ไหปีศาจ - บทที่ 998 มุ่งสู่ทะเลเหนือ
บทที่ 998
มุ่งสู่ทะเลเหนือ
ใครจะไปคิด
แต่หลี่หวู่หยวนก็พูดถูก
ลั่วอู๋เงียบเมื่อได้ยินเรื่องนี้
เขาไม่ต้องการที่จะไปที่อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะเพื่อตามหาเจียโรวตอนนี้ แต่สถานการณ์ไม่อนุญาตให้เขารอจักรพรรดิคนเก่าต่อไปได้
ใครจะสามารถทนพลังของราชินีภูตได้อีกบ้าง?
แม้แต่ผู้บัญชาการหลิงหลง หลงเซี่ยและเทพดาบร่วมมือกันก็ยังไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายได้
หากไปหาเจียโรวอย่างไม่รอบคอบ ก็เหมือนกับไปหาที่ตาย
ผู้บัญชาการหลิงหลงขมวดคิ้ว “วิธีนี้จะได้ผลรึ?”
“ข้าไม่แน่หรอก แต่ไม่มีทางอื่นแล้ว” หลี่หวู่หยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ราชินีภูตเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ เราจะมีวิธีไหนอีกที่จะขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายได้”
ใช่แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะกับเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นไม่ดีเลย
ยิ่งบวกกับเหตุการณ์ล่าสุดแล้ว ถ้ามนุษย์จะถูกทำลาย ราชินีภูตก็คงปรบมือและส่งเสียงเฮด้วยซ้ำ ทำไมนางถึงจะช่วย
พวกเขาไม่สามารถนำสิ่งที่สามารถทำให้ราชินีภูตเคลื่อนไหวได้
ผู้บัญชาการหลิงหลงครุ่นคิดอยู่นาน แต่ยอมรับว่าไม่มีทางอื่นที่จะทำให้ราชินีภูตยอมช่วยได้จริง ๆ ถ้าราชินีภูตมีจะมีจุดอ่อน ก็เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นลูกสาวของนางเท่านั้น
ลั่วอู๋ลังเล “แต่ความทรงจำของเจียโรว…”
เหตุที่เขาต้องการให้จักรพรรดิคนเก่ารีบกลับมาก็เพราะจักรพรรดิคนเก่าอาจมีวิธีทำให้เจียโรวกลับมาได้
เขาไม่มีทางเลือก
“เจ้าทำได้แค่ต้องลองดู” หลี่หวู่หยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “เจ้าจะรอวันตายไม่ได้”
เขาเองคิดหาวิธีอื่นไม่ได้
เจียโรวไม่ได้สูญเสียความทรงจำของนาง แต่ตัดสัมพันธ์ของนางกับโลก ดังนั้นนางจึงไม่มีความรู้สึกถึงความทรงจำของมนุษย์นั้น การสร้างสัมพันธ์นี้เป็นปัญหาใหญ่
ตั้งแต่สมัยโบราณไม่มีกรณีเช่นนี้และโดยธรรมชาติแล้วก็ไม่มีความน่าจะเป็น
ลั่วอู๋รู้สึกกดดันอย่างมาก
ทำไมความปลอดภัยของโลกถึงมาขึ้นอยู่กับเขาอีกครั้ง
หากฟ้าจะถล่ม คนที่สูงกว่าต้องไปแบกมันไม่ใช่รึไง!
“ทำไมซวนชิงหยู่ยังไม่มา” ลั่วอู๋นึกถึงชายคนหนึ่งและรีบพูดขึ้นว่า “ผู้เฒ่านักบวชเต๋านั้นลึกลับ บางทีเขาอาจให้คำแนะนำได้บ้าง”
ผู้บัญชาการหลิงหลงพ่นลมหายใจ “ตาเฒ่านั่นที่ซ่อนตัวอยู่ในวังทั้งวันทั้งคืน เขาจะให้คำแนะนำอะไรได้?”
