ไหปีศาจ - บทที่ 628 ป่าเมเปิ้ล
บทที่ 628 ป่าเมเปิ้ล
บทที่ 628
ป่าเมเปิ้ล
พรรคพวกลั่วอู๋เริ่มออกเดินทางกันอีกครั้ง
พวกเขาทุกคนล้วนมาที่นี่เป็นครั้งแรก แม้แต่หยู่เฮาก็ยังไม่เคยมาที่นี่ พวกเขาจึงไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีอันตรายอะไรรออยู่เบื้องหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงระมัดระวังกันเป็นอย่างมาก
พื้นที่แรกคือป่าเมเปิ้ล
พวกมันมีใบไม้หนาประมาณครึ่งเมตร ราวกับเป็นทะเลใบไม้แดงที่ต้องใช้วิธีถางทางในการเดินผ่าน
พวกเขาเห็นร่างลึกลับอยู่ไกล ๆ ในป่า แต่เมื่อหันหัวไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นร่างนั้นอีก
“ มีสัตว์วิญญาณอยู่ใกล้ ๆ ” ลั่วอู๋พูดด้วยเสียงต่ำ
ทุกคนพยักหน้า และเพียงไม่นานนักพวกเขาก็พบมัน
พรรคพวกลั่วอู๋มองหน้ากัน จากนั้นก็ค่อยๆกระจายออกไปโดยแสร้งทำเป็นว่าประมาท แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาต่างก็รู้ตัวและเตรียมรอจังหวะโจมตี วิธีที่ดีที่สุดในการเผชิญกับภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก ก็คือการเป็นฝ่ายได้เปรียบในการโจมตี
สัตว์วิญญาณที่ซ่อนอยู่ในความมืด นั้นยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับอะไร ร่างกายของมันสั่นไหวอีกครั้ง แล้วจึงขยับเข้าไปใกล้พรรคพวกลั่วอู๋อีกนิด
“ ดูเหมือนว่ามันจะกล้าขึ้น ” ดวงตาของลั่วอู๋ค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีทอง แสงสีทองอันน่ากลัวค่อย ๆ เปล่งออกมาอย่างเงียบ ๆ
ทักษะ [นัยน์ตาปีศาจ] ถูกใช้งาน
ลั่วอู๋หันศีรษะไปพร้อมกับแสงสีทองที่กำลังเบ่งบานย้อมป่าเมเปิ้ลทั้งหมดตรงหน้าเขา ทันใดนั้นเขาก็เห็นกวางที่มีผิวหนังสีแดงได้อย่างชัดเจน
กวางตัวนี้มีความสูงเพียงครึ่งเดียวของมนุษย์ มันมีตัวขนาดเล็กและสวยงาม ร่างกายนั้นแข็งแรงและมีลวดลายจุดสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มันช่างเป็นสัตว์วิญญาณที่สวยงาม ส่วนโดดเด่นที่สุดก็คือส่วนหัวของมัน ที่มีเขาเป็นเหมือนใบเมเปิ้ลสีแดงทั้งแปลกและลึกลับ
กวางกระโจนขึ้นไปบนกิ่งก้านของต้นเมเปิ้ล เนื่องจากมันถูกแสงสีทองทำให้ประหลาดใจ จนต้องรีบหันหน้าวิ่งหนีไป
“ ตรงนั้น!” ลั่วอู๋คำราม
หยู่เฮา และ ฉูจงฉวน ได้เตรียมพร้อมสำหรับเวลานี้ พวกเขาปล่อยทักษะออกมาพร้อม ๆ กัน
ทักษะระดับ A [ทรายดูดพื้นพิภพ]
ทักษะนี้ไม่ได้รุนแรงมาก จนถึงขั้นใช้ในการฆ่า แต่มันมีความสามารถในการผูกมัดอันแข็งแกร่ง มันมักจะถูกใช้ในการพันธนาการเป้าหมายที่ไม่ได้ต้องการจะฆ่า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น
พื้นที่เดิมซึ่งถูกปกคลุมด้วยใบเมเปิ้ลหนาดู เหมือนว่ามันจะกลายเป็นบึงอันน่ากลัว ปล่อยแรงดึงดูดอันรุนแรง
กวางสีแดงกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ แต่มันก็ถูกแรงดูดดึงจนล้มลงตกลงไปในทรายดูด ได้แต่ดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ แต่มันก็ยังหนีไม่พ้น
หยู่เฮา และ ฉูจงฉวน หยุดการเคลื่อนไหวของมันเอาไว้ จากนั้นทรายดูดก็หยุดลง กวางแดงตกลงไปบนพื้นโดยไม่สามารถดิ้นหลุดออกไปได้
“ มันเป็นแค่กวาง ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรสักหน่อยนี่” ฉูจงฉวน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
หยู่เฮาพูดเสริมว่า “มันอาจจะดูไม่เป็นอันตราย แต่ก็อย่าเพิ่งประมาทไป ถึงมันจะดูไม่มีอันตรายจริง ๆ ก็เถอะ ”
จากนั้นทุกคนก็มองไปที่ลั่วอู๋
เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าลั่วอู๋มีความสามารถในการมองเห็นความสามารถและทักษะของสัตว์วิญญาณต่าง ๆ
