ไหปีศาจ - บทที่ 398 ความหวังของเหล่าสัตว์ประหลาด
บทที่ 398 ความหวังของเหล่าสัตว์ประหลาด
บทที่ 398
ความหวังของเหล่าสัตว์ประหลาด
ห้องโถงหลักของหุบเขามรณะอันมืดมิด
เหวินเสี่ยวนั้นเป็นคนแรกที่บุกเข้าไป เขาเรียกภูตปีกแสงให้ปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องโถงราวกับว่านี่เป็นเวลากลางวัน
แม้ในห้องโถงนั้นจะมืดมิด แต่ก็ดูเป็นระบบระเบียบ อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยู่ในขวด ไห ๆ ที่วางอยู่บนตู้หนังสือ ก็ยังคงทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
เหวินเสี่ยววิ่งเข้าไปด้านในเพื่อตามหาภูตไหอย่างไม่สบอารมณ์
“มันเป็นใคร?”
โดยที่ไม่มีใครคาด ข้างในนั้นมีสัตว์ประหลาดบางส่วนที่ยังไม่ได้เดินออกไป พวกเขาจึงพบตัวเหวินเสี่ยวเข้าในทันที
“ เป็นใครก็ช่าง รีบจับมันก่อนเร็ว”
เหล่าสัตว์ประหลาด รีบวิ่งเข้าใส่เขาในทันที
นี่ทำให้เหวินเสี่ยวตกใจมาก
อย่างไรก็ตามโชคดีที่ผู้บัญชาการหลิงหลงมาถึงได้ทันเวลา และจัดการสับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นออกเป็นหลายสิบชิ้น แล้วใช้ทักษะ ดาบผนึก ผนึกพวกมันลง
เหวินเสี่ยวพยายามทำใจให้มั่นคง จากนั้นก็เริ่มค้นหาทั่วทั้งห้องโถงอย่างรวดเร็ว
ลั่วอู๋เองก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ เขาเข้าร่วมช่วยค้นหา
ส่วนองค์หญิงเจียโรว เมื่อเห็นท่าทีของทั้งคู่นางก็ร่วมด้วย
มีพืชมีพิษ ดอกไม้พิษ และน้ำยาหลากสีอยู่จำนวนมากในห้อง
นอกจากนั้นยังมีสัตว์วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเก็บไว้ในห้องใต้ดิน พวกมันทั้งหมดถูกจับมาเพื่อการวิจัย
มีศพมรณะหลายร่างที่ยังไม่สมบูรณ์ ในห้องลับได้ดินนี้ พวกมันยังไม่มีชีวิต แต่ก็มีรูปร่างแปลกประหลาดน่ากลัว
เป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกันที่พวกเขาได้พยายามทำการค้นหาในสถานที่นี้จนทั่ว แต่พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยของภูตไห
องค์หญิงเจียโรว อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยเสียงเศร้า “เขาไปแล้วงั้นเหรอ”
“ลองหาดูอีก ลองดูอีกที” ใบหน้าของเหวินเสี่ยวดูเคร่งเครียดมาก จิตใจของเขาดูไม่เป็นระเบียบ เขารีบเดินขึ้นไปยังห้องโถงของเหล่าสัตว์ประหลาดเพื่อค้นหาอีกครั้ง
แม้ว่ามันจะเป็นสถานที่ที่เขาค้นไปแล้ว เขาก็จะมองหาอีกครั้ง
เขาไม่ชอบสถานที่นี้เลย
ด้วยสภาพแวดล้อมแล้วมันเป็นเรื่องยากมากที่จะรู้ว่าภูตไหอยู่ที่ไหน
เขาจะต้องกลับไปโดยที่ไม่ประสบความสำเร็จจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?
ลั่วอู๋ถอนหายใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาสายเกินไปแล้ว ภูตไหนั้นน่าจะจากไปอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เขารู้ได้อย่างไรว่าพวกลั่วอู๋จะมาที่นี่
“ ผู้บัญชาการหลิงหลง เจ้าสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบ้างหรือไม่?” ลั่วอู๋ถาม
ผู้บัญชาการหลิงหลงส่ายหัว “ไม่เลย ภูตไหที่เจ้าพูดถึง ควรจะเป็นคนที่ทรงพลังมากไม่ใช่หรือ ถ้าแข็งแกร่งขนาดนั้น ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ แม้แต่เจ้าเองก็น่าจะสามารถหลบหลีกการรับรู้ของข้าได้ไม่ยาก เรื่องของการรับรู้ข้าไม่เก่งเท่าไหร่ ข้าเก่งแค่เรื่องการต่อสู้ ”
ลั่วอู๋ทำอะไรไม่ถูก
จะทำยังไงดีล่ะทีนี้
เหวินเสี่ยวค้นหาอีกหลายชั่วโมง จากทุกที่ในห้องโถงอีกครั้ง เวลาผ่านไปทั้งวันโดยที่เขายังไม่พบอะไร
เขาทรุดตัวลงบนพื้นใบหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและผิดหวัง
“ไม่เป็นไร ข้าแน่ใจว่าเราจะมีโอกาสพบเขาได้ในภายหลัง” ลั่วอู๋ปลอบโยน
“นานเกินไป มันนานเกินไป” เหวินเสี่ยวพึมพำกับตัวเอง
“อะไร?”
