ไหปีศาจ - บทที่ 653 สาเหตุ
บทที่ 653 สาเหตุ
บทที่ 653
สาเหตุ
ทำไมจะไม่ล่ะ
มีหลายสาเหตุแน่นอน
เพราะเขาคือหยู่เฮา แนวหน้าของสำนักหม่าเฉิน อัจฉริยะผู้มีชื่อเสียงไปทั่วภูเขาแห้งแล้ง เขาเป็นแรงบันดาลใจและเป้าหมายของเด็กสาวจำนวนนับไม่ถ้วนในเผ่าเทียนหวู่ อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของท่านหม่าเฉินผู้เป็นตำนานแห่งภูเขาแห้งแล้ง
หากเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ย่อมไม่สามารถพอใจกับสัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูงเหมือนคนธรรมดาทั่วไปได้
แต่เมื่อคำพูดเหล่านี้มาถึงปากของเขา ลั่วอู๋กลับไม่สามารถพูดออกไปได้
เนื่องจากการเลือกสัตว์วิญญาณคู่พันธะ ไม่ใช่อะไรที่จะแนะนำให้กันได้
แม้แต่ท่านหม่าเฉินเองก็ยังไม่เคยให้คำแนะนำใด ๆ เกี่ยวกับพัฒนาการในอนาคตของหยู่เฮาเลย เขาไม่ได้เตรียมสัตว์วิญญาณที่เหมาะสมให้สำหรับหยู่เฮาด้วยซ้ำ
ช่างมันเถอะ
การเลือกสัตว์วิญญาณนั้นไม่ได้ตัดสินที่ความแข็งแกร่ง แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือสัตว์วิญญาณที่เหมาะสมกับตัวเอง
หยู่เฮามองลงไปที่ราชาหมาป่า “ลั่วอู๋ ช่วยข้ารักษามันให้ที”
ลั่วอู๋ไม่ปฏิเสธคำขอ เขาใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ปล่อยลงไปให้อาการบาดเจ็บของราชาหมาป่าบรรเทา
กรงเล็บและฟันเดิมที่หักก็ค่อยๆงอกกลับมาและหลุมบนร่างกายของมันเองก็ค่อยๆหายไป อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับหยู่เฮา มันใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองมากเกินไปจนทำร้ายแก่นวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นการบาดเจ็บของอวัยวะภายในนั้นไม่สามารถรักษาได้ง่าย ๆ ดังนั้นมันจึงยังคงเป็นผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสอยู่
ราชาหมาป่าขยับตัว ขณะที่ร่างกายครึ่งหนึ่งยังนอนอยู่บนพื้น มันเงยศีรษะพลางใช้ดวงตาสีเขียวจ้องตรงไปที่หยู่เฮา
หมาป่ารอบข้างเงียบลงโดยที่ไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ
“มาเป็นสัตว์วิญญาณของข้าซะ จบแบบนี้มันไม่ยุติธรรมสำหรับเจ้า” หยู่เฮา ส่งคำเชิญออกไปอีกครั้ง
ราชาหมาป่าเงียบ
มันเคยได้สัมผัสได้ถึงศักยภาพอันทรงพลังและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของมนุษย์คนนี้
มันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และตอนนี้มันไม่ใช่ราชาหมาป่าอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นหมาป่าโดดเดี่ยวที่ต้องถูกขับออกจากฝูง หมาป่าเดียวดายย่อมไม่มีความรู้สึกถึงภารกิจและเกียรติยศ
ความกล้าส่วนลึกของแก่นวิญญาณของในห้วงความคิดของมันดูเหมือนจะหรี่ลงไปมาก
ความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีในอดีตถูกทุบจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ที่สำคัญที่สุดมนุษย์คนนี้ ได้ทำให้มันพ่ายแพ้ในการต่อสู้อันยุติธรรมโดยสมบูรณ์
ฉะนั้นการที่มันได้รับความเคารพนับถือจากผู้แข็งแกร่งเช่นหยู่เฮา ก็เพียงพอที่จะทำให้มันเชื่อมั่นในตัวเขาแล้ว
“วู้ฮู … ” ราชาหมาป่าลดศีรษะลงและนอนคว่ำที่เท้าของหยู่เฮา
มันแสดงถึงการยินยอม
หยู่เฮา ยิ้ม
ฝูงหมาป่ารอบ ๆ ตัวราชาหมาป่าต่างเริ่มส่งเสียงร้องโหยหวน เสียงอันเยือกเย็นของหมาป่านั้นได้โหยหวนผ่านป่าทึบไปบนท้องฟ้าเหนือดวงจันทร์อันสว่างไสว
ราชาหมาป่าตัวเก่าไม่ได้ถูกเนรเทศ แต่ได้กลายมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชาหมาป่าคนใหม่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของฝูงหมาป่ามาก่อน
ชั่วพริบตาแสงอันรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างมนุษย์กับหมาป่าและสัญลักษณ์ดวงดาวหกดวงก็ปรากฏขึ้นที่เท้าของทั้งคู่พร้อมกับแสงที่เข้าปกคลุมร่างของพวกเขา
ทำพันธสัญญาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
เมื่อเห็นฉากนี้แล้วลั่วอู๋ก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ทำไมล่ะ ?”
