ไหปีศาจ - บทที่ 680 การควบคุมอันยอดเยี่ยม
บทที่ 680 การควบคุมอันยอดเยี่ยม
บทที่ 680
การควบคุมอันยอดเยี่ยม
ไม่มีช่องว่างสำหรับการหลบหนี
ชายผู้แข็งแกร่งทั้ง 43 คน เหล่านี้มีระดับมิติวิญญาณที่สูงกว่าระดับของเขามาก เพียงแค่พวกเขารวมตัวกันแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ลั่วอู๋ขยับตัวลำบาก
ฉูจงฉวน ก็เช่นกัน
“พวกเจ้าอยากหาเรื่องเองนะ” ลู่หยุนเฟิงส่งเสียงอย่างเย็นชาขณะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาลั่วอู๋พลางมองลงมาที่เขา “ต่อให้เป็นผู้มีพรสวรรค์ก็เถอะ แต่ถ้าต้องเจอกับกองทหารของเราก็ทำได้แค่นอนหมอบยอมมอบตัวเท่านั้นแหละ”
ชาย 43 คนที่นี่ล้วนมาจากกองทหารที่สำคัญ และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของชนชั้นสูงที่แท้จริงขององค์จักรพรรดิ
นอกจากนี้พวกเขายังเป็นกองทหารที่หลี่ซวนซง จัดตั้งขึ้น เพื่อจัดการกับลั่วอู๋โดยเฉพาะ
ในการจับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูง มิติ 2 แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นนักเรียนอัจฉริยะของสำนักเฉียนหลง แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะส่งคนระดับนี้เพียงห้าคนไปทำหน้าที่ เนื่องจากผู้ใช้พลังวิญญาณทั้งหมดที่นี่ล้วนมีความแข็งแกร่งในระดับทองขั้นสูง มิติ 4 เป็นอย่างน้อย
แต่องค์จักรพรรดิก็ยังไม่สบายใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน ทหารในกองทั้งหมดจึงถูกส่งออกไป เพื่อจับกุมลั่วอู๋ แม้ว่ามันอาจจะต้องทำให้สำนักเฉียนหลงขุ่นเคืองก็ตาม
สิ่งนี้ทำให้ลู่หยุนเฟิงไม่มีความสุขมากราวกับว่าเขาโดนดูถูก แต่มันเป็นราชโองการพวกเขาจึงต้องเชื่อฟัง ความทุกข์ใจนี้จึงระบายไปยัง ลั่วอู๋ ได้เท่านั้น
ลั่วอู๋เงยหน้าขึ้นอย่างไม่เต็มใจจ้องมองไปที่ลู่หยุนเฟิง พลางกล่าวอย่างลำบากใจ “ถ้าเจ้ากล้าพอก็มาคนเดียวสิ ข้าจะฆ่าเจ้า”
ใบหน้าของลู่หยุนเฟิงดูมืดมน เขาเหยียบลงบนหัวของลั่วอู๋ “ฆ่าข้างั้นเหรอ พูดเกินจริงไปหน่อยรึเปล่า! หากองค์จักรพรรดิไม่ได้ขอให้ข้าจับกุมตัวเจ้ามาเป็น ๆ ข้าคงฆ่าเจ้าไปแล้วด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว”
ปัง
ศีรษะของ ลั่วอู๋ ถูกเหยียบย่ำลงบนพื้น
ก้อนหินโดยรอบแตกกระจาย
ลู่หยุนเฟิงมีความแข็งแกร่งระดับสูงสุดของมิติวิญญาณทองขั้นสูง แม้ว่าลั่วอู๋จะเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มามาก แต่เขาก็ไม่สามารถก้าวข้ามผู้ที่มีมิติวิญญาณระดับต่างกันมากขนาดนี้ และศัตรูมากมายเพื่อสังหารศัตรูได้ นี่ยิ่งทำให้ลู่หยุนเฟิงเร้าใจ
ใบหน้าของลั่วอู๋เต็มไปด้วยเลือดเปื้อนฝุ่น เขาคำรามออกมา “ งั้นก็มาสู้ตัวต่อตัวสิ”
“เจ้าอยากสู้กับข้าเดี่ยว ๆ เรอะ?” ลู่หยุนเฟิงลดศีรษะลงช้าๆและพูดด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา “ยอมแพ้เถอะ ข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าหนีไปไหนทั้งนั้น”
