ไหปีศาจ - บทที่ 340 ว่าที่ภรรยาปากร้ายที่บ้าน
บทที่ 340 ว่าที่ภรรยาปากร้ายที่บ้าน
บทที่ 340
ว่าที่ภรรยาปากร้ายที่บ้าน
ใช่แล้ว คนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือองค์หญิงเจียโรวไม่ผิดแน่
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
องค์หญิงเจียโรว มาที่นี่ได้อย่างไรกัน? ลั่วอู๋ยังคงจำได้ว่าอีกฝ่ายเคยบอกตัวเองว่าองค์จักรพรรดิไม่ยอมให้นางได้เข้าร่วมสำนักเฉียนหลง
“สวัสดีทุกคน” องค์หญิงเจียโรว กล่าวทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม
ผู้คนจากสำนักหม่าเฉินไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เนื่องจากองค์หญิงเจียโรวแห่งราชวงศ์มังกรเร้นกายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา ทว่าคนของสำนักเฉียนหลงต่างก็รู้ดีถึงน้ำหนักในฐานะที่องค์หญิงเจียโรวมี
นางเป็นพระราชธิดาอันเป็นที่รักยิ่งขององค์จักรพรรดิ หลายคนต่างรู้สึกว่าองค์จักรพรรดินั้นให้ความสำคัญกับองค์หญิงเจียโรวมากกว่าองค์ชายอื่น ๆ
พวกเขาตื่นเต้นมาก
หลายคนที่ได้เข้าร่วมเทศกาลเสริมอายุยืนยาว ต่างก็รู้ดีว่าองค์จักรพรรดิมีเจตนาที่จะหาพระสวามีให้กับนาง
ถ้าหากได้เป็นลูกเขยขององค์จักรพรรดิล่ะก็ จะต้องได้รับผลประโยชน์มากมายนับไม่ถ้วนตามมาแน่นอน นี่ยังไม่รวมความเป็นจริงที่ว่าองค์หญิงเจียโรวเป็นผู้หญิงที่สวยมากอีกด้วย
แต่มันค่อนข้างจะยุ่งยาก
เนื่องจากมีข่าวลือว่ากันว่าองค์หญิงเจียโรวนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลั่วอู๋ มีคนเคยเห็นลั่วอู๋เข้าและออกจากสวนลอยฟ้าขององค์หญิงเจียโรวได้อย่างอิสระ
และลั่วอู๋เองก็เป็นคนที่มีความนิยมมากที่สุดในสำนักเฉียนหลง มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปยั่วยุสอบถามเขา
องค์หญิงเจียโรวเดินตรงไปที่ ลั่วอู๋ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เฮ้ คงไม่ได้คิดว่าข้าจะมาที่นี่ด้วยใช่ไหมล่ะ ?”
“เจ้ามาที่นี่ทำไม?” ลั่วอู๋อยากรู้อยากเห็น
“ก็เพราะท่านพ่อนะสิ บอกว่าข้าต้องมาตามหาพระสวามีที่นี่” องค์หญิงเจียโรวลดเสียงลงแล้วพูดกระซิบว่า “มันเป็นการแกล้งทำเป็นว่าพวกเราไม่สามารถบรรเทาคำสาปได้ ปล่อยข่าวปลอม ๆ ให้แพร่กระจายไปก่อน อีกอย่างข้าเองก็เบื่อแล้วกับการที่มีเหล่าองค์ชายกลุ่มนั้นกลุ่มนี้มาหา เจ้าเชื่อไหมว่ามีบุตรชายขององค์ชายที่อายุน้อยกว่าข้า 4 ปี ซื้อดอกไม้หายากจำนวนมากมาวางพวงหรีดให้ข้า นั่นทำให้ข้าโกรธมากเลยล่ะ”
ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากได้ยินเรื่องนี้ มันแปลกประหลาดมาก
ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ องค์หญิงเจียโรว ต้องการหาทางแอบมาที่สำนักเฉียนหลง ซึ่งเป็นสถานที่ที่แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้
