ไหปีศาจ - บทที่ 464 ขนมปังผืนพิภพ
บทที่ 464 ขนมปังผืนพิภพ
บทที่ 464
ขนมปังผืนพิภพ
ข้างในร้านนั้นแออัดมาก
จนถึงขนาดที่ลั่วอู๋ตรวจสอบสินค้าในร้านไม่ได้
ขณะนั้นเองผู้ชายท่าทางดูสง่างามที่สวมถุงมือสีขาวก็เดินออกมา พร้อมกับรอยยิ้มอันอบอุ่นและค้อนอันบอบบางในมือของเขา
“กรุณาอย่าเบียดเสียดกัน ยาปีกสีครามแห่งความมืด นั้นได้ถูกกลั่นออกมาแล้ว ทางร้านกำลังจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการประมูล ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ได้โปรดใจเย็น ๆ กันก่อน” ชายคนนั้นกล่าวอย่างแผ่วเบา
รอบข้างเขามีผู้คุ้มกันอยู่รอบ ๆ เพื่อรักษาความเป็นระเบียบ
ความบ้าคลั่งของฝูงชนค่อยๆบรรเทาลง แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากรุมเข้ามา
ลั่วอู๋สับสนเล็กน้อย
ทำไมพวกเขาไม่จัดการประมูล ที่โรงประมูลกันล่ะ?
การประมูลโดยทั่วไป จะเป็นการนำสิ่งของอันมีค่า ขึ้นแสดงในโรงประมูล เพราะมักจะเสนอราคาได้สูงกว่า
ลั่วอู๋ถามคนเดินผ่านไปมาโดยบังเอิญ “ยาปีกสีครามคืออะไรงั้นเหรอ? ทำไมพวกเจ้าต้องมาประมูลกันในร้านค้าด้วย ? ทำไมไม่เอาไปประมูลในโรงประมูลกัน?”
คนที่ลั่วอู๋ถามนั้นเป็นชายรูปร่างอ้วน
ชายอ้วนคนนี้ปาดเหงื่ออยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรีบ และด้วยสภาพแวดล้อมที่แออัดทำให้เหงื่อออกไปทั่วทั้งตัวของเขา
“เจ้าไม่รู้ว่าทำไม พวกเราถึงต้องแห่กันมาที่นี่งั้นหรือ ?” ชายอ้วนถาม อย่างอยากรู้อยากเห็น
“ข้ามาที่ร้านนี้เพื่อซื้อมัน แต่จู่ ๆ ที่นี่ก็แออัดไปด้วยผู้คนอย่างไม่มีเหตุผล จนข้าไม่สามารถเข้าไปได้”
ชายร่างอ้วนไอสองครั้ง “ครั้งนี้ข้าโชคดีมาก เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้าพยายามบีบตัวเขามาที่นี่ 3 ครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าประสบความสำเร็จในการเข้ามาในร้าน”
“สหาย เจ้ายังไม่ตอบคำถามของข้าเลย” ลั่วอู๋ ถาม
ชายร่างอ้วนหายใจเข้าสองสามครั้งจากนั้นเขาก็สร้างโล่พลังวิญญาณขึ้นมา ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมามาก “ยาปีกสีครามแห่งความมืด มันเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้า ที่ได้รับการกลั่นขึ้นมาโดยปรมาจารย์หลิน นักเล่นแร่แปรธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ยานี้จะหมดพลังจนใช้การไม่ได้ ภายในสามชั่วโมง มันต้องนำมาใช้โดยเร็วที่สุด ร้านค้าจึงไม่มีเวลาที่จะส่งไปยังโรงประมูล พวกเขาเลยต้องทำการประมูลในทันทีที่ได้รับมันมา ”
นี่ทำให้ลั่วอู๋นึกขึ้นมาได้
ว่าบนโลกนี้มียาพิเศษอะไรแบบนี้อยู่ด้วย
นอกจากนี้ลั่วอู๋ยังสังเกตเห็นว่าชายร่างอ้วนคนนี้แข็งแกร่งใช้ได้ เขามีมิติวิญญาณระดับทอง มิติเจ็ดหรือแปดเลยทีเดียว เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสวมเครื่องประดับหยกที่ถูกประดับประดาเป็นอย่างดี และแหวนที่นิ้วของเขาล้วนมีมูลค่าสูง เขาน่าจะเป็นลูกของตระกูลขุนนางของที่นี่
เขาไม่คาดคิดเลย ว่าจะมีคนระดับนี้มายังร้านค้า เพื่อซื้อของเช่นเดียวกับแห่เข้าไปซื้อผักในตลาดผัก
“ ปรมาจารย์หลิน? นักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งที่สุดในโลก?” ลั่วอู๋สงสัย
ชายร่างอ้วนมองไปที่ลั่วอู๋อย่างงุนงง “เจ้าไม่รู้จักปรมาจารย์หลินงั้นเหรอ? เจ้ามาจากหุบเขาไหนกัน ? ถึงได้ไม่รู้จักนักเล่นแร่แปรธาตุอันดับหนึ่งของโลก”
ลั่วอู๋พูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เพราะเขาเพิ่งไตร่ตรองได้ถึงคำว่าโลก นั้นหมายถึงภายในพระราชวังเป่ยหมิง
หึ! ทางนั้นต่างหากที่เหมือนมาจากหลังเขาถ้าเทียบกับเขาแล้ว
ขณะนั้นเองก็มีชายชราในชุดคลุมสีเทาขาวสีขาว เดินออกมาจากด้านหลังของร้านด้วยท่าทางดูเหนื่อยล้า
ทุกคนต่างแสดงความเคารพเขา
ชายชราคนนี้คือปรมาจารย์หลิน เขาเป็นหัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุของร้านค้าสีคราม เป็นเพราะการดำรงอยู่ของเขา ทำให้ร้านค้าสีครามสามารถยืนหยัดต่อไปได้
ยาปีกสีครามแห่งความมืด เป็นเม็ดยาที่เขากลั่นออกมา
ลั่วอู๋เองยังคิดในใจว่า เขาช่างยอดเยี่ยมจริงๆที่สามารถกลั่นยาระดับเก้าออกมาได้
บรรดาผู้ที่ไม่ได้เข้าไปในร้านต่างก็ถูกแยกออกไปนอกร้าน โดยมีเพิงเล็ก ๆ ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้คนเหล่านั้นได้พักผ่อน และคอยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิเศษส่งข้อความมาให้
คนแรก ๆ ที่เข้ามาในร้านได้ จะได้รับการดูแลที่ดีกว่าเล็กน้อย พวกเขาจะได้ที่นั่งพิเศษ ผลไม้แห้งและชา รับรอง
ลั่วอู๋นั่งลง
โดยมีชายร่างอ้วนที่เพิ่งเบียดเข้ามากับเขา นั่งอยู่ข้าง
ในเวลาเร่งด่วนเช่นนี้ แทบไม่มีการอุ่นเครื่องใด ๆ พวกเขาเริ่มประมูลสินค้าในทันที
ของประมูลคือยาเม็ดสีฟ้าขนาดเล็กบรรจุในตู้กระจกใสขนาดเล็ก มันดูพิเศษ ด้วยพลังวิญญาณสีฟ้าที่ไหลวนอยู่รอบ ๆ ตัวยา ทั้งเย็นและสดใส พร้อมกับเสียงคำรามของทะเล
พลังวิญญาณของมันแข็งแกร่งมาก มันเป็นยาที่อัศจรรย์ คู่ควรกับการเป็นยาระดับเก้า
“สหาย ยาปีกสีครามแห่งความมืดมีผลอะไรงั้นเหรอ ??” ลั่วอู๋ถามด้วยเสียงต่ำ
ชายร่างอ้วนมองไปที่ลั่วอู๋อย่างเหยียดหยาม “เจ้านี่มันไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ”
“แค่ก ใช่ข้าไม่รู้เลย”
ลั่วอู๋กลอกตา
“เอาเถอะ ข้าจะบอกว่าเจ้าเอง” ชายร่างอ้วนตอบ“ ยาปีกสีครามแห่งความมืดคือยาระดับเก้า เป็นยาที่ถูกพัฒนากลั่นมาโดยปรมาจารย์หลินด้วยการค้นคว้ามานานกว่า 100 ปี วัตถุดิบหลักคือ ปลาวาฬพิณ หนึ่งในสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดใน ระดับทองขั้นสูง เสริมด้วยเลือดและเนื้อของ สัตว์วิญญาณ ที่หายากหลายชนิด รวมถึงสมุนไพรวิญญาณระดับสูงมากกว่าสิบชนิด ซึ่งถูกรวมตัวขึ้นเป็นเม็ดยานี้ … ”
คนอ้วนชวนคุย
ลั่วอู๋พอได้ยินอะไรแบบนี้มาบ้าง
ซึ่งแน่นอนว่าตามที่ได้ยินมาราคาของยาประเภทนี้นั้นสูงมาก
ปลาวาฬพิณเป็นวิญญาณทองขั้นสูง มันเป็นสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในสายพันธ์ุของมัน หนึ่งในสัตว์วิญญาณอันน่าเกรงขามใต้ห้วงลึกของมหาสมุทร
มันมีขนาดใหญ่เกินไปที่จะใช้เป็นวัตถุดิบในการเล่นแร่แปรธาตุ
นอกจากนี้การกลั่นยาวิญญาณระดับเก้าโดยใช้เพียงสมุนไพรระดับกลางและระดับสูงเพียงสิบชนิด งั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าในพระราชวังเป่ยหมิงจะขาดสมุนไพรวิญญาณกัน จริง ๆ
“แล้วมันมีผลอะไรกันแน่” ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะ
ชายร่างอ้วนมองลั่วอู๋ด้วยความไม่พอใจแล้วจึงพูด “มันสามารถเพิ่มความน่าจะเป็น สำหรับการวิวัฒนาการให้กับสัตว์วิญญาณที่มีมิติวิญญาณต่ำกว่าระดับเพชรได้”
ลั่วอู๋ตกใจมาก
มียาแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ ?
เขาไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
ไหปีศาจสามารถช่วยให้ สัตว์วิญญาณ ปรับสภาพแก่นวิญญาณได้ แต่แน่นอนว่ามันไม่สามารถทำให้เกิดการวิวัฒนาการได้ในทันที เพราะการวิวัฒนาการนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน รวมถึงความเป็นไปได้ทีอันไม่มีที่สิ้นสุด
มันเป็นการก้าวกระโดดในสายพันธุ์ของสัตว์วิญญาณ
การวิวัฒนาการนั้นไม่ได้อยู่ในพันธนาการของเผ่าพันธุ์ มันเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปแบบอ้างอิงใด ๆ ตายตัว
การวิวัฒนาการทั้งสองครั้งของต้าหวง อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพราะโชค ความอุตสาหะร่วมกับความช่วยเหลือของ ไหปีศาจ
ทุกคนต่างหวังว่าสัตว์วิญญาณของพวกเขาจะได้รับการวิวัฒนาการ หากพวกมันทำไม่ได้ พวกเขาก็จะเลือกตัวเลือกที่สอง โดยปล่อยให้สัตว์วิญญาณพัฒนามิติวิญญาณด้วยแก่นวิญญาณ
ยิ่งมิติวิญญาณที่สูงขึ้น การวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณ ก็จะยิ่งมีโอกาสเกิดได้ยากขึ้น
แน่นอนว่ามันยิ่งยากขึ้นไปอีกหากต้องการจะพัฒนาแก่นวิญญาณของพวกมัน
“ ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ผู้คนเหล่านี้คลั่งไคล้กันมาก” ลั่วอู๋บ่นพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ความน่าจะเป็นหลังใช้เพิ่มขึ้นมากี่เปอร์เซ็นต์กัน”
ชายอ้วนตอบว่า “มันก็ยากที่จะตอบแหละ หากจากมิติวิญญาณระดับทอง ไปสู่ทองขั้นสูง ว่ากันว่ามันจะช่วยให้อัตราวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นได้ราว ๆ 50% แต่ถ้าเป็นทองขั้นสูงไประดับเพชรจะเพิ่มขึ้นได้เพียง 20% เท่านั้น”
ลั่วอู๋สูดหายใจ
มันไม่ได้ต่ำเลย สูงเกินไปด้วยซ้ำ
ต่อให้สามารถเพิ่มความน่าจะเป็นได้เพียงแค่ 10% แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ นับประสาอะไรกับ 50%
ช่างคู่ควรกับการเป็นยาระดับเก้าจริง ๆ
ผลของมันเกินกว่าความเป็นจริงมาก
“ดูเหมือนว่าโชคของข้าจะดีจริงๆ” ร่องรอยของความตื่นเต้นฉายในดวงตาของลั่วอู๋“ข้าบังเอิญมีโอกาสได้มาพบกับ ยศระดับเทพเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไรกันเนี่ย?”
ชายร่างอ้วนหัวเราะเบา ๆ แล้วจึงพูด “อย่างที่คาดไว้ จริง ๆ เจ้าเนี่ยน้า คนทั่ว ๆ ไปดาด ๆ ดื่น ๆ อย่างเจ้า อย่ามาฝันพลางนั่งมองท้องฟ้าสิ อย่างเจ้าไม่สามารถซื้อยาวิเศษนั้นได้หรอก”
“แล้วเจ้าล่ะจ่ายคิดว่าตัวเองไหวไหม?” ลั่วอู๋ ถาม
ชายอ้วนฮัมเพลงสองครั้ง “ข้าเองก็ไม่สามารถรับประกันได้ แต่ข้าว่าข้าเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่ทรงพลังที่สุดในการประมูลของร้านค้าสีคราม เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลเฉิน แห่งเยว่ฝูไหมล่ะ?
“ไม่เคยได้ยินเลย”
“ ……” ชายอ้วนเอามือก่ายหน้าผากของเขา“ เจ้าเป็นคนขี้เหวี่ยงจริง ๆ แสร้งทำเป็นว่าไม่รู้จักข้ารึไง ? เอาเถอะจะแกล้งแบบนั้น ยังไงซะข้าเป็นขุนนางที่มีอำนาจมากของที่นี่”
“โอ้” ลั่วอู๋พยักหน้า
ชายร่างอ้วนกล่าว “เจ้านั่งเงียบ ๆ ดูความยิ่งใหญ่ ในการประมูลของข้าเถอะ ถ้าข้าได้มัน ข้าจะเอามาให้เจ้าได้ลิ้มรสกลิ่นยา ไปคุยโวกับเพื่อนของเจ้า แค่นั้นก็น่าสนใจมากพอแล้วใช่ไหมล่ะ”
“…… ขอบใจมาก”
“ไม่เป็นไร”
มีเพียง ฮวงเสี่ยวหยวน เท่านั้นที่หัวเราะเยาะ
เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวรู้จักตัวตนของลั่วอู๋ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านที่อยู่เบื้องหลังสำนักโล่พิทักษ์
แม้ความมั่งคั่งของอีกฝ่ายจะอยู่ยงคงกระพันในฐานะขุนนาง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อเทียบกับร้านของลั่วอู๋ที่มีชื่อเสียงจากเมืองหลวงของจักรวรรดิ
ตระกูลเฉิน?
เกรงว่าเขาจะไม่รู้ซะแล้วว่า ผู้มีชื่อเสียงของเมืองหลวงแห่งราชวงศ์มังกรเร้นกายหมายถึงอะไร