- ตอนที่ 165 พบตัวแล้ว!
แสงของ เมลท์ดาวน์เนอร์ สะท้อนให้เห็นถึงใบหน้าตกใจของทุกคน แต่ก่อนที่ใครจะทันตอบสนอง ลำแสงก็ระเบิดใส่ตัวอิคารอสแล้ว!
“อิคารอส!” พวกมิโคโตะร้องออกมา มุกิโนะหัวเราะสะใจ แต่ไม่นานนักหน้าเธอก็แข็งทื่อ
เมลท์ดาวน์เนอร์ หายไปและไม่ทำให้อิคารอสบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย เพราะด้านหน้าเธอมี เกราะคริสตัลโปร่งใส อยู่!
เห็นแบบนี้ มุกิโนะยกคิ้วขึ้น “เกือบลืมไปแล้วสิ ว่าพลังของยัยทรยศนี่สามารถป้องกัน เมลท์ดาวน์เนอร์ ของฉันได้น่ะ…..”
มิโคโตะและคนอื่นๆถอนหายใจโล่งอก แต่ในใจมิโคโตะก็อดโมโหตัวเองไม่ได้ที่ไปห่วงเสียเปล่า เธอที่เป็นซัมมอนของวู่หยานรู้ดีกว่าใครทั้งหมดถึงพลังของอิคารอสที่ยังมากกว่าตัวเธอเสียอีก!
เป็นเพราะเธอเป็นห่วงกับมันเกิดขึ้นปุบปับเกินไป จนเธอลืมนึกถึงพลังของอิคารอสสนิท……
แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้ความโกรธเกรี้ยวในใจมิโคโตะลดน้อยลง!
“ยัยนี่!” กำหมัดแน่น สายฟ้ารอบตัวมิโคโตะรุนแรงขึ้น “เธอกล้าดียังไงมาโจมตีเพื่อนของฉันต่อหน้าฉันแบบนี้!”
นัยน์ตาสีแดงชาดของแอสเทรีย จ้องเขม็งไปที่มุกิโนะในแววตาเธอเป็นประกายเส้นข้อมูล ทำให้มุกิโนะที่กำลังจ้องหน้ากับมิโคโตะและอิคารอสตัวเย็นยะเยือก
แอสเทรีย เองก็แข็งแกร่งกว่ามิโคโตะเช่นกัน!
คุโรโกะ หยิบสัญลักษณ์จัสจ์เมนท์จากในกระเป๋าออกมา แล้วตะโกนใส่มุกิโนะ “โจมตีผู้อื่นต่อหน้าจัสจ์เมนท์ แม้ว่าคุณจะเป็นเลเวล5 ดิฉันก็จะจับคุณค่ะ!”
“นี่ต้องโครตถามพวกเราก่อนค่ะ!”
คินุฮาตะกับเฟรนด้าที่อยู่ด้านหลังมุกิโนะก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าวพร้อมกัน ประจันหน้ากับพวกคุโรโกะ ทั้งสองฝ่ายมองกันและกัน พร้อมกันนั้นบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้น!
“เดียวสิ! ทำไมอยู่ๆมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย!” ซาเต็นจับแขนอุยฮารุด้วยความกังวล ตอนนี้ที่นี่มีผู้มีพลังจิตที่ทรงพลังหลายคน แม้แต่เลเวล5ถถึงสองคน นี่ไม่ใช่อะไรที่เธอจะเข้าไปยุ่งได้
อุยฮารุก็มีสีหน้าลังเล เธอตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะโทรเรียกให้คนอื่นมาช่วยดีไหม
มีเพียง ทาคิสึโบะ ที่ยืนอยู่ด้านหลัง มุกิโนะ ราวกับว่าตัวเองไม่เกี่ยว
อย่างแรก พลังของเธอมันไม่เหมาะไว้ใช้สู้ อย่างที่สอง มันมีปีศาจที่กลับชาติมาเกิดยืนอยู่ตรงนั้นอยู่……
ในเวลานี้เอง วู่หยานก็เดินกลับมา ใช่! เขากลับมาแล้ว!
ไม่ว่าจะมองมุมไหนยังไง การเจอกันครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าบังเอิญล้วนๆ แต่ถึงมันจะบังเอิญ แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนนอกควรรู้ ไม่งั้น พรุ่งนี้คงมีข่าวกระจายออกไปทั่วเมืองแห่งการศึกษาแน่!