“ทำไมถึงเผยเรื่องที่บรรเทาคำสาปได้แล้วออกมาไม่ได้ล่ะ? มันไม่ใช่เรื่องดีรึไง ?” ลั่วอู๋กระซิบ
“ใครจะรู้ว่าล่ะ มันยากที่จะเข้าใจว่าพวกผู้มีอำนาจเขาคิดกันยังไงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” องค์หญิงเจียโรวเม้มริมฝีปาก
ฉูจงฉวนมองไปที่ลั่วอู๋และองค์หญิงเจียโรว ด้วยสายตาแปลก ๆ พลางพูดล้อเล่น “ลั่วอู๋ ข้าไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับองค์หญิงเจียโรว พวกเจ้าสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ช่างมันเถอะน่า ก็เจ้ามันมัวแต่ไปเข้าซ่องแทบจะทุกวัน เจ้าจะไปรู้อะไรกับเขาได้เล่า” ลั่วอู๋พูดอย่างดูถูก
องค์หญิงเจียโรว ไม่ใช่องค์หญิงที่อยู่แต่ภายในวัง เหล่าหญิงสาวในตระกูลใหญ่จึงคุ้นเคยกับนางดี
สาว ๆ หลายคนจากกลุ่มแม่มดต่างก็เข้ามาร่วมรำลึกความหลังกับองค์หญิงเจียโรว
นอกจากองค์หญิงแล้วยังมี ผู้ชายหลายคนเข้ามาในสำนักเฉียนหลง พวกเขาคือคนที่มาจากกองกำลังต่างๆ โดยพวกเขาเป็นคนที่พลาดการทดสอบเข้าสู่สำนักเฉียนหลงครั้งก่อนหน้านี้โดยบังเอิญ
“พวกเขาคือคนที่ผ่านการทดสอบที่ยากยิ่งกว่าของพวกเจ้า จึงสามารถเข้าร่วมสำนักเฉียนหลงได้กลางคันเช่นนี้” หลี่หวู่หยวนกล่าว “ยังไงก็ตาม ยังมีคนสุดท้ายเหลืออยู่อีกคน”
ที่ประตูสำนักปรากฏร่างของสาวสวยในชุดสีขาว รอยยิ้มของนางดูสดใสมาก แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ฉูจงฉวนรู้สึกหนาว
“สวัสดีทุกคน ข้ามีชื่อว่าหลินยูหลัน” เมื่อนางพูดเสร็จนางก็เหลือบมองไปที่แส้ที่คาดไว้ตรงเอวของนาง
ฉูจงฉวน หายใจเข้าลึก ๆ
วันนี้เป็นวันหายนะของเขาจริงๆ
ในตอนที่องค์หญิงเจียโรวปรากฏตัว เขาก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ให้ตายเถอะใครจะไปคิดว่าสำนักเฉียนหลงจะมีกฏสำหรับการสอบเข้ากลางคันด้วย มันเป็นไปได้อย่างไร?
“การฝึกอบรมในมิติจะจัดในอีก 10วัน หลังจากนี้ และไม่มีอะไรที่พวกเจ้าจะต้องทำในระหว่างนั้น”หลี่หวู่หยวน กล่าว
ฉูจงฉวนพูดด้วยเสียงต่ำ “ข้าขอตัวไปก่อนล่ะ ลั่วอู๋ เจ้าช่วยข้าต้านนางไว้ที”
“หืม อะไรนะ?” ก่อนที่ลั่วอู๋จะมีปฏิกิริยากับคำพูดนั้น ฉูจงฉวนก็ใช้รองเท้าเหินฟ้าก้าวหนีเข้าไปในเงาเสมือนจริงและวิ่งหนีไป
แววตาของหญิงสาวในชุดสีขาวมีแสงสว่างอันดุร้ายฉายขึ้นมา “ยังคิดจะหนีไปอีกเหรอ”
หลังจากนั้นเงาของนกยูงก็ปรากฏขึ้นที่ข้างหลังนาง นกยูงนั้นร้องเพลงส่งผลให้แสงหลากสีส่องแสง ออกมาอย่างงดงาม
หลินยูหลันเปลี่ยนกลายเป็นแสงหลากสี พุ่งตรงไปที่ ฉูจงฉวนในทันทีพลางตะโกนอย่างดุเดือด “หยุดเดี๋ยวนี้ฉูจงฉวน เจ้าหนีไม่พ้นหรอก”
คนอื่น ๆ เมื่อพวกเขาได้เห็นนกยูง พวกเขาก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
นางคือหญิงสาวในวันนั้นไม่ผิดแน่ แต่พวกเขาไม่คิดว่าสาวสวยคนนั้นจะดุร้ายได้ถึงขนาดนี้
ขนาดลั่วอู๋เองก็ยังตกใจ
ผู้หญิงบ้าคลั่งคนนี้ไล่ตามฉูจงฉวนมาถึงสำนักเฉียนหลงเลยงั้นเหรอ ?
