お兄ちゃん大嫌い หนูเกลียดพี่ชายที่สุดเลย - ตอนที่ 3 หนึ่งวันในมุมของน้องสาว
“ไปแล้วนะคะ”
“ไปดีมาดีนะ”
หลังจากยูกิบอกลาแม่ของเธอเสร็จ เธอก็ออกจากบ้านไป พร้อมกับประตูที่ถูกปิดลง
“ให้ตายสิเด็กคนนี้ เมื่อไหร่จะทำตัวดีๆกับมาโมรุกันนะ”
และภาพก็ตัดไปตอนที่ยูกิเดินไปตามฟุตบาท
เพราะเป็นตอนเช้าบนถนนเลยมีรถสัญจรไปมาเต็มไปหมด
ยูกิที่ระหว่างเดินทางไปโรงเรียนอยู่ เธอก็คิดเรื่องของเมื่อคืนระหว่างเดินไปด้วย
“นี่เราพูดแรงกับพี่เกินไปรึเปล่านะ”
“ไม่สิ ทำไมเราถึงต้องเรียกคนแบบนั้นว่าพี่ด้วยนะ คนนั้นก็แค่คนนอกที่บังเอิญเข้ามาอยู่ที่นี่เท่านั้น”
ระหว่างที่เดินอยู่ก็มีเสียงเท้าเดินตามหลังยูกิมา แต่เธอก็ไม่รู้สึกถึงสิ่งนั้นเลย
ยูกิเพียงแค่เดินไปตามทางเรื่อยๆ พลางคิดเรื่องเดิมๆอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา
เสียงริมฝีเท้าก็เริ่มเข้าใกล้ยูกิขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มเข้ามาประชิดตัวของเธอ
และมือทั้งสองข้างค่อยๆยื่นเข้ามาใกล้ไหล่ของเธอจากด้านหลัง จนมือทั้งสองได้จับที่ไหล่ของยูกิแบบที่เธอไม่ทันตั้งตัว
ยูกิที่รู้สึกตัวจึงสะดุ้งตกใจและรีบหันกลับมาที่ด้านหลังทันที
เมื่อยูกิหันหลังกลับไปมองภาพก็ปรากฎให้เห็นเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ
“เฮ้ ยุกกี้”
“อะ…อะไรเนี่ย ตกใจหมดเลย”
“สำเร็จสินะ ฮิฮิ”
หลังจากที่เพื่อนของยูกิพูดแบบนั้นเสร็จ ยูกิก็หันมาจ้องหน้าเพื่อนของเธอเขม็ง
ก่อนที่เธอจะเตะที่ขาเพื่อนของเธอเบาๆ
“โอ้ย เจ็บนะ”
“นี่ยังไม่ได้ออกแรงเลยซักนิดนะ”
“อ๊ากกก ขาชั้น ชาชั้นหักแล้วว”
“เว่อเกินไปแล้วนะ”
“ฮ่าๆ โทษทีๆ”
หลังจจากเพื่อนของยูกิพูดเสร็จยูกิก็เดินไปโรงเรียนกับเพื่อนคนนั้นและในระหว่างทางก็ได้มีการสนทนากันเล็กน้อย
เบื้องหน้าของพวกเธอคือรั้วที่ด้านหลังของรั้วมียามเฝ้าอยู่โดยปกติแล้วถ้าประตูรั้วมียามเฝ้านั่นหมายความว่าตอนนั้นกำลังจะสายแล้ว
“นี่ ยามนั่น หมายความว่า”
“สายสินะ แย่แล้ว”
เมื่อพวกเธอรู้แบบนั้น ก็รีบวิ่งตรงเข้าไปในโรงเรียนทันที
“เฮ้ พวกเธอ! มันอันตรายนะวิ่งแบบนั้นน่ะ”
“ขอโทษนะคะ!”
