ไหปีศาจ - บทที่ 383 ดอกไม้พิษยักษ์
บทที่ 383 ดอกไม้พิษยักษ์
บทที่ 383
ดอกไม้พิษยักษ์
ในห้องมืดแห่งหนึ่ง
ที่นี่เต็มไปด้วยขวดและไห บนตู้ชั้นวางหนังสือที่เต็มไปด้วยของเหลวข้น ชิ้นส่วนอวัยวะภายในที่น่าขยะแขยง
ชายหนุ่มที่มีแววตาสะท้อนถึงความบ้าคลั่ง กำลังเย็บศพแปลก ๆ หลายชิ้นเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมา
ต่อหน้าฉากที่น่าขยะแขยง ชายคนนี้กลับรู้สึกมึนเมาและตื่นเต้น
เพราะเขาเป็นคนทำทุกอย่างนี้ด้วยตนเอง
เขาเทของเหลวสีขาวใสในขวดเล็ก ๆ ลงบน “ศพ” แปลก ๆ ที่ถูกปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น “ฟื้นคืนชีพขึ้นมาสิ”
วัตถุประหลาดที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันจากซากศพหลายชิ้น เริ่มขยับเหมือนค่อยๆลุกขึ้นนั่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าว่าแล้ว ข้าต้องทำมันสำเร็จได้จริง ๆ!”
เสียงหัวเราะอันเย่อหยิ่งของชายหนุ่มสั่นสะเทือนไปทั่วห้อง
เขามีรอยสักตะขาบสีม่วงที่แขน นอกจากนี้แขนเสื้อของเขาก็ยังเต็มไปด้วยแมลงสีทอง มันดูน่าขยะแขยงมาก ขณะคลานไปรอบ ๆ ตัวเขา
“ฮิฮิฮิฮิ เจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อย มีคนจากข้างนอกเข้ามาน่ะ” เสียงของชายแก่ดังขึ้นช้าๆ
“การทดลองใหม่งั้นเหรอ?” ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์อันชั่วร้าย แล้วจึงค่อยๆออกจากห้องปิดประตูห้อง
เสียงประตูดัง เอี๊ยด
ประตูเก่า ๆ ทีอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณมักจะส่งเสียงดังทะลุทะลวงเช่นนี้
เสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในห้องโถงมืด ๆ อันอับชื้น
……
……
หุบเขามรณะนั้นมีชื่อเสียงพอ ๆ กับป่าหวงชา
ทว่าหากเทียบกันแล้วหุบเขามรณะนั้นมีชื่อเสียงที่อันตรายกว่า ด้วยที่หมอกพิษอันน่ากลัวของมันได้ตัดความปรารถนาของผู้คนส่วนใหญ่ที่ต้องการจะเข้าสำรวจไปจนหมดสิ้น
มีใครอาศัยอยู่ในหุบเขามรณะไหม?
แน่นอนคำตอบสำหรับคำถามนี้คือ ใช่
ว่ากันว่ามีกลุ่มคนประหลาดอาศัยอยู่ภายในหุบเขามรณะ พวกเขารอบรู้เรื่องดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ในพิภพ ปัญหาคือพวกเขามีอารมณ์แปลก ๆ พลังวิญญาณอันบิดเบี้ยว และวิชาแปลก ๆ อันน่าสะพรึงกลัว
หลายคนรู้เรื่องนี้
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าคนเหล่านี้จริง ๆ แล้วเป็นใคร พวกเขามาทำอะไรกัน และทำไมพวกเขาจึงต้องซ่อนตัวอยู่ในหุบเขามรณะ
หรือไม่ก็อาจจะพอมีคนที่รู้ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่เคยกล่าวถึงข้อมูลเกี่ยวกับพวกนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ก่อนหน้านี้ลั่วอู๋ก็เคยได้พบกับชายคนหนึ่งที่มาจากหุบเขามรณะ
เขามีชื่อว่า หยีเทียนเฉิน มีความสามารถในการควบคุมแมลงกินวิญญาณ เขามีความสามารถในการปรับแต่งพลังวิญญาณที่สูงมาก แม้บุคลิกของเขาจะแปลก ๆ และมีวิชาที่อยู่เหนือกว่าการป้องกันของคนอื่น ๆ แต่ต่อมาเขาถูกลั่วอู๋ฆ่าตาย
ลั่วอู๋จึงไม่ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับหุบเขามรณะจากเขา
“จ้าวแห่งหุบเขามรณะ?” เหวินเสี่ยวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ “มีคนแปลก ๆ ในตำนานแบบนั้นด้วยงั้นเหรอ?”
