ไหปีศาจ - บทที่ 11 ไม่มีอะไร
บทที่ 11 ไม่มีอะไร
หลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอมาทั้งวัน
ลั่วอู๋ก็สวมเครื่องแบบที่สะอาดเรียบร้อยแล้วเดินทางมาที่ศาลาไป่หยู่
“ท่านเจ้าของร้าน” คนงานชายทั้งสามคนกล่าวทักทายพร้อมโค้งคารวะให้ เมื่อเห็นดังนั้น ลั่วอู๋ ก็พยักหน้าตอบ เขาตรวจสอบสภาพและสินค้าร้านค้า จากนั้นก็เอนตัวลงนั่งแบบสบาย ๆ ในตำแหน่งของเจ้าของร้าน เพื่อดื่มชาในขณะที่หลี่หยินแปรงขนของแมวผี
แมวผีนั้นยังอยู่ในวัยที่เด็กมาก เนื้ออุ้งเท้าของมันเป็น สีชมพู ขนเรียวยาวและเรียบลื่น ดวงตาสีอำพันดูน่ารัก และดูเหมือนมันจะคลอเคลียติดหลี่หยินแจ เช่นเข้าไปนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนของหลี่หยิน
เวลาครึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นลั่วอู๋ก็ลุกขึ้น “หลี่หยินออกไปกับข้าสิ”
“เจ้าค่ะ”
ลั่วอู๋ใช้โอกาสนี้พาหลี่หยินไปเที่ยวสำรวจเมืองแห่งความพินาศ
ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน 23 เมืองของหวงชา เมืองแห่งความพินาศนั้นไม่ได้รกร้างอย่างที่คิด แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ห่างไกล แต่มันก็มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์
ลั่วอู๋เลือกร้านที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งความพินาศ
ร้านนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของทีมหวงชา แค่ชื่อของตึกก็บอกชัดแล้ว – หอคอยหวงชา ดูเหมือนว่าทุก ๆ เมืองในสังกัดเมืองทั้ง 23 ของหวงชา ต่างก็มีหอคอยหวงชา
หอคอยหวงชานั้นมีขนาดใหญ่และมีการตกแต่งภายในเต็มไปด้วยสไตล์ต่าง ๆ ตามภูมิภาค ผู้คนเดินเข้าและออกอย่างไม่รู้จบ
“มีอะไรให้ช่วยไหมขอรับ?” คนงานชายคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น
“เรามีบริการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์วิญญาณขอรับ”
ลั่วอู๋พูดเบา ๆ “ข้าแค่อยากจะเดินดูรอบ ๆ”
หลังจากนั้นลั่วอู๋เดินไปรอบ ๆ ร้าน เขาดูอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นไม่นานเขาเลือกซื้อขวดยาและออกจากหอคอยหวงชา
หลังจากออกจากตัวอาคาร ลั่วอู๋ก็ถอนหายใจออกมา
หลี่หยินไม่เข้าใจ “นายน้อยทำไมต้องถอนหายใจงั้นหรือเจ้าค่ะ”
“ช่วงที่ข้านั่งขายของอยู่ที่ศาลาไป่หยู่ มันดูเหมือนธุรกิจจะขายไปได้ไม่ค่อยสู้ดีนัก ข้าขายยาได้ไม่กี่ขวดในครึ่งวัน ก็จริงอยู่นะที่ศาลาไป่หยู่มีขนาดเล็ก แต่ธุรกิจก็ไม่น่าจะขายได้น้อยขนาดนี้ พอข้าได้ไปเดินดูข้างในหอคอยหวงชา ข้าเข้าใจถึงเหตุผล “
“มียาหลายชนิดในหอคอยหวงชา ที่ราคาเกือบเท่ากันกับของศาลาไป่หยู่ จึงไม่มีใครอยากถ่อมาถึงที่ศาลาไป่หยู่ เพื่อซื้อยาแบบเดียวกัน”
โดยเฉพาะยาวิญญาณมีขายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนสัตว์วิญญาณ หรือฝึกฝนพลังวิญญาณเองก็จำเป็นต้องใช้ยาจำนวนมาก
“นอกจากนี้เรามีสัตว์วิญญาณเพียงแค่ในระดับทองแดง สำหรับขายในศาลาไป่หยู่ แต่หอคอยหวงชานั้นมีถึงระดับเงิน ซึ่งแตกต่างจนหาที่เปรียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หอคอยหวงชาได้รับการสนับสนุนและรับประกันชื่อเสียงจากทีมหวงชา กลับกันทางศาลาไป่หยู่ ของเราเองก็มีชื่อเสียงในราชวงศ์ หยินหลงทั้งหมด แต่ในพื้นที่นี้เป็นของพวกหวงชา ชื่อของทีมหวงชาจึงมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากกว่าศาลาไป่หยู่ของเรา