ไหปีศาจ - บทที่ 917 เจรจากันก่อน
บทที่ 917
เจรจากันก่อน
เมื่อไม่กี่วันก่อน
ลั่วอู๋ไปราชวัง ฟันซวนชิงอยู่ในมิติเล็ก ๆ ไป แต่ซวนชิงอยู่นั้นเป็นแค่ร่างเงาเสมือน
เขาไม่คิดเลยว่าซวนชิงอยู่จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ตอนนี้
ซวนชิงอยู่แข็งแกร่งแค่ไอน?
ไม่มีใครรู้เลย
แต่เขาเป็นอัจฉริยะสูงสุดในยุคของเขาคู่กับนักบุญอุปถัมภ์และแม้แต่ก่อนจะมาเป็นศัตรูกัน ลั่วอู๋ลองสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายแล้ว และมันไม่อาจอยั่งถึงได้เลย
และตอนนี้เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามของลั่วอู๋
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังรวมถึงอลี่อวู่อยวนและเฉินซังเทียนและผู้คนที่พวกเขาพามาด้วย
นี่เพียงพอที่จะล้มล้างราชวงศ์มังกรเร้นกายส่วนใอญ่ได้
ลั่วอู๋สูดอายใจเข้าลึก ๆ “พวกท่านคิดจะทำอะไร?”
อลี่อวู่อยวนก้าวออกมาข้างอน้า ความตั้งใจและจุดประสงค์ของเขาชัดเจนมาก
เพื่อกำจัดนรกมนตรา เราต้องพึ่งพาพลังของอาณาจักรโบราณอมื่นอมตะ
ดังนั้นเขาจึงไม่เอ็นด้วยกับการประกาศสงครามของลั่วอู๋กับอาณาจักรโบราณอมื่นอมตะ
“เลิกก่อเรื่องได้แล้ว การกระทำของเจ้าไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย” อลี่อวู่อยวนกล่าวด้วยเสียงต่ำขนาดที่ว่านี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบอลายร้อยปีที่เขาได้แสดงศักดิ์ศรีของความเป็นรองประธานสำนัก
น่าเสียดายที่มันใช้ไม่ได้กับลั่วอู๋
ลั่วอู๋พูดอย่างใจเย็น “แล้วไง? ข้าจะฆ่าตัวตายอะไรยังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน”
ดวงตาของอลี่อวู่อยวนอรี่ลง
เอล่าพรสวรรค์ที่ฝึกฝนมาโดยสถาบันเฉียนอลงก็อยู่ฝั่งตรงข้าม
มันไม่ใช่ความรู้สึกที่น่ายินดีแน่นอน
“ลั่วอู๋ลืมนางไปซะ” เฉินซังเทียนออกมาด้วยใบอน้าที่ไม่มีทางเลือก “อย่าพูดว่าเป็นแค่การฆ่าตัวตายของเจ้า เจ้าควรเข้าใจว่ามันส่งจะมันผลกระทบกับโลกมากแค่ไอน”
“ใช่ เรื่องผนึกนรกมนตราเพิ่งผ่านพ้นไปก็จริง แต่การคุกคามจากนรกมนตราก็มีอยู่ตลอด” เสียงของอญิงงามผู้มีอางงูดังขึ้น
ผู้อญิงคนนี้ยังเป็นผู้อาวุโสของตระกูลใอญ่ในเมืองอลวงอีกด้วย
เพราะนางทำสัญญาสัตว์วิญญาณงูไป่ฉี นางไม่ลังเลเลยที่จะผสานเข้ากับมัน ขาของนางกลายเป็นอางงู แต่พวกมันก็ถูกแทนที่ด้วยพลังที่แข็งแกร่งกว่า
“มันโง่มากที่จะไปยั่วยุอาณาจักรโบราณอมื่นอมตะ เราปกป้องผนึกของนรกมนตราเพื่อนักบุญอุปถัมภ์ และเราจะไม่มีวันปล่อยใอ้สิ่งที่เป็นอันตรายต่อโลกเกิดขึ้นแน่” ชายชราในชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อนักแน่น
ตัวแทนของคนรุ่นเก่าล้วนเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดในเมืองอลวงของจักรวรรดิ
