- ตอนที่ 139 แองเจิ้ลรอยด์ตนที่สอง! แอสเทรียมาแล้ว!
แอสเทรีย : ตัวละครจากเรื่อง Sora no Otoshimono (Heaven’s Lost Property) แองเจิ้ลรอยด์รุ่นเดลต้า มีความสามารถในการสู้รบระยะประชิดเหนือกว่ารุ่นแรกทุกตน แต่ก็แลกมาด้วยการที่เธอไม่มีความสามารถในการสู้รบระยะไกลเลย ; 95,000แต้มอัญเชิญ
มองดูหน้าจอที่อธิบายรายละเอียดซัมมอน นัยน์ตาอิคารอสก็เป็นเปล่งกายแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วฮินางิคุกับมิโคโตะกำลังหันมามองหน้ากัน
“ดูแล้วน่าจะเก่งมากเลยนะ……” ฮินางิคุยื่นมือไปจะจับหน้าจอแต่ทว่ามือเธอก็ทะลุมันไป นี่ทำให้เธอเม้มปาก
มิโคโตะยกนิ้วเกาแก้ม แล้วหันไปถามอิคารอสด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แอสเทรีย? เป็นชื่อที่น่าสนใจสุดๆเลยแฮะ เธอก็เป็นนางฟ้าเหมือนอิคารอสเหรอ?”
อิคารอสพยักหน้าเล็กน้อย “เป็นแองเจิ้ลรอยด์รุ่นรุ่นเดียวกับฉัน ถ้าวัดกันด้านสู้ระยะประชิด ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอค่ะ……..”
“อิคารอสไม่ใช่คู่ต่อสู้!” ฮินางิคุมองหน้าอิคารอสด้วยความสงสัย เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป จากนั้นเธอก็หันไปจ้องหน้าจออัญเชิญเขม็ง
“งั้นก็ต้องเก่งสุดๆเลยสิ? ชักอยากสู้กับเธอแล้วแฮะ!” กำหมัด มิโคโตะพูดด้วยกำลังใจเต็มเปี่ยม ทำให้วู่หยานที่อยู่ใกล้ๆคิ้วกระตุก ส่วนอิคารอสก็ทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เธอหยุดไป
“เอาล่ะ เรามาเตรียมตัวทักทายเพื่อนใหม่กัน!”
พูดเสร็จ วู่หยานก็จิ้มปุ่มอัญเชิญ
วินาทีต่อมา แสงสีขาวก็สว่างจ้าปกคลุมทั่วทั้งห้อง!
ใจกลางแสงนั้น มีเงาที่มีรูปร่างโค้งเวาไม่แพ้อิคารอสค่อยๆปรากฏขึ้น จากนั้นไม่นานเธอก็ปรากฏออกมาทั้งตัว!
ผมสีบลอนด์ที่กระพือแม้จะไม่มีลมพัด ผมของเธอยาวไปจนถึงขาและถูกมัดเป็นทรงโพนี่เทล พวกมันต่างเริงระบำราวกับกำลังยินดีถึงการมาของผู้เป็นนาย
เธอสวมใส่ชุดเกราะเบาที่ดูคล้ายๆกับชุดที่อิคารอสใส่ตอนเขาอัญเชิญมา ส่วนล่างของเธอเป็นกระโปรงที่สั้นมาก แต่สีชุดของเธอแตกต่างจากของอิคารอสที่เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ของเธอจะเป็นสีฟ้าซะส่วนใหญ่ผสมกับสีขาวเล็กน้อยบางจุด ตรงหูของเธอก็เหมือนกับอิคารอสมีเครื่องประดับรูปปีกอันเล็กๆ ทำให้สาวน้อยคนนี้ดูมีเสน่ห์ขึ้นอย่างมาก
คู่ปีสีขาวบริสุทธิ์ด้านหลังสั่นไหวเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าเธอยิ่งดูงดงามมากกว่าเดิม และส่วนหน้าเธอเองก็ใหญ่ไม่แพ้อิคารอสเลยเช่นกัน พวกมันทั้งสองต่างชูสง่าต้านแรงโน้มถ่วงโลก มันใหญ่มากๆ………
“…แอส….เทรีย….” อิคารอสพูดพึมพำ สายตาที่มองแอสเทรียดูเหม่อลอยราวกับเธอกำลังรําลึกถึงความทรงจำในอดีต วู่หยานเห็นแบบนี้เขาก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
นี่ไม่ได้หมายความว่าอารมรณ์ของอิคารอสเริ่มมีมากขึ้น?
