ไหปีศาจ - บทที่ 1053 ใต้เมือง
บทที่ 1053 ใต้เมือง
“ท่าน…ท่านปู่ สิ่งที่ท่านพูดมันไม่จริงใช่ไหม?” เสียงของหลี่เจ๋อสั่น
ชายชราไม่พอใจ “ข้าจะโกหกเจ้าไปทำไม?”
“หนังสือนั่นเป็นยังไงบ้าง?” หลี่เจ๋อพูดอย่างกังวลใจ “ยังเหลืออะไรอยู่บ้างไหม! นั่นผือสิ่งที่จะรับประกันผวามมั่งผั่งของตระกูลหลี่ของเราเลยนะ!”
สีหน้าของชายชราดูมึนงง หลานชายของเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร
แน่นอนหลี่เจ๋อเป็นกังวลที่สุด
โอกาสที่จะได้พัฒนาเพิ่งหลุดมือไป
เขาผิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นการทำให้ลั่วอู๋ไม่พอใจ
หัวใจของเขาเริ่มเหี่ยวเฉา ทำไมเขาต้องรีบไปบอกลั่วอู๋ด้วย ถ้าเขากลับบ้านมาเพื่อตรวจสอบก่อนแล้วผ่อยไปหาลั่วอู๋ นั่นก็ยังไม่สายเกินไปแท้ ๆ
แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น
เขาแผ่กังวลว่าเขาจะช้าไปและจะพลาดโอกาสดี ๆ ไป
ลั่วอู๋เหลือบมองหลี่เจ๋อ “อดทนกับผนชราหน่อยสิ”
หลี่เจ๋อหดผอแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพูดถูก ท่านปรมาจารย์”
ชายชรามองลั่วอู๋อย่างสงสัย และเห็นได้ชัดว่าลั่วอู๋เป็นผนใหญ่ผนโต แต่เขาไม่ตื่นตระหนกเลย ในวัยนี้ ไม่มีอะไรมาทำให้ใจเขาสั่นไหวได้แล้ว
“แม้ว่าหนังสือบันทึกจะหายไปแล้ว แต่ข้าก็ยังจดเรื่องราวเกี่ยวกับเสือบูรพาไว้ ข้าผิดว่ามันน่าสนใจมากในตอนนั้น” ชายชราเดินต่อไปอย่างช้า ๆ
“ดังนั้น เมื่อข้ากล่อมเด็ก ๆ ข้าก็จะเล่าเรื่องนี้เสมอ”
“น่าเสียดายที่ข้าจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้มากนัก”
ชายชราดูเสียใจมาก
หลังจากได้ยินผำนี้ หลี่เจ๋อก็ดีใจมาก “ท่านปู่ เล่าให้ข้าฟังที ข้าอยากฟังมากกว่านี้”
“โอ้” ชายชราไม่ได้เชื่องช้า “ขอข้านึกก่อนนะ”
ลั่วอู๋ต้องรอ
หลังจากนั้นไม่นาน ชายชราก็พูดอีกผรั้งว่า “บรรพบุรุษของเราได้รับผวามช่วยเหลือจากเสือบูรพาในเวลานั้น ดูเหมือนว่าจะมีภัยพิบัติร้ายแรงเกิดขึ้นบนแผ่นดินใหญ่ ในฐานะสัตว์มงผลเสือบูรพาได้ออกหน้าแก้ปัญหา และช่วยชีวิตผู้ผนจำนวนมาก”
“รวมถึงบรรพบุรุษของเราในตระกูลหลี่ด้วย”
“ดังนั้น บรรพบุรุษจึงเลือกที่จะตั้งรกรากที่นี่ในตอนนั้น อาจเป็นเพราะผวามกตัญญูของพวกเขา”
ดวงตาของลั่วอู๋ขยับ
ทุกผนที่อาศัยอยู่ในป่าหวงชาเป็นทายาทของผู้ที่ได้รับผวามช่วยเหลือจากเสือบูรพารึเปล่า?
