ไหปีศาจ - บทที่ 354 ตอนจบ
บทที่ 354 ตอนจบ
บทที่ 354
ตอนจบ
เปลวไฟสีเขียวเข้มตกลงมาจากฟากฟ้าเหมือนดาวตก โจมตีเข้าใส่แขนของยักษา จากนั้นก็ระเบิดออกทันที
แรงกระแทกอันรุนแรงทำให้แขนข้างหนึ่งของยักษาหัก และแซคที่ถูกจับก็หลุดออกมา ยักษาปิดแขนของมันด้วยความเจ็บปวดพลางตะโกน
“ไอ้เจ้าตัวน่าเกลียด แกกล้าตะโกนใส่ข้าได้ยังไง”
ฉูจงฉวน โกรธ
“เจ้ามันน่าเกลียดมากสำหรับข้า!” ฉูจงฉวนตะโกน เขาตบมือลงบนพื้น จากนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือนทรายและหินจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นใบมีดแหลมคมเข้าแทงขาของยักษา
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของยักษานั้นไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดที่มันจะสามารถหลบหลีกได้ ขาของมันจึงถูกแทงด้วยแทงทรายมากกว่าสิบแท่ง
“อา”
ยักษาร้องโหยหวนและตะโกนคำโกรธออกจากปากของมัน แต่ฉูจงฉวนก็ไม่ได้เข้าใจสิ่งที่มันพูดอยู่ดี
เมื่อพวกแซคได้ยินคำพูดของยักษา พวกมันก็ตะโกนไปที่ ฉูจงฉวน
“ ข้าอยากเข้าใจที่พวกมันพูดบ้าง ใช้สื่อสารวิญญาณที่” ฉูจงฉวนไม่พอใจ เขาหันไปมองขอความช่วยเหลือจากเหวินเสี่ยว “พวกมันพูดอะไรกัน?”
เหวินเสี่ยวตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ยักษาคิดว่าพวก แซคส่งคนมาทำร้ายมัน ดังนั้นมันจึงขู่พวกแซคและเตรียมที่จะกำจัดพวกแซคเหล่านี้ทั้งหมด พวกมันจึงแนะนำให้เจ้าไม่ต้องทำอะไรและคุกเข่าลงเพื่อขอโทษยักษา”
ฉูจงฉวน โกรธมาก
คุกเข่าขอโทษงั้นเหรอ?
เขาจะก้มลงต่อหน้ากระโปรงสีทับทิมของเชียนจีเท่านั้น สัตว์ประหลาดตัวนี้คิดว่ามันเป็นใครกันจึงสมควรได้รับคำขอโทษของเขา?
แต่เขาก็ไม่สามารถโกรธพวกแซคได้ เนื่องจากพวกมันเองก็เป็นมนุษย์ และพวกมันไม่ได้รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของ ฉูจงฉวน จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกมันจะรู้สึกกลัว
ดังนั้นความโกรธของฉูจงฉวน จึงสามารถปล่อยไปทางยักษาได้เพียงอย่างเดียว
“ คิดจะกำจัดทั้งเผ่าใช่ไหม?”
“อยากได้คำขอโทษนักใช่ไหม?”
“กินพวกแซคไปใช่ไหม?”
“ข้าโกรธที่เห็นต้องเห็นสัตว์ประหลาดหน้าตาน่าเกลียดอย่างเจ้ามาก เอาไปอีกสักหมัดเถอะ”
ฉูจงฉวน ใช้กำปั้นหุ้มเพลิงวิญญาณชกมัน และในทุกครั้งที่เขาต่อยมันด้วยกำปั้นเพลิง การระเบิดและไฟเผาไหม้พลังวิญญาณก็ปะทุขึ้น ยักษาอยู่ในสภาพใกล้จะตายด้วยการโจมตีเหล่านั้น
พวกแซคต่างตกตะลึง
พวกมันไม่คาดคิดมาก่อนว่ายักษาผู้ที่ได้รับการเคารพบูชาในฐานะผู้สูงส่งในสายตาของพวกมัน จะอ่อนแอเกินกว่าที่จะสามารถโจมตีสวนฉูจงฉวนกลับไปได้
“เป็นระดับทองแล้วมันจะยังไง หา?”