แม้ว่าจะมีซวนชิงหยู่พลังมากและน่าจะเป็นถึงระดับกึ่งจักรพรรดิ แต่ก็แทบจะไม่แสดงตัวต่อโลกเลยและไม่เคยทำอะไรที่สำคัญต่อโลก
นอกจากคนที่สักการะเขาแล้ว ก็ยังมีคนอื่น ๆ ที่สงสัยและดูถูกเขาอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าผู้บัญชาการหลิงหลงไม่พอใจซวนชิงหยู
เหตุการณ์ลูกโซ่ต่าง ๆ เกิดขึ้นหลายครั้ง ผู้เฒ่าก็ไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ และเขาก็ไม่มีจุดยืนที่มั่นคง กระทั่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาก็ไม่แม้แต่จะปรากฏตัว
หลี่หวู่หยวนอธิบายให้อีกฝ่ายฟังว่า “พอจะเข้าใจได้ว่าเขาเป็นผู้ควบคุมแก่นแท้แห่งโชคชะตา ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะถูกปนเปื้อนด้วยเหตุและผล เพราะกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคต”
ผู้บัญชาการหลิงหลงดูถูกเหยียดหยามเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก
ลั่วอู๋กล่าวว่า “เขาทรงพลังมากแท้ ๆ บางทีเขาอาจมีวิธี”
“มันไม่มีประโยชน์หรอก”
“ทำไมกัน?”
ลั่วอู๋รู้สึกสับสน
มันไม่มีประโยชน์? หมายความว่ายังไง?
“เขาสามารถเห็นเส้นอนาคตที่เป็นเหตุได้นับไม่ถ้วน จากนั้นจึงผลักดันอนาคตไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เขาเห็น” หลี่หวู่หยวนกล่าวอย่างจริงจังว่า “เขาไม่ปรากฏตัว ซึ่งหมายความว่าการที่เขาไม่ปรากฏตัว จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”
ลั่วอู๋ยอมแพ้
ฟังดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
“มันลึกลับขนาดนั้นเลย?” ผู้บัญชาการหลิงหลงดูเหมือนไม่พอใจเล็กน้อย
หลี่หวู่หยวนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ตามบันทึกของหนังสือโบราณแล้ว มันเป็นเรื่องจริง”
คนที่รับผิดชอบแก่นแท้แห่งโชคชะตามีต้องความหมายลึกซึ้งในคำพูดและการกระทำเพราะกลัวว่าการกระทำของตัวเองจะรบกวนอนาคตที่กำหนดไว้จึงไม่กล้าปรากฏตัวตามต้องการ
เนื่องจากมีเหตุผลดังกล่าว จึงไม่มีทางไปหาเขาได้
พวกเขามองไปที่ลั่วอู๋ เฉินซังเทียนก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
มันยากสำหรับทุกคนที่จะใจเย็นลงได้
ในเจ็ดวันจะทันจริง ๆ หรือ
ลั่วอู๋ทำได้เพียงพยักหน้า
ถึงขั้นนี้เขาก็ทำได้แต่ต้องลองดู
ความปลอดภัยของเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นอยู่กับเขา
ลั่วอู๋รู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย
ในตอนแรกของการฟื้นฟูผนึก สถานการณ์ต่างไปจากตอนนี้ เพราะในตอนนั้น ประธานสำนักและท่านหม่าเฉินอยู่ ใกล้ ๆ และพวกเขาก็มีความมั่นใจ และแม้ว่าพวกเขาจะล้มเหลว พวกเขาก็ดูเหมือนจะมีหลักประกันอยู่
แต่ตอนนี้มันแตกต่างกัน
ท่านหม่าเฉินจากไปแล้ว
ประธานสำนักก็อยู่ไกลจากมิตินี้ และร่างแยกวิญญาณก็กำลังจะหายไป
มันเหลือแค่เขา
“มันยังไม่สายเกินไป เราไปกันเถอะ” หลงเซี่ยกล่าว “หลิงหลงและข้าจะช่วยเจ้าในอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ”
ลั่วอู๋พยักหน้า “ข้าก็จะพยายาม”
“จะว่าไป” จู่ ๆ ลั่วอู๋ก็นึกขึ้นได้อย่างหนึ่งว่า “ข้าอยากไปที่ที่หนึ่งก่อน”
“ที่ไหน?”
“ทะเลเหนือ”
ลั่วอู๋อยากไปทะเลเหนือ
ยังไงก็ลองทั้งสองวิธีจะดีกว่า
“เราไม่มีเวลามากพอจะไปเสียกับที่นั่นหรอกนะ” หลี่หวู่หยวนกล่าว
ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “มีเกาะลอยอยู่ลึกเขาไปในทะเลเหนือที่เรียกว่าราชวังเป่ยหมิง…”
ในไม่ช้าลั่วอู๋ก็พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูดทั้งหมด
ทุกคนประหลาดใจ
มีระดับจักรพรรดิอยู่ลึกเข้าไปในทะเลเหนือหรือ?