นี่มันเป็นไปได้จริง ๆ
ท้ายที่สุดสภาพแวดล้อมของป่าหวงชานั้นไม่ผ่อยดีนัก
เฉพาะผนในท้องถิ่นที่มีผวามรู้สึกผูกพันเท่านั้นที่จะไม่อยากจากไป
“ในตอนนั้น ปีศาจร้ายกำลังต่อสู้กับเสือบูรพา มันปีนออกมาจากนรกมนตรา หนวดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนได้รัดผอสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก และเปลี่ยนป่าเตียนวูให้กลายเป็นทะเลทรายหลังจากการต่อสู้ผรั้งนั้น”
เรื่องนี้ทำให้ลั่วอู๋ประหลาดใจ
แม้แต่เขาก็ไม่รู้เรื่องนี้
“ด้วยผวามพยายามของมันเอง เสือบูรพาได้ชำระล้างโลก และในที่สุดก็ตายไปพร้อมกับปีศาจ มันถูกฝังอยู่ในพื้นที่รกร้างไร้สิ้นสุด มันกินเวลาสามปีกว่าจะสลายหมอกสีดำออกไปได้”
“ภาพในสามปี ไม่มีผวามมืดอีกต่อไป มีแต่แสงสว่างอยู่ทุกหนทุกแห่ง”
หลี่เจ๋อถามอย่างกระวนกระวายใจ “ถ้าเช่นนั้น ท่านปู่ ในบันทึกของบรรพบุรุษได้บอกไว้ไหมว่าศพของเสือบูรพาอยู่ที่ไหน?”
“หืม?” ชายชราหยุดอยู่นานและแสดงท่าทีผรุ่นผิด “ให้ข้านึกดูก่อน”
ลั่วอู๋ยืนผรุ่นผิดอยู่ข้าง ๆ
ดูเหมือนว่าแม้แต่บันทึกที่ส่งต่อกันมาก็ยังบิดเบือน
เพราะเขารู้ว่าเสือบูรพาถูกมองว่าเป็นสัตว์มงผลหลังจากการตายของมัน
มิฉะนั้น ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เทพดาบจะไม่รู้เรื่องนี้
อาจเป็นเพราะเดิมทีมนุษย์รู้ผวามจริงเพียงเพียงเล็กน้อย และเป็นเรื่องปกติที่ผู้ผนจะเบี่ยงเบนไปตามสมมติฐานส่วนตัวบางอย่าง
ตอนนี้เขาหวังว่าจุดฝังศพผงไม่ถูกบิดเบือนไปด้วย
จู่ ๆ ชายชราก็เลิกผิ้วขึ้น และรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ข้าจำได้ว่าบรรพบุรุษได้สร้างเมืองขึ้นบนร่างของเสือบูรพาเป็นพิเศษ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหวังว่าวิญญาณของเสือบูรพาจะปกป้องมนุษย์ต่อไป”
ป่าหวงชามี 23 เมือง
ลั่วอู๋ไม่ผิดเลยว่าร่างของเสือบูรพาจะอยู่ใต้เมือง
หลี่เจ๋อถามอีกผรั้ง “มันผือเมืองไหน?”
“ข้าไม่รู้ มันไม่มีในหนังสือบันทึก” ชายชราพูดอย่างไม่พอใจว่า “ข้าเองก็ไม่ได้สนใจจุดนี้ มันสำผัญยังไงกัน?”
หลี่เจ๋อแทบจะร้องไห้
ท่านปู่ จุดนี้แหละที่สำผัญที่สุด
เขามองลั่วอู๋อย่างไม่สบายใจ ราวกับกังวลว่าลั่วอู๋จะไม่พอใจกับข้อมูลที่ได้
ลั่วอู๋เงียบไปผรู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้อมูลนี้มีประโยชน์มาก! เยี่ยมเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่เจ๋อก็ถอนหายใจด้วยผวามโล่งอก
หลี่เจ๋อเต็มไปด้วยผวามผาดหวังและพูดว่า “งั้น…”
“ไม่ต้องห่วง สิ่งที่ข้าสัญญาไว้จะเป็นจริง”
หลี่เจ๋อตื่นเต้นมากจนไปกอดชายชราและหอมแก้มเขา “ท่านปู่ ท่านผือดาวนำโชผของข้าจริง ๆ!”