ฉูจงฉวน หยุดโจมตีลงในที่สุด
ยักษาในมิติวิญญาณระดับทองนั้นอยู่ในวัยโตเต็มที่แล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉูจงฉวนมันก็ไม่มีแรงมากพอที่จะต่อสู้กลับ
ขณะเดียวกันลั่วอู๋และแซคเฒ่าที่เพิ่งได้พูดคุยกันเกี่ยวกับข้อตกลง ก็ได้เดินออกมาจากที่พักพอดี แซคเฒ่าเห็นเหตุการณ์นี้สีหน้าของมันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ท่านยักษา!”
แซคเฒ่าอดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว “มันจบแล้ว เผ่ายักษามีความแค้นมากที่สุดในบรรดาเผ่าต่าง ๆ ทั้งหมด ถ้ายักษาตัวหนึ่งตาย จะต้องมียักษาตัวอื่น ๆ มาช่วยแก้แค้นให้กับมันแน่ ปกติแล้วพวกข้าจะได้รับความคุ้มครองจากยักษา เพื่อป้องกันการรุกรานจากสัตว์วิญญาณหลาย ๆ ชนิด ด้วยการถวายบรรณาการให้กับพวกยักษา ทว่าด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้พวกเราจะต้องถูกยักษากลับมากำจัดแก้แค้นแน่ ”
ฉูจงฉวนขมวดคิ้ว “ตาแก่เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”
ลั่วอู๋ถามหลังจากที่ได้รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
“พวกมันดูไม่มีความสุขเท่าไหร่เลยนะ” ฉูจงฉวน งุนงง “ข้าเพิ่งช่วยกำจัดผู้รุกรานให้พวกมันไปไม่ใช่รึไง?”
ลั่วอู๋เหลือบมองเขา “เจ้าทำได้ดีมาก แต่พวกมันแค่แสดงความดีใจในรูปแบบที่แตกต่างออกไปเท่านั้นเอง”
“โอ้เป็นเช่นนั้นเองเหรอ” ฉูจงฉวน มองไปที่แซคพวกนั้นด้วยใบหน้าที่ “มีความสุข” แล้วพูดอย่างถ่อมตัวว่า “พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก”
ลั่วอู๋หันหน้าไปมองแซคเฒ่าด้วยน้ำเสียงไม่ดี “บรรณาการที่เจ้ากล่าวถึงคือเนื้อและเลือดของคนในเผ่าของเจ้างั้นเหรอ? เจ้ายอมแลกชีวิตคนของเจ้า เพื่อให้ได้ที่พักพิงอย่างนั้นเหรอ ?”