หลังจากที่พวกเธอวิ่งได้สักพัก พวกเธอก็หยุดอยู่ที่ห้องเรียนประจำของพวกเธอ
“เฮ้อออ…นึกว่าจะสายซะแล้ว ใช่มั้ยยุกกี้”
“เพราะเธอพาชั้นไปเที่ยวนู่นนี่ เลยมาสายเลยไง แต่ชั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอหรอกนะ”
เห ยุกกี้ใจดีจังเลยย”
“เงียบไปเลย”
“แง ยูกิจังใจร้าย”
“เมื่อกี้พึ่งบอกจดีไปเองไม่ใช่หรอ” ยูกิพูดพร้อมกับดีดหน้าผากเพื่อนของเธอเบาๆ
“โอ้ย เจ็บนะ” เพื่อนของยูกิพูดพร้อมฟุบไปกับโต๊ะ
ระหว่างที่พวกเธอคุยกันตามปกติ ประตูหน้าห้องก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาววัยกลางคนเข้ามาในห้อง
“เอ้าเงียบกันเลย”
หลังจากที่ครูประจำชั้นพูด เสียงภายในห้องก็ลดลงเรื่อยๆจนเงียบสนิท
“เอาหล่ะพวกเธอทุกคน ในช่วงสองสัปดาห์หน้านี้จะมีการประชุมผู้ปกครองนะ อย่าลืมเอาผู้ปกครองของพวกเธอมาด้วยล่ะ สำหรับคนที่ผู้ปกครองไม่ว่างให้พี่หรือญาติมาแทนได้ และก็พยายามพามาให้ได้ทุกคนนะ”
หลังจากครูประจำชั้นบอกกำหนดการเสร็จก็เริ่มทำการเรียนการสอน
เมื่อเวลาผ่านไปถึงก่อนเที่ยงเป็นเวลาที่จะปล่อยไปพักเที่ยง
“ฮ่า เหนื่อยจังเลยย”
“นั่นสิ ทำไมวันนี้ถึงเรียนหนักจังนะ”
“เรากินข้าวกันเถอะ”
“กินในห้องกันนะวันนี้เหนื่อยจนไม่มีแรงแล้ว”
“ได้เลยย”
เพื่อนของยูกิก็ลุกไปหยิบข้าวกล่องในกระเป๋าของเธอและกลับมานั่งกับยูกิ
ยูกิเองก็หยิบข้าวกล่องมาจากกระเป๋ามาวางบนโต๊ะและเปิดฝากล่องออก
ข้าวที่มีผักและเนื้อวางตกแต่งอยู่ในกล่องข้าวของยูกิดูน่ากินมากๆ
“โห นี่ๆ ยูกิใครทำกล่องข้าวให้หรอ”
“ข้าวกล่องนี่หรอ อันนี้ทำเองกับมือเลยนะ”
“โห นึกว่าครอบครัวทำให้ซะอีกก”
“นี่คิดว่าชั้นทำอาหารไม่เป็นหรอ”
“เอ้อ ใช่ๆวันประชุมผู้ปกครองจะเอาใครมาหรอ”
“นี่เปลี่ยนเรื่องกันง่ายๆเลยหรอเนี่ย คิดว่าแม่น่าจะมาเหมือนเดิมนะ”
“โห นี่ยุกกี้พาแม่มาทุกปีเลยนะ ไม่คิดจะเอาคนอื่นมามั่งหรออ”
“ไม่”
“โห ตอบสั้นจังเลย ยุกกี้มีเรื่องกับใครในครอบครัวรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่มีหรอก”
“นี่ยูกิมาปรึกษากับชั้นได้น้า หรือว่าจะเป็น..ทะเลาะกับพ่อหรออ”
“ไม่ใช่” ยูกิ ตอบคำถามและตักข้าวมากิน
“งั้นน เรื่องพี่น้องหรออ”
ยูกิที่ได้ยินแบบนั้นคิ้วของเธอก็ต่ำลงเล็กน้อยแต่เธอพยายามกินต่อเพื่อเก็บอาการ
“เห หรือว่า”
“ไม่ใช่หรอก”
“จริงรึเปล่าน้า”
ก่อนที่เพื่อนของยูกิจะพูดเสร็จยูกิคีบเนื้อยัดปากเพื่อนของเธอ
“เอ้ากินสิเดี๋ยวไม่มีแรงนะ” ยูกิพูดพร้อมเอาตะเกียบออกจากเพื่อนของเธอ
“อื้ออๆ “
หลังจากเพื่อนของเธอเคี้ยวเนื้อและกลืนเสร็จ ก็ถามคำถามอีกครั้ง
“นี่ๆยูกิชอบพี่ชายตัวเองหรออ”
“เป็นไปไม่ได้หรอก ชั้นเกลียดคนๆนั้นที่สุดเลย”
