ไหปีศาจ - บทที่ 593 ข้าอยากขออนุญาตก่อน
บทที่ 593 ข้าอยากขออนุญาตก่อน
บทที่ 593
ข้าอยากขออนุญาตก่อน
หลี่หยินเริ่มคิดว่าจะกลับไปก่อนลั่วอู๋ดีไหม
ชายชราคนนี้ดูเพี้ยน ๆ และเอาแต่ถามคำถามนาง ซึ่งทำให้นางไม่เข้าใจแก่นแท้เลย แต่นางก็อยากรอให้ลั่วอู๋ออกมาก่อน
เมื่อหลี่หยินยังเสียสมาธิ ชายชราก็ยิ้มและพูดว่า “แม่หนู เจ้ากำลังทำอะไรอยู่”
จริงอยู่ที่ว่าเขาอยู่ห่างออกไป แต่เสียงของชายชราก็ยังคงชัดเจนราวกับเขามาพูดต่อหน้า
“ข้ากำลังรู้สึกถึงแก่นแท้แห่งมิติอยู่ อย่ามารบกวนข้า” หลี่หยินโกรธเล็กน้อยและถอยหลังไปสองก้าว
ชายชราตะลึงงัน
แก่นแท้แห่งมิติ?
เขามองไปที่หินมิติและน้ำแข็งแห่งความว่างเปล่า ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า “แม้ว่าแก่นแท้มิติจะดี แต่ก็ยังดุดันน้อยไปหน่อย แก่นแท้แห่งการฆ่านั้นทรงพลังกว่าหลายขุม แล้วเจ้าก็มีคุณสมบัติอย่างมากด้วย ถ้าข้าสามารถให้คำแนะนำเจ้าได้บ้าง เจ้าจะสามารถเข้าสู่แก่นแท้แห่งการฆ่าได้อย่างง่ายดาย”
“แก่นแท้แห่งการฆ่า?” หลี่หยินมองไปที่ชายชรา
ชายชราพยักหน้า “ใช่แล้ว แก่นแท้แห่งการฆ่า มันเป็นหนึ่งในแก่นแท้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเชียวล่ะ”
“แต่ข้าไม่ชอบการฆ่า ทำไมข้าต้องเข้าใจแก่นแท้แห่งการฆ่าล่ะ? มันจะได้ผลสองเท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียวหรือไง?”
หากถูกบังคับให้เข้าใจแก่นแท้ที่ตนไม่รู้จักหรือไม่ชอบ ประสิทธิภาพก็ต่ำลงมาก
เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดี
“ชอบหรือไม่ชอบมันไม่มีความหมายหรอก บางครั้งคนเราก็ไม่มีทางเลือก” ชายชราถอนหายใจ “มีเหตุผลมากมายที่ทำให้ต้องฆ่ากัน เจ้าก็น่าจะเข้าใจดี”
หลี่หยินส่ายหัว “ข้าไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจเหรอ?” ชายชราขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “เจ้าไม่เคยฆ่าคนหรือ?”
หลี่หยินกะพริบตา “ไม่เคย”
ชายชรารู้สึกประหลาดใจ “แล้วเจ้าเชี่ยวชาญการฆ่าสัตว์ดุร้ายทุกชนิดได้อย่างไร?”
“ไม่นะ ข้ายังไม่เคยฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากฆ่าปีศาจบางตัวในนรกมนตรา และในตอนแรกพวกมันส่วนใหญ่ก็ถูกฆ่าโดย หมิงหยู่และหลินยูหลันข้าออกจะเป็นตัวเกะกะพวกเขาเสียด้วยซ้ำ” หลี่หยินพูดอย่างนั้น
ชายชรารู้สึกงงงวย
เป็นไปได้ยังไง?
แล้วเจ้าได้รับการยอมรับจากฝันร้ายได้ยังไง?