ลั่วอู๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ก็อาจจะ แต่พวกเราไม่ควรเปิดเผยที่อยู่และข้อมูลของพวกเรา กำจัดนกพิราบเก้าพิษพวกนี้กันดีกว่า”
“อืม”
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงทั้งสามคนเข้าจู่โจมเหล่านกพิราบเก้าพิษพร้อม ๆกัน แม้ว่าพวกมันจะมีจำนวนมาก แต่ก็ถูกปราบลงจนหมดได้อย่างง่ายดาย ลั่วอู๋ไม่เกรงใจ เขาจับพวกมันทั้งหมดลงไหปีศาจ
“ยังไงกันต่อดี” องค์หญิงเจียโรวถาม
ลั่วอู๋ถามจ่าฝูงของเหล่านกพิราบเก้าพิษ ถึงจ้าวแห่งหุบเขามรณะด้วยทักษะ สื่อสารทางวิญญาณ แต่เขาก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร
พวกมันเป็นเพียงแค่ทาสที่ถูกกักขังไว้ พวกมันมีเพียงแค่สายสัมพันธ์บาง ๆ จากใบพันธสัญญาสัตว์วิญญาณ อีกทั้งพวกมันมีหน้าที่ในการแจ้งข้อมูลเท่านั้น จึงไม่ได้รู้ข้อมูลอื่น ๆ ใด ๆ เลย
อย่างไรก็ตามหลังจากพวกมันถูกลั่วอู๋ปราบแล้ว พลังของไหปีศาจก็เข้ามาแทนที่พันธสัญญาในร่างกายของพวกมัน
ลั่วอู๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ให้พวกมันช่วยเป็นตาระวังภัยให้พวกเราดีกว่า”
ลั่วอู๋ปล่อยนกพิราบเก้าพิษออกมา เหล่ากลุ่มนกวิญญาณหลากสีต่างกระจัดกระจายออกไปเพื่อตรวจตราพื้นที่โดยรอบให้กับลั่วอู๋
ตามปกติแล้วลั่วอู๋คงจะใช้ผีทำหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมคอยคุ้มกัน แต่ด้วยหมอกพิษของหุบเขามรณะนั้นผลกับผี เขาจึงไม่สามารถใช้ผีขยายขอบเขตเฝ้าระวังภัยออกไปได้
แต่นกพิราบเก้าพิษนั้นแตกต่างกัน พวกมันเป็นสัตว์วิญญาณที่อาศัยอยู่ที่นี่อยู่แล้ว
จากนั้นทั้งสามคนก็ออกเดินทางต่อ
ชั้นนอกสุดของหุบเขามรณะเต็มไปด้วยสัตว์วิญญาณที่ค่อนข้างอ่อนแอส่วนใหญ่เป็นสัตว์วิญญาณมีพิษระดับทองแดงและระดับเงิน ความเป็นพิษนั้นไม่รุนแรง แต่ก็ยังถือว่าหาได้ยาก
อย่างไรก็ตามตราบเท่าที่ลั่วอู๋พบพวกมัน เขาก็จะจับมันมาให้ได้
นอกจากนี้ยังมีดอกไม้และสมุนไพรพิษอยู่มากมายที่นี่ แต่ล่ะต้นต่างมีดอกมีผลที่เต็มไปด้วยพิษอันละเอียดอ่อน สิ่งเหล่านี้อาจมีผลบางอย่างหากนำไปกลั่นเป็นยาพิษ
ลั่วอู๋พยายามรวบรวมเก็บพวกมันมาบางส่วน
“ที่นี่มีแต่แมลงกับสัตว์มีพิษทั้งนั้นเลย” องค์หญิงเจียโรว ดูค่อนข้างท้อแท้ “ข้าอุตส่าห์คิดว่าหุบเขามรณะ อาจจะมีสัตว์วิญญาณที่ไม่ธรรมดาอยู่”
ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “หุบเขามรณะ ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกพิษ สัตว์วิญญาณที่สามารถอยู่รอดในที่แบบนี้ได้ มักจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสัตว์วิญญาณพิษ เจ้าเป็นคนชอบภูตใช่ไหมล่ะ ข้าคิดว่าเจ้าจะต้องผิดหวังแน่หากเจ้าคิดจะหาพวกมันที่นี่”
“อา” องค์หญิงเจียโรว ถอนหายใจ
ที่เขาพูดเป็นความจริง
ในหุบเขามรณะนั้น ลั่วอู๋ ได้พบสัตว์วิญญาณทั้งที่คุ้นเคยและแปลกประหลาดมากมาย
สัตว์วิญญาณทั่วไปบางชนิดสามารถพบได้ในหุบเขามรณะ แต่พวกมันเหล่านั้นจะมีสภาพที่เปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาด
ตัวอย่างเช่นนกพิราบเก้าพิษ เดิมทีมันแปรสภาพมาจากสัตว์วิญญาณระดับเงินที่หาได้ทั่วไปอย่างนกพิราบเฉียนฉิง
นอกจากนี้ยังมีสัตว์วิญญาณที่เป็นญาติห่าง ๆ ของผีเสื้อปีกมายาอยู่อีกด้วย พวกมันคือผีเสื้อพิษมายา ปีกของผีเสื้อพิษมายานั้นมีลวดลายที่ดูลวงตา แต่พวกมันนั้นเชี่ยวชาญทักษะผงพิษเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังมีกระต่ายครึ่งศพที่ดูคล้ายกระต่ายแห่งแดนสาบสูญ และมีทักษะก้าวพริบตาเหมือนกัน ลำตัวด้านล่างของมันเป็นสีขาว และมีดวงตาเป็นสีเขียว มันดูน่าเกลียดมาก
