- ตอนที่ 163 สายเรียกของมิโคโตะ และ เสียงกรีดร้องของคุโรโกะล่ะ!
SGS บทที่ 163 – สายเรียกของมิโคโตะ และ เสียงกรีดร้องของคุโรโกะล่ะ!
การมาของอิคารอสนั้นเรียกได้ว่าสวรรค์ทรงโปรดเขาโดยแท้…..
ต้องรู้ก่อนว่า ในบ้านเขามีเจ้าแม่กินจุอยู่ และความเร็วในการทำอาหารแต่ละจานมันไม่สมมาตรกับความเร็วของคนกินเลยแม้แต่น้อย แต่ละครั้งที่เธอหิว เขาก็ต้องเข้าครัวจับมีดทำอาหารไปจนกว่าเธอจะพอใจ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่มันเล่นหิวแทบจะตลอด24ชั่วโมงเลยเนี่ยสิ……
แต่ตอนนี้เขามีอิคารอสเป็นผู้ช่วย ไม่ต้องสงสัยเลยมันลดภาระบนบ่าของวู่หยานไปได้มาก ถึงแม้ตอนนี้ฝีมือทำอาหารอิคารอสจะยังไม่ได้เก่งกาจมากนัก แต่เธอสามารถเรียนรู้ได้เร็วสุดๆเลยล่ะ
เวลาที่เพิ่มขึ้นมา ทำใหวู่หยานมีความสุขแต่ในขณะเดียวกันเขาก็เย็นสันหลังวาบ………
นี่ขนาดมีแอสเทรียแค่คนเดียวเขายังทรมานใจและกายขนาดนี้ แล้สถ้าเกิดอนาคตเขาดันเผลอไปอัญเชิญ ยูยูโกะ จาก โทโฮ(Touhou)มาล่ะ…….
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่วู่หยานคิดว่าผู้หญิงมันไม่น่ารักเลย…….
ขณะที่เขาคิดไปเรื่อย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นปลุกเขาขึ้นมา หยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยสงสัย ก่อนจะเห็นชื่อคนโทรเป็น มิโคโตะ
พอมาคิดดู โทรศัพท์นี่ก็เป็นมิโคโตะซื้อให้ นอกจากทองที่เอามาจากโลกซิลวาเรียวู่หยานก็ไม่มีทรัพย์สินอย่างอื่นเลยในเมืองแห่งการศึกษา
เทียบกับเขาที่ยากจนแล้ว มิโคโตะที่เป็นอันดับ3แห่งเมืองการศึกษา เธอรวยมาก ถึงขนาดตัวเธอยังขี้เกียจที่จะนับจำนวนเลขในบัญชีเลย
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงซื้อโทรศัพท์ให้วู่หยานเมื่อตอนที่ได้ยินว่าเขาไม่มีใช้ นี่ทำให้วู่หยานเริ่มสงสัยว่าตัวเองกลายเป็นแมงดาไปแล้ว…..
แน่นอนว่ายังมีอีกเหตุผลและเป็นเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดที่วู่หยานไม่อยากเก็ยโทรศัพท์นี้ไว้กับตัว…..
วู่หยานมองดู โทรศัพท์เกโคตะ รุ่นลิมิเต็ด ที่กำลังส่งเสียงออกมาไม่หยุด แถมมันยังเป็นสีชมพูอีกต่างหาก นี่ทำให้ใจวู่หยานหนักอึ้ง…….
เขาถอนหายใจและรับมัน
“ไง มิโคโตะ….”
“ทำไมนายรับช้าขนาดนี้ ยุ่งนักหรือไงยะ!” เสียงอันไม่พอใจของมิโคโตะดังออกมาจาก โทรศัพท์เกโคตะ รุ่นลิมิเต็ด ทำให้วู่หยานเงียบ จะให้บอกเธอหรือไงว่าตัวเองกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่น่ะ?…..
“คุณพี่คะ ไอ้ขยะนั้นกำลังทำเรื่องไร้ยางอายอยู่แน่ๆเลยคะ บางทีอาจกำลังหลอกเด็กสาวไม่บรรลุนิติภาวะไปล่วงละเมิดทางเพศก็ได้นะ ทำไมคุณพี่ถึงต้องลดตัวไปโทรหาขยะแบบนั้นด้วคะ? แถมันงคิดตะเชิญ……..”
เสียงนุ่มนวลที่เจือปนไปด้วยความดูถูก อคติ อิจฉา และเกลียดชัง แม้จะใช้เท้าคิดวู่หยานยังรู้เลยว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนี้ ยัยบ้านี่ ชอบหาเรื่องพูดจิกกัดเขาตลอด…….
