ไหปีศาจ - บทที่ 881 จุดอ่อน
บทที่ 881 จุดอ่อน
บทที่ 881
จุดอ่อน
ตามที่เทพวิญญาณไร้รูปบอกมา
ภูตพระโพธิสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตบริสุทธิ์เกิดบนซากปรักหักพังของอาณาจักรชาวพุทธ เมื่อเกิดมาพร้อมกับลักษณะของพระโพธิสัตว์ดังนั้นจึงสามารถรับรู้และได้รับปกป้องโดยแสงแห่งพระโพธิสัตว์
แง่หนึ่งมันสามารถกลายเป็นพระโพธิสัตว์ได้ แต่ในทางกลับกันมันก็กลายเป็นมารได้เช่นกัน
ภูตพระโพธิสัตว์จึงสามารถสูญเสียตัวตนและกลายเป็นมารได้
แผนการของเจ้าแห่งบาปนั้นง่ายมาก เขาได้ตกลงกับภูตพระโพธิสัตว์เพื่อให้ฆ่าภูตชั่วร้ายและนำแก่นวิญญาณออกมา
การมีอยู่ของสายลมแห่งความเกลียดชังในดินแดนแห่งผู้ถูกเนรเทศทำให้ทุกการสังหารได้รับผลกระทบจากสายลมแห่งความเกลียดชัง
ด้วยเจตจำนงอันแน่วแน่ ภูตมหาสงครามถึงต่อสู้ได้เป็นเวลาสามปีโดยไม่ได้รับผลกระทบ
ด้วยแสงแห่งพระโพธิสัตว์ ภูตพระโพธิสัตว์จึงยับยั้งอารมณ์ด้านลบไว้ในใจได้ แต่แท้จริงแล้ว จิตใจของภูตพระโพธิสัตว์กลับมีจำกัดมากทีเดียว
หากไม่มีเหตุบังเอิญ หลังจากการสังหารภูตชั่วร้าย 1 แสนตน อารมณ์ด้านลบภายในจะทะลุการระงับของแสงแห่งพระโพธิสัตว์ และอาการจะเลวร้ายมาก
ถ้าพระโพธิสัตว์โบราณเหล่านั้นเคยอยู่ที่นี่ในอดีต
ไม่ต้องพูดถึงการสังหาร 100,000 ครั้งเลย มันเป็นการยากมากที่จะทำให้หัวใจชาวพุทธที่แน่วแน่ของพวกเขาไขว้เขวได้
แต่ภูตพระโพธิสัตว์ทำแบบนั้นไม่ได้
แม้ว่ามันจะเกิดมาหลายพันปี เพราะมีแสงแห่งพระโพธิสัตว์คุ้มครอง หัวใจของชาวพุทธจึงไม่เคยถูกทดสอบเลย ดังนั้นมันจึงยังคงซื่อและไร้เดียงสา
หากอารมณ์เชิงลบปะทุขึ้น
ภูตพระโพธิสัตว์จะเปลี่ยนมาร
แสงแห่งพระโพธิสัตว์จะไม่รับรู้ถึงตัวมันอีกต่อไป
เจ้าแห่งบาปสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อกลืนกินภูตพระโพธิสัตว์และแสงสว่างที่ยังไม่จางหายไปเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงของตัวเองสมบูรณ์และถึงขีดจำกัดชีวิตของเขา
ถ้าเจ้าแห่งบาปทำอย่างนี้จริง ๆ
เกรงว่าคงมีเพียงราชินีภูตเท่านั้นที่สามารถปราบเจ้าแห่งบาปได้
น่าเสียดายที่แผนนี้ถูกทำลายโดยลั่วอู๋
ลั่วอู๋ใช้พลังของชำระบาปล้างอารมณ์ด้านลบในจิตใจของภูตพระโพธิสัตว์ได้สำเร็จและบรรเทาแรงกดดันจากแสงแห่งพระโพธิสัตว์
ดังนั้นเมื่อตอนที่ภูตพระโพธิสัตว์ทำข้อตกลงกับเจ้าแห่งบาป มันจึงไม่แสดงอารมณ์ด้านลบออกมาอย่างท่วมท้นทั้ง ๆ ที่ถูกเอาเปรียบ ตรงกันข้าม มันอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นมาก
มันเกิดขึ้นได้เพราะลั่วอู๋
ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าแห่งบาปได้จ้องมองที่ภูตพระโพธิสัตว์เป็นเวลานาน
เดาว่าเขาคงสงสัย
ทำไมอารมณ์เชิงลบไม่ระเบิดออกมา?
