ไหปีศาจ - บทที่ 7 วิวัฒนาการ
บทที่ 7 วิวัฒนาการ
สำหรับในโลกแห่งความเป็นจริงแห่งนี้
ผู้นำของทีมล่าสัตว์มักจะออกนอกเมืองไปเพื่อตามล่าสัตว์และเก็บหินวิญญาณ ซึ่งเป็นแหล่งหาเงินจำนวนมากของพวกเขา
ดังนั้น ความแข็งแกร่งของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่ลดลง แม้แต่สัตว์วิญญาณสองตัวก็ยังไปได้ถึงระดับเงิน ลำดับที่ 10
หากระดับวิญญาณมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ และยังไม่ได้ทำพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณที่มีคุณสมบัติที่สูงกว่า มันจะเป็นเรื่องยากที่จะรักษาสภาพที่เป็นอยู่ให้คงอยู่ต่อไป และไม่มีทางที่จะปรับแต่งความแข็งแกร่งของพวกมันได้
สีหน้าของหลิวหูเปลี่ยนแปลงไปมาอยู่พักหนึ่ง และเขาก็พูดขึ้นว่า
“ท่านช่วยพัฒนางูทองคำก่อนได้ไหม ข้าจะหาวิธีนำเงินมาให้”
“เจ้าควรหาวิธีก่อนดีกว่า พวกเราไม่ได้มีชื่อเสียงสักหน่อย” ลั่วอู๋ดูเหมือนตัวเขานั้นไม่มีความสำคัญกับเรื่องนี้
“ตกลง งั้นท่านรอข้าที่นี่” หลิวหูหลังหันกลับและเดินออกจากร้านไป
ฝูงชนต่างไม่ได้แยกย้ายกันอย่างที่ควรเป็น พวกเขากลับยืนปักหลักรอบๆ ร้านเพราะต้องการดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง
มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาและพูดด้วยเสียงต่ำ “นายน้อย ท่านบอกว่าราคาสูงเกินไปงั้นหรือ ถ้าหลิวหูไปที่ร้านอื่นเพื่อตามหาผู้ปรับแต่งคนอื่นล่ะ เราไม่เพียงแค่ต้องเสียรายได้ก้อนงามไป แต่ยังทำให้คนอื่นขัดใจอีกด้วยนะขอรับ”
“ไม่ต้องห่วง” ลั่วอู๋ไม่กังวลกับเรื่องนี้เลยสักนิด “มีผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณเพียงไม่กี่คนในเมืองหวงชาลำดับที่ 23 และพวกเขาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของทีมหวงชา พวกเขานั้นยุ่งมาก และพวกเขากำลังผูกขาดทางธุรกิจ มันมีราคาสูงกว่าข้ามาก นอกจากนี้ ท่านคิดว่ามันง่ายมากเหรอ ที่จะช่วยพัฒนางูทองคำ”
ทีมหวงชาเป็นองค์กรที่ควบคุมพื้นที่ทั้งหมดของเมืองหวงชา ลำดับที่ 23 ร้านค้าส่วนใหญ่อยู่ภายใต้ชื่อของพวกเขา อาจกล่าวได้ว่าทีมหวงชาควบคุมวิถีชีวิตทางเศรษฐกิจในพื้นที่แห่งนี้ หลังจากนั้น มันก็ยังคงเป็นเพียงมุมมอง มีผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณอยู่น้อยมาก และพวกเขาทั้งหมดถูกทีมหวงชาดึงตัวไปจนเกือบหมด ค่าใช้จ่ายในการเชิญพวกเขาให้เข้าร่วมนั้นมันไม่น้อยเลย
“นายน้อย ท่านรู้เรื่องนี้มากแค่ไหนกันขอรับ” ชายคนนั้นประหลาดใจ