“นี่ไงยูกิยอมรับด้วยตัวเองแล้ว”
“เอ๊ะ…”
“แล้วทำไมยูกิถึงไม่ชอบพี่ชายหรอ”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอซักหน่อย”
“ไม่เป็นอะไรนะยูกิ ชั้นอยู่กับเธอตลอดเลยนะเพราะงั้นเธอปรึกษาชั้นได้ทุกเรื่องเลยนะ”
เพื่อนของยูกิพูดพร้อมลูบหัวของยูกิเบาๆ
“ขอบคุณนะแต่ไม่ต้องลูบหัวชั้นก็ได้นะชั้นไม่ใช่เด็กแล้ว”
“ว้า เศร้าใจจัง”
“เอิ่มม ยูกิก็ดูเหมือนไม่ได้โดนทำร้ายร่างกายด้วยสิ งั้นแสดงว่าพี่ชายเธอเข้มงวดเกินไปหรอ”
“พี่ชายชั้นไม่เคยเข้มงวดกับชั้นหรอก…ออกจะตามใจมากเกินไปด้วยซ้ำ”
“โหก็ดีแล้วนี่นา แล้วเพราะอะไรยูกิถึงไม่ชอบพี่ชายเธอหรอ”
“คือว่า”
(นั่นสิ ทำไมเราถึงไม่ชอบพี่ชายกันนะ)
เมื่อตอนที่ยูกิยังเด็ก
ยูกิกำลังหลบอยู่หลังแม่เพราะพ่อพาเด็กชายเข้ามาในห้อง
“ยูกิต่อไปนี้เด็กคนนั้นจะเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวเรานะ” พ่อของยูกิพูด
ยูกิไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่จ้องไปที่เด็กชายคนนั้น
“เอ้ายูกิไปทักทายพี่เขาสิ” แม่พูดพร้อมกับดันยูกิไปข้างหน้า
ยูกิยืนออยู่ต่อหน้าเด็กชาย ในใจของยูกิกำลังกังวลอยู่ว่าจะเริ่มทักทายพี่ของเธอยังไงดี
“ยะ ยินที่ที่ได้รู้จักนะพี่ชาย ยูกิพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าเด็กชาย”
“อื้ม ยืนที่ที่ได้รู้จักนะ”
เด็กชายตอบกลับยูกิด้วยใบหน้ายิ้ม
“พี่…พี่ชื่อ…อะไรหรอ” ยูกิถามเด็กชายแบบกล้าๆกลัวๆ
“มาโมรุ…พี่ชื่อมาโมรุ”
“มา…โม…รุ”
“ใช่..มาโมรุ…ชิราโฮชิ มาโมรุ”
“นามสกุลเดียวกับหนูนี่”
ยูกิยิ้มตอบพี่ชาย
“อื้มนั่นสินะ..ก็เป็นพี่น้องกันนี่”
นี่เป็นครั้งแรกที่ยูกิและมาโมรุพบกัน
หลังจากนั้นยูกิก็พยายามมาเล่นกับมาโมรุเรื่อยๆ
“พี่ชายๆ ไปดูทีวีกับหนูหน่อยสิ”
“ได้สิ ไปกันๆ”
“พี่ชาย อ่านหนังสือให้หนูฟังหน่อยสิ”
“เดี๋ยวรอพี่ก่อนนะ”
“ไม่เอาๆๆ จะเอาตอนนี้เลย”
“งั้นได้สิ ไปกัน”
เวลาแห่งความสุขดำเนินแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนมาโมรุขึ้นเรียนชั้นมปลายปีหนึ่ง
“พี่ชายเก่งจังเลย สอบเข้าโรงเรียนดังได้ที่หนึ่งด้วย”
“เอ้านี่ หนูให้ถุงมือนะ” ยูกิยื่นกล่องของขวัญให้มาโมรุ
“ขอบคุณนะยูกิ พี่จะเก็บไว้อย่างดีเลย” มาโมรุพูดและเอื้อมมือไปลูบหัวยูกิ
“ฮี่ๆ”
“พี่ชาย ไปดูทีวีกันน”
“ไม่ได้หรอกยูกิวันนี้พี่ต้องทำการบ้านนะ”
“พี่มาดูกับหนูก่อนไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้หรอกงานพี่ช่วงนี้มันเยอะนิดหน่อย ยูกิดูคนเดียวไปก่อนได้มั้ย”
“อื้ม ก็ได้”
หลังจากนั้น สองพี่น้องก็คุยกันน้อยลงเรื่อยๆ
แต่ยูกิยังคงเชื่อมั่นว่าพี่ชายยังอยู๋ข้างเธอตลอด