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นคุนในตำนานอีกด้วย?
เป็นที่รู้กันว่าสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ เมื่อกลายเป็นนกภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ความแข็งแกร่งก็อยู่ในระดับเดียวกับมังกรแก่นแท้หรือนกเพลิงอมตะที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
“งั้นก็รีบไปกันเถอะ” หลงเซี่ยหันไปมองที่ผู้บัญชาการ หลิงหลง
ผู้บัญชาการหลิงหลงพยักหน้า
พวกเขาพาลั่วอู๋ตรงไปยังอาณาจักรเป่ยไห่ แน่นอนลั่วอู๋พาหยู่เฮา ฉูจงฉวน และเหวินเสี่ยวทั้งสองไปด้วย พวกเขาทั้งหมดเป็นคนรู้จักของเจียโรว พวกเขาอาจจะมีประโยชน์
ป่าหวงชาอยู่ไกลจากทะเลเหนือ
ลั่วอู๋ต้องใช้เวลามากกว่าสามเดือนกว่าจะไปถึงราชวังเป่ยหมิงจากชายแดนของราชวงศ์มังกรเร้นกาย
ทว่า กึ่งจักรพรรดิทั้งสองก็ไม่ลังเลที่จะใช้พลังวิญญาณของพวกเขาเพื่อพาลั่วอู๋ไปด้วยความเร็วที่สูงที่สุด ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็มาถึงพระราชวังเป่ยหมิงแล้ว
“ข้าต้องการพบผู้ปกครองสูงสุด” ลั่วอู๋ก็มีชื่อเสียงในราชวังเป่ยหมิง ตามหาจูกู่เฉิงได้ไม่ยาก
ผู้บัญชาการหลิงหลงใจร้อน “จะรอขอพบอะไร ไปกับข้า”
นางพาลั่วอู๋ตรงไปยังใต้ราชวัง
จูกู่เฉิงรู้สึกแปลกและปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขามีปราณที่แข็งแกร่ง เขาสวมมงกุฎหินครามบนหัว และเขาก็มีแผ่นหยกที่มีแสงสีน้ำเงินลึกลับอยู่ในมือ
พื้นผิวของแผ่นหยกมีความเรียบเนียนและให้กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว
ลั่วอู๋เห็นว่ามันทำมาจากหินครามด้วยเช่นกัน
แผ่นหยกนี้ค่อนข้างใหญ่ และมันคงต้องใช้หินครามทะเลลึกมากกว่ามงกุฎนั้นแน่นอนถึงได้ดูลึกลับโดยธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าแผ่นหยกนี้ทำจากหินครามทะเลลึกที่ลั่วอู๋มอบให้อีกฝ่าย
“เจ้านี่เอง” ใบหน้าของจูกู่เฉิงเย็นชาและตอนแรกเขาวางแผนที่จะลงโทษผู้บุกรุกอย่างหนัก แต่หลังจากเห็นว่าเป็นลั่วอู๋ ใบหน้าของเขาก็ผ่อนคลาย
ผู้บัญชาการหลิงหลงและหลงเซี่ยมองไปที่จูกู่เฉิง
พวกเขาไม่คิดเลยว่าจูกู่เฉิงจะยังสงบได้แม้ถูกสายตาของกึ่งจักรพรรดิทั้งสองจ้องมอง
แม้ว่าจะต้องใช้พลังงานไปมากในการบินมาตลอดทาง แต่พลังของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนลง
“เจ้าก็เป็นระดับกึ่งจักรพรรดิด้วยหรือ?” ผู้บัญชาการหลิงหลงรู้สึกประหลาดใจ
คราวที่แล้วพวกเขาไปอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะด้วยกัน ถึงแม้จะไม่ได้ทำความรู้จักกันแต่ก็ได้รู้หน้ากันแล้ว
จูกู่เฉิงส่ายหัวและชี้ไปที่แผ่นหยกในมือของเขา “ไม่ได้เป็นกึ่งจักรพรรดิหรอก แต่ด้วยแผ่นหยกนี้ทำให้ข้าเชื่อมต่อกับทะเลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ภายในอาณาเขตของทะเลเหนือข้าสามารถใช้พลังของจักรพรรดิได้”