ทุกสิ่งทุกอย่างต่างทำให้ ลั่วอู๋ มีปฏิกิริยา
สัตว์วิญญาณที่มีสภาพน่ากลัวเหล่านี้ เดิมทีมาจากสัตว์วิญญาณที่เขาสามารถพบเห็นได้ทั่วไป พวกมันเป็นสัตว์วิญญาณพิเศษที่จมปลักอยู่ในหมอกพิษแล้วรอดชีวิตมาได้ ราวกับโชคช่วย
ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความดื้อรั้นในการมีชีวิตรอดและแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิต แน่นอนว่าการจับสัตว์วิญญาณเหล่านี้เข้ามา สามารถช่วยปลดผนึกหนังสือสัตว์วิญญาณได้เช่นกัน นี่คือสิ่งที่ลั่วอู๋สนใจมากที่สุด
อย่างไรก็ตามเขาเกรงว่าไม่น่าจะมีภูตอยู่ในหุบเขามรณะ และต่อมีพวกมันก็น่าจะถูกบิดเบี้ยวให้กลายเป็นสายพันธุ์อื่นด้วยพลังของหมอกพิษ
หลังจากเดินอยู่ในส่วนชั้นนอกเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดพวกเขาก็เจอหมอกพิษชั้นที่สอง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาใกล้ผ่านพื้นที่ด้านนอกสุดเข้ามาแล้ว
ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสำรวจพื้นที่ได้น้อยลงเท่านั้น
ชั้นที่สองของหมอกพิษนั้นเป็นหมอกสีดำ อย่างไรก็ตามมันหนาแน่นมากเหมือนดั่งแอ่งน้ำอันเน่าเหม็น ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกรังเกียจมาก
“สูญสลายไปซะ” เหวินเสี่ยวใช้ทักษะชำระล้างอีกครั้ง แต่คราวนี้แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องเข้าไปในหมอกพิษไม่สามารถที่จะทะลุหรือกระจายออกไปได้
เหวินเสี่ยวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “มันใช้ไม่ได้ผลจริงๆ”
ไม่ใช่ว่าเขาปัดเป่ามันไม่ได้ แต่ถ้าหากเขายังคงดื้อรั้นที่จะปัดเป่ามัน เขาจะต้องสูญเสียพลังวิญญาณมากเกินไป มันจึงไม่มีประโยชน์หากคิดจะสลายมันให้หมด
องค์หญิงเจียโรวยืนขึ้นแล้วจึงพูดว่า “ให้ข้าลองดูบ้าง”
ภูตดอกไม้ถูกเรียกออกมา
ภูตดอกไม้ลืมตาขึ้นและโบกคฑาของมัน จากนั้นมันเปล่งแสงสีชมพูจาง ๆ และลอยออกไป
จากนั้นเหล่าดอกไม้และพืชพิษในบริเวณใกล้เคียงก็ดูเหมือนจะถูกอัญเชิญออกมา แต่กลับไม่มีหมอกพิษ บริเวณโดยรอบถูกเติมเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ ความมีชีวิตชีวากลับคืนมาโดยฉับพลันทำให้หมอกพิษสีดำกระจายออกไปอย่างช้าๆ
“ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ” องค์หญิงเจียโรว กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เลว ไม่เลว” ลั่วอู๋พูด
ภูตดอกไม้กะพริบตา พลางมองไปยังบริเวณที่มีหมอกพิษสีดำกระจัดกระจาย ดูเหมือนว่ามันจะพบกับอะไรบางอย่างและส่งเสียงร้องเพื่อเตือนพวกเขา
ทันใดทั้งพรรคพวกลั่วอู๋ก็เห็นดอกไม้พิษขนาดใหญ่กำลังโยกร่างมาช้าๆราวกับว่ามันมีสติสัมปชัญญะของตัวเอง
มันมีรูปร่างคล้ายดอกบัวหลากสี
“นี่มันดอกไม้อะไรกันเนี่ย มันใหญ่มาก” ลั่วอู๋พูดด้วยความประหลาดใจ
ดอกไม้พิษนี้สูงราว ๆ บ้านสามหรือสี่ชั้น รากฐานของมันหนาราวกับต้นไม้ ใบของมันเป็นสีม่วง มันดูมีพิษที่ร้ายแรงมาก
“อี้ … ”
หมอกสีขาวพวยพุ่งออกมาจากดอกไม้พิษยักษ์
ทุกคนต่างประหลาดใจ
มันเป็นพิษ!
“ควบคุมดอกไม้นั้นที” ลั่วอู๋ร้องอย่างกังวล
ภูตดอกไม้สามารถควบคุมดอกไม้ทั้งหมดได้ มันเป็นความสามารถเฉพาะที่มันมี
องค์หญิงเจียโรว รีบออกคำสั่งกับภูตดอกไม้ แต่แล้วใบหน้าของนางก็แสดงอาการลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย “มันไม่ใช่ดอกไม้! มันคือสัตว์วิญญาณ มันเป็นสัตว์วิญญาณของหุบเขามรณะ!”