เขาไม่สามารถเข้าใจได้
ทำไมหยู่เฮาถึงได้เลือกรับราชาหมาป่าจันทราอสูรมาเป็นสัตว์วิญญาณคู่พันธะ
แม้ว่าราชาหมาป่าจันทราอสูรนั้นจะเป็นอันดับต้น ๆ ในหมู่สัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ความแข็งแกร่งทางกายภาพที่น่ากลัว เทียบเคียงได้กับสัตว์วิญญาณระดับเพชร
แต่มันก็ยังเป็นแค่ระดับทองขั้นสูง
ผลประโยชน์ที่หยู่เฮาได้รับย่อมไม่ดีเท่าสัตว์วิญญาณระดับเพชร
หากเขาไม่มีการปรับปรุงความแข็งแรงในเรื่องนี้ เขาอาจสูญเสียความแข็งแกร่งที่ควรจะเป็นในอนาคตไปได้
ควรจะปล่อยให้ราชาหมาป่าตายลง เพื่อที่มันจะได้ไม่ต้องทนเจ็บบาดแผล และลั่วอู๋ก็ไม่ต้องรักษาบาดแผลให้มันด้วย แบบนั้นไม่ดีกว่าเหรอ? ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
แสงแห่งพันธสัญญาวิญญาณวนมาบรรจบกัน
สัญญาถูกจัดตั้งขึ้น
หยู่เฮา มองไปที่ ลั่วอู๋ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ราชาหมาป่าจันทราอสูรตัวนี้แกร่งมากความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของมันไม่ธรรมดาเลย ข้าได้เรียนรู้ว่าแล้วว่าในการใช้ทักษะความคลั่งไคล้อันไม่จำกัด เรื่องนี้มีความสำคัญมากกว่าคุณสมบัติอื่น ๆ ”
“ นั่นไม่จำเป็นเลย” ลั่วอู๋ส่ายหัว “ข้าจะพาเจ้าไปตามหาเต่าในตำนาน แบบนั้นมันจะดีกว่าสำหรับเจ้า”
หยู่เฮา ยิ้มและเงียบ
ลั่วอู๋ มองหยู่เฮา อย่างงุนงง “ทำไม ต้องมัน?”
“ข้าต้องการรับฝูงหมาป่าจันทราอสูรพวกนี้มาใช้งาน ดังนั้นข้าจึงต้องการคนมาช่วยจัดการพวกมัน” หยู่เฮาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “แม้ว่าข้าจะกลายเป็นราชาหมาป่าคนใหม่ แต่ข้าก็ยังไม่รู้ว่าจะสั่งการพวกมันอย่างไร มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องรักษาราชาหมาป่าตัวเก่าเอาไว้”
“ แค่นั้นเองเหรอ?” ลั่วอู๋ไม่เข้าใจ
หยู่เฮายอมเสียสละศักยภาพในอนาคตเพื่อสิ่งนี้?
ถ้าเขาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณธรรมดาลั่วอู๋คงจะไม่รู้สึกเสียใจกับเขา แต่เขาคือหยู่เฮา ชายผู้เป็นผู้สืบทอดของท่านหม่าเฉิน
หยู่เฮาถอนหายใจออกเบา ๆ จากนั้นก็หยิบขวานเหล็กโกลาหลที่พื้นขึ้นมา พาดมันไว้บนไหล่ของเขา
เขามีรอยสัก ขวานแห่งนภา ที่แขน
รอยสักนี้ทำให้เขาภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
“ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง” หยู่เฮาพูดด้วยเสียงต่ำ “ท่านหม่าเฉินกำลังจะตาย”
“ก็ใช่ แล้วทำไม ?” ลั่วอู๋ไม่เข้าใจ
แม้ว่าจะน่าเสียใจ แต่มันก็ไม่มีผลอะไรกับการเลือกสัตว์วิญญาณของหยู่เฮา
หยู่เฮาอธิบายว่า “แม้ตอนนี้เผ่าเทียนหวู่จะเป็นเผ่าผู้นำในภูเขาแห้งแล้ง แต่จริงๆแล้วยังมีเผ่าที่มีอำนาจอีกมากมาย อย่างน้อย ๆ ก็สามเผ่าที่สามารถเทียบเคียงอำนาจกับ เผ่าเทียนหวู่ได้ แต่เนื่องจากท่านหม่าเฉินคอยดูแลเผ่าเทียนหวู่ไม่มีเผ่าใดกล้าท้าทาย”
“ ถ้าท่านหม่าเฉินตาย เผ่าอยู่ใต้อำนาจโดยเผ่าเทียนหวู่เป็นเวลาหลายพันปี ก็อาจจะไม่ยอมสยบต่อการปกครองของเผ่าเทียนหวู่อีกต่อไป”
“กฎของภูเขาแห้งแล้งก็เหมือนกับฝูงหมาป่านั่นแหละ”
“ความเคารพมาจากความแข็งแกร่ง”
“ชนเผ่าผู้นำที่พ่ายแพ้จะลดลงและหายไปจากหน้าของประวัติศาสตร์”
