ไหปีศาจ - บทที่ 573 ข้าไม่รู้
บทที่ 573 ข้าไม่รู้
บทที่ 573
ข้าไม่รู้
ตอนนี้ลั่วอู๋ได้เก็บตัวฝึกฝนเพื่อเข้าใจแก่นแท้ของทักษะวิญญาณ
แก่นแท้ทักษะวิญญาณทั้งสามที่เขาได้รับการเกริ่นนำมาจากประสบการณ์ต่างๆ นั้นเพียงพอแล้วที่จะเติมเต็มความแข็งแกร่งที่เขาต้องการ แม้ว่ามันจะยากและอาจทำให้สับสนในแก่นแท้ แต่ผลกำไรที่เขาจะได้นั้นมากกว่าการสิ่งที่ต้องเสียแน่ ๆ
ลั่วอู๋ได้เริ่มที่จะก้าวข้ามมิติวิญญาณแล้ว
ขณะเดียวกัน
ในคฤหาสน์อันงดงามราวกับวังหลังเล็ก ๆ ต้าหวงนอนอยู่ในตำแหน่งที่ทุกคนคุ้นเคย นอนเฝ้าประตูที่ถูกปิดเอาไว้
นั่นก็เพราะแก่นวิญญาณของเทพพิทักษ์เวหาได้ถูกขังเอาไว้ที่นี่
ร่างกายของมันได้ตายไปแล้ว ความแข็งแกร่งของมันจึงลดลงไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณในแก่นวิญญาณเองก็ได้ถูกทำลายลงไปโดยมังกรขององค์จักรพรรดิ
มันเป็นเรื่องยากที่จะสามารถกู้คืนสิ่งที่เสียไปได้
เพราะมันไม่มีโอกาสในการหลบหนี
แต่ตอนนี้โอกาสหนีได้มาถึงแล้ว ลั่วอู๋กำลังเก็บตัวฝึกและสุนัขโง่ตัวนี้ก็กำลังนอนหลับ ตอนนี้มันข้างกายมันจึงไม่มีใครคอยคุ้มกันอยู่
“เมื่อไหร่ ข้าฟื้นคือพละกำลังกลับมาได้ ข้าจะทำลายสถานที่แห่งนี้ให้ราบ และปัดเป่าความแค้นความเกลียดชังของข้าให้จงได้” เทพพิทักษ์เวหาเต็มไปด้วยความโกรธ
จากนั้นมันก็ค่อย ๆ ค้นหาทางออกจากห้องอย่างระมัดระวัง
ห้องนี้ถูกปิดผนึกเอาไว้ โดยมีร่องรอยของพลังวิญญาณบางอย่างปกคลุมอยู่ กลิ่นอายของพลังวิญญาณนี้คล้ายคลึงกับภูตไห ทำให้เทพพิทักษ์เวหารู้สึกสับสน
มันไม่ได้สวามิภักดิ์ต่อภูตไหอย่างสมบูรณ์
เพียงแค่ว่ามันได้ทำข้อตกลงไว้กับเขา
ภูตไหนั้นได้ช่วยให้มันทะลุขีดจำกัดมิติวิญญาณของตัวเอง มันจึงปกป้องเขาด้วยความสมัครใจเป็นเวลาหลายพันปี
ทว่าหลังจากพยายามค้นหาทางออกมาเป็นเวลานาน เทพพิทักษ์เวหาก็ยังไม่พบทางออกใด ๆ เว้นแต่เขาจะเข้าไปในส่วนลึกของคฤหาสน์ที่เหมือนพระราชวังนี้ ซึ่งมันก็ไม่กล้าทำเช่นนั้น
หากมันไปรบกวนมนุษย์คนนั้นเขา มันคงจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่แน่
“ ไม่มีทางหนีอื่นจริงๆเหรอ?”มันไม่เต็มใจที่จะต้องเสียโอกาสดีๆเช่นนี้
ทันใดนั้นมันก็มองไปยังต้าหวงที่กำลังนอนหลับอย่างสงบ
แม้ว่าสุนัขตัวนี้จะแข็งแกร่ง แต่มันก็ดูธรรมดามาก มันคงไม่สามารถต่อสู้กับสัตว์วิญญาณระดับทองทั่ว ๆ ไปได้แน่ หรือว่ามันจะมีทักษะอะไรแอบแฝง?