ชายชรากำลังงงงวย
มีเพียงจิตสังหารขั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะได้การยอมรับจากฝันร้าย คนที่มีจิตสังหารขั้นสุดจริง ๆ ก็ต้องเคยฆ่าอย่างแน่นอน และจิตสังหารเช่นนี้คงไม่สามารถปลอมขึ้นได้โดยแค่นึกเอา
ชายชราอดกลั้นเป็นเวลานานก่อนกล่าวว่า “ไม่ว่าจะเคยฆ่าหรือไม่ก็ตาม เจ้าจงบูชาข้าเป็นอาจารย์เสีย ข้าแน่ใจว่าจะให้สิ่งที่มีทั้งหมดกับเจ้าได้แน่”
“ไม่เอา” หลี่หยินส่ายหัว
“ทำไมเล่า!”
ชายชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขายอมถ่อมตัวขนาดนี้ คิดยังไงถึงปฏิเสธกันง่าย ๆ
“ข้าไม่ต้องการเรียนรู้แก่นแท้แห่งการฆ่า” หลี่หยินกล่าว
ชายชราแทบขาดใจ
คนที่ฝันร้ายเลือกบอกว่าตนไม่ต้องการเรียนรู้แก่นแท้การฆ่าเนี่ยนะ
ไม่มีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้เลย
“ทำไม?” ชายชรากล่าวอย่างไม่เต็มใจ
หลี่หยินส่ายหน้าไม่ตอบ
“ข้าสามารถสอนอะไรก็ได้ที่เจ้าอยากรู้เลยนะ” ชายชราไม่สนใจท่าทีของหลี่หยิน เขาโอ้อวดและโน้มน้าวหลี่หยินต่อ
“ข้าต้องการเรียนรู้แก่นแท้แห่งมิติ” หลี่หยินกล่าว
ความคิดของนางนั้นเรียบง่ายมาก
หากนางมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแก่นแท้แห่งมิติก็สามารถช่วยนายน้อยในการสร้างเสถียรภาพของช่องทางมิติเพื่อให้เขาสามารถประหยัดเงินได้อย่างมาก
และหากนางสามารถไปได้ไกลกว่านั้นก็ยังสามารถริเริ่มที่จะเปิดช่องมิติได้ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการไปยังอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ
แน่นอนว่าความคิดของหลี่หยินยังคงไร้เดียงสาเกินไป
หากต้องการเปิดช่องมิติ อย่างน้อยก็ควรไปถึงระดับที่สี่ของ “ตงหมิง” ในความเข้าใจแก่นแท้มิติและยังต้องการการสนับสนุนจากมิติวิญญาณขั้นสูงซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ได้สิ ได้เลย ข้าจะสอนเจ้าเอง!” ชายชราปลื้มปีติ โชคดีที่เขาเข้าใจแก่นแท้แห่งมิติแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่เชี่ยวชาญเท่าแก่นแท้แห่งการฆ่า แต่เขาก็ยังคงเป็นอาจารย์ที่ดีให้นางได้แน่นอน
หลี่หยินมองไปที่ชายชราและพยักหน้า “งั้นข้าจะยอมรับเจ้าในฐานะอาจารย์ก็ได้”
ชายชราแปลกหน้าคนนี้น่าจะดีมาก
ถึงจะเพี้ยนนิดหน่อย แต่ก็น่าจะทนได้
ถ้าชายชรารู้ว่าหลี่หยินคิดอะไรเขาจะร้องไห้แน่ แต่ตอนนี้เขามีความสุข นี่คือผู้สืบทอดจากพระเจ้า
“แต่…” หลี่หยินพูด
“แต่อะไร?” ชายชรากล่าว
“ข้าจะถามนายน้อยก่อน” หลี่หยินอายนิดหน่อยแล้วกล่าวว่า “ข้าค่อนข้างไม่มีประสบการณ์ กังวลว่าจะถูกคนไม่ดีหลอกเอาได้”
ชายชรารู้สึกเหมือนมีลูกศรปักเข้าหัวใจของเขา
มันน่าเจ็บใจเกินไป
ข้าดูเหมือนคนเลวขนาดนั้นเลย?!
