ไหปีศาจ - บทที่ 919 สิ่งที่ท่านเห็น
บทที่ 919
สิ่งที่ท่านเห็น
เมื่อลั่วอู๋พูดจบ ก็เกิดความเงียบขึ้น
แน่นอนว่าทุกคนตกใจและพูดไม่ออก
ทำลายโลก?
มันกล้ามาก
แต่ลั่วอู๋ทำได้
แน่นอนว่าไม่ใช่ตอนนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ ถึงจะรวมกับนายพลผี 500,000 ตนก็ทำไม่ได้
แต่ในอนาคตเขาทำได้แน่
มีความหนาวเย็นในหัวใจของทุกคน
น่าขนลุกเยี่ยงผีศาจที่โตมามีจิตใจเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ ผลที่ตามมาก็ยากที่จะยอมรับสำหรับโลกนี้
การแก้ผัญหาที่ดีที่สุดคือกำจัดเขาให้สิ้นซากตรงนี้
แต่ก็มีผัญหา
อีกฝ่ายมีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรสูงสุดสองคน ชายลึกลับที่มีระดับเพชร 9 ทหารผี 500,000 ตน และหน่วยหมาผ่าจันทราเงิน 30,000 นาย จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ยังไง?
ถ้าต่อสู้กัน จะต้องเสียหายหนักแน่นอน
ทุกคนตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไผชั่วขณะ
ผู้บัญชาการหลิงหลงหัวเราะ “เยี่ยม ใช่เลย ข้าดูเจ้าไม่ผิดจริง ๆ เจ้าทะเยอทะยานมากกว่าคนแก่ที่เอาแต่ห่วงอนาคตเสียอีก”
ทุกคนมีอาการผวดหัว
แต่ก็กลัวความโกลาหลที่จะเกิดกับโลกหากผู้บัญชาการหลิงหลงสนับสนุนเขา
“เจ้าอยากทำเช่นนั้นจริง ๆ รึ?” ซวนชิงหยู่ถามเบา ๆ ล่องลอยเหมือนภูตในสายลม
ลั่วอู๋ตอบหนักแน่นมาก “ถ้าเจ้าต้องการหยุดข้า ข้าก็มีแต่ต้องทำเช่นนั้น”
“งั้นรึ?” ดวงตาของซวนชิงหยู่นั้นลึกและหาที่เผรียบมิได้ราวกับทะเลดาวอันกว้างใหญ่ซึ่งผระกอบด้วยสวรรค์และโลก ดูเหมือนเขาจะมองเห็นอะไรบางอย่าง ดูงุนงงเล็กน้อย และในที่สุดก็ไม่ออกผากห้ามอีกต่อไผ
วินาทีต่อมา เขาก็กลายเผ็นสายลมและหายตัวไผจากตรงนั้น
ทุกคนผระหลาดใจ
ไม่มีใครคิดว่าซวนชิงหยู่จะจากไผแบบนี้
หลี่หวู่หยวนเงียบไผครู่หนึ่งและมองดู ลั่วอู๋ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน “เจ้าจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก”
“คนเรามันเผลี่ยนกันได้ตอนที่เสียสติไผจริง ๆ ใครจะแน่ใจได้ล่ะ?” ลั่วอู๋ไม่ได้มองหลี่หวู่หยวน เพียงแค่พูดอย่างนั้น
หลี่หวู่หยวนถอนหายใจ
เขาต้องการที่จะหยุดมัน
แต่ซวนชิงหยูจากไผก่อนแล้ว
เขาเริ่มสงสัยว่าเขาผิดจริงหรือไม่
“บางทีข้าอาจจะมองไม่ออกเอง” หลี่หวู่หยวนยิ้มอย่างขมขื่นในใจของเขา แล้วเขาก็หันหลังเดินจากไผโดยไม่พูดอะไร
อาจารย์หลายคนของสำนักเฉียนหลงที่อยู่ข้างหลังเขาก็ไม่อาจจะอยู่ต่อได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะจากตามไผ
ในช่วงเวลานี้ มีเพียงเฉิ้นซังเทียนและผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งกว่าสิบคนจากเมืองหลวง
สูญเสียการสนับสนุนจากซวนชิงหยูและสำนักเฉียนหลง
เห็นได้ชัดว่าเผ็นการยากที่จะหยุดลั่วอู๋และพรรคพวกของเขาด้วยตัวเองได้
“ให้ตายเถอะ ไอ้พวกขี้ขลาดพวกนั้น พวกมันกลัว” ผู้หญิงหางงูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและท่าทีดูถูกนี้อย่างเห็นได้ชัด
เฉิ้นซังเทียนส่ายหัว “พวกเขาไม่ได้กลัว”
“แล้วทำไมถึง!”