“ข้าออกมาข้างนอกนานเกินไปแล้ว” เหวินเสี่ยวหลับตา ร้องไห้น้ำตาใสสองเส้นไหลรินออกมาจากมุมตาของเขา เขากล่าวด้วยรอยยิ้มเศร้า ๆ ว่า “มันใกล้หมดเวลาแล้วจริงๆ ข้าเหลือเวลาไม่มาก”
ภูตปีกแสงนอนบนไหล่ของเหวินเสี่ยว อย่างระมัดระวังปลอบโยนร่างกายของเขาเบา ๆ ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ พยายามให้ความสะดวกสบาย
ลั่วอู๋ตะลึง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเหวินเสี่ยวแบบนี้
ในความทรงจำของเขาเหวินเสี่ยวเป็นชายที่มีรอยยิ้มอันอ่อนโยนอยู่เสมอ ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบเมื่อยู่กับเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ
แต่ตอนนี้เนื่องจากเขาไม่พบภูตไห เขาจึงมีสภาพเช่นนี้
ทำไมเขาถึงเหลือเวลาไม่มาก ?
เหวินเสี่ยวกำลังจะตายงั้นเหรอ?
“ข้าจะลองพยายามหาทาง” ลั่วอู๋ขมวดคิ้วและเดินออกจากห้องโถงไปทางเหล่าสัตว์ประหลาดที่ถูกผนึก
ลั่วอู๋ ตรงไปที่ ฉิงชา “บอกข้าทีว่าภูตไหอยู่ที่ไหน”
“โอ้ ข้าไม่รู้” ฉิงชา ตอบด้วยเสียงเย้ยหยัน
“ เจ้าคือจ้าวแห่งหุบเขามรณะจริง ๆ งั้นหรือ?” ลั่วอู๋ จ้องมอง ฉิงชา “เจ้าต้องรู้สิ เจ้าต้องรู้แน่”
“ถึงข้าจะรู้ แล้วทำไมข้าจะต้องบอกด้วยล่ะ” ฉิงชามองไปที่ลั่วอู๋ เปลวไฟสีเขียวเข้มในเบ้าตาของเขาลุกโชนอย่างรุนแรง
เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่
ลั่วอู๋ หายใจเข้าลึก ๆ “เจ้าต้องการอะไร ? มาพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงกัน”
“ฮ่าฮ่า พูดเกี่ยวกับข้อตกลง?”
“ใช่ ข้าหาทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้”
“ดี งั้นฆ่าตัวตายซะ” ฉิงชา หัวเราะเยาะ “ตราบใดที่เจ้าฆ่าตัวตาย ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าภูตไหอยู่ที่ไหน”
สัตว์ประหลาดคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะ
“ฉิงชา เจ้าโกหกได้ชั่วจริง ๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าอยู่กับเจ้ามาหลายพันปีแล้ว ข้าเดาได้เลยว่าเจ้าต้องพูดแบบนี้”
“ฆ่าตัวตายซะ ถ้าฆ่าตัวตายเราบอกให้ว่าภูตไหอยู่ที่ไหน”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าภูตไหคือใคร แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการร้องเยาะเย้ย
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าตัวตาย สัตว์ประหลาดกลุ่มนี้มีความชัดเจนในตัวเองว่าจะไม่ยอมบอก
“ข้าสามารถจัดหา สมุนไพรวิญญาณและสัตว์วิญญาณ ให้กับพวกเจ้าได้ พวกเจ้าต้องการวัตถุดิบจำนวนมากสำหรับการวิจัยของพวกเจ้าใช่ไหมล่ะ ? ข้าสามารถจัดหาให้พวกเจ้าได้” ลั่วอู๋กล่าวพลางพยายามระงับความโกรธของเขา
ฉิงชา หัวเราะ “เจ้าจะให้เท่าไหร่?”