เมื่อคิดว่ามันคงจะไม่จบสิ้นแน่ถ้าเถียงไป ดังนั้นวู่หยานจึงทำเป็นไม่ได้ยิน “มีอะไรรึเปล่า มิโคโตะ?”
เสียงกลั่วคอ ‘อะแฮ่ม’ ของมิโคโตะดังออกมาจากอีกฝั่ง ไม่รู้ว่านี่ทำให้วู่หยานหรือให้ยัยโรคจิตขาวดำนั่น เธอลังเลชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อว่า
“วันนี้นายมีเวลาว่างไหม?”
“โห?” ได้ยิน วู่หยานก็สงสัย ก่อนจะพูดหยอกเธอ “เวลาว่างน่ะฉันมีอยู่แล้ว แต่แค่ไม่คิดเลยว่ามิโคโตะคนนั้น จะเป็นฝ่ายมาชวนฉันไปออกเดท….”
“…….ไม่ใช่……..”
“ไม่ใช่เดท!!!” สิ่งมีชีวิตขาวดำตะโกนแทรกเข้ามา “คุณพี่จะไปเดทกับขยะแบบนี้ได้ยังไงกัน! คุณพี่เป็นของคุโรโกะค่ะ! ถ้าจะเดทก็ต้องไปกับคุโรโกะ!”
วู่หยานหน้าเจื่อนไม่รู้ว่าจะพูดตอบยังไงดี และไม่รู้ว่ามิโคโตะกับคุโรโกะโทรหาเขาจากที่ไหน แต่หลังจากยัยคุโรโกะตะโกนบอก ‘ความรัก’ ของตัวเองไป เสียงจากอีกฝั่งก็ดูวุ่นวายขึ้นมาทันที
“คุโรโกะ! เธอพูดบ้าอะไรออกมาเนี่ย!!” วู่หยานเดาได้เลยว่า ตอนนี้มิโคโตะคงกำลังโดนจดจ้องจากสายตา ‘อยากรู้’ ของคนเดินถนนแถวนั้นแหงๆ เลยทำให้เธอโกรธแบบนี้…..
“คุโรโกะ ไม่ได้พูดมั่วๆนะคะ! คุณพี่จะเป็นของหนูตลอดไป! คุณพี่คะลืมไอ้ขยะนั้นไปแล้วเราไปกันสองคนเถอะนะคะ…..แหะแหะ….!”
เสียงหัวเราะ แหะแหะ แปลกๆนั้นยิ่งทำให้มิโคโตะหัวร้อน ยิ่งทำให้วู่หยานหน้าเจื่อนมากขึ้น
เฮ้ ตกลงเธอจะคุยกับฉันหรือยัยนั้นกันแน่เนี่ย……
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คงหนีไม่พ้นมิโคโตะโกรธจนคลั่งแล้วช็อตไฟฟ้าใส่คุโรโกะ ถึงตอนนั้น คิดว่าโทรศัพท์ในมือเธอจะรอดปลอดภัยเหรอ?
ดังนั้น วู่หยานจึงรีบส่งเสียงหยุดเธอ “เอ่อ มิโคโตะ ตกลงเธอโทรหาฉันเพื่ออะไรกันแน่?”
“เอ๊ะ?โอ้ ใช่แล้ว!” สุดท้ายมิโคโตะจำธุระได้สักที “นาย ถ้ามีเวลาว่าง ก็มาร้านอาหารก่อนหน้านี้หน่อย แล้วก็พาแอสเทรียมาด้วยล่ะ!”
“……..อะไรกันไม่ใช่ เดท หรอกเหรอ………..” วู่หยานพูดด้วยความเสียใจ เขาก็คิดว่าเธอจะชวนไปเดท ‘อันเร่าร้อน’แบบคราวที่แล้วซะอีก……
“นายนี่มัน….” บางทีอาจเป็นเพราะมิโคโตะนึกถึงเดทครั้งก่อน เธอจึงหน้าแดงกล่ำทันที แล้วตะโกนใส่ด้วยความโกรธ
“พาแอสเทรียมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!!”
“โอเค แล้วก็ฉันจะพาอิคารอสไปด้วยเหมือนกัน!”
“นายหาอิคารอสเจอแล้ว?” มิโคโตะอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะถามด้วยด้วยอารมณ์ดีใจ
“อืม เธอรออยู่นั่นแป๊ปหนึ่ง ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
“จะดีที่สุดถ้าขยะอย่างคุณเดินตกลงท่อน้ำทิ้งไปซะ แล้วจมหายไปจากคุณพี่ตลอดกาล!!” คุโรโกะร้องอกมาด้วยความไม่พอใจ เสียงมันดังใกล้โทรศัพท์มาก เธอยังไม่ชอบเขาเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ…..
“คุโรโกะ!”
