่ชิกวาดออกไปและพูดด้วยน้ำเสียงที่ลุ่มลึก “ข้าต้องการพบหยู่หลงนางอยู่ที่ไหน”
“บังอาจ! เจ้าไม่สมควรเรียกชื่อนาง” เทวทูตลำดับที่สี่คำรามอย่างดุเดือด
เขาขยายร่างและกลายเป็นยักษ์ ก้อนหินหนาในมือของเขากลายเป็นภูเขาลูกใหญ่ซึ่งปกคลุมทั้งท้องฟ้าและบดบังดวงอาทิตย์ จากนั้นภูเขาลูกนั้นก็ตกลงมาอย่างแรง
หลี่ชิไม่กลัวและมีแสงสีทองส่องบนร่างกายของนาง จากนั้นหมัดของเขาก็มีพลังปราณมังกรที่ทรงพลังวนอยู่รอบ ๆ และพลังปราณมังกรแก่นแท้ก็ทะลวงผ่านห่วงของมิติและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
ตู้ม!
ปราณมังกรแก่นแท้ได้ทำลายภูเขาโดยตรง
และเจตจำนงแห่งมังกรก็กระจายไปทั่วทุกมุมของวังภูติ
หลี่ชิคิดว่าหยู่หลงจะปรากฏขึ้น แต่นางก็ไม่ปรากฏตัว
“มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้สิ” หลี่ชิขมวดคิ้ว
เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะปรากฏตัวทันทีและเล่นงานเขา
“โอหัง!”
เมื่อเผชิญกับปราณมังกรอาละวาด เทวทูตทั้งเก้าต่างโกรธเคือง
พวกเขาใช้ทักษะของพวกเขาทีละคนเพื่อโจมตีหลี่ชิโดยไม่ออมมือใด ๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีความคิดเกี่ยวกับตัวตนของหลี่ชิแม้แต่น้อย
แต่ละคนระเบิดพลังออกมาไม่มีที่สิ้นสุด
ลั่วอู๋ก้าวถอยหลังอย่างเร่งรีบ
ตอนนี้เขาทนพลังของเทวทูตทั้งเก้าไม่ได้
แต่หลี่ชิไม่คิดจะถอย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตต่อสู้ เมื่อเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล สายเลือดมังกรแก่นแท้ของเขาก็เดือดพล่าน
เป็นเพียงว่าน่าจะยังมีคำสาปในเลือดมังกรแก่นแท้ ซึ่งยังไม่สามารถล้างออกไปได้
“หลังจากเอาชนะพวกเจ้าแล้ว หยู่หลงน่าจะปรากฏตัว” คำพูดของหลี่ชิเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง
เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะแพ้ใครยกเว้นระดับจักรพรรดิ
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเทวทูตทั้งเก้าก็ตาม
ช่างสมเป็นมังกร
หลี่ชิลอยอย่างช้า ๆ เหนือท้องฟ้าและปราณมังกรแก่นแท้ห้าตัวออกมาจากร่างกายของเขา พลังปราณมังกรแก่นแท้ทั้งห้านี้เหมือนกับมังกรแก่นแท้ตัวจริงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ปล่อยพลังมังกรขนาดใหญ่ออกมา
เทวทูตทั้งเก้าไม่ยอมทน
เจ้ากล้าดีอย่างไรที่จะเมินพวกเราอย่างนี้
ทั้งเก้าจับมือกัน เกิดประกายแสงนับไม่ถ้วน และนิมิตทุกรูปแบบ ล้วนเป็นการสำแดงและผสมผสานของเต๋าและธรรม ทำให้เกิดฉากอันวิจิตรตระการตา
แม้ว่าเทวทูตทั้งเก้าจะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่มีทางที่จะสะกดพลังวิญญาณมังกรแก่นแท้ได้
หลี่ชิจัดการพวกเขาทีล่ะคน
มิติพังทลาย สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน และคลื่นกระแทกที่บ้าคลั่งของพลังปราณมังกรแก่นแท้ทั้งห้าได้ทำลายนิมิตทั้งหมดบนท้องฟ้า
“ระดับเพชรสูงสุดต่างกับระดับกึ่งจักรพรรดิขนาดนี้เลยรึ? เราสู้เขาไม่ได้เลย”
เทวทูตทั้งเก้าผู้น่าสงสาร
เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาก็ถูกผู้บัญชาการหลิงหลงปราบอย่างรุนแรง
ตอนนี้พวกเขาก็พ่ายแพ้ต่อหลี่ชิ
มันน่าเศร้ามาก
เทวทูตทั้งเก้าปลิวออกไปทีละคน แต่หลี่ชิจ้องไปที่วังภูติและงงงวย
ทำขนาดนี้แล้ว หยู่หลงก็ยังไม่คิดจะปรากฏตัว?
มันแปลกเกินไป
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?