ไหปีศาจ - บทที่ 741 ฝันร้าย
บทที่ 741 ฝันร้าย
บทที่ 741
ฝันร้าย
วันนี้ได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นในเมืองหลวงของจักรวรรดิ
เงาดำทะมึนได้ปรากฏขึ้นเหนือเมืองหลวงของจักรวรรดิ จากนั้นท้องฟ้าสีแดงก็ค่อย ๆ ปกคลุมไปทั่วเมืองหลวงของจักรวรรดิ
ตอนแรกมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดูแปลกอะไร เดิมทีผู้คนในเมืองหลวงคิดว่ามันเป็นเพียงเมฆฝน แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็ไม่คิดเช่นนั้น เพราะพวกเขาเห็นได้ชัดว่าท้องฟ้านั้นปลอดโปร่งไร้ซึ่งเมฆใด ๆ
แล้วเงาทะมึนนี้มาจากที่ไหนกัน?
ถ้าเป็นเมฆแล้ว ทำไมฝนถึงไม่ตกลงมาเสียที
ในไม่ช้าผู้ใช้พลังวิญญาณบางคนก็ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณแห่งการรับรู้ของเขาออกมา เพื่อไปสัมผัสตัวตนของเงาทะมึนปริศนา จากนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงถึงความกลัวอย่างสุดขีด แม้เขาจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ลมปราณของมันก็ทำให้เขาตื่นกลัวหนาวไปถึงขั้วหัวใจ ราวกับว่ามีตัวตนอันน่าหวาดกลัวซ่อนอยู่ในเงามืดนั้น
“ ใครมันกล้ามาโอ้อวดพลังในเมืองหลวงของจักรวรรดิกันหืม?”
ชายจากตระกูลขุนนางกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจ
เขารู้ดีว่ามีผู้แข็งแกร่งมากมายอยู่ในกองทหารองครักษ์ของเมืองหลวง เพียงชั่วพริบตาผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงมากกว่าสิบคนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เบื้องหลังพวกเขาปรากฏเงาของสัตว์วิญญาณหลากหลายชนิดที่แข็งแกร่งออกมา
ผู้คนในเมืองหลวงของจักรวรรดิรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
กองทหารองครักษ์น่าจะจัดการปัญหานี้ได้ไม่ยาก
เพราะกองทหารองครักษ์นั้นเป็นกองทัพอันทรงพลังที่คอยปกป้องเมืองหลวงมาโดยตลอด พวกเขาการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของเมืองหลวง นอกจากนี้เนื่องจากกรณีของราชินีแห่งฝันร้ายเมื่อไม่นานมานี้ องค์จักรพรรดินั้นได้สั่งขยายกองทหารองครักษ์เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษและส่งคนที่แข็งแกร่งหลายคนจากในกองทัพ ให้มาประจำการในกองทหารองครักษ์
อาจกล่าวกองทหารองครักษ์ในปัจจุบันนั้นทรงพลังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์
ทว่าในช่วงเวลาต่อมา เงาทะมึนนั้นกลับค่อย ๆ เปิดออกราวกับรังไหม จากนั้นเงาทั้งหมดก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นปีก
แก่นกลางของปีกปรากฏให้เห็นร่างของหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำ ดวงตาของนางเย็นชาไม่มีความรู้สึกและอารมณ์ ใด ๆ คอของนางบอบบาง ขาวราวกับหงส์ดำที่สง่างามหรือราชินีผู้สูงศักดิ์ ไม่แยแสต่อมวลมนุษย์ มือของนางกลายเป็นกรงเล็บอันแหลมคม ส่งความรู้สึกอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
“ราชินีแห่งฝันร้าย นางกลับมาแล้ว! นางกลับมาแล้ว” ใครบางคนตะโกนด้วยความสยดสยอง
ผู้สังเกตการณ์จากด้านล่างต่างกระจัดกระจายกันไปด้วยความกลัวที่ว่าตนเองจะถูกจับตามอง
ชื่อเสียงของ ราชินีแห่งฝันร้ายนั้นได้แพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้คนในด้านความแข็งแกร่ง ความกระหายเลือด ความเฉยเมยอันไร้ซึ่งปรานี และการฆาตกรรมนับไม่ถ้วน
นามของราชินีแห่งฝันร้ายนั้นมีความหมายเทียบเคียงได้กับสัตว์ประหลาด ชื่อของนางเพียงอย่างเดียวสามารถหยุดเด็กร้องไห้ตอนกลางคืนให้เงียบได้
ในความเป็นจริงราชินีแห่งฝันร้าย นั้นไม่เคยเข่นฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ป้องกันความหวาดกลัวของนาง ที่ฝังรากลึกลงในจิตใจของผู้คน
ใบหน้าของเหล่าทหารองครักษ์ผู้แข็งแกร่งกว่าสิบคนในระดับทองขั้นสูง ต่างจริงจังยิ่งขึ้นกว่าเดิมพวกเขาทุกคนต่างก็เคยได้ยินชื่อเสียงอันน่ากลัวของราชินีแห่งฝันร้าย
เจียหมิงหยู แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพหมาป่าเองก็ได้ตายลงไปแล้วด้วยน้ำมือของนาง แม้ข่าวสารจะอ้างว่าไม่ใช่ฝีมือของนาง แต่หลาย ๆ คนก็รู้ดีว่าเขาเสียชีวิตด้วยน้ำมือของราชินีฝันร้าย
แม้ว่ามันจะเป็นการลอบสังหาร แต่ก็ยังถือเป็นความสามารถของอีกฝ่ายอยู่ดี
“คิดจะทำอะไรกันน่ะ?” มีคนถามด้วยเสียงต่ำ
ผู้นำกองทหารองครักษ์ ซึ่งเป็นชายวัยกลางคน ในมิติวิญญาณระดับทองขั้นสูงมิติเจ็ดตะคอกอย่างเย็นชา “ถ่วงเวลานางเอาไว้ ต้านเอาไว้เท่าที่จะทำได้ จนกว่าคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเราจะถูกส่งออกมาจากทางราชวัง”
“ขอรับ”
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงที่แข็งแกร่งมากกว่าสิบคนพุ่งตรงไปข้างหน้า
น่าแปลกที่ราชินีแห่งฝันร้ายนั้นกลับไม่ได้ต่อสู้กับพวกเขาเลย นางเพียงแต่บินผ่านไปอย่างรวดเร็วมุ่งตรงไปยังพื้นที่ใจกลางเมืองหลวงโดยไม่ลังเล
ฝูงชนต่างรู้สึกประหลาดใจไปตาม ๆ กัน
“นางกำลังมุ่งหน้าไปที่พระราชวัง?”
“ไม่ดีแล้ว หยุดนางไว้เร็ว”
“ส่งข่าวไปเร็ว บอกพวกเขาว่านางกลับมาแล้ว ราชินีแห่งฝันร้ายกลับมาแล้ว”
กองทหารองครักษ์ ผู้แข็งแกร่งต่างทำตามคำสั่ง
ทันทีทันใด กองทหารองครักษ์จำนวนมากก็ออกไปในช่วงเวลาเดียวกัน พวกเขาเข้าล้อมกรอบราชินีแห่งฝันร้ายเป็นวงกว้าง
ทำให้นางถูกล้อมโดยกองทัพ
ถ้าเป็นแค่กองทัพ นางก็คงจะฝ่าไปได้อย่างง่าย ทว่าในกองทัพนั้นมีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงมากกว่า 30 คนรวมอยู่ด้วย
ขณะนี้นางถูกปิดล้อม จนยากที่จะหลบหนีพ้น
กองกำลังสำคัญทั้งหมดในเมืองหลวงของจักรวรรดิต่างกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์นี้ แต่ไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรอยู่เลย
นั่นก็เพราะผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรนั้นโดยพื้นฐานแล้ว ก็เหมือนกับเข็มในมหาสมุทร มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปถึงมิติวิญญาณระดับนั้น
นอกจากนี้ด้วยเหตุผลบางประการเฉินซังเทียนผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณคนแรกของโลกก็ได้แอบให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรที่ทรงพลังคนอื่น ๆ อย่างลับ ๆ ว่าอย่าได้สนใจราชินีแห่งฝันร้าย
เพื่อนของเฉินซังเทียนนั้นมีอยู่ทั่วโลก ทุกคนจึงปฏิบัติตามแต่โดยดี
“หลีกทางไปซะ” ราชินีแห่งฝันร้ายพูดออกมาเพียงไม่กี่คำ ด้วยเสียงที่แหบแห้งเหมือนน้ำแข็งแตกดังกึกก้องและเต็มไปด้วยความหนาวเย็น
ในกองทหารองครักษ์มีคนที่แข็งแกร่งยืนขึ้นและดุว่ากลับไป “ไม่ พวกเราจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้า เข้าไปถึงพระราชวังได้หรอก อีกไม่นานก็จะมีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรมาที่นี่แล้ว เจ้ายอมแพ้ซะดีกว่า”
แม้ว่าผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรของกองกำลังหลักทั้งหมดจะไม่ออกมาต่อสู้ แต่ก็ยังมีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร คนอื่น ๆ ในพระราชวังอยู่ ซึ่งพวกเขาฟังแต่เพียงคำสั่งขององค์จักรพรรดิแต่ผู้เดียวเท่านั้น
ดวงตาของราชินีแห่งฝันร้ายหันไปมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยลมปราณอันหนาแน่นไหลออกมาอย่างช้าๆ
ที่จริงแล้ว นางก็แค่อยากไปที่ลานจัตุรัสซึ่งเป็นที่ตั้งของประตูห้วงมิติสู่สำนักเฉียนหลง เพราะนางต้องการกลับไปที่สำนักเฉียนหลง อย่างไรก็ตามฝันร้ายนั้นได้เปลี่ยนรูปร่างไปอย่างลึกลับ จนทำให้นางถูกพบตัว
ทั้ง ๆ ที่นางแค่อยากกลับไปที่สำนักเฉียนหลงแท้ ๆ
นางแค่ต้องการขอให้รองประธานสำนักช่วยเปิดประตูห้วงมิติสู่นรกมนตราให้นาง
แต่คนเหล่านี้ก็ได้มาขวางทางของนางไว้
หลี่หยินจ้องมองไปที่พวกเขา
ในเมื่อมาขวางทางก็ต้องฆ่าทิ้งให้หมด!
ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของหลี่หยิน
นางรู้สึกถึงได้ถึงความต้องการฆ่าอันไม่สามารถควบคุมที่พุ่งเข้ามาในหัวใจของนางอย่างลึกลับ พลังวิญญาณลึกลับได้หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของนาง เริ่มก่อตัวขึ้นเป็นอาณาเขตวิญญาณที่ยังไม่สมบูรณ์
บางคนในกองทหารอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ “นี่มัน อาณาเขตวิญญาณ งั้นเหรอ เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
อาณาเขตวิญญาณนั้นเป็นทักษะพิเศษเฉพาะที่ส่วนมากมีเพียงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรเท่านั้นที่ใช้มันได้ การสร้างอาณาเขตวิญญาณนั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อตัวผู้ใช้ โดยไม่เกี่ยวกับพละกำลังและแก่นแท้ทักษะ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร จึงรับมือได้ยาก
อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดว่าราชินีแห่งฝันร้ายจะสามารถใช้อาณาเขตวิญญาณได้ แม้ว่ามันจะยังไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เริ่มที่จะปรากฏเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
นางนั้นจะอยู่ในสถานะไร้เทียมทานในอาณาเขตวิญญาณของตัวเอง เว้นแต่ว่าจะถูกรุกรานโดยอำนาจของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร
ต่อมาปีกเงาทะมึนที่อยู่เบื้องหลังราชินีแห่งฝันร้ายก็ถูกกางออกอย่างสมบูรณ์ เงาขนาดใหญ่ครอบคลุมเมืองหลวงของจักรวรรดิทั้งหมดในชั่วพริบตา พลังวิญญาณแห่งความมืด กลายเป็นหมอกสีดำ จากนั้นหมอกสีดำก็กลายเป็นเงาประหลาดที่ไม่อาจอธิบายได้ เหนือท้องฟ้า
กลิ่นของความกลัวแพร่กระจายอย่างรุนแรงไปทั่วเมืองหลวงของจักรวรรดิ
“เจ้าคิดจะทำอะไรกัน” ทหารองครักษ์ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความหวาดกลัว
เสียงคำรามของกองทัพและเสียงกลองสงครามดังขึ้น ทำให้ผู้คนทั่วไปต่างหนีไปด้วยความกลัวไป
ราชินีแห่งฝันร้ายนั้นไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับไป
แรงกดดันวิญญาณของราชินีแห่งฝันร้ายนั้นน่ากลัวมาก ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ นางเพียงแค่จ้องมองไปที่พวกเขา
ราวกับว่านางเป็นปรมาจารย์ปีศาจแห่งนรกมนตราทั้งเก้าที่พร้อมจะทำให้ทุกชีวิตเหี่ยวเฉา
รูปแบบที่สามของฝันร้าย
มหาฝันร้าย
มันคือรูปแบบที่แท้จริงของฝันร้าย
นัยน์ตาของราชินีแห่งฝันร้ายถูกปกคลุมไปด้วยชั้นสีดำ นางรวมเข้ากับความมืดอย่างสมบูรณ์กลายเป็นฝันร้ายที่ครอบคลุมเมืองหลวงทั้งหมด
นักบวชลัทธิเต๋าเคยกล่าวไว้ว่าตลอดเวลา 50 ปีที่เขาอยู่ร่วมกับฝันร้าย เขาเข้าสู่รูปแบบมหาฝันร้าย ได้เพียงสี่ครั้งเท่านั้น
ซึ่งในความเป็นจริงเขาเข้าสู่รูปแบบนี้ทั้งสี่ครั้งในช่วง 20 ปีหลัง
เพราะถ้าต้องการที่จะเข้าสู่รูปแบบ มหาฝันร้าย จะต้องมีความเข้าใจในแก่นแท้ทักษะแห่งการฆ่าอย่างน้อย ๆ ก็ต้องไปถึงระดับ “การหยั่งรู้”
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าศิษย์ของตนเองจะประสบความสำเร็จถึงระดับนี้ได้ในเวลาเพียงสองปี หลังจากที่นางเข้าใจในแก่นแท้ทักษะแห่งการฆ่า
มหาฝันร้ายได้คืบคลานเข้ามา
ทันใดนั้นทั้งเมืองหลวงของจักรวรรดิก็กลายเป็นสีแดงเข้ม
มีเสียงกรีดร้องดังต่อเนื่องอย่างไม่หยุดหย่อน