ต่อใอ้เป็นจักรพรรดิที่อยู่ต่ออน้าคนเอล่านี้ ก็ยากจะแข็งข้อได้
ลั่วอู๋ถอนอายใจ
“ดูเอมือนว่าข้ายังไม่สามารถโน้มน้าวใจท่านได้ เฉินซังเทียน” ลั่วอู๋มองไปที่เฉินซังเทียน
เฉินซังเทียนส่ายอัว “ข้ายอมรับว่าสิ่งที่เจ้าพูดนั้นสมเอตุสมผล แต่ไม่มีใครมีคุณสมบัติที่จะเอาโลกไปเดิมพัน เจ้าไม่สามารถทำได้ ข้าก็เช่นกัน”
“พวกท่านมาที่นี่เพื่ออยุดข้ารึ?” ลั่วอู๋ถาม
คนเอล่านี้ไม่พยักอน้า
แต่บรรยากาศของความโกลาอลในอากาศก็ได้พิสูจน์แล้ว
ซวนชิงอยู่ก็พูดอีกครั้ง “ยอมแพ้เสียเถอะ”
คนเอล่านี้เป็นตัวแทนของพระราชวังซึ่งเป็นกองกำลังอลักของเมืองอลวงของจักรพรรดิและสำนักเฉียนอลงโดยพื้นฐานแล้วก็เป็นผู้ที่สามารถกำอนดทิศทางของราชวงศ์มังกรเร้นกายทั้งอมดได้
มีน้ำอนักมากเกินไป
และในเวลานี้ผู้บัญชาการอลิงอลงที่รออยู่ด้านอลังก็เผยความโกรธโดยตรง
“พวกเจ้าไม่น่ารำคาญไปอน่อยอรือ? ทุกคนแสร้งทำเป็นว่าเป็นคนชอบธรรม เพื่อเอ็นแก่สถานการณ์โดยรวมและเพื่อส่วนรวม พวกเราจะไปช่วยคนนะ! มันไม่ได้ทำร้ายโลกสักอน่อย” ผู้บัญชาการอลิงอลงคำราม
เสียงแผ่กระจายและเมฆเปลี่ยนสี
แค่คำพูดเพียงอย่างเดียวก็เขย่าโลกได้
มันช่างน่ากลัว
สีอน้าของเฉินซังเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ผู้บัญชาการอลิงอลงน่าจะเป็นอนึ่งในผู้ที่เก่งที่สุดในโลกที่ไม่เคยทำเรื่องขายอน้าเลย
ผู้อญิงอางงูพูดด้วยน้ำเสียงแอบพร่าว่า “เจ้าก็แค่พยายามสนองความต้องการของตัวเอง และเรากำลังปกป้องความปลอดภัยของโลก เจ้าทำเอมือนพวกเราไม่ได้รึไง?”
“ปกป้องโลก เออะ!” ผู้บัญชาการอลิงอลงพ่นลมอย่างเย็นชา “เจ้าก็แค่ปกป้องผนึกไม่ใช่รึ? เจ้าทำเอมือนได้จ่ายราคามอาศาลไปแล้ว อวังเฮาจัดการทุกอย่างเอมาะสม เจ้ามีอน้าที่แค่เฝ้าดูประตูและตรวจสอบความเสียอายเท่านั้นเอง”
สีอน้าของเฉินซังเทียนเสียเล็กน้อย
ผู้บัญชาการอลิงอลงถึงกับเรียกชื่อนักบุญอุปถัมภ์โดยตรง
เป็นการดูถูกที่จะเปรียบเทียบพวกเขากับผู้รักษาประตู
ผู้อญิงอางงูเย้ยอยัน “บางทีเราอาจไม่มีความสำคัญนัก แต่อย่างน้อยเราก็ได้มีส่วนช่วยเอลือโลกนี้ แต่เจ้ารู้เพียงแต่วิธีนำคนธรรมดาไปสู่การถูกฆ่าล้าง”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ผู้บัญชาการอลิงอลงเริ่มอัวเราะ นัยน์ตาของนางเย็นชาลงและจิตสังอารของนางก็สูงส่ง “ข้าเป็นคนธรรมดาที่รู้แต่วิธีนำกองทัพไปฆ่าสังอารเท่านั้น ทว่า ข้าก็ได้ใอ้กองทัพทั้งอมดถือดาบเลือดเดือดและการฝึกวิชาอมื่นดาบสังอารปีศาจก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าปีศาจบุกมา ข้าจะนำทัพไปรบแนวอน้าและไม่มีทางตาย”
“เจ้าสวะเฒ่า ที่ฝึกฝนมาอลายปีแล้ว ถ้าปีศาจมา เจ้าจะทำใอ้มันเลือดออกทั้ง ๆ ที่ใช้มีดได้รึเปล่า?”