มันแย่มาก
ชายชรารู้สึกเศร้า เขาถ่อมตัวเกินไป ตอนนี้พอจะได้ลูกศิษย์ก็ต้องได้รับอนุญาตจากผู้อื่นก่อนอีก
“หนุ่มที่เพิ่งเข้าไปเป็นนายน้อยของเจ้าสินะ?” ชายชราถาม
หลี่หยินพยักหน้า
“เจ้ารอนี่แหละ!”
ชายชราเดินเข้าไปในคฤหาสน์สุตรา
หลี่หยินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ตามไปอย่างรวดเร็ว เพราะยามเฝ้าประตูไม่อยู่ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายแต้มแล้ว
……
……
ลั่วอู๋ยังคงเดินหาหนังสือในคฤหาสน์สุตรา
คฤหาสน์สุตรามีห้าชั้น แต่คนส่วนใหญ่เข้าได้ถึงแค่ชั้นที่สี่
ครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่ลั่วอู๋เอาต้นฉบับของหนังสือที่ชั้นสี่ไปเกือบครึ่งหนึ่ง
เพื่อที่จะค้นหาได้อย่างรวดเร็ว
เขาโยนหนังสือลงในโลกไหโดยตรง
เหล่าพันธมิตรผู้ล้างแค้นที่กำลังฝึกเล่นแร่แปรธาตุและนายพลผีที่ยังคงใช้งานได้ถูกเรียกให้อ่านด้วยกัน
ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะจะได้รับการบันทึกและคัดกรองโดยลั่วอู๋
แต่ผ่านไปนานแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะลึกลับมาก มีบันทึกเกี่ยวกับมันน้อยเกินไป
ลั่วอู๋รู้เพียงคร่าว ๆ ว่าอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะน่าจะมีมาก่อนมนุษยชาตินานมาก
ดังนั้นผู้ที่อยู่ในอาณาจักรหลายคนจึงถูกเรียกว่าผู้เป็นอมตะ
เมื่อหลายหมื่นปีก่อนดูเหมือนว่าอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะยังคงเป็นสถานที่ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถเข้าออกได้
แต่เมื่อมนุษย์ค่อย ๆ รู้แจ้งและเริ่มสร้างอารยธรรมของตนเอง อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะก็หายไปและไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย
“มันใช้ไม่ได้เลย” ลั่วอู๋หัวเราะอย่างขมขื่น
ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ช่วยอะไรในการเข้าสู่อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ
ขณะนี้เกิดความวุ่นวายที่ชั้นล่าง
ลั่วอู๋ประหลาดใจเล็กน้อย
เขารีบหยิบหนังสือทั้งหมดที่โยนลงไปในไหและใส่กลับเข้าที่เดิม
“เจ้าหนู!” ชายชราเข้ามาหาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
หัวใจของลั่วอู๋จมลง
เป็นไปได้ว่าเขาจะถูกจับได้ว่าขโมยหนังสือ
ชายชราไม่ใช่คนธรรมดา เขาก็ยังคงไม่ค่อยสบาย ในตอนนี้เขาดูดุดัน และลมปราณของเขาก็คมเหมือนใบมีดซึ่งทำให้หัวใจของเขาเย็นเฉียบ
“เอ่อ ท่านฟังข้าก่อน” ลั่วอู๋รีบกล่าวทันที
ชายชราขี้เกียจเกินไปที่จะฟังเรื่องไร้สาระของเขา “ข้าต้องการรับหลี่หยินเป็นศิษย์เจ้าไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
ลั่วอู๋ตะลึง
รับศิษย์?
ไม่นานนักหลี่หยินตามมา
“นายน้อย” หลี่หยินร้องเรียก
“เกิดอะไรขึ้น?” ลั่วอู๋กล่าว
“จริง ๆ แล้ว” หลี่หยินส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”