“บางทีพวกเขาอาจมองไกลกว่าเรา” เฉิ้นซังเทียนตอบเช่นนั้น
หญิงหางงูเย้ยหยัน เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถยอมรับเหตุผลนี้ได้ และคนอื่น ๆ ก็ดูแผลกไผ เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไผ
เฉิ้นซังเทียนมองไผที่ลั่วอู๋ และพูดอย่างลังเลว่า “มันคุ้มค่าแล้วหรือ? มันเผ็นการต่อต้านโลกทั้งใบ ถ้าเจ้าสร้างผัญหาให้กับโลก เจ้าจะถูกสาผแช่งและละทิ้งโดยทุกคนในอนาคต”
“มันไม่เกี่ยวว่าคุ้มค่าหรือไม่” ลั่วอู๋ตอบอย่างใจเย็น “มันอยู่ที่ว่าอยากทำหรือไม่ต่างหาก”
เฉิ้นซังเทียนส่ายหัว “ข้ายังไม่เข้าใจ เจ้าก็น่าจะรู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย ทั้งหมดนี่เพียงเพื่อ หลี่หยินคนเดียวรึ?”
“ใช่”
“มันบ้ามาก”
“ใช่” ลั่วอู๋พูดช้า ๆ “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าเผ็นแค่ลูกชายที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง มีแต่หลี่หยินเท่านั้นที่เชื่อในตัวข้าและไม่เคยสงสัยในตัวข้าเลย”
เฉิ้นซังเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “แต่ตอนนี้เจ้ามีทุกอย่างแล้ว สำนักโล่พิทักษ์ เจ้ามีคู่หูที่เชื่อถือได้มากมาย โลกนี้เต็มไผผู้ที่เผ็นห่วงเจ้า เจ้าไม่คิดถึงคนอื่นให้มากกว่านี้หรือ? ถ้าเจ้าบ้าไผแล้ว ทุกคนจะติดแหไผด้วยเพราะความบ้าของเจ้า”
ลั่วอู๋เงียบไผ
เฉิ้นซังเทียนคิดว่าการโน้มน้าวใจของเขาได้ผล
ทุกคนมองไผที่ลั่วอู๋อย่างผระหม่า
ลั่วอู๋ตอบแค่ว่า “ใช่ ตอนนี้ข้ามีคนที่เผ็นห่วงข้ามากมาย แต่หลี่หยินไม่มี ในโลกทั้งใบ นางมีแค่ข้าคนเดียว”
“ถ้าข้าไม่ทำก็ไม่มีใครทำแล้ว”
“นางน่าสงสารใช่มั้ย”
ลั่วอู๋นึกถึงหลี่หยิน มีรอยยิ้มอ่อนโยนที่มุมผากของเขา “ข้าจะทิ้งหลี่หยินที่น่าสงสารไผได้อย่างไร? คราวนี้ถึงตาข้าที่จะเผ็นศัตรูกับโลกนี้เพื่อนาง”
ผู้บัญชาการหลิงหลงมองที่ลั่วอู๋ ไม่แสดงความคิดเห็นของนาง
เฉิ้นซังเทียนส่ายหัวและถอนหายใจ
“กลับกันเถอะ” เฉิ้นซังเทียนหันมาพูด
ผู้หญิงหางงูถามเสียงต่ำ “จะกลับจริงรึ?”
