ไหปีศาจ - บทที่ 218 เกิดอะไรขึ้น
บทที่ 218
เกิดอะไรขึ้น
หลังจากที่มู่เฉิงถูกฉูจงฉวนใส่ความ เขาก็ไม่สามารถข่มใจลืมความอัปยศนั้นได้
และนั่นยังทำให้เขาไม่กล้าไปติดต่อกับนักล่าในกลุ่มพันธมิตรอีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนฝ่ายในทันที เขายอมแสดงตัวตนของตัวเอง จากนั้นเริ่มโฆษณากระจายไปในหมู่พันธมิตรล่าสังหารว่าเขาเป็นคนทรยศ
ดังนั้นกลุ่มคนที่ยังไม่โดนพันธมิตรล่าสังหารเล่นงาน หรือหลบหนีจากพันธมิตรล่าสังหารมา จึงได้จัดตั้งพันธมิตรต่อต้านกลุ่มพันธมิตรล่าสังหารขึ้น
ในหมู่พวกเขาเองก็มีกลุ่มที่ออกมาจากฝ่ายพันธมิตรล่าสังหารอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะสามารถแยกแยะผู้คนทั่วไปจากพันธมิตรล่าสังหารได้ จากนั้นก็ดำเนินการตามล่ากำจัดเหล่าพันธมิตรล่าสังหาร
การตอนแรกที่เป็นเพียงการต่อสู้รายบุคคลเพื่อช่วงชิงแผ่นหยกกัน ตอนนี้กลับกลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างสองกลุ่มพันธมิตรชั่วคราว
“เข้าใจผิดแล้ว”
“พวกเราไม่ได้มาจากกลุ่มพันธมิตรล่าสังหาร” ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะตะโกน
แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา
ประการแรกเป็นเพราะว่าพวกเขารู้ความคลื่นวิญญาณลับของพันธมิตรล่าสังหารจริง ๆ
ประการที่สองคือพวกเขานั้นมีแผ่นหยกอยู่มากมาย
แม้ว่าจะเป็นความเข้าใจผิด แต่คนของกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหารก็ไม่คิดจะสนใจ เพราะยังไงพวกเขาก็อยู่ในพื้นที่ของการฆ่าฟันเพื่อแย่งชิงกันอยู่แล้ว ในเมื่อโอกาสมาถึงตรงหน้าใครจะไม่ชิงลงมือก่อน
“รีบไปจากที่นี่กันเร็ว !” ลั่วอู๋ตะโกน
หลี่หยินเรียกเสี่ยวไป่ออกมาให้มันใช้ทักษะทะลวงมิติ พากลุ่มลั่วอู๋ทั้งสี่ออกจากวงล้อมไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็บินจากไป
“พวกมันหายไปไหนแล้ว ?”
“พวกมันหายตัวไปแบบนั้นได้ยังไงกัน”
คนในกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหารต่างสับสน
หากอีกฝ่ายไม่รู้และไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดเสี่ยวไป่จากการใช้ทักษะ [ทะลวงมิติ] ได้
หลังจากพวกเขาหลบออกมา เหวินเสี่ยวก็ได้จ้องมองไปที่เสี่ยวไป่ด้วยสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นก็หันไปมองลั่วอู๋ “เมื่อกี้มันทักษะ ทะลวงมิติ งั้นเหรอ?”