จนกระทั่ง วันหนึ่งยูกิก็ได้ไปเห็นเหตุการ์ณหนึ่งเข้า
ยูกิที่พึ่งออกจากห้องน้ำได้ยินเสียงของแม่กับมาโมรุในห้องครัวเข้า
ยูกิเลยไปยืนแอบฟัง
“มาโมรุรู้สึกช่วงนี้เรียนหนักเกินไปรึเปล่า”
“ไม่หนักขนาดนั้นหรอกครับ”
“พักบ้างก็ได้นะลูก เดี๋ยวแม่ทำอาหารที่ลูกชอบให้กินทุกวันเลยเอามั้ย”
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ”
“แล้วก็ช่วงนี้ไปคุยกับยูกิหน่อยนะ ช่วงนี้ยูกิพอไม่มีมาโมรุก็เหงามากเลยนะ”
“คงจะไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ว่างพอไปคุยกับเธอหรอก”
(อะไรกัน พี่ชาย ไม่อยากคุยกับเราแล้วหรอ)
หลังจากที่ยูกิได้ยินแบบนั้น ในใจของยูกิก็มีทั้งความเสียใจและความโกรธ
ยูกิรีบตรงกลับไปที่ห้อง และกระโดดลงเตียงอย่างแรง
(พี่อะไรนั่นน่ะ เราไม่ต้องการอีกแล้ว เรามีแค่พ่อแม่ก็พอแล้ว)
และหลังจากนั้นยูกิก็เริ่มทักพี่ชายของเธอน้อยลง น้อยลง
จนระยะห่างของสองพี่น้องก็เริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆ
จนมีอยู่วันหนึ่ง
เมื่อพ่อแม่ของเธอเริ่มไปสนใจมาโมรุมากขึ้น
ยูกิที่เชื่อว่าพ่อแม่ยังอยู่ข้างเธอ สิ่งที่เธอคิดตอนนี้คือเธอกำลังถูกแย่งความรักจากพ่อแม่
ทำให้ตอนนี้ยูกิไม่ชอบมาโมรุยิ่งกว่าเดิม
หลังจากนั้นพ่อแม่ก็กลับมาสนใจยูกิเหมือนเดิมและยูกิก็ใช้ชีวิตคุยกับครอบ ครัวตามปกติ
แต่ความรู้สึกที่มีต่อมาโมรุในทางไม่ดีทำให้ยูกิไม่ได้เข้าหามาโมรุอีกต่อไป
กลับมาที่ปัจจุบัน
“ยูกิ ยูกิ”
ยูกิที่เหม่ออยู่ก็รู้สึกตัวเพราะเสียงเรียกจากเพื่อนของเธอ
“อะ..อ๋อ มีเรื่องอะไรนิดหน่อยน่ะเลยไม่ค่อยสนิทกับพี่ชาย”
“แล้ว อยากคืนดีกับพี่ชายมั้ย เดี๋ยวชั้นช่วยนะ”
“ยังไม่ต้องหรอก”
“เห…งั้นวันนี้ขอไปเที่ยวที่บ้านได้มั้ย”
“คงจะไม่ได้หรอกตอนนี้”
“อืมม..งั้นก็ได้”
ระหว่างที่พวกเธอคุยกันก็มีเสียงหมดเวลาพักดังขึ้น
และคาบเรียนก็เริ่มขึ้น พวกเธอเรียนจนถึงเวลาปล่อยเรียน
ยูกิที่อยู่ชมรมกลับบ้านก็เก็บกระเป๋าและเดินกลับบ้านคนเดียว
เมื่อยูกิกลับมาถึงบ้าน ก็เปิดประตูและเดินไปที่ห้องครัว
แต่ภาพที่เธอเห็นไม่ใช่ห้องครัวที่ว่างเปล่า
แต่เป็นห้องครัวที่มีอาหารวางอยู่บนโต๊ะและมาโมรุที่นอนหลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวี
ยูกิที่เห็นแบบนั้นถ้าเป็นปกติคงจะหนีไปนอนที่ห้องแทน
แต่รอบนี้ยูกิกลับเดินไปหาพี่ชายของเธอและจ้องอยู่ซักพัก
ในตอนนี้ยูกิที่กำลังสงสัยในตัวเองว่าทำไมถึงไม่ชอบพี่ชาย และเธอตัดสินใจลองเปิดใจให้พี่ชายอีกครั้งดู
เธอหยิบผ้าห่มที่อยู่ข้างๆโซฟาและหยิบมาห่มให้มาโมรุ
“อืม…แบบนี้คงจะไม่เป็นอะไรแล้วนะ”
หลังจากนั้นยูกิก็กลับไปที่โต๊ะเพื่อกินอาหารที่มาโมรุเป็นคนทำ