ไหปีศาจ - บทที่ 415 ภัยคุกคามจากองค์จักรพรรดิ
บทที่ 415 ภัยคุกคามจากองค์จักรพรรดิ
บทที่ 415
ภัยคุกคามจากองค์จักรพรรดิ
หลังจากนั้นลั่วอู๋ก็จากไปพร้อมกับไร้หน้า
หนึ่งเดือนต่อมาจากนี้ ลั่วอู๋ถึงจะกลับไปรับพวกเขากลับมา ในตอนที่เขากลับไปสำนักเฉียนหลง
เหล่าวัยรุ่นต่างคาดการณ์กันได้ในทันทีว่าเดือนนี้พวกเขาจะต้องพบกับความทุกข์ หากพวกเขาไม่มีจิตใจที่เข้มแข็ง พวกเขาอาจจะยังไม่สามารถข้ามระดับแรกไปของการฝึกได้เลยด้วยซ้ำ
ลั่วอู๋ได้ใช้เงินจำนวนมากกับพวกเขา ทรัพยากรในการฝึกฝนของพวกเขาเป็นของระดับที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดเสมอ ยิ่งกว่านั้นพ่อแม่ของพวกเขายังไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าอีกด้วย
แต่ลั่วอู๋ไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อการกุศล
สิ่งที่เขาต้องการคือความสามารถในการต่อสู้ที่เชื่อถือได้
ดังนั้นพวกเขาจะต้องผ่านการฝึกนี้ไปให้ได้
ตอนนี้ พันธมิตรผู้ล้างแค้น ต้องใช้ประโยชน์จากพลังของวิหารในหุบเขามรณะ
หากอยากจะปกป้องทุกอย่างไว้ ก็ต้องแข็งแกร่งให้เพียงพอ
ในกรณีที่วันหนึ่งสำนักโล่พิทักษ์ต้องแยกทางกับคฤหาสน์ชวนเทียน และตระกูลลั่วเองก็ไม่คิดที่จะปกป้องพวกเขา ในวันที่แม้แต่องค์จักรพรรดิก็พร้อมที่จะโจมตี หากไม่มีกองกำลังสำรองไว้ พวกเขาก็จะถูกฆ่าในทันที
ลั่วอู๋ได้กลับมาที่สำนักโล่พิทักษ์ในเมืองหลวงของจักรพรรดิ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดคิดว่า หลี่ซวนซง หรือองค์ชายเล็ก จะมารอเขาอยู่ที่สำนักโล่พิทักษ์ นี่เป็นอะไรที่ลั่วอู๋ คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ
องค์ชายเล็กผู้นั้น
มารอเขาถึงที่นี่เลยอย่างนั้นเหรอ?
องค์ชายเล็กยิ้มอย่างอ่อนโยน “น้องชายลั่ว เจ้าปล่อยให้ข้ารอนะ”
“ฝ่าบาท องค์ชายเล็ก” ลั่วอู๋ ทำได้เพียงทักทาย
“ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้” องค์ชายเล็กกล่าวอย่างใกล้ชิด “สำนักโล่พิทักษ์ กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ข้าจึงต้องการสร้างความสัมพันธ์แบบร่วมมือกับสำนักโล่พิทักษ์”
ลั่วอู๋รู้ดีว่านี่เป็นเพียงการทดสอบทัศนคติของเขาโดยองค์ชายเล็ก
เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ดูแลของคฤหาสน์ขององค์ชายได้เคยติดต่อเช่นนี้มาก่อนแล้ว
“ไม่นึกเลยว่าสำนักโล่พิทักษ์ของเราซึ่งเป็นร้านค้าเล็ก ๆ จะสามารถเข้าตาขององค์ชายเล็กได้” ลั่วอู๋กล่าวอย่างถ่อมตัว
