ไหปีศาจ - บทที่ 822 ข้างใต้สระน้ำ
บทที่ 822
ข้างใต้สระน้ำ
ลั่วอู๋และหลี่หยินกำลังตามจี๋โปไปอย่างเงียบ ๆ
หลี่หยินสามารถใช้ทักษะมิติเพื่อแทรกแซงร่องรอยตัวตนของตัวเอง และพลังแห่งฝันร้ายเพื่อปกปิดลมปราณ แม้แต่จักรพรรดิผู้ใช้พลังวิญญาณเองก็ยากที่จะหาตำแหน่งของนางเจอ
ความแข็งแกร่งของจี๋โปนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอ แต่เขาก็ไม่สามารถไปถึงระดับจักรพรรดิผู้ใช้พลังวิญญาณได้
ดังนั้น ลั่วอู๋และหลี่หยินจึงรู้สึกโล่งใจอย่างมาก ที่พวกเขาจะสะกดรอยตามโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพบตัว
เมื่อเดินผ่านป่าทึบ จี๋โปก็เริ่มรู้สึกกังวล ด้วยความช่วยเหลือของสายลม เขาก็ได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและในไม่ช้า เขาก็มาถึงที่อยู่ของเผ่าอื่นในป่าทึบ
ขนาดของเผ่านี้นั้นคล้ายกับเผ่าเจตจำนงแห่งลม แต่กลับมีความรู้สึกที่ต่างกันมาก
แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่ามันมีอะไรผิดปกติกัน
ผู้คนในเผ่านี้ดูเหมือนว่าจะมีเปลวไฟลุกขึ้นที่คิ้วของพวกเขา และแม้แต่บรรยากาศโดยรอบก็ทำให้รู้สึกถึงความวิตกกังวลอย่างมาก
ลั่วอู๋ใช้งานทักษะนัยน์ตาปีศาจของเขา เพื่อมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขา
มีเมฆสีแดงลอยอยู่เหนือท้องฟ้าของชนเผ่านี้
“ดูเหมือนว่าจะเป็นชนเผ่าที่มีไฟเป็นอักขระ” ลั่วอู๋พูดกับตัวเอง “มันช่างน่าสนใจจริง ๆ”
เห็นได้ชัดว่า ชนเผ่านี้ควรถูกเรียกว่า “เผ่าเจตจำนงแห่งไฟ”
จี๋โปได้ตรงเข้าไปยังเผ่านั้น
ลั่วอู๋ได้แอบย่องตามเขาเข้าไปยังเผ่า ด้วยความสามารถปกปิดตัวตนอันทรงพลังของหลี่หยิน
อย่างไรก็ตาม จี๋โปได้รับการต้อนรับให้เข้าไปยังห้องแห่งความลับ ที่มีผู้คุ้มกันอยู่หนาแน่นมาก เมื่อเข้าไปใกล้เขาก็คงจะถูกพบตัวได้โดยง่ายดาย รูปแบบของทักษะก็นั้นยังคงเป็นพลังวิญญาณ มันก็ไม่ได้หายไปได้อย่างสมบูรณ์
ลั่วอู๋จึงทำได้เพียงแค่รอ
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง จี๋โปก็เดินออกมา
ข้างกายของเขานั้นมีชายผมสีแดงยืนอยู่ เขาดูมีความจริงจัง ราวกับว่ากำลังจะมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
เห็นได้ชัดว่า ชายผมสีแดงคนนั้นเป็นคนของชนเผ่านี้
“มันช่างยากลำบากมาก ข้าจะไปกับเจ้าเพื่อไปพบกับหัวหน้าของเผ่าอื่น” ชายผมแดงกระซิบ
จี๋โปพยักหน้า “ได้เลย”
ดังนั้น ทั้ง 2 คนได้เดินทางออกจากเผ่าไปด้วยกัน
แต่ทั้ง 2 คนนั้นกลับเลือกที่จะแยกออกกันไปคนละทาง
“เอ่อ…”
เราไม่สามารถติดตามพวกเขาที่แยกกันคนละทางได้
ลั่วอู๋ไม่มีทางเลือกนอกจากติดตามจี๋โปไป
เห็นได้ชัดว่า เผ่าถัดไปนั้นเป็นเผ่าที่มีอักขระเป็นสายฟ้า ผู้คนของเผ่านี้ถูกปกคลุมไปด้วยพลังของสายฟ้า ซึ่งน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ความแข็งแกร่งของเผ่านี้น่าจะใกล้เคียงชนเผ่าเจตจำนงแห่งลม
แต่ความแตกต่างของชนเผ่านี้นั้นมีมังกรสายฟ้าที่หายากอย่างมาก และมันก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเพชร
ลั่วอู๋ตามตามจี๋โปไปยังหลายต่อหลายเผ่า
ทุกครั้งที่ตามจี๋โปเข้าไปยังแต่ละเผ่า ก็จะมีขั้นตอนเดียวกัน จะมีการสนทนาลับเกิดขึ้น และหลังจากนั้น ก็จะออกไปยังเผ่าอื่น ไม่ช้า ข่าวก็แพร่กระจายไปยังชนเผ่าทั้ง 16 เผ่าในพื้นที่นี้ทั้งหมด
ถึงแม้จะมี 16 เผ่า แต่หลายเผ่าก็มีอักขระเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกแยกออกจากกัน
ลั่วอู๋ครุ่นคิด
ทองคำ, ไม้, ไฟ, ดิน, สายลม, สายฟ้า และน้ำแข็ง
ทั้ง 16 เผ่านั้นมีอักขระถึง 7 แบบ
ฮะ!?