การสู้ตัวต่อตัวจะต้องทำให้อีกฝ่ายมีโอกาสหนีได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าเขาจะมั่นใจในตัวเองเต็มร้อย แต่เขาก็ไม่ต้องการสร้างปัญหาเพิ่ม
ทหารเหล่านี้ ฝึกฝนออกมาจากกองทัพ พวกเขารู้ดีว่าการทำงานให้เสร็จเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และพวกเขาต้องละทิ้งอารมณ์ที่ไร้ประโยชน์อื่น ๆ เพื่อภารกิจ
หัวใจของลั่วอู๋จมลงสู่ก้นบึ้ง
ความตั้งใจของเขาถูกมองออกอย่างสมบูรณ์
“แล้วเด็กคนนี้ล่ะ” มีคนชี้ไปที่ ฉูจงฉวน และถาม
ลู่หยุนเฟิงโบกมือด้วยความเต็มใจ “โยนมันทิ้งไปเลย เขาเป็นนักเรียนของสำนักเฉียนหลง ในอนาคตเขาอาจจะกลายเป็นเสาหลักของราชวงศ์มังกรเร้นกายของเรา อย่าทำร้ายเขา”
“รับทราบ”
ฉูจงฉวน ผู้ซึ่งถูกปราบปรามอย่างรุนแรงดูเหมือนจะสูญเสียการต่อต้านและถูกโยนทิ้งไปเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว
ลู่หยุนเฟิงจับลั่วอู๋ด้วยมือขนาดใหญ่ของเขา มีวงแหวนแสงสีเขียวอันน่ากลัวอยู่ในมือของเขาซึ่งเป็นพลังวิญญาณคุณลักษณะธาตุไม้ อย่างไรก็ตามแสงนี้ไม่ได้มีพลังแห่งชีวิต แต่กลับเต็มไปด้วยพลังวิญญาณแห่งการพันธนาการ
ทักษะระดับ s [ผนึกคชสารไม้]
เมื่อทักษะนี้เกิดผลแล้วจะผู้ที่โดนมันเข้าไปจะไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้อีกต่อไป
ลั่วอู๋พยายามขัดขืนอย่างบ้าคลั่งเพื่อหลบหนี แต่ก็ไม่มีทางเลย เขาทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแสงสีเขียวค่อย ๆ ตกลงบนร่างของเขา
แต่ทันใดนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ฉูจงฉวน ที่ถูกโยนทิ้งไปได้ระเบิดพลังออกมาด้วยจิตสังหารของอาชูร่า พื้นดินสั่นสะเทือนระเบิดออกไปเป็นรัศมีหนึ่งลี้ ส่งก้อนหินขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอยขึ้นไปในอากาศ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เด็กคนนั้น เขายังไม่ได้หมดสภาพ”
“ เร็วเข้า ปราบเขาลงซะ”
ผู้ใช้พลังวิญญาณที่ทรงพลังเหล่านี้ต่างตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาต้องการที่จะปราบปรามฉูจงฉวนลงอีกครั้ง แต่มันก็สายเกินไป
ทักษะระดับ SS [ร่างอวตารเทพปีศาจ] ทำงาน
เงาของราชาแห่งอาชูราที่สูงหลายสิบฟุตควบแน่นขึ้นในทันที เขามีเก้าหัว หนึ่งพันตา และปากของเขาเต็มไปด้วยไฟโลกันตร์ พลังวิญญาณของอาชูร่ากำลังเบ่งบานในรูปร่างที่แปลกประหลาด
แต่ก็ทรงพลังมาก มันมีพลังอันยิ่งใหญ่พอที่จะทำลายท้องฟ้า ถึงขนาดที่แม้แต่พระพุทธเจ้าก็คงไม่อาจสามารถระงับพลังของอาชูร่าที่น่ากลัวนี้ได้ แม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณหลายสิบคนก็ยังต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของเขา
“เจ้านี่มันสัตว์ประหลาดชนิดไหนกัน?”