องค์ชายเล็กหัวเราะ “นี่ยังคงเรียกว่าเป็นร้านค้าเล็ก ๆ ได้อีกงั้นเหรอ น้องชายลั่ว บริการและสินค้าของที่นี่ล้วนมีมาตรฐานเทียบเท่ากับคฤหาสน์ชวนเทียน”
แม้ว่าสำนักโล่พิทักษ์ในตอนนี้จะยังไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ในแวดวงธุรกิจ แต่ก็เป็นร้านค้าขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ลั่วอู๋หัวเราะและไม่พูดอะไรที่จะทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิง
เมื่อองค์ชายเล็กเห็นว่าลั่วอู๋ไม่อยากพูดถึงหัวข้อนี้ เขาก็ไม่ได้รบกวนลั่วอู๋อีก นี่ทำให้ลั่วอู๋รู้สึกดีมากจริงๆ
มันยากที่จะรังเกียจคนที่มีการวางตัวอันเหมาะสมตลอดเวลาเช่นเขา
ถ้าหลี่ซวนซงเป็นเพียงแค่องค์ชายธรรมดา ๆ ลั่วอู๋ ก็คงอยากจะเป็นเพื่อนกับเขาจริงๆ
แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่อย่างนั้น และลั่วอู๋ก็ไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับความบาดหมางของราชสำนัก
องค์ชายเล็กดื่มชาร้อน รอยยิ้มของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ที่จริงแล้วจุดประสงค์หลักของการมาครั้งนี้ของข้า คือการซื้อรองเท้าเหินฟ้าล็อตนึง”
“ง่าย ๆ ไม่มีปัญหา ท่านต้องการเท่าไหร่ล่ะ?” ลั่วอู๋ ภาม
“ข้าต้องการรองเท้าเหินฟ้าเพียง 500 คู่ และข้าต้องการพวกมันให้มีคุณภาพสูงสุดด้วย” เขากล่าว
รองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูงนั้นมีคุณภาพสูงกว่ารองเท้าเหินฟ้าทั่วไป ทั้งในแง่ของความจุและการใช้ประโยชน์ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะสามารถ “บิน” ได้สูงขึ้น และไกลขึ้น มันสามารถทำงานได้กว่าแบบธรรมดาและทนทานกว่า
ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า“ ตกลง ท่านมารับสินค้าได้ในเจ็ดวันหลังจากนี้”
“ ข้าชอบความตรงไปตรงมาของน้องชายลั่วนะ” องค์ชายเล็กกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ส่วนราคาของรองเท้าเหินฟ้าคุณภาพสูง ข้าให้ 3 แสน หินวิญญาณต่อคู่ เพราะมากกว่านี้ข้าไม่สามารถจ่ายได้แล้ว”
ราคาที่ ลั่วอู๋ ตั้งนั้นอยู่ที่ 100,000 หินวิญญาณ แต่ถ้าขายไปตามปกติราคาก็คงจะสูงขึ้นอยู่ดี
แต่ก็คงแค่ราว ๆ 30% เป็นอย่างต่ำ หรือสูงที่สุดก็คนเพิ่มได้แค่สองเท่า
“ตกลง” ลั่วอู๋เห็นด้วยแต่โดยดี เขาไม่อยากปฏิเสธขอเสนอของอีกฝ่าย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์แบบร่วมมือ ตอนนี้เขาจึงควรตอบรับความกรุณาขององค์ชายเล็ก และไม่ทำให้เขาขุ่นเคือง
จากนั้นองค์ชายเล็กก็เดินจากไป