ตั้งแต่ตอนที่มุกิโนะและพวกโชว์ตัวออกมา วู่หยานก็แอบลุกเดินออกไปเงียบๆ แล้วยืมชื่อของจัสจ์เมนท์เพื่อไล่กลุ่มคนในร้าน!!!
แต่เรื่องนี้ไม่มีใครคิดสงสัยเลย เพราะต่อให้ไม่มีวู่หยานไปไล่ พวกเขาก็รู้ดีว่าการต่อสู้ระหว่างเลเวล5 ตัวเองต้องโดนลูกหลงด้วยแน่ๆ ดังนั้นแต่ล่ะคนดุจกระต่ายป่ารีบวิ่งหนีกันอย่างไว…..
นี่ทำให้วู่หยานตบมุขในใจ ขณะที่ในใจคิดว่าถ้าเรื่องแบบนี้ไปเกิดที่โลกเขา เขาสงสัยว่ามันจะมีใครหน้าไหนวิ่งหนี กลับกันพวกเขาคงมายืนล้อมแล้วตะโกนปลุกระดมใจใส่แน่ๆ เช่น ‘เอาเลย! บวกเลย!’
เมื่อเขากลับมา บรรยากาศตึงเครียดก็ลดลงเล็กน้อย มิโคโตะเก็บไฟฟ้ารอบตัวกลับมา ส่วนมุกิโนะก็จ้องเขม็งไปที่วู่หยาน
นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะคนที่เหลือที่นี่ล้วนเป็นผู้หญิง วู่หยานที่เป็นผู้ชายตัวโตย่อมเด่นอยู่แล้ว
มุกิโนะสามารถรู้ได้ว่าชายคนนี้อยู่ฝ่ายเดียวกับอันดับ3 ผู้ชายที่อยู่ฝั่งเดียวกับยัยทรยศ นี่ทำให้มุกิโนะต้องสงสัยอย่างไม่มีทางเลือก
ถ้าเมื่อก่อนมีคนถามเธอว่าใครคือคนที่เธอเกลียดที่สุด มุกิโนะก็จะตอบว่าเป็นมิโคโตะ แต่ถ้าถามเธอตอนนี้ว่าเกลียดใครสุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นไอ้หนูโสโครกในคืนนั้น!
ไม่รู้ทำไมเพราะอะไร แต่เมื่อเธอเห็นวู่หยาน เธอก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิม แค่มองตัววู่หยานเธอก็รู้สุกระคายเคืองลูกตาแล้ว!
แน่นอนว่า วู่หยานมองเห็นสายตาไม่มิตรของมุกิโนะ นี่ทำให้เขาทำได้แค่กรอกตามองบน ‘ช่วยไม่ได้ ใครใช่ให้เรามีร่างกายที่สามารถเรียกเท้า(ตีน)ได้ง่ายกันล่ะ……’
“มาสเตอร์!” เมื่อวู่หยานกลับมา อิคารอสกับแอสเทรียก็กลับไปอยู่ข้างตัวเขา แต่เมื่อสองสาวเรียกเขามาสเตอร์ วู่หยานก็รู้ทันทีว่างานเข้าอีกแล้ว
ไม่คาดคำ คินุฮาตะกับเฟรนด้าเบิกตากว้างมองวู่หยาน ยกมือนิ้วเล็กขึ้นชี้ไปที่ตัวเขา อ้าปากหวอแต่ไม่สามารถเค้นคำพูดออกมาได้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอได้ยินใครบางคนเรียกว่า ‘มาสเตอร์’ ยัยทรยศนั่นก็เรียกผู้บุกรุกที่เอาเปรียบพวกเธอแบบนั้นเหมือนกัน!
“นายนี่เอง!” มุกิโนะส่งเสียงร้องออกมา ตอนที่อิคารอสโผล่มา ถึงเธอจะสลปไป แต่เธอก็ได้ยินเรื่องจากพวกคินุฮาตะแล้ว!
วู่หยานถอนหายใจ สรุปแล้วตูก็หลบไม่พ้นสินะ……
แต่วู่หยานก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นหัวเราะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้เขาจะพยายามป้องกันไม่ให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นคนขโมยซิสเตอร์ แต่ถึงมันจะเปิดโปงแล้ว เขาก็ไม่ได้กลัวอะไร
“โยว เป็นไงบ้าง ไม่เจอกันนานเลยนะ!”
วู่หยานทักทายมุกิโนะต่อหน้ามิโคโตะกับคุโรโกะที่ทำหน้าประหลาดใจ ราวกับตัวเองเป็นคนนอก เขาใจเย็นมาก
“นายรู้จักเธอด้วย?” มิโคโตะขมวดคิ้ว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าวู่หยานออกไปขโมยซิสเตอร์ แต่เธอไม่รู้ว่าเขาได้ไปต่อสู้กับพวกมุกิโนะ
“แม้ว่าคุณจะรู้จักเธอ ดิฉันก็ไม่ยกโทษให้หรอกนะคะ!” คุโรโกะเองก็ขมวดคิ้ว
ยังไม่ทันที่วู่หยานจะได้อ้าปากพูด มุกิโนะก็หัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำเสียงเธอแหลมมาก “ไม่รู้จักมัน! จะเป็นไปได้ยังไง รู้ไหมว่าตลอดหลายวันมานี้ ฉันเฝ้าคิดถึงหมอนี่อยู่ทุกวัน!!”
คำพูดกำกวมดังออกมาจากปากมุกิโนะ แต่ไม่มีใครสักคนที่คิดว่าวู่หยานกับมุกิโนะมีความสัมพันธ์กันแบบนั้น
เพราะตอนที่เธอพูดออกมา น้ำเสียงมันไม่ได้เจือปนไปด้วยความรักหรือความคิดถึงเลย แต่มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังและแรงอาฆาตแค้น
“พวกนาย…..” เห็นสถาการณ์แบบนี้ สมองทุกคนตามเรื่องราวไม่ทัน แม้แต่แอสเทรียก็มองทั้งสองคนสลับไปมาด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จู่ๆเสียงหัวเราะก็หยุดลง ทันใดนั้นบอลแสงก็ปรากฏออกมารอบตัวมุกิโนะ ในเวลานี้ไม่มีใครสงสัยพลังทำลายล้างของมันอีกแล้ว นี่สามารถทำลายร้านได้เลย!
“ดิฉันจะไม่ให้คุณทำร้ายใครอีกแล้วค่ะ!”
คุโรโกะเห็นอีกฝ่ายคิดจะใช้พลังทำร้ายผู้คนต่อหน้าจัสจ์เมนท์ มือเธอก็เอื้อมไปที่กระโปรง เข็มเหล็กหลายอันก็ปรากฏออกมาที่ง่ามนิ้วมือเธอ
มุกิโนะไม่แม้แต่จะมองคุโรโกะ นัยน์ตาที่เปี่ยมล้มด้วยความเกลียดและแรงสังหารจดจ้องไปที่วู่หยานคนเดียว เธอสามารถยิงออกไปทุกวินาที
วู่หยานเหลือบมองเธอแล้วยักไหล่ จากนั้นจู่ในมือเขาก็ปรากฏรูปภาพออกมาหลายใบ เห็นรูปเหล่านี้ สีหน้าของ มุกิโนะ คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ ก็เปลี่ยนไปอย่างแรง!
วู่หยานโบกรูปไปมาขณะที่หัวเราะเบาๆ “ตายแล้วๆ ไม่คิดเลยเลยว่าจะมีใครบางคนคิดฆ่าเราอยู่ด้วย อ่า~~ทำไงดีน้าตัวฉัน ถ้าเกิดตายไปแบบนี้ ก็อดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้จริงๆแฮะ ที่จะไม่มีคนได้เสพสุขไปกับรูปพวกนี้อีกแล้ว……”
จากนั้น วู่หยานก็หันไปยิ้มแฉ่งให้มุกิโนะ “สุภาพสตรีท่านนี้ ก็คิดเหมือนกันใช่ไหม? ทำไมไม่ให้เวลาผมอีกสักนิด ให้กระผมได้อัพโหลดรูปพวกนี้ขึ้นเว็บก่อน จากนั้นคุณค่อยมาฆ่าผม ว่าไงความคิดนี้ไม่เลวเลยใช่ไหม?”
“แก….” ใบหน้างดงามของมุกิโนะบิดเบี้ยว มองดูใบหน้ายิ้มๆของวู่หยาน ความโกรธในใจเธอพุ่งทะยานถึงสวรรค์ กลับกัน ใบหน้าของ คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ ต่างก็ตกใจและเป็นกังวล
เวลาที่วู่หยานโชว์รูปออกมา พวกเธอจะไม่รู้ได้ไงว่านั้นมันรูปอะไรใช่ไหม? ถ้าเกิดมันแพร่กระจายออกไปล่ะก็ พวกเธอคงไม่มีหน้าไปเจอผู้คนอีกแล้ว……