“สมเป็นอัจฉริยะของสำนักเฉียนหลง”
“อย่าไปกลัวเลยน่า เขากระตุ้นพลังวิญญาณในแก่นวิญญาณมากเกินไป เขาไม่สามารถคงอยู่ในสถานะนั้นได้ตลอดไปแน่”
เหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณต่างเข้าใจในสถานะของ ฉูจงฉวน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยง แต่พวกเขาก็ยังปล่อยลมปราณออกมาเพื่อทำให้เขาไม่สามารถหนีได้
“ออกไปจากที่นี่ซะ” ฉูจงฉวน คำราม
พลังวิญญาณของอาชูร่าควบแน่นเป็นเงาดาบขนาดใหญ่กวาดลงอย่างยากลำบาก แต่เป้าหมายไม่ใช่ เหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงแต่อย่างใด เป้าหมายของเขาคือลู่หยุนเฟิงที่กำลังเตรียมใช้ผนึกคชสารไม้
ปีศาจฟาดฟัน!
ลู่หยุนเฟิงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันเขาจึงหยุดการกระทำในมือ แล้วหันศีรษะไปพร้อมกับขมวดคิ้ว “พวกเจ้ามัวกำลังทำอะไรอยู่ ถึงปล่อยให้เจ้าหนุ่มนี่ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาได้?”
หลังจากได้ยิน เหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงทั้งหมด ก็เข้าไปหยุดฉูจงฉวนในร่างผสานกับอาชูร่าลง
เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้ใช้พลังเกินตัว เพื่ออาละวาดในระยะสั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการต่อสู้อย่างสุดตัว เพราะถ้าหากพวกเขาหลายสิบคนรุมโจมตีเด็กหนุ่มจนได้รับบาดเจ็บ มันคงจะเป็นเรื่องไร้ยางอายมาก แต่ในเมื่อลู่หยุนเฟิงออกคำสั่งแล้วพวกเขาก็ต้องทำทุกวิถีทาง
พวกเขาทั้งหมดร่วมมือกัน แม้ว่าจะยังคิดวิธีไม่ออก แต่มันก็เพียงพอที่จะหยุดเทพปีศาจตรงหน้าของพวกเขาลงได้
ทว่าพวกเขาทุกคนก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าเงาขนาดใหญ่ของเทพปีศาจได้มีไฟสีเขียวเข้มลุกไหม้และกลายเป็นเทพเพลิง
อัญเชิญเทพเพลิง?
“นี่มันทักษะการควบคุมแบบไหนกัน” มีคนกล่าวขึ้นอย่างตกใจ
เขาสามารถรวมทักษะระดับ SS สองอย่างเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบงั้นเหรอ ? ได้อย่างไรกัน? การควบคุมระดับนี้แม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรก็ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ไม่ใช่!” มีใครบางคนสังเกตพบสิ่งผิดปกติ “นั่นไม่ใช่ทักษะอัญเชิญเทพเพลิง สัญญาณชีพของเขาหายไปนี่มันร่างแยกเสมือน”
ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคนเปลวไฟขนาดใหญ่ก็ได้ดับลงไปอย่างรวดเร็ว ประกายไฟตกลงสู่พื้นสลายไปในทันที
ต่อมาเงาของเทพปีศาจก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าลู่หยุนเฟิง
ใช่แล้ว
ลั่วอู๋จำมันได้ดี
นี่คือทักษะพิเศษเฉพาะตัวของฉูจงฉวน ร่างแยกเพลิง
มันคือทักษะระดับ A [ร่างแยกเพลิง] ที่ทำให้เขาสามารถก้าวพริบตา และทิ้งร่างแยกไฟของตนเองเอาไว้สร้างความสับสนให้แก่คู่ต่อสู้
เขาใช้ทักษะนี้ติดต่อกันหลายครั้งเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
แต่ลั่วอู๋เองก็ไม่ได้คิดว่า ฉูจงฉวน จะสามารถใช้มันในขณะที่กำลังใช้ทักษะ ร่างอวตารเทพปีศาจได้ อีกทั้งเขายังประสบความสำเร็จในการใช้ทักษะนี้หลอกลวงอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย
การควบคุมทักษะอันยอดเยี่ยมระดับนี้ แม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรก็ยังมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำได้ด้วยซ้ำ
“ตายซะ!”