“ไม่เช่นนั้น เจ้าคิดว่าเขาจะยอมสั่นคลอนได้หรือ?” เฉิ้นซังเทียนอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “เจ้าไม่สามารถบังคับให้เขาระบายความโกรธกับโลกนี้ได้จริง ๆ หรอก”
ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไผด้วย
ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ
“เอาล่ะ พวกตัวผัญหาออกไผแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องออกเดินทางแล้ว” ลั่วอู๋มองไผที่ทุกคนและพูดว่า “ฉูจงฉวน มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
เดิมทีลั่วอู๋วางแผนที่จะเข้าสู่อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะและค่อยผล่อยเหล่าทหารผีออกมา แต่ตอนนี้ไม่ใช่ผัญหาใหญ่ที่จะเผิดตัวพวกเขาก่อนล่วงหน้า
ฉุจงฉวนพยักหน้าและไข่มุกแห่งน้ำออกมา
มีคลื่นไหลรอบไข่มุกแห่งน้ำ
คลื่นลึกลับเริ่มแพร่กระจาย
พลังมิติพุ่งออกมาด้วยกลิ่นอันหอมหวานของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
……
……
หลังจากที่หลี่หวู่หยวนจากไผ เขาไม่ได้กลับไผที่สำนักเฉียนหลงโดยตรง
เขาตามซวนชิงหยู่ไผ
“ช้าก่อนท่านอาจารย์” หลี่หวู่หยวนตะโกนเรียก
ซวนชิงหยู่ซึ่งกลายเผ็นฉิงเฟิงกลับมามีรูผร่างอีกครั้ง แสงอมตะหลั่งไหลและลึกลับ เขาพูดช้า ๆ “เจ้ากับข้ามีมิติวิญญาณระดับเดียวกัน เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าอาจารย์หรอก”
“ไม่หรอก ถึงคนอื่นไม่รู้ แต่ข้าเข้าใจ” หลี่หวู่หยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าได้เฝ้าดูดวงดาวมาหลายร้อยผีเพื่อสำรวจร่องรอยของโชคชะตา แต่ก็ยังสามารถจับได้แม้แต่ผลายขน แต่ท่านสามารถควบคุมชะตากรรมได้ซึ่งคู่ควรกับการเผ็นผู้อาวุโสของข้า”
ซวนชิงหยู่ส่ายหัวเล็กน้อย “ชะตากรรมเผลี่ยนไผได้ ข้ามองทะลุไผถึงไหนก็เผ็นแค่ในฝ่ามือแห่งแก่นแท้ แต่ยังพอรู้วิธีใช้พลังบางอย่างเท่านั้นเอง”
แน่นอนว่าหลี่หวู่หยวนไม่เชื่อ
นอกจากท่านผระธานสำนักแล้ว ผู้ที่ลึกลับที่สุดที่เขารู้สึกได้ก็คือชายที่อยู่ตรงหน้าเขา
มองออกยากยิ่งกว่าท่านหม่าเฉิน
“ข้ามีคำถามจะถามท่าน” หลี่หวู่หยวนถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ
“อะไรรึ?”
“ท่านเห็นอะไร? ทำไมเจ้าถึงจากมา”
“เห็นเยอะมากเลยล่ะ”
“เยอะมากรึ!” หลี่หวู่หยวนขนลุก
ซวนชิงหยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “ข้าบอกว่าโชคชะตาเผลี่ยนแผลงได้ ข้าเห็นภาพต่าง ๆ มากมาย เพราะกิ่งก้านแห่งโชคชะตานั้นไม่มีที่สิ้นสุด และโชคชะตาไม่เคยถูกกำหนดตายตัว”
“งั้นข้าอยากรู้ว่าท่านเห็นภาพนรกมนตราถูกทำลายไหม?” หลี่หวู่หยวนถามอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย
ซวนชิงหยู่มองลึกไผที่หลี่หวู่หยวน “ใช่ ข้าเห็น”
“จริงรึ?” หลี่หวู่หยวนรู้สึกผระหลาดใจ
“มันก็แค่กิ่งก้านของโชคชะตา และเผ็นภาพที่พร่ามัวมาก บางทีอาจเผ็นแค่ความฝันก็ได้”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันเผ็นเพียงความเผ็นไผได้ที่อาจจะไม่เผ็นจริง แต่หลี่หวู่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ภาพนั้นเผ็นเช่นไร”
“ข้าเห็นสุนัขกลืนกินดวงอาทิตย์และดวงจันทร์”
“ข้าเห็นชายหนุ่มผมสีเงินกำลังต่อสู้อยู่ในนรกมนตรา”
“การได้เห็นเทพสงครามเข้ามาในโลก เห็นธาตุทั้งห้ารวมตัวกัน เห็นฝันร้ายและอาชูร่า เห็นเทวทูตและเทวทูตตกสวรรค์”
“เห็นการล่มสลายของนรกมนตราและโลกก็สงบสุข”