หลินยูหลันตามทันฉูจงฉวนอย่างรวดเร็ว นางเหวี่ยงแส้ออกไปพันขาของฉูจงฉวน “ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องหักขาของเจ้าซะแล้ว ดูสิว่าทีนี้เจ้ายังจะกล้าวิ่งหนีข้าไปได้อีกไหม?”
ฉูจงฉวนมีสภาพเช่นเดียวกับหนูที่เห็นแมว เขาไม่กล้าที่จะต่อต้านและมีเพียงความคิดที่จะวิ่งหนีเท่านั้น น่าเสียดายที่เท้าของเขาถูกแส้พันกันยุ่งไปหมดจนไม่สามารถที่จะดิ้นให้หลุดได้
ในที่เกิดเหตุต่างก็พากันเข้ามาดู
ทุกคนต่างรับชมเหตุการณ์นี้อย่างสนุกสนาน
เหล่าคนจากสำนักหม่าเฉินเองก็อยู่ที่นี่
แม้ว่าลั่วอู๋จะไม่รู้จักตัวตนของหลินยูหลัน แต่เขาก็ไม่สามารถทนเห็นขาของฉูจงฉวนถูกหักต่อหน้าได้ ดังนั้นเขาจึงยื่นมือเข้ามาหยุดหลินยูหลัน
คลื่นดาบแวบผ่านไป และลั่วอู๋ก็ได้ทำการตัดแส้จนขาด
“เจ้ากำลังทำอะไร?” หลินยูหลันจ้องมองไปที่เขา
ลั่วอู๋ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ข้าต่างหากที่อยากถามว่า เจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่ เจ้าเกลียดชังอะไรฉูจงฉวนถึงขนาดที่ต้องไล่ตามเขามาถึงที่นี่”
หยู่เฮาเองก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยาบกร้าน “เฮ้ แม้ว่าไอ้เด็กโรคจิตสกปรกคนนี้จะนิสัยไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นเพื่อนของข้า ถ้าเจ้าต้องการจะหักขาของเขา ข้าเองก็คงจะยอมรับไม่ได้ ”
“เจ้าคนเถื่อนนี่…” หัวใจของฉูจงฉวนเต็มไปความหงุดหงิดแปลก ๆ
“เกลียดชัง?” หลินยูหลันดูเหมือนจะได้ยินอะไรตลก ๆ นางมองไปที่ฉูจงฉวนด้วยความเกลียดชัง “เจ้าแนะนำข้าแบบนี้กับเพื่อนของเจ้างั้นเหรอ?”
ฉูจงฉวนรู้สึกอาย ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก พร้อมกับก้มหน้าลง
หลินยูหลัน ผู้โกรธเกรี้ยวหยิบกระดาษสองแผ่นออกมาจากแขนเสื้อของนางแล้วชี้ไปที่หนึ่งในนั้นอย่างจริงจัง “เห็นชัด ๆ ไหม มันเขียนด้วยลายลักษณ์อักษร นี่คือสัญญาในการหมั้นหมายระหว่างตระกูลหลิน และตระกูลฉู ข้าเป็นคู่หมั้นของเขา ข้าจะเกลียดชังเขาไปทำไม?”
ลั่วอู๋และหยู่เฮามองหน้ากัน
คู่หมั้นงั้นเหรอ?
“แล้วเจ้าจะทำอะไรต่อ … ” ลั่วอู๋ถาม
หลินยูหลันกล่าง “แน่นอนสิ ข้าก็จะแต่งงานกับเขา”
ลั่วอู๋แทบจะหายใจไม่ออก
เขาเคยได้ยินเรื่องของการบังคับผู้หญิงให้แต่งงานด้วย แต่เขาไม่เคยได้ยินเรื่องที่ฝ่ายชายกลับเป็นฝ่ายที่โดนบังคับแต่งงานเสียเอง
ลั่วอู๋ ดุ ฉูจงฉวนในใจ “เจ้ามันแสบจริง ๆ เจ้ามีคู่หมั้นแต่กลับไม่สามารถตัดสินใจตกลงแต่งงานได้ แล้วเจ้ายังมีหน้ามา โอ้อวดว่าเจ้าเป็นสุภาพบุรุษโรแมนติกอีก ถ้าเจ้าไม่ชอบนาง เจ้าก็แค่ยกเลิกสัญญาหมั้นเท่านั้นเอง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ?”