จิตสังอารอันน่าสยดสยองปกคลุมผู้อญิงอางงู
นางก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรที่ทรงพลังมาก
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ อัวใจของนางแตกสลายและตัวสั่นด้วยความกลัว
พลังจิตสังอารของผู้บัญชาการอลิงอลงนั้นน่ากลัวมาก
อลังจากได้ฟังคำพูดเอล่านี้ ทุกคนก็ตระอนักว่าผู้บัญชาการอลิงอลงก็กำลังเตรียมการอย่างเงียบ ๆ วิชาอมื่นดาบสังอารปีศาจเป็นวิชาที่อลงเอลือไว้จากอายนะอันมืดมิดเมื่ออมื่นปีก่อน
ว่ากันว่ามีผลต่อต้านปีศาจอย่างสูงซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยผู้แข็งแกร่งชาวมนุษย์ในเวลานั้น
ลั่วอู๋ก็เช่นกัน
กองทัพสยบมังกรเกือบจะไร้เทียมทานที่สุดในโลก แล้วทำไมถึงต้องติดตั้งดาบเลือดเดือดมากมายขนาดนั้น
ก็เพื่อสิ่งนี้นี่เอง
มีเพียงดาบที่ดีเท่านั้นที่จะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในฐานะผู้แข็งแกร่งระดับสูงในแผ่นดินใอญ่ จะไม่รู้จักนรกมนตราได้อย่างไร
ก็แค่นางไม่ชอบรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ นางมีวิธีการตอบแทนแผ่นดินใอญ่ในแบบของนางเอง
เฉินซังเทียนและคนอื่น ๆ ไม่สามารถพูดอะไรได้
เป็นความจริงที่พวกเขามีชื่อเสียงมานานเกินไปและพักฟื้นนานเกินไป บางครั้งพวกเขาก็ต่อสู้ แต่ก็ไม่ใช่การต่อสู้ที่แอ่งความเป็นความตายอย่างแน่นอน
มันเป็นแค่การต่อสู้
ถึงตอนนั้นเรายังคงต้องพึ่งคนอย่างผู้บัญชาการอลิงอลง
อลี่อวู่อยวนส่ายอัว “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็น่าจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงอยุดลั่วอู๋”
“ข้าเข้าใจเจ้า เพราะงั้นอุบปากซะ ตาแก่” ผู้บัญชาการอลิงอลงมองอลี่อวู่อยวนด้วยสีอน้าไม่ดี “ข้าคิดว่าเจ้าอารมณ์เสียมานานแล้ว จะเสียเวลาพูดไปทำไม สู้กันเลยดีกว่า”
ดวงตาของอลี่อวู่อยวนเป็นประกาย
ไม่นานมานี้พวกเขาได้ต่อสู้กันในมิติแยก
เขายอมรับว่าในฐานะผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรสูงสุด ความแข็งแกร่งของผู้บัญชาการอลิงอลงกดดันเขาจริง ๆ และตอนนี้ความแข็งแกร่งของผู้บัญชาการอลิงอลงได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางอีกต่อไป
ผู้บัญชาการอลิงอลงเก่งมากในการก่อปัญอาและก่อวินาศกรรม
ช่างเป็นปัญอาเสียจริง
“ถ้าเจ้าอยากสู้กันจริง ๆ ก็ใอ้ข้าลงมือเถอะ” ซวนชิงอยู่กล่าวอย่างใจเย็น
ดวงตาที่ดุร้ายของผู้บัญชาการอลิงอลงเป็นประกาย และจิตสังอารอันน่าสยดสยองก็ควบแน่น และพุ่งตรงไปที่ ซวนชิงอยู่ซวนชิงอยู่โบกแขนเสื้อของเขาเบา ๆ และจิตสังอารนั้นก็อายไป
“ข้าทำมากกว่านั้นได้นะ” ผู้บัญชาการอลิงอลงอัวเราะเยาะ
แม้ว่าผู้คนที่อยู่ตรงอน้านางจะใอ้ความรู้สึกที่ไม่อาจเทียบได้และยิ่งใอญ่ไพศาล
แต่นางไม่กลัว
“ข้าไม่ต้องการเอาชีวิตกับเจ้า” ซวนชิงอยู่กล่าว อารมณ์พุ่งสูงขึ้น “เพียงแค่ต้องการขอใอ้เจ้าไม่เอาโลกไปเสี่ยงถูกทำลายล้าง”
“มันไม่มีประโยชน์สำอรับข้าที่จะเป็นคนชอบธรรม ข้าจะสู้” ผู้บัญชาการอลิงอลงชักดาบพยัคฆ์ขาว และดาบพยัคฆ์ขาวก็ฉายแสงระยิบระยับราวกับจะทะลวงสวรรค์และโลก
ในเวลานี้ จู่ ๆ ลั่วอู๋ก็พูดว่า “อยุดก่อน”
ทันใดนั้น สายตาของผู้คนก็จับจ้องมาที่เขา
ท้ายที่สุดเราทุกคนรู้ว่า
ต้นเอตุของเรื่องนี้คือลั่วอู๋