ลั่วอู๋พูดแบบยิ้มๆ “เมื่อเจ้ารู้ว่าเจ้าจะต้องถูกไล่ออก เจ้าต้องทำการบ้านมามากพอ ต้องหาข้อมูลให้เพียงพอ เจ้าคิดว่าข้าอยู่ที่นี่เพื่อกิน นอนแล้วก็ตายไปอย่างนั้นเหรอ ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะมาตายไปพร้อมกับร้านนี้ แต่ข้าต้องการให้ร้านค้าเติบโตและดียิ่งขึ้นกว่าเดิม”
ศาลาไป่หยู่ในเมืองแห่งความพินาศเป็นร้านค้าที่ตระกูลลั่วดูแล มันคือรากฐานของการเพิ่มพูนฐานะ ความรู้และความมั่นคงสำหรับเขา
คนงานในร้านทั้งสามคนยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างงุนงง
เป็นความจริงที่หลิวหูมีความคิดที่จะมองหาผู้ปรับแต่งคนอื่น แต่เขายังคงต้องนัดหมายกับผู้ปรับแต่งวิญญาณตามคิว และแม้แต่การขอราคาจ้าง อย่างน้อยเริ่มต้นถึง 20,000 หินวิญญาณ ซึ่งไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะปรับแต่งและพัฒนาได้สำเร็จ
หน้าเงินชะมัด! หลิวหูนึกด่าอยู่ในใจ งูทองคำที่พัฒนาแล้วของข้า ข้าแค่ต้องการความช่วยเหลือเพียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ตั้งสองหมื่น มันต้องใช้พลังงานและเม็ดวิญญาณจำนวนมาก เพื่อช่วยให้สัตว์วิญญาณระดับเงินก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง และราคาทั้งหมดอยู่ที่ 50,000 หินวิญญาณ
ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าเจ้าของร้านของศาลาไป่หยู่จะดูหยิ่งผยอง แต่อย่างน้อยเรื่องราคาก็ยังเป็นที่ยอมรับได้สำหรับเขา
หลิวหูวิ่งไปทั่วเมือง ยืมเงินจากพี่น้องของเขา รวมถึงนำเงินออมออกมา ในที่สุดเขามีเงินเพียงพอแล้ว
“เจ้าของร้าน!” หลิวรีบวิ่งไปที่ศาลาไป่หยู่ เขาตื่นเต้นจนลืมเบาเสียงลง
ขณะนั้นลั่วอู๋กำลังดื่มชาอยู่ เขาไม่หันไปมองสักนิดและสั่งคนงานในร้านทั้งสามคน “ให้เขาออกไป!”
“อย่าทำอย่างนั้นเลย” หลิวหูยิ้มให้อย่างด้วยท่าทางเกรงใจนิดๆ แล้วก็รีบส่งถุงหินวิญญาณและกระซิบ “เจ้าของร้าน ทั้งหมดหนึ่งหมื่นหินวิญญาณ โปรดรับไว้ด้วย”
ลั่วอู๋รับเงินและลุกขึ้นช้าๆ
ฝูงชนที่มุ่งหน้าร้านพากันกระสับกระส่าย
การละเล่นกำลังจะเริ่ม ทุกคนต้องการดูว่าการวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณนั้นเป็นอย่างไร
“วิธีการแบบพิเศษไม่ควรแพร่กระจายออกไป ข้าจะไปที่สวนหลังบ้าน ห้ามให้ใครตามเข้ามา” ลั่วอู๋พูดกับงูทองคำ “ส่วนเจ้า ถ้าต้องการเพิ่มพลังให้มากขึ้น ก็จงตามข้ามา”
งูทองคำดูเหมือนจะเข้าใจ แผ่แม่เบี้ย และเลื้อยลงมาจากเอวของหลิวหู ที่คดเคี้ยวไปมาตามร่างกายของเขา และเลื้อยตามลั่วอู๋เข้าไปยังสวนหลังบ้าน
ทุกคนรู้สึกผิดหวัง ที่พวกเขาหมดโอกาสได้เห็นการเพิ่มพลัง
ส่วนหลิวหูดูกังวลอย่างมาก ท่าทางของเขาเหมือนกับสามีที่กำลังรอภรรยาของเขาคลอดลูก เขาทำอะไรไม่ได้อีกนอกจากเดินไปมาอยู่ในศาลาไป่หยู่
……
……