ด้วยความคิดนั้นเทพพิทักษ์เวหาจึงได้ทำในสิ่งที่จะต้องทำให้มันเสียใจไปตลอดชีวิต
มันแอบเข้าไปใกล้ ๆ ต้าหวงแล้วมองขึ้นลงไปที่ร่างกายของต้าหวง ด้วยความที่ต้าหวงไม่ได้ต่างอะไรไปจากสุนัขธรรมดาในตอนนี้ มันจึงไม่ได้รู้ถึงศักยภาพที่แท้จริงของต้าหวงเลยแม้แต่น้อย
“ ไอ้ หมาโง่ เจ้ากล้าขู่ข้างั้นเหรอ” เทพพิทักษ์มองไปที่ต้าหวงด้วยความมุ่งร้าย “หากเป็นในตอนที่ข้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้วละก็ เพียงแค่การเป่าลมหายใจของข้าก็สามารถทำให้เจ้ากลัวจนหมดปัญญา ทำลายแก่นวิญญาณและร่างของเจ้าได้สบาย ๆ!”
หากมันหนีไปฟื้นพละกำลังได้สำเร็จแล้วละก็ มันปฏิญาณว่าจะกลับมาถลกหนังหมาหน้าโง่ตัวนี้เป็นอย่างแรก
เทพพิทักษ์เวหาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็แอบปีนขึ้นไปบนร่างของต้าหวง
มันคิดจะลองท้าทายดูว่า มันพอจะมีโอกาสในการที่จะหลบหนีจากสุนัขโง่ตัวนี้ได้หรือไม่
ต้าหวงก็ดูเหมือนสุนัขธรรมดา ๆ
ไม่มีอักขระพิเศษ และไม่มีกลไกลับอะไร
“มันอยู่ในปากของเจ้านี้รึเปล่านะ สุนัขโลกันตร์ในตำนานมีตราสวรรค์อยู่ในปาก ซึ่งสามารถช่วยให้มันรองรับการโจมตีทุกรูปแบบได้ บางทีสุนัขโง่ตัวนี้ก็อาจจะมีทักษะที่คล้าย ๆ กันก็เป็นได้” เมื่อเทพพิทักษ์เวหาเข้าไปดูต้าหวงใกล้มันก็คิดเช่นนี้
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือยิ่งมันคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งรู้สึกว่าข้อสันนิษฐานนี้สมเหตุสมผลมากขึ้นเท่านั้น ถ้าต้าหวงเป็นเพียงสุนัขธรรมดา ๆ ลั่วอู๋จะมอบหมายให้ต้าหวงมาคอยเฝ้ามันได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามมันอาจจะยังมีโอกาสหนีรอดอยู่ก็ได้
ดังนั้นเทพพิทักษ์เวหาจึงเข้าไปใกล้ ๆ ที่ปากของต้าหวงอย่างระมัดระวังใกล้ ๆ แล้วจึงแง้มปากของต้าหวงออกเล็กน้อย
มันมืดมิดราวกับว่าไม่มีอะไรอยู่ภายใน
“ดูเหมือนเจ้านี้จะมีแก่นแท้ทักษะบางอย่างรึเปล่านะ” เทพพิทักษ์เวหาเอาหัวของมันเข้าไปใกล้ ๆ พยายามมองด้านในปากของต้าหวงให้ชัดเจนขึ้น แต่มันไม่ได้คาดคิดเลยว่าการกระทำของมันนั้น ได้บังเอิญไปถูจมูกของต้าหวง
ฮัม
โฮ่ง
ต้าหวงที่กำลังอยู่ในห้วงความฝันรู้สึกคันจมูก จมูกของมันจึงกระตุกเล็กน้อย
“โฮ่ง!” ต้าหวง จามอย่างดุเดือด
คลื่นอากาศและน้ำลายถูกพ่นออกมาใส่เทพพิทักษ์เวหาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะในเวลานี้ที่หัวของเทพพิทักษ์เวหานั้นกำลังส่องเข้าไปในปากของต้าหวง ซึ่งต้าหวงก็อ้าปากกว้างขึ้นเพราะการจามพอดิบพอดี
“กรร!”