มี 1 ใน 5 ธาตุทั้งหมดได้ขาดหายไป
“ไม่มีเผ่าไหนที่มีอักขระน้ำงั้นเหรอ?” ลั่วอู๋ครุ่นคิด “ใช่แล้ว หรือว่านั่นคือเผ่าหมิงชุย”
เห็นได้ชัดว่า ในอดีตนั้นเผ่าหมิงชุยเคยอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงได้จากไป
หลังจากที่จากไป เผ่าหมิงชุยก็มีความโชติช่วงในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มโดดเดี่ยว ตอนนี้พลังของอักขระก็อ่อนแอกว่าเผ่าที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้อย่างมาก
ลั่วอู๋นึกถึงเผ่าเทพแห่งผืนดินอีกครั้งหนึ่ง
แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ส่ายหัว
เผ่าเทพแห่งผืนดินนั้นแตกต่างจากเผ่า ณ ที่แห่งนี้อย่างสิ้นเชิง สิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่นก็มีเพียงเทพแห่งผืนดินเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในสวรรค์และโลก
หลังจากออกจากเผ่านี้ จี๋โปก็เลือกที่จะกลับไปยังเผ่าเจตจำนงแห่งลม
นั่นคือสิ่งที่ลั่วอู๋ไม่คาดคิด
ดังนั้น ลั่วอู๋จึงรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และกลับไปที่เผ่าเจตจำนงแห่งลมอีกครั้ง
“ในที่สุดก็กลับมา” ฉูจงฉวนรู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นพวกเขา
“มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า?” ลั่วอู๋ถาม
“เมื่อไม่นานนี้ มีคนจากเผ่าเจตจำนงแห่งลมเข้ามาหา และพบว่ามีพวกเรา 2 คนหายไป พวกเราจึงได้หลอกพวกเขาไป” ใบหน้าของฉูจงฉวนดูเคร่งขรึม
“พวกเราต้องรีบแล้ว ข้าได้ยินพวกเขาพูดมาว่า พวกเขาจะใช้พลังของอักขระเพื่อใช้ในการปลุกเนลลี่ตื่นขึ้นมา บางทีเราอาจจะต้องเผยธาตุแท้ของเราออกมา”
“อืม ข้ารู้” ลั่วอู๋พยักหน้า
ถ้าเกิดว่าเนลลี่ตื่นขึ้นมาละก็ พวกเขาจะต้องถูกตามล่าอย่างแน่นอน
แต่ว่าตอนนี้เราไม่สามารถออกจากพื้นที่แห่งนี้ได้
“เจ้าพบอะไรมาอย่างนั้นเหรอ?” หยู่เฮาถาม
เขานั้นมีความสนใจในชนเผ่าทั้งหมดเหล่านี้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รู้ว่าหม่าเฉินได้ปกป้องเผ่าเหล่านี้อยู่
ในฐานะลูกศิษย์เพียงคนเดียวของหม่าเฉิน เขาต้องการรู้ว่าหม่าเฉินทำอะไรกันแน่
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด เย็นนี้น่าจะได้รู้กัน” ลั่วอู๋กระซิบ
“เจ้าแน่ใจใช่ไหม?”
“ด้วยการเรียกรวมผลหัวหน้าเผ่าอย่างเร่งด่วน กว่า 8 ถึง 10 เผ่า เราต้องเริ่มหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในช่วงเวลาอันสั้นนี้!”