ลั่วอู๋ลงมือในทันที เขามองตรงไปกวางสีแดงตรวจสอบข้อมูลของมัน หลังจากที่ได้อ่านเขาก็หัวเราะออกมา “มันไม่ใช่ แค่กวางธรรมดา ๆ”
ทุกคนหันไปฟังเขา
“พวกเจ้านึกไม่ถึงแน่ว่า มันไม่ใช่สัตว์วิญญาณที่มีชีวิตจริงๆ” ลั่วอู๋ยิ้มแล้วพูดต่อ “มันเป็นเพียงกวางธรรมดาที่ตายไปแล้ว แต่ร่างของมันกำลังถูกควบคุมโดยจิตสำนึกอื่น จนกลายเป็นหุ่นเชิดและร่างกายก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบนี้โดยพลังวิญญาณพิเศษบางอย่าง”
“ดวงจิตที่ควบคุมมันอยู่ที่ไหน” หยู่เฮาถาม
แทนที่จะตอบอย่างวุ่นวาย ลั่วอู๋ ใช้นัยน์ตาปีศาจมองหามัน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในป่าเมเปิ้ล จับจ้องไปยังต้นเมเปิ้ลที่ค่อนข้างสูงและหนาต้นหนึ่ง
เมเปิ้ลต้นนี้มีความแตกต่างจากต้นเมเปิ้ลอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด มันมีขนาดใหญ่กว่าและยังมีหน่อสีเขียวอยู่บนกิ่งก้าน ในขณะที่ต้นเมเปิ้ลต้นอื่น ๆ กำลังอยู่ในช่วงใบไม้ร่วง มันกลับยังยืนอย่างมั่นคงหนาแน่นและเต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวขนาดใหญ่พลิ้วไหวไปตามสายลม
พวกเขาต่างมองไปที่มันด้วยตาของพวกเขาและเห็นเพียงว่ามันเป็นต้นเมเปิ้ล
ลั่วอู๋เดินช้าๆไปที่ต้นเมเปิ้ลแล้วพูดว่า “เจ้ารู้ไหมแม้ว่าสัตว์วิญญาณต้นไม้นั้นมีปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ แต่บางทีพวกมันก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามต้องการ โดยทั่วไปแล้วมันจึงใช้จิตสำนึกเข้าควบคุมหุ่นเชิด อย่างไรก็ตามหุ่นเชิดนั้นไม่สามารถอยู่ห่างร่างหลักได้นาน กวางสีแดงจึงต้องอยู่ข้าง ๆ ต้นไม้ที่เป็นร่างหลักของมัน”
“ แล้วทำไมมันถึงต้องอยากสิงยึดร่างศพอื่นกันล่ะ?” องค์หญิงเจียโรวถาม
ลั่วอู๋หัวเราะ “แน่นอนว่ายืนอยู่ตรงนั้นทุกวัน มันย่อมรู้สึกเบื่อหน่ายบ้างตามกาลเวลา มันคงอยากรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว”
ทันใดนั้น
ก็มีใครเดินมาที่ต้นเมเปิ้ล
ลั่วอู๋เคาะเปลือกของต้นเมเปิ้ลแล้วพูดว่า “ออกมาคุยกัน”
ใบเมเปิ้ลเริ่มปลิวไสว
สัตว์วิญญาณต้นเมเปิ้ลนี้น่าจะมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ในระดับทองเท่านั้น เมื่อรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของมนุษย์เหล่านี้ที่อยู่เบื้องหน้ามัน มันก็ไม่กล้าที่จะแสดงท่าทีผลีผลาม
“ ไม่ต้องกลัวไป ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า” ลั่วอู๋กระซิบ “เรามาที่นี่เพื่อขอเส้นทาง ไม่เป็นไร ๆ”
ต้นเมเปิ้ลไม่ได้ทำร้ายพวกเขา ลั่วอู๋จึงไม่มีความคิดที่จะฆ่ามัน
วิญญาณภูตเมเปิ้ลค่อยๆสงบลง แต่มันยังคงแกว่งลำต้นไปมา มันยังคงดูกลัวอยู่มาก มันจึงส่งเสียงคล้ายกับใบไม้สั่นออกมา
นี่คือภาษาของมัน
ลั่วอู๋ใช้ทักษะ การสื่อสารวิญญาณเพื่อที่จะได้เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายทันที
แม้ว่าวิญญาณในต้นเมเปิ้ลจะตื่นกลัวมาก แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะกล้าไม่น้อย “พวกเจ้าจงออกไปจากที่นี่ซะ ป่าแห่งอสูร ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเจ้าจะมาดื่มด่ำความสุข”
“ อย่าเพิ่งตื่นเต้นเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา” ลั่วอู๋ อธิบายอย่างใจดี เขาแค่ต้องการถามทาง “เจ้ารู้ไหมว่า สัตว์วิญญาณที่ทรงพลังอยู่ที่ไหนกันในป่าแห่งนี้ ”
วิญญาณในต้นเมเปิ้ลส่งเสียงออกมาอีกครั้ง
“ข้าไม่เชื่อ ข้าจะไม่ยอมโดนหลอกอีก สัตว์ประหลาดแบบเจ้า ข้าเคยเห็นมาแล้วในอดีต พวกเจ้าเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่เคยนำมาซึ่งการสังหารหมู่และหายนะของพวกข้า”
ลั่วอู๋ตกตะลึง
เคยมีมนุษย์คนอื่นเข้ามาที่นี่งั้นเหรอ?