“เจ้ามันจะไปรู้อะไร ถ้าพวกข้าไม่ทำเช่นนี้ ป่านนี้พวกมันคงทำลายล้างเผ่าของพวกเราไปนานแล้ว!” แซคเฒ่ากล่าวอย่างหดหู่ “หลังจากนี้หัวหน้าของเผ่ายักษาจะต้องกลับมากวาดล้างเผ่าของพวกเราอย่างแน่นอน”
หลังจากหลายปีของการอยู่รอด ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำความหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับมาอีกแล้ว ความคิดที่ว่าเผ่าของมันจะต้องถูกกำจัดได้ปรากฏขึ้นในหัวใจของแซคเฒ่าอย่างน่าสังเวช
“พวกมันก็เป็นแค่เผ่ายักษา พวกข้าจะช่วยเจ้ากวาดล้างเผ่ายักษาทั้งหมดให้เอง” ลั่วอู๋กล่าวอย่างไม่แยแส
ยักษานั้นถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ และเห็นได้ชัดว่ายักษาที่ปกป้องเผ่า แซคนั้นเป็นเพียงแค่กลุ่มเล็ก ๆ
มันเป็นไม่ได้ที่กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ ๆ จะสนใจมาเสียเวลากำจัดชนเผ่าแซค
แซคเฒ่า ตะลึง “เจ้า … ”
มันไม่สามารถจินตนาการความแข็งแกร่งของลั่วอู๋ได้เลย ในความคิดของมัน เผ่ายักษานั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังมาก และสิ่งที่แข็งแกร่งมากกว่ามันนั้นมีเพียงแค่ปรมาจารย์ปีศาจแห่งนรกมนตราทั้งเก้า
ความแข็งแกร่งของมันอ่อนแอเกินไป มันจึงขาดข้อมูลจริง ๆ
ลั่วอู๋โยนหนังสือให้แซคเฒ่า “นี่คือทักษะศิลปะการต่อสู้โบราณ”กระบวนท่าวิชาผีเสริมกระดูก”มันน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าต้องการที่จะปกป้องเผ่าของตัวเองไว้ พวกเจ้าก็ควรที่จะพึ่งพาตัวเอง”
ลั่วอู๋ ซื้อหนังสือทักษะนี้มาโดยบังเอิญและได้มอบให้กับไร้หน้าเพื่อการฝึกฝน
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลงเซี่ยได้มาเป็นอาจารย์ของไร้หน้าความเชี่ยวชาญในวิชานี้ของเขาจึงได้ไปถึงขีดสุดแล้ว ลั่วอู๋ก็เลยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับหนังสือทักษะเล่มนี้อีก
แซคเหล่านี้น่าจะสามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบบโบราณได้ไม่ยาก ฉะนั้นพวกมันทั้งเผ่าพันธุ์จะต้องแข็งแกร่งขึ้นได้แน่
หากให้ปลากับชายคนหนึ่ง ก็ทำได้เพียงแค่ให้อาหารเขารอดชีวิตไปหนึ่งวัน แต่ถ้าหากสอนวิธีหาปลาให้ มันจะเป็นการเลี้ยงเขาไปชั่วชีวิต ..
ลั่วอู๋ไม่สามารถปกป้องพวกมันได้ตลอดเวลา เขาไม่มีความสามารถเช่นนั้น
“ฉูจงฉวน เหวินเสี่ยวมาช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องเผ่ายักษากันเถอะ” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉูจงฉวน ลังเลเล็กน้อย “ต้องไปกำจัดไอ้ตัวน่าเกลียดแบบนี้อีกงั้นเหรอ อา”
“หากช่วยพวกมันจนถึงที่สุด อาจจะมียักษาเพศหญิงหน้าตาดีโผล่มาก็ได้นะ”
“ห๊ะ เจ้าคิดจะล่อข้าด้วยเรื่องพรรค์นั้นเหรอ?”