ทีมล่าสัตว์เองก็ยินดีที่จะขายผลผลิตของตนให้กับกลุ่มหวงชา มากกว่าจะไปขายที่ศาลาไป่หยู่ของเรา เว้นว่าเราจะยอมซื้อในราคาที่สูงกว่า ซึ่งถ้าเราทำเช่นนั้นเราก็จะไม่มีผลกำไร มันยากจริง ๆ สำหรับเจ้าของร้านคนเก่า ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือในฐานะผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณของเขาละก็ศาลาไป่หยู่สาขานี้คงจะล้มละลายไปแล้ว ข้าไม่น่าแปลกใจเลยที่มักจะมีคนมาแนะนำตระกูลของเราอยู่เสมอ ว่าให้ถอนธุรกิจในพื้นที่ของหวงชาออก มันช่างดูไร้ประโยชน์จริงๆ”
ลั่วอู๋ เข้าใจได้ในทันทีว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จในการทำงานที่นี่ของเขายังอีกยาวไกลยิ่งนัก กลับกันหลี่หยินนั้นดูเหมือนจะไม่กังวลอะไร ใบหน้าที่งดงามของนางเต็มไปด้วยความจริงจังแม้ว่าขนตาของนางจะสั่นระริกก็ตาม
“ข้าเชื่อว่านายน้อยจะต้องสามารถทำให้ ศาลาไป่หยู่ ประสบความสำเร็จ ได้อย่างแน่นอนแน่นอนเจ้าค่ะ”
“ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ” ลั่วอู๋หัวเราะ
จากนั้นลั่วอู๋ก็มุ่งหน้าไปที่ร้านขายยา
ในร้านขายยาลั่วอู๋ได้ซื้อสมุนไพรมาเป็นจำนวนมาก ประมาณหนึ่งร้อยชนิดแต่ละชนิดประมาณ 50 ต้นเป็นอย่างต่ำและเขาไม่ได้เลือกที่จะซื้อสมุนไพรพวกที่แพงกว่าแต่อย่างใด ลั่วอู๋ เขาไม่ได้ซื้อมันมาเลยด้วยซ้ำ
แม้ว่าที่เขาซื้อไปจะเป็นสินค้าราคาถูก แต่มันก็ถือเป็นสมุนไพรวิญญาณ ทั้งหมดจึงมีค่าใช้จ่ายรวมแปดสิบหินวิญญาณ
“นายน้อย เราได้มีเงินมาก พอที่จะซื้อสมุนไพรเยอะ ๆ ได้ ท่านต้องการทำยาเม็ดวิญญาณขึ้นมาเองหรือเจ้าค่ะ”
ลั่วอู๋ส่ายหัว
จริงๆแล้วนักเล่นแร่แปรธาตุเป็นสาขาหนึ่งของผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณ พวกเขาส่วนใหญ่จะรู้วิธีการเล่นแร่แปรธาตุ แต่มันก็ยากมากที่จะประสบความสำเร็จในด้านนั้น ระดับการเล่นแร่แปรธาตุของผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณนั้นเป็นตัวแปรที่ไม่แน่นอน
แม้ว่าลั่วอู๋จะรู้วิธีการแปรธาตุเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ เขาจึงแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ
“ไม่ต้องกังวลว่าข้าจะไม่มีเงิน” ลั่วอู๋กล่าว
แน่นอนว่าเขาไม่ได้วางแผนที่จะใช้เงินในร้านด้วย อย่างน้อยก็จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากเจ้าของร้านคนก่อน
แต่เขาไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเลย
ด้วยพลังของไหปีศาจแล้ว เขาไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องเงินเลยด้วยซ้ำ
เขานำสมุนไพรทั้งหมด ใส่ลงไปในไหปีศาจ แล้วลั่วอู๋ก็กลับไปที่ศาลาไป่หยู่ โดยมีหลี่หยินเดินตามมา ทุกอย่างในร้านกลับเป็นปกติ เห็นได้ชัดว่าจนบัดนี้เจ้าของร้านคนก่อนก็ยังไม่กลับมา
ลั่วอู๋รีบตรงกลับไปที่ห้องเขา เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้กลับเข้าสู่โลกของไหอีกครั้ง
เขาปรับระดับการหายใจของเขา โดยใช้วิชากังฟู เพื่อให้เขาสามารถไปถึงสถานะสมาธิที่ดีที่สุด
แม้ว่าเขาเพิ่งจะกลายเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ระดับทองแดงอีกต่อไปแล้ว แต่ในทุก ๆ ด้านของร่างกายของเขาได้รับการเสริมขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ค่าพลังวิญญาณของเขาไปสูงได้ถึง 300
“รวมองค์ประกอบ” ลั่วอู๋ตะโกนขึ้นไปบนอากาศ