ลั่วอู๋อยากจะถามอีกครั้ง แต่วิญญาณแห่งต้นเมเปิ้ลนั้นไม่น่าจะยอมตอบ
เขาจึงได้แต่ขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเย็นชา“ เจ้าบอกว่าพวกเราเป็นตัวการทำให้เกิดการสังหารหมู่และหายนะ แต่ข้าไม่เห็นร่องรอยของหายนะที่นี่เลยนะ”
วิญญาณเมเปิ้ลดูเหมือนจะหยุดลงตกตะลึง จากนั้นกิ่งและใบของมันก็แกว่งไปมา ส่งเสียงกรีดร้อง
สัตว์ประหลาดตัวนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเลือดทั่วทั้งร่าง
มันต้องเป็นมารร้ายแน่ ๆ!
ลั่วอู๋พูดไม่ออกและสำลัก “เลือดเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า พวกเจ้าเป็นต้นไม้ พวกเจ้ามีเลือดออกด้วยงั้นเหรอ?”
วิญญาณเมเปิ้ลดูสับสนยุ่งเหยิงเล็กน้อย
ที่ลั่วอู๋พูดนั้นเป็นความจริง
สัตว์วิญญาณ ทั้ง อสูร และภูต เมื่อได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีเลือดไหลออกมา
ลั่วอู๋เคยได้เห็นมาแล้ว
วิญญาณแห่งต้นเมเปิ้ลตัวนี้ค่อนข้างโง่ มันน่าจะเพิ่งเกิดขึ้นมาได้ไม่นาน สิ่งที่มันรู้จึงมีจำกัด มาก เมื่อมันต้องเผชิญกับประสบการณ์ชีวิตที่ยุ่งเหยิงมากเกินไป มันก็ย่อมกลัวเป็นธรรมดา
ลั่วอู๋มองไปรอบ ๆ เขาไม่พบตัวตนสัตว์วิญญาณอื่น ๆ เช่นวิญญาณแห่งต้นเมเปิ้ล
อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าอาจจะมีวิญญาณแห่งต้นเมเปิ้ลมากกว่าหนึ่งตนที่นี่
“ข้ายอมรับเจ้า” ลั่วอู๋ใช้งานไหปีศาจ
วิญญาณแห่งต้นเมเปิ้ลพยายามดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง แต่ความแข็งแกร่งของมันนั้นมีไม่มาก อีกทั้งยังถูกยึดติดเข้ากับความสามารถของลั่วอู๋
แน่นอนว่าเจ้ากวางแดงที่น่ารักเองก็ถูก ลั่วอู๋ ดึงเข้าไปในมิติไห เพื่อที่อย่างน้อย ๆ ต้นไม้โง่ ๆ นี่ก็จะสามารถควบคุมกวางไปดูทิวทัศน์ของมิติไหได้
จากนั้นลั่วอู๋ก็ได้เรียนรู้ข้อมูลทุกอย่างจากวิญญาณแห่งต้นเมเปิ้ล
มันไม่รู้ว่ามีสัตว์วิญญาณอันดุร้ายอยู่ที่ไหนในป่าแห่งอสูร แต่ที่รู้แน่ ๆ ก็คือเมื่อสามเดือนก่อนมีมนุษย์ผู้แข็งแกร่งได้เข้ามายังที่แห่งนี้
ร่างกายของมนุษย์คนนั้นปกคลุมไปด้วยเลือดอันน่ากลัวราวกับปีศาจ
ดูเหมือนว่าเขากำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่