ลั่วอู๋หัวเราะ
เกือบทั้งหมดของเผ่ายักษา เป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาน่าเกลียด ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมียักษาเพศเมียที่มีหน้าตาดีอยู่
ก่อนจากไปลั่วอู๋ได้ทิ้งยาไว้สำหรับการฝึกฝนร่างกายและหนอนอมรณากับผลไม้ป่าจำนวนมากไว้
ชาวแซคที่ได้รับหนอนอมรณานั้นก็เหมือนได้รับสมบัติ เนื่องจาก”สัตว์วิญญาณ” ชนิดนี้ที่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง และมีรสชาติที่ดีกว่าเนื้อไฮยีน่าและแมลงของที่นี่แน่ ๆ
ฉะนั้นถึงแม้ว่าข้อตกลงจะไม่ได้ผล แต่พวกลั่วอู๋ก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารของพวกแซคในอนาคต
แซคเฒ่ามองแผ่นหลังของ ลั่วอู๋ ที่เพิ่งเดินจากไป แสงแห่งความขอบคุณฉายในแววตาของเขา
ส่วนแซคตัวอื่น ๆ ทั้งหมดเอามือกอดอก พวกมันต่างก้มหน้าอ่านคำพูดสุดท้ายของบรรพบุรุษในท้องฟ้าอันมืดมิด
นี่เป็นพิธีเฉพาะของชาวแซค พวกมันกำลังสวดภาวนาขอให้ผู้สูงส่งผู้มีเมตตาคนนี้ปลอดภัยตลอดศกไป
……
……
พรรคพวกลั่วอู๋ทั้งสามคนพบรังของยักษาได้อย่างง่ายดาย
ตามที่คาดไว้พวกมันเป็นเพียงแค่กลุ่มเล็ก ๆ โดยมียักษาทั้งหมดเพียง 20 ตัว โดยตัวที่มีพลังมากที่สุดนั้นมีมิติวิญญาณไม่เกินระดับทอง มิติ5
กลุ่มนั้นทั้งกลุ่มถูกพรรคพวกลั่วอู๋ทั้งสามคนกำจัดลงได้อย่างง่ายดาย
แต่สัตว์วิญญาณชนิดนี้นั้นไม่ได้แข็งแกร่งมาก อีกทั้งมันยังน่าเกลียดและดูโหดร้าย มันกระหายเลือดมากเกินไป แม้จะจับไปขายก็ไม่มีใครยอมซื้อ
ลั่วอู๋เก็บมันเข้าไปเพื่อปลดผนึกหนังสือสัตว์วิญญาณ
“พอแล้ว ๆ มันไม่มียักษาที่สวยงามอยู่จริง ๆ แน่นอน” ฉูจงฉวนเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วงน่า นี่เองก็เป็นประสบการณ์ด้วยเช่นกัน พวกเรารีบทำความสะอาดของที่ได้มา ฟื้นฟูพลังวิญญาณ แล้วออกเดินทางกันต่อเถอะ”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก แต่พลังวิญญาณก็ได้ถูกใช้ไปเป็นปริมาณมาก มันจึงฟื้นฟูกลับมาช้ามาก ด้วยที่สภาพแวดล้อมของนรกมนตรานั้นอันตราย พวกเขาควรจะฟื้นตัวก่อนแล้วจึงค่อยออกเดินทางคงจะดีกว่า
หลังจากสองวันของการปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อม พวกเขาก็ค่อยๆเชี่ยวชาญทักษะในการดึงพลังวิญญาณออกมาจากอากาศของนรกมนตรา
ความเร็วในการฟื้นฟูพลังวิญญาณเร็วขึ้นมามาก แต่ก็ยังถือว่าช้าหากเทียบกับปกติ
มีของมีค่าเพียงเล็ก ๆ น้อยอยู่ในถิ่นของเหล่ายักษา พวกมันไม่ได้เก็บสมุนไพรวิญญาณหรือแร่วิญญาณเลย ของส่วนมากจึงไม่ได้มีค่าอะไร
จังหวะนั้น ลั่วอู๋ ก็ได้พบกับบางสิ่งโดยบังเอิญ
มันเป็นหางที่ถูกหักออกมา มีความหนาประมาณแส้ หางนั้นมีสีเข้มและแข็งมากเป็นรูปร่างตะขอคว่ำและปล่อยลมปราณแปลก ๆ ออกมา
“ฉูจงฉวน ดูสิ่งที่ข้าพบสิ” ลั่วอู๋หัวเราะ
ฉูจงฉวน กำลังสับสน “แส้?”
“ เข้ามาดูใกล้ ๆ สิ”
เหวินเสี่ยวเองก็สงสัยอยากรู้อยากเห็น เขาจ้องมองมันเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็ประหลาดใจและพูดว่า “ดูเหมือนว่านี่จะเป็นหางของปีศาจเสน่ห์”