ไหปีศาจ - บทที่ 259 แสดงไพ่ตายทั้งหมด
บทที่ 259 แสดงไพ่ตายทั้งหมด
ลั่วอู๋ไม่แน่ใจว่าหนิงปิงหลันนั้นเอาจริงรึเปล่า เพราะแม้แต่หนิงหลิงหลิงเองก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
“ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” ลั่วอู๋ลังเล
หนิงปิงหลันพูดด้วยเสียงเรียบ “ถ้าเจ้าสามารถฆ่าข้าได้ ข้าก็ขอยอมตายจริง ๆ เสียดีกว่า”
“ยังไงก็ระวังไว้ด้วยล่ะ”
ลั่วอู๋คิดว่าอีกฝ่ายนั้นเอาจริงแน่ เขาจึงเรียกต้าหวงและผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะออกมา
ต้าหวงคำรามขึ้นไปบนฟ้าและเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขขนสีเงินตัวใหญ่อย่างรวดเร็ว มันยืนอย่างสง่างามและเต็มไปด้วยลมปราณ
ด้านผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะนั้นแสดงลายเส้นลึกลับที่เชื่อมต่อกันบนปีกอันแตกต่างกันทั้งสองข้าง แสดงให้เห็นถึงพลังวิญญาณอันน่าอัศจรรย์ ซึ่งทำให้ผู้คนไม่กล้ามองมันเป็นเวลานาน
หนิงปิงหลันได้แต่ประหลาดใจ
สัตว์วิญญาณสองตัวนี้เป็นสัตว์วิญญาณแบบไหนกัน?
นางไม่รู้จักพวกมันทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์อันยาวนานของนางในการต่อสู้ นี่ทำให้นางตื่นเต้นมาก ยิ่งนางได้พบกับสัตว์วิญญาณที่แปลกใหม่มากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งจะได้พบกับการต่อสู้ที่ตื่นตาตื่นใจมากขึ้นเท่านั้น
หนิงปิงหลันผิวปาก จากนั้นร่างกายก็เริ่มเปล่งคลื่นพลังแปลก ๆ ออกมา
ลั่วอู๋พูดอย่างรีบร้อน “การผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณ อย่างงั้นเหรอ ? จริงจังมากไปแล้ว”
ถ้าลั่วอู๋เดาไม่ผิดหนิงปิงหลันนั้นกำลังใช้การผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่านางกำลังเอาจริงเอาจัง เพราะการใช้ทักษะสภาวะนี้นั้นกินพลังวิญญาณเป็นจำนวนมากมหาศาล
“อย่าคิดมากน่า ข้าไม่ได้ใช้การผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณหรอก” หนิงปิงหลันยิ้ม
ลั่วอู๋จ้องมองไปที่หนิงปิงหลัน แล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พร้อมที่จะเริ่มต่อสู้
เนื่องจากมีพลังแห่งพันธสัญญา เขาจึงไม่จำเป็นต้องพูดออกคำสั่ง
ผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะแสดงใช้ทักษะ ผงอัมพาตปล่อยผงสีทองกระจัดกระจายไปในอากาศ
ขณะเดียวกัน ต้าหวงก็ใช้ทักษะพิธีศพกางเขนคลั่งเพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามสับสน
หนิงปิงหลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ช่างเป็นทักษะที่อ่อนแอเสียจริง เจ้าไม่คิดจะแสดงความสามารถออกมาให้ข้าประทับใจสักหน่อยรึไงกัน”
เขาเห็นมือของหนิงปิงหลันโบกไปมาอย่างรวดเร็ว ราวกับมือของนางนั้นได้กลายเป็นเชือกเหล็กสีเงิน โดยเชือกเหล็กสีเงินนั้นได้โบกสะบัดด้วยความถี่สูงจนสร้างพายุขนาดใหญ่ขึ้นมา
แรงลมอันรุนแรงได้กลั่นตัวเป็นใบมีดครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดในทันที
ลั่วอู๋ประหลาดใจ “เห็นได้ชัดว่าไม่มีลมปราณของสัตว์วิญญาณอยู่ในร่างกายของท่านและไม่มีเงาของสัตว์วิญญาณอยู่ด้านหลัง ท่านใช้ทักษะแบบนี้ได้อย่างไร?”
“ ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าจะสื่อ ?” หนิงปิงหลัน กล่าวเบา ๆ “นี่เป็นสิทธิพิเศษของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูง แม้ว่าสัตว์วิญญาณจะไม่อยู่รอบ ๆ ข้าก็สามารถยืมพลังของสัตว์วิญญาณได้ผ่านทางพันธสัญญา”
ตามที่คาดไว้หนิงปิงหลันได้บรรลุถึงระดับการเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงแล้ว
ผงอัมพาตถูกพัดออกไปไกลและร่างเงาของต้าหวงถูกใบมีดลมฟันทิ้งทั้งหมด
ใช้งานทักษะ [ก้าวพริบตา]
ทันทีที่ร่างเงาหายไป ต้าหวงก้ปรากฏตัวที่ด้านหลังของ หนิงปิงหลัน มันอ้าปากใช้ทักษะ [ความมืดมิดกลืนกิน]
“ก็แค่กลวิธีแบบเด็ก ๆ ” หนิงปิงหลันแสดงท่าทางเยาะเย้ย “เจ้าคิดจะใช้วิธีนี้เพื่อเอาชนะสองพี่น้องตระกูลเอ๋างั้นเหรอ?”
ร่างของหนิงปิงหลันเปล่งประกาย จากนั้นนางก็หายตัวไปในทันทีที่จุดดำซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดพลังของความมืดมิดกลืนกินปรากฏขึ้น
มันคือทักษะ [ก้าวพริบตา]
มีความรู้สึกเย็นวาบในหัวใจของลั่วอู๋
การหายตัวไปของผู้แข็งแกร่งเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัว จริง ๆ
“พั่บ”
แส้สีเงินพาดผ่านช่องว่างที่ลั่วอู๋ไม่ทันสังเกตเห็น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะโจมตีมาจากด้านไหน แต่ทันใดนั้นพื้นด้านข้างของลั่วอู๋ก็ถูกทุบทิ้งหายไป
ลั่วอู๋เหงื่อแตกไหลลงมาอย่างเคร่งเครียด
ถ้าเขาโดนแส้นี้เข้าไปล่ะก็ เขาคงจะตายลงตรงนั้น
“เจ้าต้องใจเย็นกว่านี้ เมื่อสถานการณ์เริ่มไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเจ้า” เสียงของหนิงปิงหลันดังก้องขึ้นมา “เมื่อเจ้าตื่นตระหนก เจ้าจะไม่สามารถกลับมาควบคุมสถานการณ์ได้อีก ถ้าเจ้าไม่สงบสติอารมณ์ก่อนแล้วพยายามรู้สึกถึงตำแหน่งของข้า หากข้าไปถึงตัวเจ้า เจ้าก็จะตาย”
ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดอย่างจริงจัง “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ”
“ขอบคุณงั้นเหรอ ? ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก จงพยายามโจมตีข้าต่อไป เอาไพ่ตายทุกอย่างของเจ้าที่จะใช้เพื่อท้าทายสองพี่น้องตระกูลเอ๋าออกมาซะ ไม่งั้นเจ้าไม่มีทางหาโอกาสเล่นงานข้าได้แน่” หนิงปิงหลันกล่าว “การหลบซ่อนและสุขุมนั้นเป็นทางเลือกที่ดี แต่อย่าลืมว่าสิงโตจะต่อสู้กับกระต่ายอย่างสุดกำลังเสมอ”
ลั่วอู๋พยักหน้า
ลั่วอู๋ได้รับประโยชน์มากมาย ในการเผชิญหน้ากับนางเพียงสองถึงสามครั้ง
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะกลับมาเป็นฝ่ายโจมตีล่ะ”
ดวงตาของลั่วอู๋จับจ้องไปที่ร่างของอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
ผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะโบกปีกขนาดใหญ่ของมันและลอยหยุดอยู่กลางอากาศ เปลวไฟสามชนิดค่อย ๆ ควบแน่น
[นกอมตะเริงระบำ]
[ไฟทมิฬ]
[ไฟแห่งความว่างเปล่า]
เปลวไฟทั้งสามชนิดพวยพุ่งออกมา พวกมันมีอานุภาพร้ายแรงระดับที่สามารถทำลายท้องฟ้าและผืนดิน ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัว
แม้จะมีประสบการณ์ในการต่อสู้อันยาวนาน แต่ หนิงปิงหลันก็ยังต้องตกใจ สัตว์วิญญาณตรงหน้านางมีเปลวไฟสามแบบที่แตกต่างกันในตัว สัตว์วิญญาณระดับทองที่สามารถควบคุมเปลวไฟได้สามชนิดนั้นเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายของนางไปมาก
นอกจากนี้ทางต้าหวงเองก็อ้าปากปล่อยสายฟ้าขนาดใหญ่ออกมา เสียงของมันดังอึกทึกราวกับจะฉีกแผ่นดินเป็น เสี่ยง ๆ