เสียงของ ฉูจงฉวน กลายเป็นเสียงแหบแห้ง เห็นได้ชัดว่าเขามาถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว
มันมากเกินไปสำหรับเขาที่จะใช้ร่างแยกไฟร่วมกับ ร่างอวตารเทพปีศาจ นับประสาที่ใช้พลังวิญญาณจากแก่นวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง เพื่อทำการโจมตีเหล่านี้เกินขีดจำกัดของตนเอง
ทักษะ ระดับ s [โทสะแห่งเทพปีศาจ]
พลังวิญญาณอันน่ากลัวของอาชูร่ามารวมกันที่ดาบของเขา
เขาต้องจัดการกับลู่หยุนเฟิง เพราะถ้าเขาไม่ทำลายผนึกของอีกฝ่ายลง ลั่วอู๋คงจะไม่รอด
“ ฮึบ!” ลู่หยุนเฟิงไม่มีความกลัวใด ๆ เขาชูมือขึ้นฟ้าและเหยียบลงบนพื้น “เป็นทักษะที่ดี แต่ระดับของเจ้าก็ยังไม่สามารถทำร้ายข้าได้หรอก”
แน่นอนว่าร่างกายของเขามีพลังวิญญาณที่สูงเกินจริง จนสามารถระงับพลังจากทักษะโทสะแห่งเทพปีศาจของอาชูร่าได้
ช่องว่างระหว่างมิติวิญญาณของพวกเขานั้นห่างเกินไป
หลังจากการโจมตีครั้งนี้ ฉูจงฉวน ก็หมดสิ้นพละกำลังของเขา เงาของอาชูร่านั้นค่อย ๆ สลายลงไป
ลู่หยุนเฟิงกำหมัดแน่นและกำลังจะทุบเงาของชูร่าให้หายไปอย่างสมบูรณ์ แต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติใต้เท้าของเขา
ความผันผวนทางแก่นวิญญาณเริ่มปรากฏขึ้น
ลู่หยุนเฟิงสะดุ้ง ทันใดนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงไป และเห็นหยดน้ำสีทองสามหยดพุ่งตรงเข้ามาไปที่ทะเลแก่นวิญญาณของเขา
มันคือหยดน้ำจากทะเลแก่นวิญญาณของคุน ซึ่งเกือบจะหมดลงในการกบฏครั้งที่แล้วของหลี่ซวนซง ตอนนี้ลั่วอู๋จึงเหลือมันอยู่เพียงแค่สามหยดเท่านั้น
เพียงแค่สามหยดย่อมไม่สามารถฆ่าลู่หยุนเฟิงที่อยู่ตรงจุดสูงสุดของมิติวิญญาณระดับทองขั้นสูงได้ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งทางจิตใจของคุน ก็ยังสามารถทำลายการเชื่อมต่อกับทะเลแก่นวิญญาณของอีกฝ่ายลงได้ชั่วคราว
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถต้านทานพลังวิญญาณของคุนที่เป็นสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิได้
“ตูม”
ลู่หยุนเฟิงรู้สึกราวกับว่ามีแรงระเบิดเกิดขึ้นในทะเลแก่นวิญญาณของเขา หูของเขาอื้ออึง เขารู้สึกมึนงงเล็กน้อยและสูญเสียสติไปชั่วขณะ
แม้ว่าจะนี่จะไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่หยดน้ำสีทองสามหยดก็เพียงพอแล้วสำหรับ การทำให้เขาเกิดความเมื่อยล้าและอ่อนแอลง
“ตอนนี้แหละ!”
ดวงตาของลั่วอู๋ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของแสงสีดำ พลังวิญญาณแห่งการทำลายล้างก็เริ่มพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและกลายเป็นแสงสีดำพุ่งออกไป
ใช้งานทักษะ ระดับ SS [นัยน์ตาแห่งการทำลายล้าง]
ขณะเดียวกันเนื่องจากการสูญเสียสตินึกคิดของลู่หยุนเฟิง พลังวิญญาณจากโทสะแห่งเทพปีศาจของ ฉูจงฉวนก็ถูกปล่อยออกมาได้โดยไม่มีอุปสรรค
“ตูม”
การโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวได้กลืนกินทุกสิ่งในบริเวณนั้นลงไป