ไหปีศาจ - บทที่ 882 เจ้าพูดมากไปแล้ว
บทที่ 882 เจ้าพูดมากไปแล้ว
บทที่ 882
เจ้าพูดมากไปแล้ว
มันเป็นปัญหามากเกินไป
ในความเป็นจริงมันมีหลายวิธีในการยับยั้งยอดฝีมือทั่วไป ตัวอย่างเช่นไฟ สายฟ้า แสงศักดิ์สิทธิ์ และอื่น ๆ แสงแห่งพระโพธิสัตว์ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากเช่นกัน
แต่วิธีการเหล่านี้ไร้ผลกับเจ้าแห่งบาป
ร่างกายของพระโพธิสัตว์ที่ไม่มีวันถูกทำลายก็ไม่กลัวสิ่งเหล่านี้
เป็นเรื่องน่ากลัวมากที่หยินหลิงกระดูกขาวนี้สามารถชดเชยข้อบกพร่องอันยิ่งใหญ่แห่งโชคชะตาของตัวเองได้ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง
และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือมันยังสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้อีก
พวกลั่วอู๋กำลังครุ่นคิด แต่ก็คิดไม่ออก ว่าอะไรที่สามารถทำให้ร่างพระโพธิสัตว์มีมลทินได้
แต่มันยังไม่สำคัญ
สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องบอกความจริงกับภูตพระโพธิสัตว์
ลั่วอู๋ออกจากโลกไหทันที ในขณะนี้พื้นที่ปลอดภัยตกสู่ความโกลาหลอย่างหนัก และมีสงครามที่โกลาหลอยู่ทุกหนทุกแห่ง
สายลมแห่งความเกลียดชังกลับมาแล้ว
แต่ยังคงมีแนวโน้มที่เหตุการณ์วุ่นวายนี้จะยุติ
เนื่องจากความโกลาหลอย่างไม่จำกัดนี้ สายลมแห่งความเกลียดชังจึงน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม แต่นี่คือการจับปลาสองมือ เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามมีมากเกินไป ดินแดนแห่งผู้ถูกเนรเทศจะค่อย ๆ กลายเป็นสถานที่เหลือแต่ความตาย
แม้ภูตชั่วร้ายใหม่ก็จะถือกำเนิดขึ้นในสายลมแห่งความเกลียดชัง
แต่ถ้าความเกลียดชังไม่เพียงพอ สายลมแห่งความเกลียดชังก็จะค่อย ๆ หดเล็กลง ซึ่งกลายเป็นวงจรอุบาทว์
เป็นสถานการณ์ที่เจ้าแห่งบาปไม่สามารถทนได้
ลั่วอู๋ไม่อาจควบคุมกระแสสงครามได้ขนาดนั้น เขาจึงออกจากพื้นที่ปลอดภัยและตามหาภูตพระโพธิสัตว์
แต่ไม่นานนัก กำแพงกระดูกขาวก็เปล่งแสงสีทองเข้มเป็นประกาย
เกิดแผ่นดินไหวในดินแดนแห่งผู้ถูกเนรเทศ
ในขณะนั้น ความวุ่นวายทั้งหมดในพื้นที่ปลอดภัยก็หยุดลงครู่หนึ่ง เพราะทุกชีวิตในพื้นที่ปลอดภัยได้เห็นร่างสีทองเข้มลอยอยู่ในอากาศ
ร่างนี้มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับภูตชั่วร้ายร้ายส่วนใหญ่ แต่มันฝังลึกเข้าไปในหัวใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดราวกับยอดยักษ์
มันเป็นโครงกระดูกสีทองเข้ม
บนกะโหลกก็มีมงกุฎกระดูกสีทองเข้ม
ความหวาดกลัวอันหาที่เปรียบมิได้เทลงมา ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในพื้นที่ปลอดภัยรู้สึกสั่นสะท้านและหวาดกลัวจากขั้วหัวใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ไฟวิญญาณสีเขียวจุดขึ้นทันที
แสงสีทองเข้มอันน่าสยดสยองส่องออกมาและสาดลงสู่พื้นที่ปลอดภัย ไม่มีการจลาจลอีก เหมือนการละลายของน้ำแข็งและหิมะ
ไม่มีเสียงกรีดร้อง ไม่มีการต่อสู้ แม้แต่ร่องรอยก็ไม่เหลือ
แต่ภูตชั่วร้ายร้ายหัวขาว และภูตชั่วร้ายระดับเพชรอีกห้าตนยังคงต่อสู้กันอยู่
มันจึงถูกละลายหายไป
ทั้งพื้นที่เงียบ ไม่มีใครกล้าขยับ
นี่คือคำเตือน
มันผิดกฎที่เจ้าแห่งบาปตั้งขึ้น และนั่นถือเป็นเด็ดขาด
ส่วนภูตชั่วร้ายร้ายหลายร้อยตัวจะทำผิดกฎจริงหรือหรือไม่ นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักในการพิจารณาของเจ้าแห่งบาป
ภูตชั่วร้ายทั้งหมดมองเจ้าแห่งบาปด้วยความเกรงกลัว
มีสิ่งมีชีวิตจำนวนน้อยมากที่สามารถต่อสู้กับเจ้าแห่งบาปได้ ซึ่งก็ถูกสังหารโดยเจ้าแห่งบาปไปเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว เขาไม่อนุญาตให้มีความไม่มั่นคงในดินแดนแห่งผู้ถูกเนรเทศ
และใน 1,000 ที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีผู้ถูกเนรเทศระดับสูงขนาดนั้นปรากฏมาอีก
ดินแดนแห่งผู้ถูกเนรเทศนี้เป็นของเจ้าแห่งบาป
“เกิดอะไรขึ้น?” เจ้าแห่งบาปได้ถามคำถามเดิมอีกครั้ง
ไม่มีการตอบสนอง
เจ้าแห่งบาปนั้นแปลกใจมาก เทพวิญญาณไร้รูปอยู่ที่ไหน?