นั่นเป็นเหตุว่าทำไมเจ้าแห่งบาปจึงหันหน้าหนี
ตราบใดที่อารมณ์ด้านลบภายในของภูตพระโพธิสัตว์ไม่ระเบิดออก เขาจะใช้ข้อตกลงนี้เพื่อให้ภูตพระโพธิสัตว์ต้องฆ่าต่อไป
มันช้า
เจ้าแห่งบาปรอมา 400 ปีแล้ว
แต่ไม่มีทางอื่น เขาไม่มีความสามารถบังคับภูตพระโพธิสัตว์ให้กลายเป็นปีศาจได้ หากเขาใช้กำลังบังคับ มันจะย้อนกลับมาทำให้แสงแห่งพระโพธิสัตว์ทำลายตัวเอง
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถทำให้ภูตพระโพธิสัตว์เสื่อมโทรมลงโดยสมัครใจ
หลังจากฟังเรื่องราวของเทพวิญญาณไร้รูป พวกเขาทั้งหมดแสดงท่าทางเคร่งขรึม
ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้
หลังจากวางแผนมาสี่ร้อยปี เจ้าแห่งบาปจะไม่มีวันปล่อยให้ภูตพระโพธิสัตว์หลุดมือไปง่าย ๆ แม้ว่าลั่วอู๋ได้ชำระบาปให้มันแล้ว แต่บางทีวันหนึ่งเจ้าแห่งบาปอาจจะไม่สามารถรอได้
และลั่วอู๋ก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ตลอดไปได้
“เจ้าแห่งบาปมีจุดอ่อนใด ๆ บ้างรึเปล่า?” ลั่วอู๋ถามขึ้นทันที
เทพวิญญาณไร้รูปสั่นไปทั้งตัว เหมือนได้ยินคำพูดที่กระด้างกระเดื่องมาก “ว่าไงนะ?”
“ทำไมเจ้าดูขวัญอ่อนจัง”
ลั่วอู๋ไม่พอใจมาก
เทพวิญญาณไร้รูปขมวดคิ้ว “ตาของเจ้าแห่งบาปมองเห็นทุกสิ่ง แม้เพียงคิดก็ตาม มันอันตรายมาก”
“แล้วเจ้าจะกลัวอะไร? ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าจะไม่มีทางได้เห็นเขาอีกแน่นอน” ลั่วอู๋ไม่สนใจและถามต่อว่า “เอาล่ะ ว่ามาได้แล้ว”
“ข้าไม่รู้” เทพวิญญาณไร้รูปหดคอของมัน
“ข้าไม่รู้?”
“ข้าไม่รู้จริง ๆ”
ลั่วอู๋จ้องไปที่เทพวิญญาณไร้รูปแล้วครุ่นคิด
“มีอะไร?” เสียงของมันสั่น
ลั่วอู๋กล่าวว่า “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนขี้ขลาด เจ้าจะซ่อนไพ่บนมือของเจ้าไว้เพื่อที่เจ้าจะได้มีโอกาสแสดงความภักดีต่อเจ้าแห่งบาป”
“ไม่ นั่นไม่จริง” เทพวิญญาณไร้รูปส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง
“ข้ายังไม่เชื่อ”
“งั้น…เจ้าต้องการอะไร?”
ลั่วอู๋คิดแล้วเรียกตวนซีออกมา ในขณะนี้ตวนซีกลายร่างเป็นผู้คุมวิญญาณและร่างกายของมันเต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่มืดมน
ผู้คุมวิญญาณระดับทองขั้นสูง 9
นี้อาจจะหาได้ยากในโลก
เทพวิญญาณไร้รูปนั้นจำตัวตนของผู้คุมวิญญาณได้ในทันที มันกลัวแทบตาย “เจ้าอย่ามายุ่งกับข้า”
“ไม่เป็นไร แค่ค้นวิญญาณ ข้าสัญญาว่าข้าจะระวังให้มาก และพยายามไม่ทำลายทะเลแก่นวิญญาณของเจ้า” ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม
น่าเสียดายที่เขายิ้มเหมือนมารในสายตาของเทพวิญญาณไร้รูป
การค้นวิญญาณนั้นมีผลข้างเคียงที่รุนแรง
อย่างไม่ต้องสงสัย
และไม่ว่าจะระมัดระวังแค่ไหนก็ตาม
“ไม่ ได้โปรด ไม่” เทพวิญญาณไร้รูปขอร้อง
ลั่วอู๋ทำเป็นหูหนวก “ตอนแรกมันจะเจ็บหน่อย แล้วเดี๋ยวเจ้าก็จะชินกับมัน”
ว่าแล้วเขาก็สะกดเทพวิญญาณไร้รูป และกำลังจะเริ่มใช้ทักษะค้นวิญญาณ เทพวิญญาณไร้รูปสั่นกลัวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง และมันก็รีบร้องออกมา “ข้าพูดแล้ว ข้าพูดแล้ว!”