ลั่วอู๋เข้าใจได้ในทันที
อีกฝ่ายคงกำลังคิดว่าเขาจะมีความสัมพันธ์บางอย่างภูตไห
“ข้าเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรไม่ใช่เหรอที่ข้าจะปรับแต่งสัตว์วิญญาณให้มีทักษะระดับสูงของสัตว์วิญญาณมนตราได้โดยบังเอิญ เจ้ามีปัญหาอะไรงั้นเหรอ ?” ลั่วอู๋ถาม
เหวินเสี่ยวกะพริบตาและหุบปากลงในทันที
แม้ว่ากระต่ายแห่งแดนสาบสูญจะมีขนาดเล็กและอ่อนแอ แต่มันก็มีทักษะอันยอดเยี่ยมอย่างก้าวพริบตา มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มันจะสามารถเชี่ยวชาญทักษะทะลวงมิติได้ แม้ว่าจะเป็นทักษะของสัตว์วิญญาณมนตรา แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ยอมรับไม่ได้
“เอาล่ะ พวกเราจะยังไงกันต่อไปดี ดูเหมือนว่าพวกเราจะไปเข้ากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็คงจะไม่ได้แล้ว” ฉูจงฉวนถามพลางครุ่นคิด
พันธมิตรล่าสังหารเต็มไปด้วยบุคคลอันตราย และพวกเขาจะไม่ร่วมมือกับคนแปลกหน้าอีก
อีกฝั่งหนึ่งก็มีมู่เฉิงอยู่ในกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหาร เขาต้องเล่าเรื่องของพวกลั่วอู๋ให้กระจายไปทั่วกลุ่มไปแล้วแน่ พวกเขาคงจะไปเข้าร่วมกับทางนั้นไม่ได้แน่ ๆ
อาจจะยังมีบางคนที่ไม่ได้เข้าร่วมกับทั้งสองฝ่าย แต่พวกเขาก็ไม่มีวิธีใดที่จะรวบรวมคนพวกนั้นเข้าด้วยกันได้
ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้ามีวิธีทำให้ทั้งสองฝ่ายสู้กันเองไปก่อนได้ละก็”
มันดูจะเป็นจินตนาการที่เกินจริงไปสักหน่อย
เพราะพวกเขาเหล่านั้นเองก็คงไม่ได้พอโง่ที่จะมัวมาทะเลาะกันเอง แล้วปล่อยให้คนอื่นมาหยิบฉวยผลประโยชน์ไปหน้าด้าน ๆ
“ข้าเกรงว่ามันจะเป็นเรื่องยาก” ฉูจงฉวนเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน
จู่ ๆ เหวินเสี่ยวก็อาสาขึ้นมา “ข้ามีวิธีที่สามารถล่อให้พันธมิตรล่าสังหารเริ่มการโจมตีได้ แต่ข้าไม่รับประกันว่าต่อจากนั้นจะเป็นยังไงต่อนะ”
“เจ้าทำอะไรได้ล่ะนั่น?” ลั่วอู๋สงสัยอยากรู้อยากเห็น
เหวินเสี่ยวกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม “เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงข้าจะพยายามทำให้พันธมิตรล่าสังหารมารวมตัวกันโจมตีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหารเอง”
จากนั้นเหวินเสี่ยวก็หันศีรษะและเดินหายไปในป่าทึบ
ลั่วอู๋และ ฉูจงฉวนมองหน้ากันอย่างงุนงง
เหวินเสี่ยวเป็นคนลึกลับเสมอ อย่างไรก็ตามในเมื่อเขากล้าพูดเช่นนั้น ก็แปลว่าเขามั่นใจว่าสามารถทำได้ตามที่พูด
ปัญหาก็คือกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหารนั้นคงไม่โง่พอที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่
……
……
วันต่อมา
ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่สองวันสำหรับการทดสอบในรอบที่ 2 ผู้คนในกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหาร ดูเหมือนจะเริ่มหมดความอดทนกันไปเรื่อย ๆ
นั้นก็เพราะว่าจำนวนแผ่นหยกของพวกเขาส่วนใหญ่นั้น ยังห่างไกลจากจำนวนที่คาดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับการผ่านการทดสอบรอบที่สอง
ต่างจากพันธมิตรล่าสังหาร พวกเขานั้นเริ่มออกล่าเป็นกลุ่มตั้งแต่ในวันแรกของการทดสอบ
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าพวกเขาเริ่มจู่โจมกลุ่มพันธมิตรล่าสังหารตั้งแต่วันแรก
สำหรับตอนนี้แล้วถ้าหากอีกฝ่ายไม่โผล่ตัวออกมา พวกเขาก็คงไม่มีทางได้ปะทะกัน
ดังนั้นผู้คนของกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหารจึงวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
มู่เฉิงก็เช่นกัน เขามีแผ่นหยกทั้งหมดเพียงแค่เก้าแผ่น ซึ่งได้รับมาจากตอนอยู่ในพันธมิตรล่าสังหาร
เมื่อจัดตอนจัดตั้งกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหาร ในการดึงดูดทุกคนให้เข้าร่วม เขาได้สัญญาไว้ว่าทุกคนจะรับแผ่นหยกกันอย่างเพียงพอ แต่ตอนนี้มันน่าเศร้ามาก
เพราะตัวเขายังไม่ได้ฆ่าคนของพันธมิตรล่าสังหารไปมากเท่าไหร่ เขาจึงไม่ได้รับแผ่นหยกเพิ่มเลย
เงาปรากฏในดวงตาของมู่เฉิง “ถ้าข้าไม่ผ่านล่ะก็ ก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวข้าเอง เพราะต่อให้ข้ายังอยู่กับพันธมิตรล่าสังหารผลก็คงไม่ต่างกัน”
วันนี้เขาตื่นขึ้นมาฝึกซ้อมตามปกติ และเตรียมตัวออกไปจากถ้ำเพื่อยืดเส้นยืดสาย แต่แล้วเขาก็พบเข้ากับบางสิ่งที่แปลกประหลาด
ดูเหมือนจะมีบางอย่างส่องแสงสะท้อนอยู่ใกล้กับโขดหินไม่ไกลนัก
เมื่อเขาเข้ามาใกล้หัวใจของเขาก็แทบจะเต้นผิดจังหวะ
แผ่นหยก!
