ไหปีศาจ - บทที่ 939 วิญญาณใต้พิภพ
บทที่ 939 วิญญาณใต้พิภพ
บทที่ 939
วิญญาณใต้พิภพ
กระท่อมของหัวหน้าเผ่า
มันเหมือนกับที่ได้เห็นครั้งแรก เป็นบ้านหินหยาบ ไม่ได้ขยายเพิ่ม มันดูเรียบง่าย แต่มีโต๊ะและเก้าอี้หินมากกว่าเดิม มันเหมือนเป็นห้องมากกว่า
หัวหน้าเฒ่าดูอ่อนกว่าวัยมาก อันที่จริงเขาอายุไม่มาก เขาแก่เพียงเพราะอยู่ในนรก และอายุขัยของเขาก็เพิ่มขึ้น
เนื่องจากเขาสามารถกินอาหารที่สะอาดและถูกผสมด้วยปราณและเลือดโดยนักรบเผ่า เขาจึงอายุน้อยลงทุกวัน
ตอนนี้ดูเหมือนเพิ่งจะอายุ 50 ปีเอง
แต่หัวหน้าเฒ่าขมวดคิ้วอยู่ในขณะนี้ และดูเหมือนเขาจะมีอะไรกวนใจอยู่
ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวไม่สูง มีผิวสีเขียว ฟันและหูที่แหลมคม มีรูปโฉมที่ดุร้ายและกรงเล็บที่แหลมคม
วิญญาณใต้พิภพ
ระดับทองขั้นสูง
ดูเหมือนอ่อนแอมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้อ่อนแอในด้านประสิทธิภาพการต่อสู้ และมันฉลาดแกมโกงอย่างยิ่ง อาศัยอยู่ใต้ดิน ตัวที่เก่งที่สุดมีระดับทองขั้นสูง 10 พวกมันสามารถหลั่งสิ่งที่เหมือนเมล็ดพืชสีเขียวออกมา จากนั้นจึงฝังให้เป็นปรสิตในปีศาจตัวอื่น ดูดซับพลังของพวกมันได้
และเมล็ดพืชสีเขียวนี้ แท้จริงแล้วคือแก่นวิญญาณของวิญญาณใต้
หลังจากที่ดูดซับพลังเพียงพอแล้ว เมล็ดพืชสีเขียวจะกลายเป็นตัวอ่อนของวิญญาณใต้พิภพ จากนั้นจะ “ทำลายภาชนะ”
การใช้ร่างของสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นร่มป้องกันและหล่อเลี้ยงช่วงที่เป็นตัวอ่อนวิธีการเอาชีวิตรอดของพวกมัน เรียกได้ว่าเป็นสัตว์วิญญาณที่น่ารังเกียจทีเดียว
“มีอะไรให้คิดอีกล่ะ? มันคือคำสั่งของปรมาจารย์ปีศาจ ถ้าเผ่าแซคไม่รู้วิธีทำอาวุธ ข้าก็ไม่อยากเห็นหน้าเจ้า เจ้าเผ่าพันธุ์ต่ำต้อย” วิญญาณใต้พิภพกล่าวอย่างหยิ่งผยอง
มันเป็นตัวแทนของปรมาจารย์ปีศาจ
เนื่องจากความสามารถบริหารที่ฉลาดแกมโกงและโดดเด่น วิญญาณใต้พิภพจึงกลายเป็น “เจ้าหน้าที่สรรหา” ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการติดต่อกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดเป็นพิเศษ
อสูรระดับต่ำใช้งานง่าย แต่สติปัญญาของพวกมันไม่สูง การบีบบังคับและการใช้อาหารมาล่อก็ทำให้พวกเขาเชื่อฟังได้ แต่ปีศาจระดับสูงนั้นแตกต่างกัน
ปีศาจระดับสูงมีพลังและฉลาด ทำให้เกิดการจลาจลได้ง่ายหากไม่สามารถเอาเข้าพวกได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีสิ่งมีชีวิตที่รับหน้าที่ในการเจรจา สื่อสาร และวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสีย
นี่คือสิ่งที่วิญญาณใต้พิภพทำ
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?” ชายที่อยู่ข้างหัวหน้าเฒ่าคำรามอย่างโกรธเคือง
แน่นอนว่าชายคนนี้คือนักรบคนแรกของชนเผ่าแซค กูระ
ตอนนี้เขาถึงระดับทอง 9 ด้วยทักษะที่ลั่วอู๋ทิ้งไว้ซึ่งเรียกได้ว่าค่อนข้างดีทีเดียว
“โอหังจริง” วิญญาณใต้พิภพปล่อยแรงกดดันอันทรงพลังของระดับทองขั้นสูง
หัวหน้าเฒ่ารีบพูดขึ้น “โปรดอย่าโกรธคนของเราเลย กูระ โปรดขอโทษทูตตนนี้ด้วย”
กูระไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอโทษสำหรับความอ่อนแอของเขา
“ฮึ่ม” นัยน์ตาสีม่วงของวิญญาณใต้พิภพเป็นประกาย และเมล็ดพืชสีเขียวก็ถูกปลูกไว้บนร่างของกูระอย่างเงียบ ๆ แล้วมันก็ละสายตาไป “สำหรับเผ่าเล็ก ๆ อย่างเจ้า แค่ให้อาหารเจ้าก็พอแล้ว การมาที่นี่ก็ถือว่าข้าไว้หน้าเจ้ามากแล้ว”
“นั่นคือสิ่งที่ผู้ส่งสารพูดสินะ” หัวหน้าเฒ่าพูดด้วยรอยยิ้ม
วิญญาณใต้พิภพพูดอย่างไม่อดทน “การพิจารณาให้พวกเจ้ามาเข้าร่วมด้วย นอกจากการสร้างอาวุธจะเป็นอะไรไปได้อีก?”