ส่วนต่อประสานสำหรับรวมองค์ประกอบนั้นปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือการสังเคราะห์ผสมผสานอย่างต่อเนื่องและรับแต้มเซียน
เพราะการใช้งานความสามารถอื่น ๆ ของไหเล่นแร่แปรธาตุเช่นการเสริมสร้างการพลัง การฝึกฝนและอื่น ๆ ทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องใช้แต้มเซียน
ลั่วอู๋ สุ่มโยนหญ้าวิญญาณลงไปสองใบ
หญ้าห้ารส / ดอกไม้หัวใจสีม่วง
[ได้รับ: หญ้าห้ารสหนึ่งดอก,แต้มเซียน + 2]
ลั่วอู๋ดูข้อมูลการกลืนกิน ในครั้งแรกเขาที่ได้ลองที่ใช้สมุนไพรสามัญที่เป็นของท้องที่หวงชา
เขาใช้พลังงานวิญญาณไป 5 แต้ม
ส่วนหญ้าห้ารสเมื่อทำการสังเคราะห์มัน เขาต้องใช้พลังวิญญาณ 8 แต้ม กล่าวคือถ้าลั่วอู๋มีพลังวิญญาณเต็มที่ เขาจะสามารถสังเคราะห์ได้ถึง 37 ครั้งติดต่อกัน
ลั่วอู๋ โยนสมุนไพรอีกสองชนิดลงไปและคราวนี้เขาก็เปลี่ยนไปเป็นอีกสองชนิด
[ได้รับ: หญ้าโรลัน , แต้มเซียน + 2]
ดำเนินการต่อ
[ได้รับ: ดอกไม้กระดูก , แต้มเซียน + 2]
[ได้รับ: ข้าวบาร์เลย์ขั้นสูง, แต้มเซียน + 2]
……
ดำเนินการต่อ
……
ดำเนินการต่อ
จนกว่าพลังวิญญาณของเขาจะหมดลง ลั่วอู๋สามารถสร้างหญ้าวิญญาณทั่วไปพวกนี้ขึ้นมาได้เรื่อย ๆทว่าเขาก็ยังสร้างหญ้าวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่านี้ขึ้นมาไม่ได้ในตอนนี้
แน่นอนว่าค่าแต้มเซียนของเขาขึ้นมา 74 แต้มแล้ว
“ นั่นมันแย่เกินรึเปล่าเนี่ย ? ข้าไม่ใช่คนโชคดีงั้นเหรอ?” ลั่วอู๋สงสัยขึ้นมาครามครัน
หรือว่าเป็นเพราะเขาได้ใช้ความโชคดีของเขาทั้งหมดไปแล้ว เพื่อทำให้หญ้ากลายร่างเป็นแมวผี
ขนาดหญ้าสมุนไพรธรรมดาเขายังสามารถทำเป็นหญ้าวิญญาณได้ แล้วทำไมเขาเอาหญ้าวิญญาณมาสังเคราะห์ให้ระดับสูงขึ้นไม่ได้
“ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าดวงข้ามีแค่นี้”
ลั่วอู๋เริ่มฝึกสมาธิอีกครั้งและเริ่มฟื้นฟูพลังของเขา
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ อาจเป็นเพราะความคาดหวังในใจของลั่วอู๋ ดูเหมือนว่ามันจะมีส่วนสำคัญเป็นพิเศษและความเร็วของการเรียนรู้เองก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
ประมาณหกชั่วโมงต่อมาลั่วอู๋ฟื้นพลังทั้งหมดของเขาจนเต็มเปี่ยม
“ดำเนินการต่อไป!”
ลั่วอู๋ ลองใส่หญ้าลงไปอย่างต่อเนื่อง
[รับ พืชไร้ดอก แต้มเซียน + 2]
……
[รับ ดอกไม้พระจันทร์, แต้มเซียน + 2]
……
[รับ หญ้ากก, แต้มเซียน + 2]
อีกสามสิบเจ็ดครั้ง
ลั่วอู๋ลูบหน้าผากของเขา เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย
ทว่าโดยที่ไม่ได้คาดคิด มีเพียงหญ้าวิญญาณสองชนิดเท่านั้นที่รวมกันได้โดยไม่ต้องพึ่งตัวแปรพิเศษอย่างเข้ากัน
เขารู้ได้ทันทีเลยว่าการสร้างแมวผีผลาญดวงเขาไปมากแค่ไหน
การใช้ความสามารถในการสังเคราะห์ไม่เพียง แต่สิ้นเปลืองพลังวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีภาระมากมายในการที่ต้องใช้พลังวิญญาณตามมา การสังเคราะห์อย่างต่อเนื่องหลายครั้งทำให้ลั่วอู๋เวียนหัวเล็กน้อย
“หยุดพักก่อนดีกว่า” ลั่วอู๋หายใจหอบ เขาผ่อนร่างกายแล้วตั้งสมาธิและปิดตาลง
เขาซื้อสมุนไพรมามากมายจริง ๆ แล้วเขาก็ต้องการที่จะได้รับแต้มเซียนจากมัน อย่างไรก็ตามเขาทดลองเพิ่มมากกว่านี้ เพื่อดูว่าจะมีผลอื่น ๆ ในความสามารถสังเคราะห์นี้อีกไหม
หากมีสิ่งใดใหม่ ๆ ปรากฏออกมาละก็ มันคงจะน่าประหลาดใจมาก
แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ ลั่วอู๋ สับสนเล็กน้อย