เมื่อเข้ามาในรถม้ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปอย่างช้าๆ บรรยากาศเข้าสู่ความสงบนิ่งเขากล่าวขึ้นว่า “ไปแจ้งพวกเขา ว่าให้เริ่มการเคลื่อนไหวทุกอย่างได้”
มีการกระเพื่อมในอากาศ
เห็นได้ชัดว่ามีอีกคนอยู่ที่นี่ก่อนหน้านี้
“ไปกันเถอะ” องค์ชายเล็กหลับตาลง ปล่อยตัวให้รู้สึกถึงการสั่นของรถม้าที่แทบไม่มี เขาลูบไหใบเล็กอันเรียบง่ายในมือเบา ๆ
เหมือนว่ากำลังคิดหรือรออะไรบางอย่างอยู่
……
……
ทันทีที่องค์ชายเล็กจากไป คนขององค์จักรพรรดิก็เดินเข้ามา มีคนเอาราชโองการเชิญลั่วอู๋ให้เข้าไปที่พระราชวัง
นี่ทำให้ลั่วอู๋ทำอะไรไม่ถูก
แม้เขาจะสับสน แต่เขาก็ยังต้องไปอยู่ดี
ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ การต่อต้านราชโองการขององค์จักรพรรดิเป็นอะไรที่เขาไม่สามารถทำได้แน่
องค์ชายเล็กและองค์จักรพรรดิ ต่างเข้ามาติดต่อกับลั่วอู๋ ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในแวดวงต่าง ๆ หลายคนเริ่มแอบคิดว่าถึงเวลาที่พวกเขาจะลองไปเจรจาใกล้ชิดกับตระกูลลั่วแล้วหรือยัง
ในไม่ช้าลั่วอู๋ก็มาถึงพระราชวัง เขาเดินเข้าสู่สำนักการศึกษาขององค์จักรพรรดิ
“ทุกคนจงออกไป” องค์จักรพรรดิกล่าวด้วยเสียงนิ่งทุ้มลึก
องครักษ์และสาวใช้ต่างเดินกันออกไป
องค์จักรพรรดิ ประทับอยู่บนบัลลังก์ที่สูง เขามีรูปร่างใหญ่โตและลมปราณอันน่ากลัว ที่พวยพุ่งขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในร่างกายของเขา แต่ก็ไม่ได้ดูมีท่าทีของความโกรธอะไร เพียงแต่มีแสงสีทองอันน่ากลัวในดวงตา ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุผ่านทองคำ หินต่าง ๆ ได้สบาย ๆ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกกลัว
“ฝ่าบาท” ลั่วอู๋กล่าวแสดงความเคารพ
องค์จักรพรรดิขมวดคิ้วแล้วค่อยๆยืดตัวลงพลางหัวเราะเยาะตัวเอง “ชีวิตของข้าเคยอยู่ในเงื้อมมือของเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพก็ได้”
“แต่ว่า … ” เสียงของจักรพรรดิจมลงในทันที “ในตอนที่ข้าส่งคนของตระกูลหนิงให้ไปนำตัวองค์หญิงเจียโรวกลับมา ทำไมเจ้าถึงได้ไปขัดขวางเขา?”
ลั่วอู๋รู้สึกกังวลมากตั้งแต่ที่เขามาที่นี่
ส่วนองค์หญิงเจียโรวกังวลว่านางจะไม่สามารถกลับออกมายังโลกภายนอกได้ หากกลับไปที่พระราชวัง ดังนั้นตอนนี้นางจึงซ่อนตัวอยู่ในสำนักเฉียนหลง
ลั่วอู๋ ทำให้จิตใจของเขามั่นคง “เพราะองค์หญิงเจียโรวไม่ต้องการกลับไปที่พระราชวัง”
“นางยังเด็ก นางจึงไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไร” องค์จักรพรรดิมีสีหน้าอันบึ้งตึงและน่ากลัว “ข้าจะไปทำร้ายนางได้อย่างไรกัน ?”
ใบหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลังจากระงับคำสาปแล้วลมปราณขององค์จักรพรรดิก็ดูมีพลังและอำนาจมากขึ้น มันน่ากลัวมากจริงๆ
ลั่วอู๋เงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท องค์หญิง เจียโรวนั้นมีอายุสิบเก้าปีแล้ว นางมีความคิดและการตัดสินของนางเอง แน่นอนนางรู้ว่าท่านจะไม่มีทางทำร้ายนาง แต่บางครั้งเพื่อตัวนางเองท่านก็ควรให้นางได้พบกับความลำบากบ้าง”
“เจ้าจะไปรู้อะไร?” องค์จักรพรรดิตบโต๊ะ ทำให้โต๊ะในสำนักขององค์จักรพรรดิถูกบดขยี้เป็นผงด้วยพลังวิญญาณอันรุนแรง พลังวิญญาณมังกรทองอันน่ากลัวหลายตัวพุ่งออกมาทำให้ทั้งห้องสั่นสะเทือน
ลั่วอู๋ไม่ขยับเพราะเขารู้ดีว่าองค์จักรพรรดิจะไม่มีทางทำร้ายเขา
หลังจากนั้นองค์จักรพรรดิ ก็ดึงพลังวิญญาณมังกรอันน่ากลัวกลับมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันลึกล้ำ “ทุกสิ่งที่ข้าทำมีเหตุผลเสมอ”
“ แล้วทำไม ท่านไม่คุยกับองค์หญิงเจียโรวก่อนล่ะ” ลั่วอู๋ กล่าว
องค์จักรพรรดิทรงกระซิบ “ข้าไม่สามารถบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้”
“องค์จักรพรรดิ ท่านก็น่าจะรู้นี่ว่า มันเป็นเรื่องยากที่ท่านจะสามารถบังคับให้คนอื่นทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการทำ โดยที่ไม่เต็มใจจะให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนั้น” ลั่วอู๋ทำอะไรไม่ถูก
ทั่วทั้งสำนักขององค์จักรพรรดิตกอยู่ในความเงียบงัน
หลังจากนั้นไม่นานองค์จักรพรรดิก็พูดขึ้นช้าๆ “ต้องให้องค์หญิงเจียโรวกลับมาก่อน”
ลั่วอู๋เงยหน้าขึ้นมองอย่างมั่นคงและพูดด้วยน้ำเสียงอันมั่นใจ “ถ้าเป็นเพราะเรื่องความปลอดภัยข้าจะปกป้ององค์หญิงเจียโรวให้เอง”
ดวงตาขององค์จักรพรรดิเต็มไปด้วยคลื่น
ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดถึงบางอย่างทำให้ดวงตาของเขาฉายแววแห่งการต่อสู้เล็กน้อย แต่ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจยาวออกมา
องค์จักรพรรดิมองดูลั่วอู๋อย่างซับซ้อน “เนื่องจากองค์หญิงเจียโรวชอบที่นั่น ข้าก็จะปล่อยให้นางอยู่ที่สำนักเฉียนหลง อย่างไรก็ตามข้าไม่อนุญาตให้นางเข้าไปในอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ และข้าก็จะไม่อนุญาตให้นางติดต่อใด ๆ สัตว์วิญญาณและสิ่งที่ของเกี่ยวกับอาณาจักรเซียนโบราณหมื่น อมตะ ”
ลั่วอู๋ตะลึง
นี่มันแปลกเกินไปแล้ว
“นี่นับรวมภูตทั้งหมดด้วยหรือไม่?” ลั่วอู๋ ถาม
องค์จักรพรรดิกล่าว “ไม่ ตราบใดที่มันไม่ใช่สัตว์วิญญาณของอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะก็ไม่มีปัญหา”
ไม่ใช่ว่าภูตทุกชนิดจะต้องเกิดมาจากอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ
เห็นได้ชัดว่าภูตที่เกิดในที่อื่นจะไม่ถูกจำกัดโดยองค์จักรพรรดิ
ลั่วอู๋รู้สึกโล่งใจ“ นี่มันง่ายมาก ที่ตั้งของอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะถูกซ่อนเอาไว้จนไม่มีใครได้ค้นพบมาหลายพันปีแล้ว ดังนั้นมันก็แทบจะไม่มีสัตว์วิญญาณที่มาจากที่นั่นเหลืออยู่เลย”
“ใช่แล้ว” องค์จักรพรรดิถอนหายใจ แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะนึกถึงอะไรบางอย่างได้ จากนั้นดวงตาของเขาก็กลับมาเฉียบคม “จงจำสัญญาของเจ้าไว้ หากองค์หญิงเจียโรวเป็นอะไรไป ข้าจะฆ่าเจ้า”
จิตสังหารขององค์จักรพรรดิเต็มไปด้วยแรงกดดันอันน่ากลัว
นี่ทำให้บรรยากาศของทั้งห้องดูเหมือนจะกลายเป็นห้องใต้ดินที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง