ไหปีศาจ - บทที่ 516 ทำลายกำลังรบ
บทที่ 516 ทำลายกำลังรบ
บทที่ 516
ทำลายกำลังรบ
สาเหตุที่ท่านหญิงหยู่อยากตายส่วนใหญ่เป็นเพราะนางโดดเดี่ยวมานานกว่าร้อยปี นางขอสลายหายไปแทนที่จะแบกรับความเหงาที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ แต่ถ้าจัดการตะเกียงนั่นได้ท่านหญิงหยู่ก็ไม่ต้องแสวงหาความตายอีก
ลั่วอู๋พยายามเข้าใกล้ตะเกียงวิญญาณ 49 ดวงรอบห้องโถง เห็นได้ชัดว่าเปลวไฟบนตะเกียงวิญญาณเริ่มสั่นไหวทันทีที่ลมปราณของเงาดาบถูกเปิดเผย
ไฟที่เดิมเป็นกลุ่มเดียวกันนั้นดูเหมือนจะแยกออกจากกัน
แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องทำลายมันแล้ว
ดาบนั้นมีค่าพอ ๆ กับตัวเจ้าของ
ดวงวิญญาณเหล่านี้จำลมปราณของเจ้านายพวกมันได้
ลั่วอู๋ดีใจมาก “ข้าช่วยท่านออกไปได้”
“ไม่ ข้าไปไม่ได้” ได้ท่านหญิงหยู่พูดกะทันหัน
“ทำไม?”
“มันไม่ใช่เพราะตะเกียงวิญญาณที่กักขังข้าในตอนนี้ ตรงกันข้าม มันเป็นเพราะการมีอยู่ของพวกมันที่ทำให้ข้าไม่ถูกกำจัดไป” ท่านหญิงหยู่กล่าว “ถ้าเจ้าปิดตะเกียงวิญญาณไป ข้าก็จะถูกวิญญาณผนึกทั้งสี่ฆ่าตาย มันคือผนึกที่ประกอบโดยราชาผี 23 ตน”
ในสุสานมีราชาผี 23 ตน แม้จะใช้กำลังของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถฝ่าตะเกียงวิญญาณนิรันดร์นี้มาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดที่จะควบแน่นวิญญาณแห่งความแค้น และใช้พลังของผนึกและแก่นหินวิญญาณเพื่อกำจัดท่านหญิงหยู่ออกไป
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการทำลายผนึกวิญญาณทั้งสี่
“ข้าเกือบลืมไปเลย” ลั่วอู๋ตบหน้าผากและมองไปที่วิญญาณแห่งความแค้นบนห้องโถงทั้งสี่ด้าน “นี่มันยากไปหน่อยนะ ต้องทำยังไงดี”
“ตราบใดที่เจ้าสามารถฆ่ามันได้หนึ่งตัว สมดุลของวิญญาณทั้งสี่ก็จะเสียและผนึกก็จะสลายไปเอง” ท่านหญิงหยู่กล่าว
ลั่วอู๋มุ่ยหน้า
นี่คือความขมขื่นที่ต้องเผชิญหน้าหน้ากับยอดระดับทองขั้นสูง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของวิญญาณแห่งความแค้นจะอ่อนแอกว่าสัตว์วิญญาณในระดับเดียวกัน แต่ก็ ระดับนั้นไม่ได้เป็นการตกแต่งเฉย ๆ แน่นอน
มันเป็นไปไม่ได้เลย
แม้ว่าจะใช้น้ำในสระทองคำจนหมด ก็ไม่อาจทำมันได้
หรือจะใช้ดาบไร้ลักษณ์ดี?
ไม่ นั่นแพงเกินไป
เขากลัวว่าจะทำไม่ได้ เขาถึงถามไปว่า “ท่านทนอยู่ได้อีกนานแค่ไหน? ข้าจะออกไปก่อน แล้วข้าจะไปหายอดฝีมือมาช่วยท่าน”
เขายังมีคำขอผู้บัญชาการหลิงหลงอยู่ในมือของเขา
เมื่อกองทัพมังกรกลับมายังเมืองหลวงของจักรวรรดิเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้
ท่านหญิงหยู่ตอบว่า “หนึ่งเดือน”
ลั่วอู๋ปวดหัว
ไม่ได้การ
มันเร่งด่วนมาก บางทีมันอาจจะสายเกินไปถ้าไปหาผู้บัญชาการหลิงหลง
ทำไมไม่กลับไปที่สำนักเฉียนหลงและลองขอรองประธานดู?
ราวกับเห็นว่าลั่วอู๋ทำอะไรไม่ถูก ท่านหญิงหยู่จึงกล่าวว่า “ถึงเจ้าไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ แต่ข้าก็มีวิธีที่จะทำให้พลังของพวกมันอ่อนแอลงอย่างมาก”
ในเมื่อนางมีวิธีที่จะออกไปได้แล้ว นางจึงไม่อยากตายตอนนี้
“ข้าต้องทำอย่างไร?” ลั่วอู๋ถาม
“ระเบิดพลังของหินแก่นวิญญาณ และทำให้จุดกำเนิดหินแก่นวิญญาณระเบิดออกเพื่อรบกวนสมดุลของผนึกชั่วคราวความแข็งแกร่งของวิญญาณแห่งความแค้นทั้งสี่จะลดลงอย่างมาก เจ้าสามารถใช้โอกาสนี้เอาชนะวิญญาณแห่งความแค้นเพื่อให้ผนึกเสียสมดุลได้”
ตราบใดที่ผนึกเสียสมดุล กำลังในการผนึกก็จะอ่อนแอลงอย่างมาก และชีวิตของท่านหญิงหยู่ก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย
“เหมือนข้าจะมีหินแก่นวิญญาณหรอก” ลั่วอู๋หัวเราะ
ท่านหญิงหยู่กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้ามีเหลืออยู่ที่นี่อีกอัน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่รวบรวมกันได้ ชิ้นของเจ้าก็จะยังคงเป็นของเจ้าเอง หากเจ้ามีสัตว์วิญญาณประเภทผี เจ้าสามารถใช้หินแก่นวิญญาณเพื่อยกระดับคุณสมบัติมันได้
“ทำแบบนั้นได้รึ?” ลั่วอู๋ประหลาดใจ
“แน่นอน” ท่านหญิงหยู่กล่าวอย่างจริงจัง “มีเพียงในสถานที่แบบนี้เท่านั้นที่เราสามารถกลั่นหินแก่นวิญญาณบริสุทธิ์เช่นนี้ได้ ราชาผีผู้ยิ่งใหญ่ควบคุมหินแก่นวิญญาณอย่างแน่นหนา นั่นเพราะพวกเขากลัวว่าผีตนอื่นจะกลายเป็นราชาผีด้วย ต่อให้หินแก่นวิญญาณจะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับพวกเขาก็ตาม”
แม้ว่าหินแก่นวิญญาณจะเป็นสมบัติของผี แต่ก็มีผลเพียงเล็กน้อยต่อราชาแห่งผี พวกเขาดูดซับหินแก่นวิญญาณเพียงเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของตัวเองให้อยู่จุดสูงสุดไว้เท่านั้น อย่างไรก็ตามหากมีราชาผีมากเกินไปส่วนแบ่งของหินแก่นวิญญาณก็จะน้อยลง ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนหินแก่นวิญญาณ ดังนั้นราชาผีจึงไม่ยอมให้ผีตนอื่นมาแตะต้องหินแก่นวิญญาณ
“เจ้าต้องการมันรึเปล่า?” ลั่วอู๋ถามด้วยความกังวลเล็กน้อย
อารมณ์ของท่านหญิงหยู่สงบลง อาจเป็นเพราะนางฝากความหวังไว้และรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย “ข้าเกิดมาเมื่อร้อยปีก่อน ซึ่งห่างไกลจากความต้องการหินแก่นวิญญาณ”
เวลาก็โหดร้ายกับผีไม่แพ้กัน
“ตอนนี้มีปัญหาอยู่ นั่นคือเจ้าต้องเข้าใกล้วิญญาณแห่งความแค้นแล้วระเบิดหินแก่นวิญญาณ ทว่าวิญญาณแห่งความแค้นจะโจมตีทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวได้หากเข้าใกล้พวกมัน” ท่านหญิงหยู่กล่าว
นี่คือสาเหตุที่ไม่มีผีตนอื่นกล้าเข้าใกล้ห้องโถง
ราชาแห่งผีนั้นแข็งแกร่งที่สุดในระดับทองขั้นสูง
ผีอื่น ๆ ไม่มีใครเทียบได้เลย
“งั้นก็ต้องเข้าหาแบบเงียบ ๆ รึ?” ลั่วอู๋ถาม
“ใช่ มันอาจจะยากเล็กน้อยสำหรับเจ้า และเจ้าก็ควรรู้ว่าการรับรู้ของวิญญาณแห่งความแค้นนั้นก็มีความเฉียบคมเช่นกัน”
ลั่วอู๋ยิ้ม “ถ้าเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นอย่างอื่นก็อาจจะยากหน่อย แต่ถ้าต้องเงียบเนี่ยไม่ยากมากหรอก”
ลั่วอู๋หยิบไข่มุกออกมาแล้วถือไว้ในมือ ในไม่ช้าพลังของไท่หยินก็ค่อย ๆ ไหลออกมา แล้วก็โอบร่างของลั่วอู๋ไว้โดยที่ไม่มีลมปราณใด ๆ เล็ดลอดออกมา
“นี่มันอะไรกัน?”ท่านหญิงหยู่รู้สึกประหลาดใจ
นางพบว่าแม้นางก็ไม่พบตำแหน่งของลั่วอู๋ในสุสานที่เต็มไปด้วยวิญญาณ
ลั่วอู๋ไม่ตอบ แต่ได้นำหินแก่นวิญญาณของท่านหญิงหยู่ออกไป และเข้าหาวิญญาณแห่งความแค้นอย่างเงียบ ๆ
ก่อนหน้านั้นลั่วอู๋ได้เข้าไปในโลกไหและถามไป่ฉี “ธาตุน้ำ ธาตุทอง ธาตุไฟ และธาตุดิน ในสี่ธาตุนี้เจ้าต้องการธาตุไหน?”
ไป่ฉีไม่ได้เตรียมตัวไว้สำหรับคำถามนี้ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งไป่ฉีก็พูดว่า “ถ้าให้เลือกจากในนั้นละก็ต้องเลือกทองอยู่แล้วสิ”
ทองเป็นตัวแทนของการโจมตี
สำหรับทหารการเพิ่มธาตุทองเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด
“ได้เลย”
ลั่วอู๋ออกจากโลกไหอย่างรวดเร็ว
ไป่ฉีตกอยู่ในความงุนงง ทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้กะทันหัน? วิญญาณแห่งความแค้นซึ่งไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดามีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามระดับของวิญญาณแห่งความแค้นนั้นดีมาก และมันยกระดับกองทัพได้อย่างมาก
ไป่ฉีไม่สนใจ เขายุ่งอยู่กับการฝึกฝนนายพลผีระดับทอง 500 ตนที่ลั่วอู๋เพิ่งพาเข้ามา
ผีระดับนี้ต้องเชื่องไม่งั้นจะมีปัญหามากขึ้น
โชคดีที่ไป่ฉีไปถึงระดับทองขั้นสูงแล้ว เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่เขาจะปราบพวกผีด้วยความแข็งแกร่งสำเร็จ
สติของลั่วอู๋กลับคืนสู่ความเป็นจริง
ในขณะนี้เขามาที่วิญญาณแห่งความแค้นตัวผมสีขาวและมีใบหน้าสีแดง แต่วิญญาณแห่งความแค้นนั้นยังไม่มีความรู้สึกยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ทางทิศตะวันตกของห้องโถง
สีขาวแสดงถึงความเป็นทองในห้าองค์ประกอบ
“ไปเลย” ลั่วอู๋นำหินแก่นวิญญาณออกมาและทำตามวิธีที่ท่านหญิงหยู่บอก ค่อย ๆ เติมพลังวิญญาณเข้าไป และในพริบตาก็ระเบิดพลังอันน่ากลัวที่มีอยู่ในนั้นออกมา
ตูม!
หินวิญญาณก็ระเบิดอย่างน่ากลัวทันที
หินวิญญาณที่อยู่ในสุสานทั้งหมดก็เป็นเหมือนทะเลที่ เทลงในธารหินหนืด มันเดือดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เกิดความปั่นป่วนมากมาย
หินวิญญาณเสียสมดุล
ทันใดนั้นวิญญาณทั้งสี่ก็ตกตะลึง
ในเวลาเดียวกันทั้งสุสานก็สั่นสะเทือน
วิญญาณแห่งความแค้นทั้งสี่ดูโกรธเกรี้ยวอย่างมาก และคำรามขึ้นไปบนฟ้า ผีต่าง ๆ ก็ถูกรบกวนและส่งเสียงตะโกน
ทันใดนั้นเหล่าวิญญาณร้องไห้และผีก็ร้องโหยหวนซึ่งทำให้ใจสั่นผวา
จิตใจของลั่วอู๋ปั่นป่วน แต่ไม่นานก็สงบลง พลังของวิญญาณแห่งความแค้นก็ถูกกำจัดออกไปอย่างรวดเร็ว ลมปราณก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเป็นผีละก็” ไฟแห่งความว่างเปล่าลุกขึ้นช้า ๆ ในมือของลั่วอู๋ เขาหายใจเข้าลึก ๆ ราวกับว่ามีพลังบางอย่างติดอยู่ในลำคอของเขาและปะทุขึ้น
ระดับ S [ไฟแห่งความว่างเปล่า]
ระดับ S [เสียงคำรามแห่งความกล้า]
ล้วนเป็นทักษะที่ใช้กับผีได้โดยตรง
เสียงคำรามนั้นไร้ความกลัว วิญญาณสั่นสะเทือน เปลวไฟเผาไหม้วิญญาณและทำลายผี พลังของวิญญาณแห่งความแค้นผมสีขาว ซึ่งแสดงถึงลักษณะของทองถูกดึงออกมาอย่างมากและได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงล้มลงพร้อมกับเสียงโหยหวน
ผนึกยังไม่ถูกทำลาย แต่พลังของผนึกก็ลดลงครึ่งหนึ่ง แม้ว่าจะยังคงมีอยู่ แต่ก็จะไม่คุกคามชีวิตของท่านหญิงหยู่ได้อีกต่อไป
ลั่วอู๋โบกมือแล้วเขาก็ดูดซับวิญญาณแห่งความแค้นเข้าสู่โลกไหโดยตรง
“ไปกันเถอะราชาผีจะตื่นแล้ว” เสียงกระตือรือร้นของท่านหญิงหยู่ดังมา
“ข้าจะพาคนมาช่วยเจ้าในภายหลัง” ลั่วอู๋ทิ้งประโยคดังกล่าวแล้วกลายเป็นแสงสีขาวออกจากสุสานอย่างรวดเร็ว