เทพวิญญาณไร้รูปเป็นผู้จงรักภักดีอย่างยิ่ง ตามหลักแล้วในเวลานี้ มันควรมายืนต่อหน้าและอธิบายด้วยตัวเองแล้ว
“เทพวิญญาณไร้รูป ออกมาซะ!” เจ้าแห่งบาปคำราม
แต่ไม่มีการตอบกลับ
ไฟวิญญาณกำลังแกว่งไกว และความคิดที่น่ากลัวก็แผ่ไปทั่วพื้นที่ปลอดภัยทั้งหมด ความคิดนี้มีร่องรอยของความคิดของพระโพธิสัตว์ซึ่งทำให้ภูตชั่วร้ายร้ายในพื้นที่ปลอดภัยทั้งหมดรู้สึกอึดอัด
เจ้าแห่งบาปกวาดสายตาและไม่เจอร่องรอยของเทพวิญญาณไร้รูป
“ตายไปแล้วรึ?”
ไฟวิญญาณเย็นเฉียบ
และพื้นที่ปลอดภัยทั้งหมดก็ถูกแช่แข็ง
พระพิโรธของเจ้าแห่งบาปกำลังแผ่ขยายออกไป
เขากางกรงเล็บสีทองเข้มออก ทันใดนั้น ลมและเมฆก็เปลี่ยนสี และพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็เทลงมาราวกับภูเขาถล่ม และพื้นที่ปลอดภัยเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง
หนึ่งในสิบของภูตชั่วร้ายทั้งหมดในพื้นที่ปลอดภัยกลายเป็นเถ้าธุลีโดยตรง
เขาไม่คิดจะหาตัวฆาตกร
แต่การฆ่าพวกมันทั้งหมดจะส่งผลต่อแผนของเขา
เขาจึงเลือกระบายความโกรธด้วยวิธีนี้
“ถ้ามีเหตุแบบนี้อีก พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย” เสียงเยือกเย็นของเจ้าแห่งบาปดังขึ้นในพื้นที่ปลอดภัย
ภูตชั่วร้ายร้ายเงียบและไม่กล้าที่จะขัดขืน
พวกมันคงไม่กล้าทำแบบนั้นแน่
เพราะเจ้าแห่งบาปกล้าทำอย่างที่พูดจริง ๆ
มันไม่ใช่แค่คำขู่ง่าย ๆ
ความโกลาหลนั้นไม่เหลือให้เห็น สายลมแห่งความเกลียดชังก็พัดมาอีกครั้ง ลานประลองมรณะเป็นไปตามปกติ และภูตชั่วร้ายร้ายทั้งหมดก็เข้าสู่การต่อสู้อย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
……
……
ลั่วอู๋เดินทางไปยังพื้นที่ไม่ปลอดภัยแล้ว แต่ยังรู้สึกถึงพลังของเจ้าแห่งบาปซึ่งเป็นการปราบปรามทุกสิ่งอย่างแท้จริง
“มันน่ากลัวจริง ๆ” ลั่วอู๋อยู่ในความสับสน
หากเขาได้กลืนกินภูตพระโพธิสัตว์ไปจริง ๆ ใครสามารถควบคุมเขาได้?