ตรงนี้มีแผ่นหยกที่ถูกทิ้งเอาไว้เยอะมาก.
มู่เฉิงมองไปรอบ ๆ ทันใด ราวกับพยายามมองหาร่างของคนอื่น น่าเสียดายที่เขาล้มเหลวและไม่เห็นใครเลย
นี่คือถ้ำที่เขาใช้ฝึกฝน คนอื่น ๆ ไม่มีทางตามเขามาที่นี่แน่
“นี่มันความจริงใช่ไหมเนี่ย ?” มู่เฉิงหายใจเข้าลึก ๆ และเริ่มนับจำนวนแผ่นหยกเหล่านั้น
แผ่นหยก 45 แผ่น
แม้จะยังไม่ไว้วางใจซะทีเดียว แต่มันก็ทำให้เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้
หากมีแผ่นหยกเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เขาจะผ่านการทดสอบในรอบที่สอง แต่เขาอาจเป็นอันดับหนึ่งได้เลยด้วยซ้ำ
เขายังคงรักษาความเงียบขรึมแล้วครุ่นคิด แผ่นหยกเหล่านี้มาจากที่ไหน? ของปลอม? มีใครกำลังล้อเล่นกับข้างั้นเหรอ?
มู่เฉิงตรวจสอบมันอย่างรอบคอบ
ปรากฏว่ามันเป็นของจริง
เป็นแผ่นหยกของการทดสอบเฉียนหลงอย่างจริงแท้แน่นอน
นี่มันเป็นแผนของใครรึเปล่า? ความคิดนี้แวบเข้ามาในใจของเขา แต่ก็ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ที่นี่แม้แต่คนเดียว
เอาเถอะ มันไม่สำคัญหรอก
ด้วยแผ่นหยกมากมายขนาดนี้ เขาก็ไม่ต้องไปสนใจทั้งพันธมิตรล่าสังหารและกลุ่มต่อต้านพันธมิตรล่าสังหาร
มู่เฉิงหยิบแผ่นหยกขึ้นมาจากนั้นเรียกนกอินทรีปีกเหล็กซึ่งเป็นสัตว์วิญญาณของเขาออกมา
นกอินทรีปีกเหล็กปรากฏตัวขึ้นมา มันมีดวงตาอันแหลมคมและปีกขนาดใหญ่ มันรีบพามู่เฉิงบินขึ้นไปบนฟ้าไกลในทันที
“มู่เฉิง เจ้าไปทำอะไรมา ทำไมถึงมีแผ่นหยกมากมายขนาดนั้น” บางคนพบว่าหัวหน้าของพวกเขา มู่เฉิงกำลังจะบินจากไป
นอกจากนี้ยังเห็นว่าเขามีแผ่นหยกจำนวนมากอยู่ในมือ ซึ่งยังเก็บไปไม่หมด
“ขอโทษด้วย แต่ข้าไม่มีเวลาเล่นกับพวกเจ้าแล้ว ลาก่อน”
นกอินทรีปีกเหล็กกระพือปีกบินขึ้นไปสูงกว่าเดิม ราวกับการหมุนตัวของตัวพายุเฮอริเคนอันรุนแรงพามู่เฉิงบินขึ้นเหนือท้องฟ้าสีคราม
“รีบมาตรงนี้เร็วทุกคน มู่เฉิงหนีไปแล้วพร้อมกับแผ่นหยกเป็นโหลเลย” ชายคนนั้นร้องอุทาน
“อะไรนะ!”
“ไอ้บ้านั่น มันบอกว่า มันมีแผ่นหยกแค่ 9 แผ่นไม่ใช่รึยังไง”
“มันหลอกพวกเราให้ไปทำงานให้กับมันชัด ๆ”
“รีบปล่อยสัตว์วิญญาณที่บินได้ ไปจับตัวมันมาเร็ว”
บนพื้นดินเต็มไปด้วยความปั่นป่วน
อย่างไรก็ตามมู่เฉิงนั้นได้มองลงมาที่พื้น ด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความสุขบนริมฝีปากของเขา
ความเร็วของนกอินทรีปีกเหล็กนั้นสูงมาก และเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตามมันมาได้ทัน
แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มของเขาก็หายไป
เพราะจู่ ๆ ก็มีคนดักรอเขาอยู่เยอะมาก คนเหล่านี้มีลมปราณอันแรงและพวกเขาขี่สัตว์วิญญาณที่มีทักษะในการบิน มองมาที่เขาอย่างโลภโมโทสัน
พันธมิตรล่าสังหาร!
พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมถึงมาดักหน้าเขาที่หนีมาได้อย่างเหมาะเจาะเช่นนี้
“มู่เฉิง ต้องมาที่นี่ตามที่คาดไว้จริง ๆ ด้วย เจ้าคงขโมยแผ่นหยกและทรยศเพื่อนร่วมกลุ่มมาสินะ เจ้านี่มันเลวทรามจริง ๆ!” ชายสวมหน้ากากคำราม
ทุกคนในพันธมิตรล่าสังหารต่างกัดฟันกรอดกับมู่เฉิง แน่นอนว่าดวงตาของพวกเขาไม่เคยห่างไปจากแผ่นหยก
“ฆ่ามัน!”
กลุ่มพันธมิตรล่าสังหารพุ่งเข้าใส่ในทันที
มู่เฉิงตกอยู่ในอาการหนาวสั่น เขารู้สึกราวกับว่ากำลังจะถูกขัง ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้นกอินทรีปีกเหล็กพาเขาหนีไปทันที
ทว่าในพริบตาต่อมา
เขาก็รู้สึกว่าพลังวิญญาณทั้งร่างกายของเขาเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แมลงกินวิญญาณสีทองขนาดเท่ารวงข้าวสองสามตัวโผล่ออกมาจากร่างกายของเขา
นี่มันอะไรกัน! ในสายตาของมู่เฉิงแสดงถึงความรู้สึกหวาดกลัว
แมลงกินวิญญาณสีทองขนาดเท่ากับเมล็ดข้าวพุ่งเจาะเข้าไปในร่างของนกอินทรีปีกเหล็ก
นกอินทรีที่มีปีกเหล็กส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและความเศร้าโศก และร่วงตกลงมา จนมู่เฉิงที่ไม่ได้เตรียมตัว ล้มลงไปกับพื้นอย่างเจ็บปวด
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่?”
มู่เฉิงคำรามด้วยความเจ็บปวด
Comments for chapter "บทที่ 218 เกิดอะไรขึ้น"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Mintny12
อ่านไปถอนหายใจไป ปกติก็ชอบอ่านแนวเทพเซียน สัตว์วิเศษอยู่แล้ว อ่านมาเยอะ แต่เจอเรื่องนี้ต้องคิดใหม่ พยายามจะฝืนอ่านต่อก็ต้องอ่านแบบถอดสมอง ไม่มีความมันส์ ไม่มีความสนุก ไม่มีความตื่นเต้นเร้าใจ เหนื่อยใจกับความโง่ของพระเอก ไม่มีไหวพริบ ไม่มีเล่เหลี่ยมในการเอาตัวรอด มีแต่ความมั่นหน้าแบบโง่ๆ แล้วอะไรไปรักกับสาวใช้อีก ไม่มีไหมึงตุยไปตั้งแต่ตอนแรกละ