เผ่าขนาดเล็กและอ่อนแอเช่นแซคที่ไม่มีผู้มีระดับทองขั้นสูง ดังนั้นจึงไม่คุ้มที่จะมาด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ชาวแซคเชี่ยวชาญการสร้างอาวุธที่ทรงพลังมาก
บางทีอาจเป็นทักษะพรสวรรค์
ใครจะไปรู้ว่าเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอเช่นนี้จะมีพรสวรรค์ที่วิเศษเช่นนี้
หลังจากรู้เรื่องนี้ เขาก็รีบไปรับชาวแซคเข้าพวก ถ้าเขาสามารถจัดหาสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่รู้วิธีการสร้างอาวุธ เขาจะต้องได้รับการยกย่องจากมารอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด ไม่มีเผ่าพันธุ์ปีศาจใดในนรกมนตราที่มีพรสวรรค์เช่นนี้
เปลี่ยนแร่เป็นอาวุธที่น่ากลัว? หรือจะกลายเป็นเกราะที่แข็งแกร่งก็ได้?
มันน่าทึ่งมาก
แม้แต่ปีศาจชั้นยอดบางตนก็ใช้ความสามารถในการปรับแต่งแร่และเปลี่ยนให้เป็นเกราะหยาบเพื่อเพิ่มการป้องกัน แต่การหลอมขึ้นรูปจริงสามารถพูดได้แตกต่างกันมาก
หัวหน้าเฒ่าหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ แน่นอนว่าเขาต้องปฏิเสธ ถ้าเขาได้รับคัดเลือกจริง ๆ เขาจะถูกมองว่าเป็นมนุษย์ทรยศ
แม้ว่าจะไม่มีใครเห็น นักรบจำนวนมากก็จะถูกย้ายออกไป ด้วยพละกำลังของชนเผ่าแซคที่เหลือ พวกเขาก็จะกลับคืนสู่ก้นเหวของนรกมนตราทันที
ใครจะทนได้
สีหน้าของวิญญาณใต้พิภพทรุดลง “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่รึไง? ข้าตรวจสอบห้องตีเหล็กของเจ้าแล้ว อาวุธที่ทรงพลังที่สุดก็สามารถเจาะการป้องกันของสัตว์วิญญาณระดับเพชรได้ สุดท้ายพวกเจ้าเผ่าแซคก็แค่ไม่ต้องการร่วมมือกับปรมาจารย์ปีศาจ ช่างกล้าเสียนี่กระไร”
มันเริ่มที่จะปล่อยลมปราณของมันเอง ดูเหมือนว่าจะตัดสินใจลงมือ
หัวหน้าเฒ่าตัวสั่น
เขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดา ๆ
ต้องเผชิญกับลมปราณของสิ่งมีชีวิตระดับทองขั้นสูง มันยากที่จะต้านทาน
กูระถือหอก ตะโกนอย่างโกรธเคือง “เจ้าจะทำอะไร?”
“จะหยุดข้ารึ? คิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?” พลังวิญญาณชั่วร้ายส่องประกายในดวงตาของวิญญาณใต้พิภพ
จู่ ๆ กูระก็กลายเป็นสีเขียว เขารู้สึกว่าพลังของเขากำลังหายไปอย่างรวดเร็ว อ่อนแอลง คุกเข่าลงบนและตัวกระตุกด้วยความเจ็บปวด
หัวหน้าเฒ่าตกใจมาก “กูระ!”
นี่คือทักษะหลักวิญญาณใต้พิภพ
มันสามารถหลั่งเมล็ดพืชสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถเติบโตเป็นวิญญาณใต้พิภพตัวใหม่ได้เท่านั้น แต่ยังกระตุ้นพลังในเมล็ดพืชและเปลี่ยนเป็นวิธีการโจมตีได้
วิญญาณใต้พิภพมองกูระอย่างเย็นชา “เป็นแค่เผ่าเล็ก ๆ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำลายเผ่าเจ้าทั้งเผ่ารึ? น่าอับอายเสียจริง”
หัวหน้าเฒ่าดูเศร้า
ความแข็งแกร่งของชาวแซคยังอ่อนแอเกินไป
พลังระดับทองขั้นสูงพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้
บางทีหากรวมทั้งเผ่าแซคก็จะสามารถต่อสู้กับวิญญาณใต้พิภพได้ แต่นั่นก็ไม่มีความหมาย หากอีกฝ่ายหนึ่งเป็นถึงตัวแทนของปรมาจารย์ปีศาจ
ช่างมันเถอะ
ดีกว่าถูกกำจัด
ขณะที่หัวหน้าเฒ่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงหนึ่งดังมาจากข้างนอกอย่างช้า ๆ “ทำลายล้างเผ่ารึ? ถ้าเจ้าฆ่าแม้แต่คนเดียว เจ้าได้เห็นดีแน่ มันเป็นเรื่องน่าขำที่วิญญาณใต้พิภพที่อ่อนแอกล้าทำตัวแข็งแกร่ง”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ วิญญาณใต้พิภพก็โกรธมาก “เจ้าจบสิ้นแล้ว! แม้ว่าเจ้าจะยอมรับการเข้ากลุ่ม ข้าก็จะฆ่าคนของเจ้าทั้งหมด”
“ข้าไม่ได้พูดอย่างนั้นนะ” หัวหน้าเฒ่าหน้าซีดด้วยความตกใจ
“แล้วใครพูด!”
ชายเผ่ามนุษย์เดินช้า ๆ เข้ามาในกระท่อม ลมปราณของเขาเต็มไปด้วยคลื่น มองวิญญาณใต้พิภพเหมือนมองดูสิ่งที่ตายแล้ว “ข้าเป็นคนพูด”
“เจ้ารึ? ยังไงเจ้าก็คงเป็นชาวแซค” วิญญาณใต้พิภพคำราม “ไปตายซะ”
มันปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียวนับไม่ถ้วน เมล็ดพืชสีเขียวหนาแน่นลอยขึ้นเหมือนกระสุนที่ถูกยิงออกไป โจมตีชายชาวมนุษย์
นอกจากใบหน้าสีน้ำเงิน งา และตาสีแดงที่ดุร้ายแล้ว ลักษณะทางกายภาพอื่น ๆ ของชาวแซคนั้นคล้ายคลึงกับลักษณะของมนุษย์มาก
เห็นได้ชัดว่าวิญญาณใต้พิภพไม่รู้ว่ามนุษย์หน้าตาเป็นอย่างไร และคิดว่าเป็นชาวแซคไปโดยธรรมชาติ ในเวลานี้เขาโกรธมากจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นและเริ่มโจมตีโดยตรง
“ฮึ่ม”
ชายชาวมนุษย์พ่นลมหายใจ
ดาบที่เต็มไปด้วยการทำลายล้างก็พุ่งออกมา
ปราณดาบกวาดไปทั่วทั้งกระท่อม และเมล็ดพืชสีเขียวก็ถูกปราณดาบบดขยี้โดยตรง
พลังปราณดาบอันน่าสะพรึงกลัวลอยอยู่บนหัวของวิญญาณใต้พิภพ ราวกับว่ามันจะตกลงมาเมื่อใดก็ได้และปลิดชีพมัน
ไม่มีการต่อต้าน
ความแข็งแกร่งของมนุษย์นั้น บดขยี้มันไปหมดแล้ว
วิญญาณใต้พิภพหมอบลงกับพื้นด้วยความกลัว และมองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความสยดสยอง “เจ้า… เจ้าเป็นใคร! ไม่มีบุคคลที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในเผ่าแซค”