เสียงคำรามต่ำอย่างตกใจดังขึ้น
ต้าหวงลืมตา จากนั้นก็หรี่ลงเคี้ยวปากไปเรื่อย ๆ ! นี่มันอะไร? มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในปากของมันได้อย่างไรกัน? รสชาติที่ดีน่าขยะแขยงอันเต็มไปด้วยกลิ่นที่น่าขยะแขยงนี่คืออะไร
เดี๋ยวนะ!
หรือว่ามีคนเข้ามาวางยาเทพพิทักษ์เวหากัน?
ต้าหวงโกรธจัด ใครกันที่กล้ามาวางยาพิษเทพพิทักษ์เวหาที่มันดูแลคุ้มกันอยู่? ฝันไปเถอะ!
“กรร!”
รูปร่างของ ต้าหวง แปรเปลี่ยนไปในทันที มันกลายเป็นสุนัขยักษ์สีเงินตัวใหญ่
จากนั้นมันก็ใช้ทักษะการกลืนกินสวรรค์ ทำให้พลังวิญญาณอันน่ากลัวของทักษะกลืนกินสวรรค์หลั่งไหลก็ออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ความสามารถนี้จะกลืนกินทุกสรรพสิ่งและดึงกลับมาเป็นพลังของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นมีชีวิตหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าหากพลังวิญญาณของเป้าหมายนั้นมีมากเกินความสามารถของต้าหวง มันก็จะถูกกลืนกินและย่อยสลายกลายเป็นความว่างเปล่า
ความเข้าใจในแก่นแท้ของทักษะ ระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณนั้นเชื่อมโยงกัน ดังนั้นต้าหวงจึงเข้าใจแก่นแท้ของทักษะแห่งการกลืนกินด้วยเช่นกัน
ด้วยความเข้าใจในแก่นแท้ทักษะแห่งการกลืนกิน พลังวิญญาณของทักษะกลืนกินสวรรค์จึงน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ สภาพอากาศนั้นเปลี่ยนแปลงไปราวกับว่าห้วงมิตินั้นจะกลืนกินสวรรค์และโลกทั้งหมด
สถานการณ์นี้กลายเป็นความขมขื่นของเทพพิทักษ์เวหา มันพยายามต่อสู้ดิ้นรน ส่งเสียงโหยหวนอย่างเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แม้แต่เสียงของมันก็ได้ถูกกลืนกินลงไป แรงดูดอันน่ากลัวฉีกร่างของมันออกเป็นอณูวิญญาณลากมันเข้าไปในหลุมดำที่ไม่อาจหยั่งรู้จุดจบได้
หมาโง่ตัวนี้มันเป็นสัตว์ประหลาดชัด ๆ มันแปลงร่างได้ยังไงกัน! ทำไมจู่ๆลมปราณของมันก็พุ่งทะยานขึ้นถึงขนาดนี้ได้กัน!
ต้าหวงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
ไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมลมปราณของสุนัขหน้าโง่ตัวนี้ถึงรุนแรง มันเข้าใจในแก่นแท้ของทักษะแห่งการกลืนกิน!