หลังจากเสียงร้องนี้ สายก็ตัดไป วู่หยานฝืนยิ้มแล้วส่ายหน้ามองดูโทรศัพท์เกโคตะในมือ จากนั้นเห็นแอสเทรียที่ยุ่งอยู่กับการกิน รอยยิ้มเขาก็ยิ่งฝืดเคืองกว่าเดิม…..
…………….
เมืองแห่งการศึกษา โรงเรียนเขต7 ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง……..
พาสองสาวแองเจิ้ลรอยด์หุ่นทรงนาฬิกา เขาได้รับสายตา ‘รักไคร่’ จากผู้คนที่เดินผ่านไปมาอยุ่บ่อยๆ และเดินเข้าร้านอาหารไป ชั่วขณะที่วู่หยานเดินผ่านประตูเข้าไปเขาก็เห็นมิโคโตะกับคุโรโกะ
แต่ที่ทำให้วู่หยานงุนงง คือนอกจากคุโรโกะยังมี คนคุ้นหน้าที่หนึ่งนั้นเป็นจัสจ์เม้น จากสาขา177 อุยฮารุ คาซาริ และมีอีกคนที่เขารู้จักดีแต่ยังไม่เคยพบกัน!
ผมยาวดำถึงกลางหลัง บนหัวทางซ้ายเธอมีกลับดอกไม้ห้าแฉกสีขาว ใส่ชุดโรงเรียนซากุกาวะเหมือนอุยฮารุ ความประทัปใจแรกคือสาวที่เต็มไปด้วยพลังงานและมีนิสัยเปิดกว้างร่าเริง มีหุ่นแบบเดียวกับอุยฮารุ เป็นหนึ่งในสี่สาว ที่ตัวเล็กและน่ารักสุดๆ!
มองแว่บแรกวู่หยานก็จำได้ทันที
ซาเต็น รุยโกะ!!
เธอเรียนอยู่ระดับเดียวกันกับอุยฮารุ และยังอยู่ห้องเดียวกันด้วย เธอเป็นเพื่อนสนิทของอุยฮษรุ และมีพลังเลเวล6 ‘ถลกกระโปรง’ ที่สามารถจัดการอุยฮารุได้อย่างอยู่หมัด
ความทรงจำเลือนรางเริ่มแจ่มชัด แววตาที่วู่หยานมองซาเต็นไม่เพียงแต่เคารพยังมีความปรารถนาด้วย
อีกฝ่ายทำให้วู่หยานเกิดความรู้สึกอิจฉาและโลภ เพราะเธอผู้ถือครองพลังที่ไม่มีขายในระบบ!
“หยาน! ทางนี้!!” ด้วยสาวสวยสองคนด้านหลัง ต่อให้วู่หยานอยากทำตัวไม่เด่นแค่ไหนก็ยากอยู่ดี เมื่อเห็นทั้งสามคน มิโคโตะก็จำได้ทันที เธอรีบโยกมือโบก
พร้อมกับเสียงมิโคโตะ ก็มีสายตาทิ่มแทงและไม่พอใจจากคุโรโกะทันที ทำให้มือที่เขากำลังจะยกโบกตอบแข็งค้าง พร้อมกันนี้ก็มี สายตาประหลาดใจของอุยฮารุ กับสายอยากรู้อยากเห็นของซาเต็น
“ไง! พี่สาวมิโคโตะ! ฉันมาแล้ว!”
เมื่อแอสเทรียเห็นมิโคโตะตาเธอก็เปร่งกระกาย รีบยกมือโบกรัวๆ มืออีกข้างก็เอามาป้องปากตะโกนเรียกมิโคโตะอย่างมีความสุข เธอไม่คิดปิดบังนิสัยน่ารักและร่าเริงของเธอเลย
เมื่อเห็นอิคารอสที่ยืนอยู่ด้านหลังวู่หยาน ในแววตาของ อุยฮารุกับซาเต็น เป็นประกายแห่งความช็อคที่ยากจะปกปิด แม้แต่คุโรโกะยังโดนดึงดูด
มิโคโตะนั้นต่างออกไป ในใจเธอรู้สึกอึดอัด…….
ถ้ามิโคโตะกับแอสเทรียยืนคู่กัน 99.5%ต้องคิดว่าแอสเทรียเป็นพี่ ส่วนอีกครึ่งที่เหลือเป็นพวกที่มองแบบพิเศษ(โลลิ)…..
กับมิโคโตะและฮินางิคุที่ดูแลเธอ แอสเทรียไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะโกนเรียก ‘พี่สาว’ ในที่สาธารณะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มิโคโตะกับฮินางิคุรู้สึกอึดอัด…..
ในเวลานี้ มิโคโตะเริ่มรู้สึกเสียใจ ที่ทำไมตัวเองถึง บอกให้วู่หยานพาแอสเทรียมาด้วย…..