“พันล้าน วัตถุดิบมูลค่ารวมพันล้าน?” ลั่วอู๋กัดฟัน “ข้าให้เจ้าได้มากเท่าที่เจ้าต้องการตราบใดที่เจ้าบอกข้ามาว่าภูตไหอยู่ที่ไหน”
ถ้าเขาสามารถนำภูตไหมาให้เขาได้
เพียงไม่กี่ ร้อยล้านหินวิญญาณ หรือพันล้านหินวิญญาณก็ไม่มีค่าอะไร
ฉิงชา ตกตะลึงในตอนแรก เขาไม่คาดคิดเลยว่าลั่วอู๋จะกล้าพูดแบบนี้ แต่แล้วเขาก็เย้ยหยัน “ไม่มีทาง ข้าแค่อยากให้เจ้าตาย”
ความมั่งคั่งราวกับสามารถเชื่อมต่อกับเทพเจ้า ด้วยหินวิญญาณนับพันล้าน นั้นสามารถทำให้ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับจักรพรรดิทั่ว ๆ ไปคลั่งไคล้ได้
จะใช้สร้างวังก็ยังได้
แต่ฉิงชานั้น ไม่สนใจ
“ฮ่าฮ่า พวกเราอยากให้เจ้าตาย”
“ ตายไปเร็ว ๆ ”
“ตายซะ”
สัตว์ประหลาดทุกคนต่างเกลียดลั่วอู๋เข้ากระดูกดำ
ลั่วอู๋ยังโกรธมาก “พวกเจ้าบ้ารึเปล่า ? ข้าไม่ได้ยื่นข้อเสนอนี้ เพื่อยั่วโมโหพวกเจ้า หินวิญญาณนับพันล้านมันไม่มีค่าเลยรึไง พวกเจ้าจำเป็นอะไรถึงต้องการให้ข้าตายงั้นหรือ?”
“เจ้าฆ่าสัตว์ประหลาดตัวน้อยของพวกเรา ทำลายความหวังของพวกเรา มันก็แน่นอนสิว่า พวกเราต้องการให้เจ้าตาย” ฉิงชาบ่นพึมพำ
ในแววตาของเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหมดต่างมีเปลวไฟสีเขียวแห่งความโกรธลุกโชน
มันเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ พวกเขาได้รับผู้ที่มีพรสวรรค์ในการวิจัย
แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะถูกลั่วอู๋ฆ่าตาย
แล้วพวกเขาไม่โกรธได้อย่างไร
ลั่วอู๋ไม่จำเป็นต้องนึกย้อนอะไรมาก
หลายวันที่ผ่านมา เขาฆ่าชายไปเพียงแค่คนเดียว เห็นได้ชัดว่า สัตว์ประหลาดตัวน้อย ที่สัตว์ประหลาดเหล่าพูดถึงคือ หยีเทียนเฉิน
เป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง
พวกเขาถึงโกรธเกรี้ยว ดูท่าทางก็รู้ว่าเต็มไปด้วย ความอาฆาตแค้น
สิ่งที่เขาเสนอนั้นไม่สามารถทำให้ หยีเทียนเฉินกลับมามีชีวิตได้
ขณะนั้นเองผู้บัญชาการหลิงหลงก็เข้ามาอยู่เคียงข้างลั่วอู๋ นางนั้นได้ยินคำพูดของฉิงชา จึงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ “ทำลายความหวัง? พวกเจ้าจะไปมีความหวังอะไรได้กัน?”
คำพูดนี้กระตุ้นเหล่าสัตว์ประหลาดในทันที
พวกเขาร้องไห้และโหยหวนอีกครั้ง
“เจ้าจะไปรู้อะไร?”
“หาศพมรณะประสบความสำเร็จ พวกเราก็อาจจะสามารถศึกษาเรื่องนี้ในเชิงลึก และหาทางเกิดใหม่ผ่านร่างกายนั้นได้”
“ แต่ตอนนี้ทุกอย่างหายไปแล้ว”
“มันพังไปหมดแล้ว!”
“พวกเจ้าทุกคนจะต้องถูกสาปแช่งทั้งหมด”
สัตว์ประหลาดเหล่านี้สูญเสียสิ่งที่สำคัญไป ไม่มีสิ่งใดมีค่าแก่ความสนใจของพวกเขา นอกจากความตายและการฟื้นคืนชีพ
ลั่วอู๋นึกถึงศพมรณะของหยีเทียนเฉิน
สัตว์วิญญาณตัวนั้นสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?
น่าเสียดายที่มันถูกต้าหวงเขมือบ และหายไปแล้ว
ลั่วอู๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ให้ ข้าช่วยอีกแรงได้ไหม?”