ดังนั้นลั่วอู๋จึงตามหาภูตพระโพธิสัตว์อย่างกระวนกระวายใจ และในที่สุดก็พบภูตพระโพธิสัตว์ที่กำลังพักอยู่ในรังของภูตชั่วร้ายร้าย
ภูตพระโพธิสัตว์ประหลาดใจที่เห็นลั่วอู๋รีบร้อนเช่นนี้
“มากับข้า” ลั่วอู๋ต้องการพาภูตพระโพธิสัตว์เข้าสู่โลกไห
แต่ภูตพระโพธิสัตว์กลับกลายเป็นแสงและหลบมือของลั่วอู๋
มันไม่ง่ายเลยกว่าจะสะสมความรู้สึกดี ๆ มาได้ แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุด ภูตพระโพธิสัตว์ก็ไม่อยากอยู่ใกล้ลั่วอู๋อีกแล้ว
ลั่วอู๋ยิ้มอย่างขมขื่น “ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกเจ้า”
ภูตพระโพธิสัตว์ส่ายหัว
มันไม่อยากได้ยิน
“เชื่อข้าสักครั้งเถอะ ขอเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก” ลั่วอู๋จริงจังมาก “ถ้าเจ้ายอมเชื่อข้าในครั้งนี้ข้าจะไม่รบกวนเจ้าอีกแล้ว”
ภูตพระโพธิสัตว์ครุ่นคิดครู่หนึ่งและพยักหน้าอย่างลังเล “ก็ได้”
มันเลือกที่จะเข้าสู่โลกไหกับลั่วอู๋
เทพวิญญาณไร้รูปตกใจที่ได้เห็นภูตพระโพธิสัตว์
มันอยู่ที่นี่
ภูตพระโพธิสัตว์หน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นเทพวิญญาณไร้รูป แม้ว่ามันจะไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ปลอดภัย แต่มันก็รู้ว่าเทพวิญญาณไร้รูปเป็นมือขวาของเจ้าแห่งบาป
มันเคยเห็นเทพวิญญาณไร้รูปที่กำแพงกระดูกขาว
“เจ้าบอกภูตพระโพธิสัตว์ถึงจุดประสงค์ของเจ้าแห่งบาปซะ” ลั่วอู๋ไม่บอกด้วยตัวเอง แต่ให้เทพวิญญาณไร้รูปเป็นคนบอกภูตพระโพธิสัตว์
ท้ายที่สุดแล้วคำพูดของเขาก็ไม่น่าเชื่อถือเกินไป
เทพวิญญาณไร้รูปทำอะไรไม่ถูก ได้แต่บอกเรื่องนั้นอีกครั้งให้กับภูตพระโพธิสัตว์ฟัง
หลังจากได้ฟัง ภูตพระโพธิสัตว์องค์น้อยก็หน้าเสียมากขึ้น
เพราะทั้งหมดนี้แตกต่างจากสิ่งที่เชื่อมาตลอดอย่างสิ้นเชิง มันทำลายความรู้ความเข้าใจที่เคยมีทั้งหมด และเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ในทันที
“อาณาจักรชาวพุทธสร้างขึ้นใหม่ไม่ได้หรือ?” ภูตพระโพธิสัตว์นิ่งอยู่นานก่อนจะถาม
น้ำเสียงของเทพวิญญาณไร้รูปฟังดูเยาะเย้ยเล็กน้อย “แน่นอน มันไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ เจ้าแห่งบาปเป็นเพียงแค่ซากศพ เขาไม่ได้ควบคุมพลังพระโพธิสัตว์มหาศาลเหมือนที่เขาเคยทำในช่วงที่ยังมีชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าคิดว่าราชินีภูตจะอนุญาตให้ฟื้นฟูอาณาจักรชาวพุทธจริง ๆ หรือ?”
มันอยากจะพูดแบบนั้นมานานแล้ว
แค่เก็บไว้ในใจ
มันไม่รู้ว่ามันหัวเราะเยาะภูตพระโพธิสัตว์ในใจมากี่ครั้งแล้ว มันไม่สามารถจับเรื่องโกหกง่าย ๆ เช่นนี้ได้หรือ? มันโง่จริง ๆ
ภูตพระโพธิสัตว์ตาพร่ามัว
จู่ ๆ แสงแห่งพระโพธิสัตว์บนตัวมันก็สว่างและมืดลงอีกครั้ง
มีสัญญาณของความเสื่อมทราม
ลั่วอู๋ตกใจแล้วก็โกรธเทพวิญญาณไร้รูปและตบหัวมัน “เจ้าพูดมากไปแล้ว”
เทพวิญญาณไร้รูปหดคอและรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง
มันเป็นสิ่งที่เจ้าขอให้ข้าพูดไม่ใช่รึ?
……………………………………………………………………………..