“เจ้านั้นเชี่ยวชาญทักษะธาตุสายฟ้าด้วยอย่างนั้นหรือ?” ดวงตาของหนิงปิงหลันแสดงให้เห็นถึงความยอมรับในพลังที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังคงเป็นสายตาที่ไม่ชัดเจนซะทีเดียว
ในทันใดนั้นพลังวิญญาณทั้งหมดก็หยุดพลุ่งพล่านและทุกอย่างก็สงบลง
เปลวไฟทั้งสามชนิดถูกดับลง และพลังของสายฟ้าร้องก็สลายไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทักษะระดับ SS [พื้นที่สมบูรณ์]
มันสามารถเปลี่ยนพลังวิญญาณในพื้นที่ไปตามความคิดของผู้ใช้ได้
ลั่วอู๋ถอนหายใจ
นี่มันแข็งแกร่งเกินไป
ด้วยทักษะทั้งชุดก่อนหน้านี้ที่ต้างหวงและผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะใช้ออกไป หากเผชิญหน้ากับคนที่อ่อนแอกว่าเขาหรือระดับเท่ากัน ศัตรูก็น่าจะแหลกสลายไปโดยที่ยังไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย
“พวกมันเป็นสัตว์วิญญาณที่ดีมาก ศักยภาพของพวกมันทั้งสองเทียบได้กับสัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูง ๆ เจ้ามีโอกาสราว ๆ 10% ที่จะชนะข้า” หนิงปิงหลันกล่าว
ลั่วอู๋พูดไม่ออก
ปรากฏว่าโอกาสของเขาจะชนะในหัวของอีกฝ่าย ยังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
“ข้าอ่อนแอในมุมมองของท่านหรือไม่?” ลั่วอู๋ถาม
หนิงปิงหลันยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ช่องว่างระหว่างเจ้ากับสองพี่น้องตระกูลเอ๋า ไม่สามารถอุดได้ด้วยทักษะระดับ S หลาย ๆ อย่าง หากเจ้าได้ไปถึงมิติวิญญาณระดับทองในตอนนี้ และได้รับการฝึกฝนศักยภาพถึงในระดับทองจริง ๆ จนแข็งแกร่งเพียงพอ เจ้าก็อาจจะสามารถได้อีกราว ๆ 20%”
ต่อให้เพิ่มไปอีก 20% มันก็แค่เพียง 30%
“เฮ้ ถ้าทักษะระดับ S ไม่สามารถอุดช่องว่างนั้นได้แล้วทักษะระดับ SS ล่ะ?” ลั่วอู๋ถาม
ในที่สุดหนิงปิงหลัน ก็แสดงรอยยิ้มให้เห็นด้วยรอยยิ้มที่ดูถากถาง “ทักษะระดับ SS มีค่าแค่ไหน เจ้าเข้าใจดีใช่ไหม ? แม้แต่สัตว์วิญญาณที่มีศักยภาพระดับทองขั้นสูงยังมีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่สามารถเชี่ยวชาญทักษะระดับ SS ได้ ต่อให้สัตว์วิญญาณของเจ้าตอนนี้มันดีแค่ไหน มันก็ยังเป็นแค่ระดับทอง ต้น ๆ ”
“แล้วทักษะระดับ SS อันล้ำค่าเช่นนั้น สามารถอุดช่องว่างได้หรือไม่ล่ะ ?” ลั่วอู๋ยังคงถามต่อ
หนิงปิงหลันตอบ “ทักษะระดับ SS มักจะมีพลังอันลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้แฝงอยู่ หากเจ้าสามารถเชี่ยวชาญทักษะระดับ SS ได้จริง ๆ โอกาสที่เจ้าจะชนะก็คงเพิ่มขึ้น 20%”
ลั่วอู๋หัวเราะออกมา
“ต้าหวง ผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะ แสดงพลังที่แท้จริงของพวกเจ้ากันหน่อยสิ”
ต้าหวงอ้าปากออกจากนั้นก็ปล่อยออร่าพลังมังกรออกมา บรรยากาศอันน่าหวาดกลัวรวมตัวกัน พื้นดินสั่นสะเทือนส่วนท้องฟ้าทั้งลมและเมฆต่างก็เปลี่ยนสี
ขณะเดียวกันผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะก็บินสูงขึ้นไปในอากาศ มันแสดงปีกแห่งความมืดออกมา ทันใดนั้นแสงสีดำอันบริสุทธิ์ก็กระจายออกไป เปลี่ยนทุกอย่างให้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด
ทักษะระดับ SS [ลมหายใจมังกร]
ทักษะระดับ SS [มิติเวทมนตร์]
พลังแห่งการทำลายล้างขั้นสูงสุดและพลังในการควบคุมขั้นสูงสุด
ในที่สุดดวงตาของหนิงปิงหลัน ก็เปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย นางเองก็เป็นผู้ครอบครองทักษะระดับ SS ดังนั้นนางจึงรู้คุณค่าของทักษะระดับนี้ดี
นางคิดไม่ถึงจริง ๆ
ว่าสัตว์วิญญาณระดับทองต้น ๆ ทั้งสองตัวจะมีทักษะระดับสูงเช่นนี้ได้