ลานด้านหลังศาลาไป่หยู่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดเล็ก แต่สภาพแวดล้อมค่อนข้างดี ต้นไม้ยืนต้นสูง มีเสียงนกร้อง และดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมโชย นี่คือสถานที่ที่เจ้าของร้านคนเก่า มักจะมาพักผ่อนและดื่มชาอยู่เป็นประจำ
ผ่านลานไป ท่านสามารถมองเห็นอาคารหลังเก่า แม้ว่าอาคารจะดูเก่า แต่มีประตูเหล็กและกรงเหล็กอยู่ข้างใน และสัตว์วิญญาณป่าบางตัวยังคงอยู่ในนั้น
ศาลาไป่หยู่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการขายสัตว์วิญญาณ คอยซื้อลูกสัตว์วิญญาณจากทีมนักล่าสัตว์ แล้วขายในราคาที่เหมาะสมกับครัวเรือน
ในพื้นที่ป่าทรายสีเหลือง มีเพียงสัตว์วิญญาณ และแทบจะไม่มีสัตว์วิญญาณปกติเลย มีเพียงภูตและสัตว์ประหลาดเท่านั้น ภูตส่วนใหญ่เติบโตในอาณาจักรอมตะโบราณที่แสนลึกลับ และสัตว์ประหลาดส่วนใหญ่ซ่อนอยู่ในหุบเหวอันน่ากลัว
ลั่วอู๋ไม่ได้ไปไกลกว่านั้น ตอนนี้เขาเพียงต้องการจะช่วยงูทองคำที่กำลังวิวัฒนาการ ดังนั้น เพียงแค่ใช้สถานที่ที่ไม่มีใครอยู่
“อย่าคิดต่อสู้ ข้าไม่ได้จะทำร้ายเจ้า” ลั่วอู๋เอื้อมมือไปวางไว้บนหัวงูทองคำ มีพลังงานอ่อนๆ ไหลออกมา
งูทองคำที่อยู่บนพื้นไร้ซึ่งอำนาจ และไร้การต่อต้านโดยสิ้นเชิง เพราะหลิวหูสั่งอย่างเด็ดขาดว่า ไม่ให้ทำร้ายผู้คน
รัศมีของลั่วอู๋ปิดกั้นการรับรู้ของงูทองคำชั่วครู่หนึ่ง แล้วจึงเรียกให้ไหปีศาจดึงพวกเขาเข้าไป เขาไม่ต้องการที่จะให้ผู้คนภายนอกรับรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของไหปีศาจ
งูทองคำเป็นสัตว์วิญญาณของหลิวหู มันมีจิตใจและความคิด สิ่งที่รับรู้จะถูกส่งต่อไปยังหลิวหู
หัวใจของลั่วอู๋เต้นรัว และจิตสำนึกของเขาได้เข้าสู่โลกของไห
โลกมิติในไหนั้นงดงาม เหมือนดั่งแดนสวรรค์ งูทองคำรับรู้ถึงออร่าที่แข็งแกร่งรอบตัวมันและพลังวิญญาณของมันดีขึ้นเล็กน้อย
“เสริมสร้างความแข็งแกร่ง” ลั่วอู๋พูดเบา ๆ
เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของงูระดับเงิน จะต้องใช้แต้มเซียนอย่างมาก แต่ตอนนี้ เขามีเพียงแค่เจ็ดแต้มเท่านั้น ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ใช้การทำงานขั้นสูงของไหปีศาจ แต่ใช้การทำงานส่วนเสริมเพื่อเพิ่มพลัง
“เริ่มใช้แต้มเซียน 7 แต้ม”
โลกในไหเริ่มรวบรวมพลังวิญญาณอันเบาบาง ที่มีขนาดเล็ก แต่บริสุทธิ์ และหลั่งมันบนร่างของงูทองคำอย่างช้า ๆ
งูทองคำค่อย ๆ ยกหัวขึ้น แผ่แม่เบี้ย ราวกับว่ามันกำลังระแวงอยู่
“ผ่อนคลาย และรู้สึกถึงพลังในร่างกายของเจ้า” เสียงของลั่วอู๋นั้นลึกซึ้ง นุ่มนวล ปราศจากแรงกดดัน ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
เนื่องจากการทำงานที่ได้รับการปรับแต่งของไหปีศาจและพลังวิญญาณในมิติ พลังของงูทองคำจึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
งูทองคำนั้นเป็นถึงระดับเงิน ลำดับที่ 10 มันถึงขีดจำกัดทางศักยภาพของเผ่าพันธุ์แล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้
เพราะมันพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการวิวัฒนาการไปแล้ว และตอนนี้ความแข็งแกร่งของมันได้รับการเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น มันจึงไม่สามารถดำเนินการแปรเปลี่ยนและทำให้แข็งแกร่งกว่านี้ได้ เป็นเรื่องยากมากที่จะพัฒนามันขึ้นไปมากกว่านี้
แต่ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย งูทองคำก็สามารถรับรู้ถึงโอกาสของการวิวัฒนาการได้อีกครั้งหนึ่ง
ลั่วอู๋ไม่สามารถช่วยงูทองคำให้พัฒนาไปมากกว่านี้ได้โดยตรง แต่เขาสามารถใช้วิธีอื่นที่เทียบเคียงกันได้ เหมือนกับการวางฟางลงบนหลังอูฐ
แม้ฟางจะมีขนาดเล็ก แต่มันก็สำคัญมาก
ผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แต่ในขณะที่ ลั่วอู๋ต้องการเพียงแค่ยืมพลังของไหปีศาจ เพื่อทำการปรับแต่งวิญญาณได้อย่างง่ายดาย
“ฟ่อ!”
งูทองคำดูเหมือนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง มันกรีดร้องอย่างไม่สบายใจ เกล็ดของมันคลายลง และฟาดหางหนา ๆ ของมันลงบนพื้น
ดวงตาของลั่วอู๋เต็มไปด้วยแสงบริสุทธิ์ และเขาพูดเสียงเบา ๆ แต่หนักแน่นว่า “จงรู้สึกถึงพลังของเจ้า”
พลังที่อยู่ในงูทองคำเคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นระเบียบ และมันรู้สึกอึดอัดมาก พลังงานที่สงบลงถูกรบกวนอีกครั้ง มันเหมือนกับครั้งแรกที่ได้รับรู้ถึงโอกาสในการวิวัฒนาการเหมือนเมื่อสิบวันก่อน
แต่ครั้งนี้มันแตกต่าง ครั้งนี้มีคนกำลังชี้นำมัน
“อย่ารั้งเอาไว้! ปล่อยมันไป”
“เจ้าจะรู้สึกถึงอุปสรรค ไม่ใช่คำเตือนจากร่างกาย แต่มันคือห่วงโซ่ของการฝ่าฟันมันเข้าไปและก้าวข้ามมันซะ! มันจะเจ็บปวด ร่างกายของเจ้าจะถูกปรับโครงสร้างใหม่ การรับรู้ของเจ้าจะถูกฉีกออก จิตวิญญาณของเจ้าจะถูกเผาดั่งติดอยู่ในกรง แต่เจ้าควรที่จะก้าวข้ามมันไปให้ได้! ทำตามคำแนะนำของข้า ปล่อยให้พลังไหลผ่านร่างกายของเจ้า ก้าวข้ามการวิวัฒนาการที่อยู่ข้างหน้าเจ้า ข้ามมันไป!”
เสียงของ ลั่วอู๋ ดังก้องผ่านไหปีศาจ
“ฟ่อ!”
“ฟ่อ!”
งูทองคำบิดงอม้วนตัวอย่างเจ็บปวดบนพื้นดิน เลือดไหลรินออกมาระหว่างเกล็ดของมัน เห็นได้ชัดว่ามันกำลังทรมานเป็นอย่างมาก
แต่ขณะเดียวกันลมหายใจของมันก็มีพลังมากขึ้น ดูเหมือนว่ามีชั้นผิวหนังบาง ๆ บนเกล็ดที่ร่วงหล่น
มีกระดูกแหลมยาว 7 นิ้วออกมาทั้งสองข้างลำตัวของมันโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่