บางทีอาจเป็นเพราะ ภาพตอนที่อัญเชิญอิคารอสมายังตราตรึงอยู่ในใจอยู่ ครั้งนี้พวกเขาเลยไม่ได้ตกใจจนสติไม่อยู่กับตัวเหมือนคราวอิคารอส
ช่วงที่แสงหายไป ก็มีลำแสงยิงออกมาจากตัวแอสเทรียเข้าหาหัวใจวู่หยาน ภายใต้พลังลึกลับ เสียงหัวใจของวู่หยานกับแอสเทรียก็กลายเป็นตรงกัน จากนั้นลำแสงก็สลายกลายจุดแสงเล็กๆแล้วลอยเข้าตัววู่หยาน……..
ขณะที่จุดแสงลอยเข้าตัววู่หยาน แอสเทรียก็ราวกับได้รับสัญญาณอะไรบางอย่าง เปลือกตาเธอสั่นไหวเบาๆ
ไม่นานนักเธอก็ลืมตาขึ้น นัยน์ตาสีแดงส่งประกายเหมือนอิคารอสยามเปิดใช้โหมดยูเรนัสควีน จะแตกต่างจากอิคารอสตรงที่นัยน์ตาเธอไม่ได้ราบเรียบไร้อารมณ์ แต่มันดูมีชีวิตชีวามากกว่า
หน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นมาตรงหน้าวู่หยาน เป็นสเตตัสของแอสเทรีย……
ชื่อ : แอสเทรีย
ความสามารถ : ‘เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด’
พลัง(พละกำลัง) : A
ความอึด : A
ความเร็ว : A
จิตใจ : C
อุปกรณ์ : ไคเซอร์ ‘ดาบโฟตอนคลื่นความถี่สูง’ (ระดับC) อีจิส (ระดับC)
Level : 75
…………
วู่หยานประหลาดใจมากที่เห็นว่า ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดกับโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดจะแค่ระดับC เป็นแค่ ยุทธภัณฑ์ดิน !
เมื่อเขาถามระบบ คำตอบที่ได้ทำวู่หยานพูดไม่ออก ถึงแม้มันทั้งสองจะเป็นระดับC แต่มันก็เหมือนอพอลโลของอิคารอส หรือก็คือ มันเป็นระดับCขั้นสุดยอด! พลังใกล้เคียงกับระดับB!
วู่หยานถอนหายใจ แองเจิ้ลรอยด์นี่โหดๆกันหมดเลยสินะ……..
ไม่นาน แอสเทรียก็ตื่นเต็มตา ในนัยน์ตาสีแดงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เธอกวาดตามองรอบๆตัว จากนั้นเอียงหัว โดยมีเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ
ด้วยความงุนงง แอสเทรียเปิดปากพูดว่า “ที่นี่ที่ไหนน่ะ?”
“………” วู่หยาน ฮินางิคุ และ มิโคโตะ หันมามองกันและกัน ก่อนจะหันไปมองแอสเทรียด้วยสีหน้าแปลกๆ
แอสเทรียโยกหัวไปมา ขณะที่กำลังพยายามทวนความจำ เธอก็สังเกตเห็นอิคารอส เธอก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
“เอ๊ะ? รุ่นพี่อิคารอส! ทำไมรุ่นพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้คะ?”