คนรอบข้างต่างเข้ามามุงดู
นี่มันละครน้ำเน่าเลือดสาด
ลั่วอู๋งงแล้วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงอธิบายไปว่า “หลินยูหลันการแต่งงานแบบคลุมถุงชนนั้นเป็นอะไรที่แย่มาก ในเมื่อฉูจงฉวนไม่ชอบเจ้า เจ้าจะไปทำอะไรได้ หากบังคับให้อีกฝ่ายต้องมาอยู่ด้วยกัน มันก็รั้งแต่จะเพิ่มความกังวลให้กับเขา ”
“ ใครบอกว่าเขาไม่ชอบข้าล่ะ” หลินยูหลันเต็มไปด้วยแรงผลักดัน นางชี้ไปที่กระดาษอีกแผ่นและกล่าวว่า “นี่คือเอกสารยอมรับของเขา พร้อมกับลายเซ็นของเขา”
เกิดความโกลาหลขึ้น
บทละครนี้มันกำลังเข้มข้นขึ้นจริงๆ
ดวงตาของลั่วอู๋เบิกกว้าง
แม้ว่าเอกสารนี้จะเก่าจนเป็นสีเหลืองและดูเหมือนจะมีร่องรอยของความลังเล แต่ลายมือบนนั้นมันเป็นของฉูจงฉวนไม่ผิดแน่
ลั่วอู๋รู้สึกพ่ายแพ้
“เจ้าทำอะไรลงไปกันแน่เนี่ย?” ลั่วอู๋ จ้องไปที่ฉูจงฉวน
พวกเขาสองคนหมั้นหมายกัน และเขายังเขียนจดหมายหมั้นหมายกับอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัวอีก ทว่าพอหญิงสาวมาหาเขา เขากลับวิ่งหนีไปซะอย่างนั้น จะให้ลั่วอู๋ช่วยเขาได้ยังไง?
ลั่วอู๋ยอมแพ้
หยู่เฮาไม่สามารถมองลงไปที่เอกสารได้ เขามองไปที่ ฉูจงฉวนด้วยสายตาที่ไม่ดีนัก “เจ้าเคยเสนอจับคู่ให้คนอื่น แต่เจ้ากลับหนีการแต่งงานเสียเอง เจ้ายังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?”
ฉูจงฉวนทำอะไรไม่ถูก “สถานการณ์นี้มีความซับซ้อนมาก ซึ่งครึ่งนึงคงไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจน”
“ฮึ่ม อย่ามาทำเป็นพูดว่าไม่รู้อะไรเลยน่า” หลินยูหลัน ส่งเสียงดังและใช้แส้จับตัวของฉูจงฉวนเอาไว้ทำให้เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้
“เฮ้ ยัยผู้หญิงบ้าคลั่ง อย่ามายุ่งกับข้า ข้าไม่อยากสู้กับเจ้า ข้าไม่กล้าทำร้ายเจ้า!” ฉูจงฉวนดูขาดความมั่นใจ
“ถ้าอยากจะหยุดข้า เจ้าต้องเอาชนะข้าให้ได้ก่อน”
หลินยูหลันส่งสายตาอันดุร้ายใส่ฉูจงฉวนที่กำลังต่อต้านผลักไหล่เขาออกไปข้างหน้า “ปล่อยข้าสิ นี่ไม่ใช่เวลามายืนดูกันนะ ช่วยปล่อยข้าที ”
ผู้คนรอบข้างอดไม่ได้ที่จะถอยออกไป
“ช่วยข้าด้วย” ฉูจงฉวนดูสิ้นหวัง
แต่ก็ไม่มีใครให้ความสนใจกับเขา
หยู่เฮาแตะคางของตัวเองและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้มีนิสัยเหมือนคนจากภูเขาแห้งแล้งของข้า ฉูจงฉวนเป็นคนที่โชคดีมากเลยทีเดียว”
“ก็อาจจะนะ…”
ลั่วอู๋มองไปที่ด้านหลังของหลินยูหลัน
จะช่วยเขาดีไหมนะ ? ช่างไปก่อนก็แล้วกัน ฉูจงฉวนก็ดูจะไม่ได้ต่อต้านอะไรด้วย อีกอย่างลั่วอู๋จะไปช่วยอะไรเขาได้