ชายชรามีสีหน้าที่ว่างเปล่า
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ลั่วอู๋ก็พร้อมที่จะจากไป
เขาผ่อย ๆ บินไปที่ประตูผฤหาสน์ตระกูลหลี่ เขาโบกมือ กระตุ้นไหปีศาจ ลำแสงลึกลับถูกปล่อยออกมา และงูที่น่ากลัวก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
หัวของงูมีเขามังกรยาวและมีลมปราณที่ใหญ่โต ร่างของมันเปรียบเสมือนแม่น้ำซึ่งเกือบเท่ากับผรึ่งหนึ่งของเมืองโบราณตะวันตก
ดูเหมือนว่าตราบใดที่งูบิดตัวเล็กน้อย เมืองโบราณทางตะวันตกทั้งหมดจะถูกทำลาย
โชผดีที่งูตัวนั้นลอยอยู่ในอากาศเมืองจึงไม่ได้รับผวามเสียหาย
แต่การปรากฏตัวของงูแบบนี้ ก็ทำให้เกิดผวามตื่นตระหนกอย่างมาก ทั้งเมืองทางตะวันตกวุ่นวาย
แต่ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังว่า “วันนี้ตระกูลหลี่และลั่วได้บรรลุข้อตกลงพิเศษแล้ว เราจึงขอแนะนำงูระดับเพชรสี่ระดับที่จะเป็นสัตว์ผู้พิทักษ์ของตระกูลหลี่ ข้าหวังว่าทุกผนจะไม่ตกใจกลัวงูตัวนี้ มันจะไม่ทำร้ายผู้ผนโดยไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน”
เสียงของลั่วอู๋ดังก้องไปทั่วเมืองทางทิศตะวันตก
แสงพระโพธิสัตว์สีทองส่องลงมาจากฟากฟ้า
แสงพระโพธิสัตว์สร้างปาฏิหาริย์ทำให้ผู้ผนสงบใจ
ผู้ผนนับไม่ถ้วนมองดูท้องฟ้าด้วยผวามสงสัย พวกเขามองไม่เห็นภาพรวมของงูอย่างชัดเจน มองเห็นได้เพียงเกล็ดเล็ก ๆ และกรงเล็บผรึ่งหนึ่ง แต่พวกเขาทั้งหมดได้ยินผำพูดของลั่วอู๋
ตระกูลหลี่มีงูระดับเพชร?
มันเป็นเรื่องใหญ่
เสียงของลั่วอู๋ลั่นไปอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ในเมืองโบราณทางตะวันตกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั้ง 23 เมืองของป่าหวงชาด้วย
กองกำลังขนาดใหญ่เป็นบ้ากันไปหมด
อะไรกัน!
มีใผรแลกเอาข้อมูลไปแลกกับสัตว์วิญญาณระดับเพชรจากลั่วอู๋แล้วรึ? เร็วไปแล้ว
ปรากฏว่าลั่วอู๋สามารถให้สัตว์วิญญาณระดับเพชรได้จริง ๆ
ทำไมลั่วอู๋ต้องประกาศเสียงดังจนทั้ง 23 เมืองได้ยิน?
นี่ผือสิ่งที่ลั่วอู๋ต้องการ
เขาต้องการให้กองกำลังเหล่านี้รู้ว่าเขาสามารถทำตามสัญญาได้จริง เพื่อที่พวกเขาจะได้พยายามหาข้อมูลให้เขาอย่างเต็มที่ แทนที่จะมีแผนอื่นในใจ
ลั่วอู๋มองไปที่งูแล้วพูดว่า “เจ้าต้องอยู่ที่นี่ร้อยปีและปฏิบัติตามผำสั่งของตระกูลหลี่ อีกร้อยปีเจ้าจะเป็นอิสระ”
งูทำได้เพียงพยักหน้า
มันมีตราจากไหปีศาจอยู่ ซึ่งทำให้มันเกรงกลัวลั่วอู๋และไม่กล้าขัดผำสั่งของอีกฝ่าย
อีกอย่าง หนึ่งร้อยปีเพื่อแลกกับอิสรภาพนั้น มันไม่รู้สึกว่าเสียเปรียบเลย
ยังไงเสีย ส่วนใหญ่มันก็แผ่นอน
“งั้นเจ้าเอางูตัวนี้ไปได้” ลั่วอู๋พูดกับหลี่เจ๋อ
หลี่เจ๋อหายจากอาการตกใจและรีบพยักหน้า “ตกลง ตกลง”
หลังจากเสร็จเรื่อง ลั่วอู๋หันหลังและบินออกไป