นี่เป็นความคิดสุดท้ายของเทพพิทักษ์เวหาก่อนที่มันจะสูญสลายหายไปในความว่างเปล่า หลังจากที่ร่างกายของมันตายลง ในที่สุดแก่นวิญญาณของมันก็สลายไป
เดิมทีตัวมันก็เป็นสัตว์วิญญาณที่ถูกทำลายความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ออกไปแล้ว แม้ว่ามันจะมีแหล่งที่มาเป็นตัวตนของสัตว์วิญญาณระดับสูง แต่มันก็ไม่ได้มีแก่นแท้ของทักษะที่แข็งแกร่งพอจะต่อต้านแก่นแท้ทักษะของต้าหวง ดังนั้นมันจึงไม่สามารถหลุดหนีออกมาจากพลังวิญญาณกลืนกินได้
“หึ เจ้าคิดว่าจะฆ่า เทพพิทักษ์เวหาต่อหน้าข้าได้รึยังไงกัน?” ต้าหวงฮัมสองครั้งโดยไม่สนใจสิ่งที่อยู่ในปากของมัน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ต้าหวงก็ยังเอนตัวลงนอนต่ออย่างสบายใจ จนกระทั่งมันพบว่ามีบางอย่างหายไปในห้อง
เอ๊ะ? แล้วเจ้าหมาแดงล่ะ?
มันหายไปไหนกัน?
หนีไปแล้ว?ไม่จริงน่า ต้าหวงรีบลุกขึ้นเพื่อมองหามัน แต่มันก็ไม่พบอะไรอยู่เลยในห้อง
เสร็จกัน!
เทพพิทักษ์เวหาของมันหายไปแล้ว
หัวใจของ ต้าหวง เต้นอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้มันเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ แต่ไม่ใช่เพราะสุนัขสีแดงได้หายไป ปัญหาหลักตอนนี้คือมันรู้สึกปวดท้องมาก และความรู้สึกนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เกิดอะไรขึ้น? มันกินอะไรที่ไม่สะอาดไปงั้นเหรอ
ไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นนี่นา ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ร้ายใด ๆ พิษแบบไหน มันก็ได้อาศัยทักษะนี้ในการกลืนกินมาตลอด ไม่ว่าจะเครื่องดื่ม ของทะเล ยาเม็ด กลืนกินมั่ว ๆ แบบสุ่ม ก็ไม่เคยเกิดเหตุอะไรแบบนี้
นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น
ขณะนั้นเองร่างหนึ่งก็กะพริบขึ้นมาในใจของมัน ลมปราณของมันรุนแรงขึ้นและไม่เป็นระบบระเบียบ มีแก่นแท้ทักษะวิญญาณที่แตกต่างกันสามอย่างในร่างกายของมัน ซึ่งกำลังค่อย ๆประสานกัน ทำให้มันลุกลี้ลุกลนราวกับว่ามีระเบิดกำลังจะตกลงไปในทะเลแก่นวิญญาณของมัน ทำให้คลื่นพลังวิญญาณในห้องสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ต้าหวง! นำแก่นวิญญาณของเทพพิทักษ์เวหามาให้ข้าสิ” เสียงของลั่วอู๋ดังขึ้น
ต้าหวงสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง จากนั้นมันก็ล้มตัวลงนอนบนพื้น ปิดตาด้วยกรงเล็บและบิดหัวอย่างตลก
ไม่มีใครเห็นข้า ไม่มีใครเห็นข้า
ต้าหวง คิดอย่างเงียบ ๆ
“ต้าหวงอย่าเพิ่งหลับ! จับแก่นวิญญาณของเทพพิทักษ์เวหามาให้ข้าที มันมีประโยชน์ต่อข้ามากในตอนนี้” ลั่วอู๋ร้องเรียกอย่างกังวล
ต้าหวงไม่สามารถแสร้งหลับต่อไปได้อีก มันจึงทำได้เพียงแค่ลืมตาแล้วทำหน้าไร้เดียงสาอย่างสับสน
นายน้อยกำลังพูดถึงอะไร?
มันคือหมาพันธุ์อะไร? ข้าไม่รู้จัก
ข้าไม่เข้าใจว่าท่านกำลังพูดถึงอะไร