“เฮ้ เฮ้ เจ้าแอบซุกข้อมูลไว้จริงด้วย ๆ”
ลั่วอู๋ยิ้มและหยุด
ผู้ที่กลัวตายขนาดนี้คงไม่กล้าโกหกแน่นอน
เทพวิญญาณไร้รูปหน้าซีดและกล่าวด้วยความกลัว “ที่จริงข้าก็ไม่รู้จุดอ่อนของเจ้าแห่งบาปหรอก แต่เขาไม่เคยติดต่อกับภูตชั่วร้าย เป็นที่ชัดเจนว่ากระดูกของพระโพธิสัตว์และร่างกายทองคำมีพลังมหาศาล ในการต่อสู้ที่หาได้ยากเพียงไม่กี่ครั้ง เขาไม่เคยต่อสู้ด้วยร่างกายเลย ข้าเดาว่าจุดอ่อนของเขาอยู่ที่ร่างกายของเขาแน่นอน”
“เจ้ากำลังล้อเล่นแน่นอน กระดูกพระโพธิสัตว์ทองคำที่แข็งแกร่งจะมีจุดอ่อนอะไร? ข้าต้องหาวิธีหักกระดูกของเขารึไง?” ลั่วอู๋โกรธจัด
ร่างกายทองคำ
มันทรงพลังไม่น้อยไปกว่าร่างกายอมตะ
เจ้าเรียกสิ่งนั้นว่าจุดอ่อน?
“ไม่ ไม่” เทพวิญญาณไร้รูปส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ข้าคิดว่าเขามีอะไรต้องกลัวอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากต่อสู้ด้วยร่างกายของเขา”
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว “หืม?”
“ในเมื่อเป็นร่างกายที่พระโพธิสัตว์โบราณปลูกฝังด้วยพุทธศาสนาที่ลึกซึ้ง แล้วจะมีอะไรน่ากลัว พระโพธิสัตว์สามารถเสื่อมสภาพเป็นมารได้ กระดูกและร่างกายของพระโพธิสัตว์ก็ไม่อาจอยู่ยงคงกระพันจริง ๆ ได้หรอก”
ดวงตาของลั่วอู๋เป็นประกาย “เจ้าหมายความว่า…”
“บางทีสิ่งแปดเปื้อนก็อาจทำลายพลังของกระดูกพระโพธิสัตว์ได้ แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงกระดูกของพระโพธิสัตว์ ไม่ใช่พระโพธิสัตว์โบราณผู้ไม่เคยถูกภูตชั่วร้ายคุกคาม” เทพวิญญาณไร้รูปกล่าว
“ใช่เลย เจ้าฉลาดเอาเรื่องนะเนี่ย”
เมื่อเจอกับคำชมของลั่วอู๋ เทพวิญญาณไร้รูปยอมรับอย่างใจเย็น
มันมีชีวิตอยู่เป็นเวลาหลายปีและรอดชีวิตมาได้ ต้องเผชิญกับภูตชั่วร้ายมากมาย มันได้กลายเป็น “ภูตมนุษย์” มาเป็นเวลานาน
ลั่วอู๋อดคิดไม่ได้ว่าเทพวิญญาณไร้รูปอาจมีประโยชน์ในอนาคต มันไม่เลวที่จะรับมันไว้
แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่
“อะไรคือสิ่งแปดเปื้อนที่สุดที่มีฤทธิ์ทำให้พลังของพระโพธิสัตว์เสื่อมล่ะ?” ลั่วอู๋มองไปยังทุกคน
ทุกคนคิด
“ฉี่ใส่เขาหรอ?” ฉูจงฉวนถามอย่างไม่แน่ใจ
ลั่วอู๋กลอกตา “ถ้าแม้แต่สิ่งสกปรกนี้ก็ยังทนไม่ได้ มันสมควรที่จะเรียกว่าร่างทองคำไร้เทียมทานด้วยรึไง?”
หยู่เฮากล่าวว่า “เลือดของงูหยิน?”
“ข้าเกรงว่ามันไม่ใช่สิ่งที่สกปรกที่สุด” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
“ก็เจ้าเคยบอกว่าไขกระดูกหยินเป็นแบบนั้นนี่”
“ไม่ได้หมายความว่าสกปรกแบบนั้น นอกจากนี้หยินหลิงกระดูกขาวยังเป็นอมตะ ไขกระดูกหยินก็จะเป็นยาชูกำลังชั้นดีสำหรับเขาเลยใช่ไหมล่ะ?” ลั่วอู๋กล่าว
ผู้คนต่างไตร่ตรอง
พวกเขาคิดอะไรไม่ออกเลย