…
…
ลั่วอู๋พูดถูก
แต่ละเผ่านั้นอยู่ในความกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อยามตะวันได้ตกดิน
ทันทีที่ตะวันลับฟ้า จี๋โปได้ออกจากเผ่าเจตจำนงแห่งลมอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับผู้คุ้มกันที่ทรงพลังทั้ง 2 คน
“ไปกันได้แล้ว” ลั่วอู๋ได้นำพรรคพวกของเขาลงไปยังไหปีศาจ หลังจากนั้นเขาก็แอบติดตามจี๋โปไป
เมื่อคนในเผ่าเจตจำนงแห่งลมรู้ว่า แขกทั้งหมดนั้นได้หายตัวไป พวกเขาก็ตื่นตระหนกทันที
แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ลั่วอู๋และพรรคพวกของเขาจะสนใจอีกต่อไป
ตราบใดที่ยังสะกดรอยตามผู้นำเผ่าไป มันก็ไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่านี้แล้ว
ณ เวลากลางคืน ผู้คนจากทั้ง 16 เผ่าได้มารวมตัวกันในป่าทึบ พวกเขาไม่ได้พูดคุยกัน ราวกับว่าพวกเขานั้นรู้ดีอยู่แล้ว
ลั่วอู๋อยู่ห่างจากพวกเขาไม่ไกลจนเกินไป
ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปไม่ได้ แต่ร่างกายกลับรู้สึกสั่นไหว
ทุกคนต่างได้มารวมตัวกัน ขณะนั้น พลังงานลึกลับได้รวมตัวกันทั่วท้องฟ้าขยายจนกว้างใหญ่ ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าไป
“ให้ตายสิ!” ลั่วอู๋แสดงความไม่มั่นใจผ่านดวงตา
นั่นมันพลังอะไรกัน?
พลังของอักขระกำลังมาบรรจบกันงั้นเหรอ?
ด้วยเหตุนั้น ลั่วอู๋และทุกคนก็ตามเขาเข้าไปยังสถานที่ที่เงียบสงบในป่าทึบ สถานที่นั้นห่างไกลและหนาวเย็น
ในความมืดนั้น มันรู้สึกถึงความแปลกประหลาด
ทุกคนในเผ่าเหล่านั้นได้กระโดดลงไปในสระน้ำอันหนาวเย็นทีละคน
จากนั้น พวกเขาทุกคนก็ได้หายไป โดยไม่มีใครขึ้นมาอีกเลย
“มันช่างเหมือนการฆ่าตัวตายในช่วงเวลากลางคืน น่ากลัวชะมัด” ลั่วอู๋ได้เดินเข้าไปใกล้สระน้ำนั้น และลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น เขาก็กระโดดลงไปในสระน้ำอันหนาวเย็นนั้น
เห็นได้ชัดว่า ผู้คนในเผ่าเหล่านี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าตัวตาย
หากต้องการรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร แน่นอนว่าพวกเราต้องตามเข้าไป
หลังจากกระโดดลงไปในสระแล้ว ลั่วอู๋ก็ได้กลั้นหายใจว่ายน้ำลงไป หลังจากนั้น ไม่ไกลนัก ก็มีแสงไฟส่องอยู่ตรงหน้าเขา
ลั่วอู๋กลั้นลมหายใจของเขา แล้วตามเข้าไปยังแสงสว่างนั่น
ซู่!
น้ำได้กระเซ็นออกไป และลั่วอู๋ก็ได้ตกลงสู่พื้นดิน
มีโพรงอยู่ภายใต้สระน้ำแห่งนี้ มันเหมือนกับน้ำแข็งมาก ข้าเกรงว่าคนธรรมดานั้นจะไม่สามารถดำน้ำลึกได้ขนาดนี้แน่
ลั่วอู๋ใช้งานทักษะล่องหนทันทีเพื่อจะได้ไม่ถูกพบตัว
แต่ความจริงแล้ว เขาก็มีความกังวลอยู่เหมือนกัน
ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้จะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ผู้คนในเผ่าเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่นี่ จึงไม่ต้องกังวลอะไรมาก
หลังจากมองดูสถานการณ์โดยรอบแล้ว ลั่วอู๋ก็ให้ทุกคนออกมาข้างนอกอย่างสบายใจ
ทุกคนได้ออกมาจากมิติไห แต่พวกเขานั้นไม่ได้เห็นสถานการณ์โดยรอบ ทันใดนั้น เหวินเสี่ยวด้านมืดและด้านสว่างก็ตื่นตระหนกทันที
ลั่วอู๋สงสัย “เจ้าเป็นอะไรงั้นหรือ?”
“ข้ารู้สึกถึงกลิ่นที่คุ้นเคย” เหวินเสี่ยวกล่าวหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง