ไหปีศาจ - บทที่ 956 เอาชนะความมุ่งมั่น
บทที่ 956
เอาชนะความมุ่งมั่น
อสูรต้นไทรโบราณมีชีวิตอยู่มาเป็นเวลา 80,000 ปีและได้ปกป้องป่าแห่งอสูร
สิ่งมีชีวิตมากมายในป่าแห่งอสูรไม่รู้ว่ามันตายแล้ว ยังมีสัตว์วิญญาณต้นไม้จำนวนมากที่เรียกมันว่าเป็นบรรพบุรุษของพวกมัน และพวกมันเคารพอสูรต้นไทรโบราณมาก
อาณาจักรภูเขาแห้งแล้งเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ ดังนั้นอสูรต้นไทรโบราณจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตของอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะแต่มันถูกทิ้งไว้ในอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งด้วยเหตุผลบางประการ
มันเกือบจะเหมือนกับสัตว์ประหลาดภูเขาหิน
มันปกป้องป่าแห่งอสูร
สิ่งที่พวกมันคุ้มกันจริง ๆ น่าจะเป็นเครื่องรางภูตในตำนาน
ในตอนแรก ลั่วอู๋ช่วยหลงเซี่ยเอาชนะอสูรทั้งสามและเอาเครื่องรางภูตมา ผนึกของป่าแห่งอสูรจึงหายไปอย่างสมบูรณ์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในนั้นก็เป็นอิสระ
อสูรทั้งสามจากไป แม้ว่าประหลาดภูเขาหินจะยังอยู่ในหุบเขาอสูร แต่เขาก็สูญเสียเป้าหมายของเขาไปแล้ว
ตอนนี้ป่าแห่งอสูรไม่ใช่พื้นที่เฉพาะอีกต่อไปแล้ว และม่านพลังภายในและภายนอกก็พังทลายลงแล้ว ตอนนี้ป่าแห่งอสูรเป็นเพียงป่าภูเขาทั่วไปในอาณาจักรภูเขาแห้งแล้ง
คำพูดของลั่วอู๋ราวกับมีดที่แหลมคมที่แทงเข้าไปในหัวใจของอสูรต้นไทรโบราณ
“เจ้า… เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?” การรับรู้ของเสือดาว สีเขียวอยู่ในความโกลาหล
ต่อให้อีกฝ่ายกำลังจะฆ่าภูตไหมันก็ตอบสนองไม่ทัน
ตอนนี้การโจมตีของมันยุ่งเหยิง
ลั่วอู๋ให้โอกาสทุกคน การโจมตีของอีกฝ่ายกำลังบกพร่อง เขตแดนเถาวัลย์ที่แต่เดิมหนาแน่นก็กลายเป็นมีช่องโหว่เช่นกัน
“ข้าบอกว่าเครื่องรางภูตถูกพรากไปแล้ว อสูรทั้งสามนั้นก็เป็นอิสระ และป่าแห่งอสูรกลายเป็นป่าธรรมดาไปแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องปกป้องมันแล้ว” ลั่วอู๋ก็พูดซ้ำ
“เจ้าโกหก” เสือดาวสีเขียวคำราม และพลังงานชีวิตในร่างกายของมันก็สั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง “ข้าจากไปเพียงร้อยปีเท่านั้น เครื่องรางภูตจะถูกเอาออกไปได้อย่างไร?”
ลั่วอู๋ใช้ร่างอมตะทองคำอย่างรวดเร็ว เขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงแห่งพระโพธิสัตว์สีทองเข้ม
เขายืนอย่างมั่นคงและต้านทานการโจมตีอันดุเดือดของอีกฝ่าย “หึ จากไปวันเดียวก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้าตายไปหลายร้อยปีแล้วด้วยซ้ำ”
จากนั้นลั่วอู๋ก็เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับหุบเขาอสูรอย่างรวดเร็ว
ทั้งเรื่องลักษณะและพลังพิเศษของอสูรทั้งสามและสัตว์ประหลาดภูเขาหิน
รวมถึงทุกเรื่องในป่าแห่งอสูร
การใช้เครื่องรางภูต ที่ตั้งของขุมพลังภูตเป็นต้น
คำพูดเหล่านี้กำลังทำลายเหตุผลของมันอย่างต่อเนื่อง และแสงสีน้ำเงินบนร่างกายของมันก็ค่อย ๆ จางลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ร่างกายก็แทบคงการแสดงภาพลวงตาไว้ไม่ได้
มันตายแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าภูตไหใช้วิธีอะไรในการทำให้มัน “มีชีวิตอยู่” ในสถานะนี้
แต่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากการมีชีวิตอยู่จริง ๆ
ในขณะนี้ ภายใต้ความสับสนของจิตใจ ความแข็งแกร่งของเสือดาวสีเขียวนั้นไม่เสถียรเล็กน้อย
ลั่วอู๋รู้สึกว่าแรงกดดันลดลงในทันใด และเขาก็มีความสุขมาก เดิมทีเขาแค่แนะนำอีกฝ่ายว่าไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อปกป้องป่าแห่งอสูรอีกต่อไปแล้ว เขาไม่คิดเลยจะเป็นแบบนี้
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้” แววตาของเสือดาวสีเขียวเต็มไปด้วยความสับสน “เจ้าต้องโกหกข้า เจ้าโกหกข้า”
การปกป้องป่าแห่งอสูรไม่ได้เป็นเพียงความยึดมั่น แต่ยังเป็นการสนับสนุนทางพลังวิญญาณด้วย สัญชาตญาณตามธรรมชาติของมันไม่สามารถปล่อยให้ป่าแห่งอสูรถูกทำลายได้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทำไมข้าต้องโกหกเจ้าด้วย” ลั่วอู๋หัวเราะ “ไม่งั้นทำไมข้าถึงรู้ได้มากขนาดนี้เล่า? ลึก ๆ ในใจของเจ้าก็เชื่อแล้ว จะดิ้นรนไปทำไม?”
ความแข็งแกร่งของเสือดาวสีเขียวค่อย ๆ ลดลง และร่างอมตะทองคำก็สามารถต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้ลั่วอู๋รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ร่างกายของเสือดาวสีเขียวก็สั่นสะท้านอย่างหยุดไม่ได้
ใช่ มันเชื่อไปแล้ว แค่ไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน
เป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะรู้ว่าลั่วอู๋พูดเรื่องอะไร มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่แน่นอน แต่อีกฝ่ายสามารถบอกความจริงได้
อสูรไม่จำเป็นต้องมีผู้ปกป้องอีกต่อไป
เครื่องรางภูตหายไป
การปกป้องนับหมื่นปีจะสิ้นสุดลงในที่สุด
“ทำไมเจ้าถึงรู้เยอะนัก” จู่ ๆ เสือดาวสีเขียวก็ระเบิดพลังที่ยากจะต้านทานออกมา และจ้องไปที่ลั่วอู๋อย่างรังเกียจ “เจ้าคือคนที่ขโมยเครื่องรางภูตใช่ไหม?”
หัวใจของลั่วอู๋เต้นแรง
มันเป็นการคำนวณผิดพลาด
สนใจแต่มุ่งเป้าไปที่จิตวิญญาณของอีกฝ่าย ลืมไปเลยว่า การที่ศรัทธาและความมุ่งมั่นพังพลายจะไม่เพียงแค่ทำให้คนคนหนึ่งทำลายตัวเองได้เท่านั้น แต่ยังสร้างความเกลียดชังได้อีกด้วย
ความเกลียดชังอาจกลายเป็นความมุ่งมั่นใหม่
เขาเห็นแสงสีเขียวบนเสือดาวสีเขียวกลับมารุนแรงอีกครั้ง
ลั่วอู๋อยากจะปฏิเสธ แต่จริง ๆ แล้วเขามีส่วนกับเรื่องนี้มากจริง ๆ เขาไม่ได้เกลียดตัวเองเลย นอกจากนี้ มันไม่มีความหมายที่จะปฏิเสธเพราะว่าอีกฝ่ายหนึ่งเล็งเป้ามาที่ลั่วอู๋แล้ว
“เจ้าตายซะ!” เสือดาวสีเขียวคำรามอย่างบ้าคลั่ง
แผ่นดินสั่นสะเทือน
ทั้งบริเวณกำลังสั่นสะเทือน
เถาวัลย์ควบแน่นไปด้วยพลังงานจึงกลายเป็นเขตแดนที่อยู่ยงคงกระพันอีกครั้งในขณะนั้น และกิ่งก้านทั่วท้องฟ้าก็โจมตีเหมือนฝนหนามอีกครั้ง
ความแข็งแกร่งของระดับยอดเพชรถูกเปิดเผย
บางทีหลังจากการแก้แค้น เขาจะพังทลายลงเพราะความหมกมุ่น
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขัดขวางเสือดาวใช้พลังต่อสู้ระดับสูงเช่นนี้ใน “เจ้ายังอยากจะดุร้ายอีกรึ ให้ตายสิ!” เสียงคำรามแห่งการต่อสู้ที่ดุเดือดดังก้อง และหยู่เฮาก็ปรากฏตัวขึ้นหลังเสือดาวสีเขียว เขายกขวานเหล็กแห่งความโกลาหลขึ้นและฟันมันลง
เลือดสาดกระจาย
แม้แต่มิติก็ยังถูกฉีกขาดด้วยพลังอันมากมาย
กวาดล้างความผันผวนของพลังงานอันทรงพลัง
เมื่อเสือดาวโจมตี ร่างกายของมันจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นมันจึงไม่มีเวลาตอบสนอง ดังนั้นมันจึงทำได้เพียงต้านทานขวานไว้เท่านั้น
ขวานของหยู่เฮาดุร้ายแค่ไหน?
เขาใช้คลุ้มคลั่งไร้สิ้นสุดทับซ้อนกันอย่างไม่จำกัด และทักษะเสริมกำลังอีกหลายอย่าง พลังวิเศษจากธรรมชาติ แต่ล่ะวันที่อาบน้ำยามานับครั้งไม่ถ้วน บวกกับขวานเหล็กแห่งความโกลาหลได้เลื่อนระดับไปสู่ระดับอาวุธมนตราแล้ว
จะประมาทศิษย์เอกของคนอย่างท่านหม่าเฉินไปได้ยังไง
แม้ว่าลั่วอู๋จะมีร่างอมตะทองคำ เขาก็ยังไม่กล้าลองรับขวานของหยู่เฮาเลย
ตู้ม!
ร่างของเสือดาวสีเขียวถูกผ่าและกระเด็นออกไป
ร่างกายครึ่งหนึ่งถูกตัดออก บาดแผลนั้นรุนแรงและน่ากลัว แต่ไม่มีเลือดไหลออกมา ขุมพลังชีวิตไหลออกมาจากบาดแผล
ตัวมันเองไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เติบโตด้วยความแข็งแกร่งของร่างกาย ยิ่งกว่านั้น ร่างกายของมันเหี่ยวเฉา และตอนนี้ร่างกายของมันบอบบางมาก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป็นอย่างนั้น” ฉูจงฉวนหัวเราะ เขาโจมตีซ้ำเพราะเดี๋ยวจะเป็นเหมือนตอนที่ลั่วอู๋ฟันมันแล้วมันก็รักษาตัวเองได้อย่างง่ายดาย
แน่นอน ไม่เพียงแต่หยู่เฮาและฉูจงฉวนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเหวินเสี่ยวทั้งสอง หลินยูหลัน และหลี่หยินต่างก็เดินไปล้อมเสือดาวสีเขียวและเริ่มโจมตี
ร่างของเสือดาวสีเขียวกระจัดกระจาย
“เป็นไปได้ยังไง?” แม้ว่าร่างกายของมันจะยับเยิน มันก็ไม่ตาย แต่ตาเบิดกว้าง
แน่นอนว่าไม่มีใครตอบคำถามของมัน
เมื่อลั่วอู๋ใช้คำพูดเพื่อกระตุ้น มันก็สูญเสียทั้งจิตใจและสติ การโจมตีของมันจึงมีข้อบกพร่อง และมันให้ความสนใจแต่ลั่วอู๋ และไม่สังเกตว่ามีคนอื่นที่แอบเลี่ยงการโจมตีของมันอย่างเงียบ ๆ
“อันที่จริง ข้าเคารพเจ้ามาก” ลั่วอู๋กล่าวช้า ๆ
ร่างกายของเสือดาวสีเขียวฟื้นฟูด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และลมปราณของมันก็กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง ไม่ว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา
แต่จะใช้เวลาในการฟื้นตัว ตอนนี้ขยับไม่ได้แล้ว
“การปกป้องป่าแห่งอสูรเป็นเวลาหลายปี แม้แต่ความมุ่งมั่นหลังความตาย ก็คือการทำภารกิจต่อไป” ลั่วอู๋ส่ายหัว “น่าเสียดายที่เราเป็นศัตรูกัน”
มีความเกลียดชังที่ไม่อาจปรองดองได้ระหว่างทั้งสองฝ่าย
“ลาก่อน”
ลั่วอู๋ค่อย ๆ ยื่นมือออกมา
และเริ่มลงมือ
พลังอันน่าสยดสยองของการกลืนกินนั้นพลุ่งพล่านอย่างดุเดือด และขุมพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ก็ถูกกลืนกินเข้าไปโดยตรง