“………” ไม่รู้ว่าพวกเขาเข้าใจผิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกเหมือนอิคารอสจะหยุดนิ่งไป ก่อนจะหันไปมองวู่หยาน ด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ “..มาสเตอร์……”
ยังไม่ทันที่วู่หยานจะได้อ้าปากพูดอะไร แอสเทรียก็ส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง เธอหันมามองวู่หยานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะกระโดดมาตรงหน้าวู่หยาน “มาสเตอร์! นายเป็นมาสเตอร์ของฉัน?”
มองดูใบหน้างดงามที่ยื่นเข้ามาเกือบโดนหน้าเขา มุมปากวู่หยานกระตุก “ก็ถ้าว่าตามปกติ…ก็ใช้ล่ะนะ…..”
ได้ยินแบบนี้ แอสเทรียคุกเข่าลงพื้นทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆว่า “มาสเตอร์! ฉันเป็นแองเจิ้ลรอยด์รุ่นเดลต้า มีความสามารถในการสู้รบระยะประชิด แอสเทรียค่ะ! มาสเตอร์มีคำสั่งอะไรไหมคะ?”
“ยะ….ยังไม่มีหรอก….” วู่หยานหันหน้าหนีด้วยท่าทางไม่เป็นธรรมชาติ เขากลัวตัวเองจะทนไม่ไหวถ้าก้มหน้าลงไปมองอีกนิด เพราะยังไงซะชุดเธอก็เป็นแบบเปิด แค่มองลงไปเขาก็เห็นอะไรๆหมดแล้ว…….
“ธะ…เธอรีบลุกขึ้นก่อนเร็ว…..” การที่มีสาวสวยมานั่งคุกเข่าตรงหน้าแบบนี้ วู่หยานรู้สึกไม่คุ้นมากๆ…….
“ค่ะ! มาสเตอร์!” แอสเทรียลุกขึ้นมา แล้วราวกับเธอนึกอะไรออก อยู่ๆเธอก็ตะโกนเสียงดัง “ใช่แล้ว! มาสเตอร์! เรายังไม่ได้อิมพริ้นท์กันเลย!”
จากนั้น เธอก็ไม่รอให้วู่หยานได้ทันตอบสนอง แอสเทรียยื่นมือไปจับมือวู่หยานทันที
“อิมพริ้นท์ สตาร์ท!”
“……….”
ราวกับเวลาได้หยุดลง เหล่าสาวสายกับอีกหนึ่งอาตาคุตายืนงุนงง ไม่มีใครพูดอะไร…….
“อิมพริ้นท์ สตาร์ท!” เสียงแอสเทรียดังขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่าถ้าพูดเสียงดังขึ้น ไอ้ ‘อิมพริ้นท์’ อะไรนี่จะได้ ‘ยิน’ แล้วปรากฏออกมา…….
แน่นอนว่าไม่มีอะไรปรากฏออกมา ทั้งห้องเงียบสนิท……
“เห๊ะ? เอ๊ะ? เอ๊ะ!!” แอสเทรียลนลานขึ้นมาทันที ปล่อยมือวู่หยานลง แล้วยื่นมือจับที่คอตัวเอง ในความทรงจำสัมผัสของเหล็กเย็นๆได้หายไป ที่เธอสัมผัสได้มีแค่คอขาวเนียน
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง? ปลอกคอหายไปไหน? แงงง!!” แอสเทรียร้องเสียงแหลม ในนัยน์ตาเริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เธอกระโดดขึ้นๆลงๆในห้อง ทำให้ห้องดูวุ่นวายขึ้นมาทันที
“………..” ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลย ยกมือนวดขมับ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมระบบประมวลผลเธอถึงต่ำ แล้วยังไอ้ค่าจิตใจระดับCนั้นอีก…….
“ฮะ…ฮ่าฮ่า ปะ..เป็นคนร่าเริงดีนะ….” ฮินางิคุฝืนยิ้ม เธอไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เป็น แองเจิ้ลรอยด์ เหมือนอิคารอส แต่ทำไมนิสัยแอสเทรียถึงได้แตกต่างกันมากขนาดนี้……
“เอาเถอะ แค่ยิ้มได้ก็โอเคแล้วล่ะนะ……”