ลั่วอู๋แปลกใจ “หรือว่าจะเป็นเพราะ … ”
“เข้าใจได้ไว ไม่เลวนิ” หยู่เฮาพยักหน้า ร่องรอยของความจริงจังและความมุ่งมั่นฉายในดวงตาของเขา “หมาป่าจันทราอสูรสามหมื่นตัวน่าจะพอทำให้ทั้งภูเขาแห้งแล้งยอมสยบได้”
“เผ่าเทียนหวู่จะไม่สูญสิ้น พวกเราจะยังคงเป็นเผ่าผู้นำของภูเขาแห้งแล้งและธงของเทียนหวู่ ขวานนภา จะยังคงโบกสะบัดบนผืนดินแห่งภูเขาแห้งแล้ง ”
สัญลักษณ์ขวานนภาจะต้องอยู่ยงคงกระพัน
นี่คือความมุ่งมั่นของผู้คนในเผ่าเทียนหวู่ของภูเขาแห้งแล้ง
ความมุ่งมั่นนี้ทำให้พวกเขามีความมุ่งมั่นและศรัทธาในการต่อสู้อันเข้มแข็ง
การตัดสินใจนี้อย่างน้อย ๆ ก็จะสามารถช่วยรักษาเผ่าเทียนหวู่ ให้เจริญรุ่งเรืองได้ไปอีกหลายพันปี
ไม่เพียงแค่นั้นถ้าหากท่านหม่าเฉินเสียชีวิตลง ความแข็งแกร่งของอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งเองก็จะอ่อนแอกว่าราชวงศ์มังกรเร้นกาย แม้ว่าจะมีการรักษาสันติภาพระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ก็ตาม
แต่ใครจะพูดได้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นต่อไปอีกในอนาคต
“มันเป็นเพียงแค่ศักยภาพของข้าที่ต้องสูญเสียไป แม้ว่าข้าอาจจะไม่สามารถก้าวต่อจากนี้ไปได้ก็ตามที” หยู่เฮาพูดเบา ๆ
ใบหน้าของลั่วอู๋ดูซับซ้อน
เขาเข้าใจแล้ว
เมื่อเทียบกับการปีนขึ้นไปบนยอดเขาแห่งความแข็งแกร่ง หยู่เฮาต้องการปกป้องเผ่าของเขาและครอบครัวของเขามากกว่า
ในกาลอดีตเผ่าเทียนหวู่มีผู้ขับขี่หมาป่าจันทราอสูรเพียงหนึ่งพันคน ก็สามารถกวาดล้างชนเผ่าหลักทั้งหมดในภูเขาแห้งแล้งได้ แต่ตอนนี้หยู่เฮามีทุนในการสร้างนักขี่หมาป่าจันทราอสูรได้ถึง 30,000 คน ไม่มีศัตรูไหนจะต่อกรกับพวกเขาได้ในภูเขาแห้งแล้ง
ลั่วอู๋นึกถึงสำนักโล่พิทักษ์
ความคิดเรื่องพันธมิตรผู้ล้างแค้นเองก็เกิดขึ้นจากสาเหตุนี้
บางทีเราก็ต้องเสียสละบางอย่าง เพื่อทำให้พรรคพวกของเราแข็งแกร่งขึ้น ในอนาคตการเสียสละนั้นก็จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สามารถยอมรับได้
ความคิดที่มั่นคงนี้ ทำให้หลงเซี่ยที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลตกใจ
เขามีค่าพอที่จะเป็นผู้สืบทอดของท่านหม่าเฉินจริง ๆ
หลงเซี่ยถอนหายใจในใจ “แม้ว่าเป้าหมายของเขาจะไม่ใช่ยอดเขาแห่งความแข็งแกร่ง แต่ยอดเขานั้นก็จะมาถึงเท้าของเขาโดยธรรมชาติ”
เมื่อเห็นความเงียบของลั่วอู๋ หยู่เฮาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ราชาหมาป่าจันทราอสูรไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอก ยิ่งไปกว่านั้นเขาอาจจะสามารถก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดของเผ่าพันธุ์จนวิวัฒนาการได้ด้วยซ้ำ อีกอย่างเจ้าเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณที่เก่งมากไม่ใช่เหรอ อนาคตของราชาหมาป่าขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว ”
ลั่วอู๋พยักหน้าอย่างจริงจัง “ไม่มีปัญหา ไว้ใจข้าได้เลย”
และแล้วเรื่องราวของฝูงหมาป่าจันทราอสูรได้สิ้นสุดลงในที่สุด
พวกเขาจึงกลับไปที่ถ้ำอย่างเงียบ ๆ
ต่อไปก็เหลือเพียงหาทางเอาชนะปีศาจทั้งสามในหุบเขาอสูรให้ได้เท่านั้น