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?” ฉิงชา คำราม “สัตว์ประหลาดตัวน้อยเป็นอัจฉริยะในด้านนี้ ความสามารถของเขาอยู่ไกลเกินกว่าพวกเราด้วยซ้ำ เทียบกันแล้วเจ้ามันไม่มีค่า”
แน่นอนว่าลั่วอู๋ต้องถูกเหล่าสัตว์ประหลาดดูถูก
ลั่วอู๋กระทืบเท้าด้วยความโกรธ
สัตว์ประหลาดเหล่านี้นั้นไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ อีกทั้งพวกเขายังไม่สามารถรับรู้ความเจ็บปวดใด ๆ ในการถูกทำร้ายในการต่อสู้ เขาจึงไม่มีที่อื่นให้ระบายความโกรธ
“พวกเจ้าต้องการอะไรสำหรับการวิจัยของพวกเจ้า ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้พวกเจ้าพอใจ” ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ทำให้พวกข้าพอใจงั้นเหรอ ?” ฉิงชา หัวเราะเยาะ “สิ่งที่พวกเราต้องการ เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าจะหามาให้พวกเราได้?”
“ พวกเราต้องการเลือดของปรมาจารย์ปีศาจแห่งนรกมนตราทั้งเก้า เจ้ามีมันไหม?”
“พวกเราต้องการยาอายุวัฒนะระดับ 10 ที่มีมาตั้งแต่ในตอนที่ท้องฟ้าและปฐพีถือกำเนิด ยาคิริน เจ้ามีเม็ดยาคิรินหรือไม่?”
“พวกเราต้องการสัตว์วิญญาณระดับเพชรอันแข็งแกร่ง อย่าง มังกรกระดูกผี เจ้ามีมันไหม?”
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดที่ ฉิงชา กล่าวถึงนั้นยากมากที่จะหามาได้
อันที่จริงเขาจงใจโกหกให้มันยากขึ้น
ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ต้องการสองอย่างแรก
ผู้บัญชาการหลิงหลงขมวดคิ้ว “มังกรกระดูกผีงั้นเหรอ ข้าเคยเห็นมันมาก่อน แต่มันถูกพวกข้าฆ่าตายไปแล้ว เจ้าคงไม่ต้องการซากมันหรอกใช่ไหม?”
“อะไรนะ?”
“เจ้าฆ่ามัน ?!”
“ อ๊ะอ๊ะ! ไอ้เจ้าบ้า”
เหล่าสัตว์ประหลาดโกรธมาก
พวกเขาต้องการลุกขึ้นต่อสู้กับผู้บัญชาการหลิงหลงในทันที
พวกเขาเคยสามารถจับมังกรกระดูกผีมาได้ และวิจัยศึกษามันทุกวัน ซึ่งเป็นผลให้มันตายลง เนื่องจากการวิจัยอันดุเดือดอย่างต่อเนื่อง
แต่อีกฝ่ายนั้นกลับฆ่ามังกรกระดูกผี?
สัตว์วิญญาณแบบนี้หาได้ยาก แม้ในรอบหลายพันปีก็ยังยาก
มันไม่ได้ถือกำเนิดโดยธรรมชาติ ผ่านการสืบพันธุ์ แต่มันเป็นสัตว์วิญญาณที่เกิดจากความแค้นที่หลอมรวมกันในสุสานมังกร
มันเป็นดั่งปาฏิหาริย์ที่มังกรกระดูกผีสองตัวได้ปรากฏตัวขึ้นในเวลาต่อเนื่องกัน แต่อีกฝั่งกลับฆ่าสัตว์วิญญาณในตำนานเช่นมันทิ้งเสียอย่างนั้น
เสียงร้องและคำรามของเหล่าสัตว์ประหลาดทำให้ผู้บัญชาการหลิงหลงอารมณ์เสีย
อย่างไรก็ตามสัตว์ประหลาดเหล่านี้นั้นไม่สามารถถูกฆ่าได้ ซึ่งทำให้ผู้บัญชาการหลิงหลงได้แต่ทนรู้สึกอึดอัดต่อไป
ทว่าใบหน้าอันหม่นหมองของลั่วอู๋กลับเปลี่ยนไป “เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าบอกว่า เจ้าต้องการมังกรกระดูกผีงั้นเหรอ?”
“ใช่สิ มีอะไรสงสัยข้องใจเรอะ?” ฉิงชาคำราม
“ดูเหมือนว่าข้าจะมีมันอยู่”
ทันใดนั้นเสียงโหยหวนของเหล่าสัตว์ประหลาดก็สงบลงในพริบตา
ทั้งห้องโถงเข้าสู่ความเงียบสงบ
เหล่าสัตว์ประหลาดทุกตัวจ้องมองไปที่ลั่วอู๋ เพราะพวกเขากลัวว่าจะได้ยินอีกฝ่ายพูดผิดไป และไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
แต่ไม่สิ พวกเขาไม่จำเป็นต้องหายใจอยู่แล้วนี่นา