- ตอนที่ 341 พอได้แล้ว!ยัยพวกบ้า
//ติดตามอ่านตอนล่วงหน้าได้ที่เพจเฟสบุ๊ค – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล
ปัจจุบันมีทั้งหมด 1850 ตอน จะจบแล้วครับมี2000ตอน
SGS บทที่ 341 – พอได้แล้ว!ยัยพวกบ้า!!
คลื่นพายุพลังงานอันบ้าคลั่งไม่สามารถฝ่าทะลุเอจิสออกมาได้ ทำได้เพียงแต่ส่งเสียงตู้มต้ามข้างในโล่ จนสุดท้ายก็สลายหายไป โดยเหลือเพียงไว้แต่เศษซากลานประลอง……
ในเวลานี้เอง แววตาอึ้งทึงของนักเรียนแต่ละคนที่มองดูอิคารอสสยายปีกกลางอากาศพร้อมโล่เอจิสในมือก็ได้เปลี่ยนไปเป็น…..หลงไหล
ปีกแสงคู่งามได้สั่นไหวเบาๆ จากนั้นเปลี่ยนกลับไปเป็นปีกสีขนนกสีชมพูดังเดิม พร้อมกับวงแหวนสีขามบนหัวได้หายไป และนัยน์ตาสีแดงเองก็ได้เปลี่ยนกลับไปเป็นสีฟ้าเหมือนเดิมเช่นกัน รวมถึงชุดเกราะเบาสีขาวที่เปลี่ยนกลับเป็นชุดนักเรียน…..
ถ้ามาดนางฟ้าอันดุดันเมื่อกี้ทำให้พวกเขาหลงใหลแล้วล่ะก็ ลุคนางฟ้าอันอ่อนโยนนี่ของเธอก็ได้ขโมยหัวใจของพวกเขาไปแล้ว……
ถ้าให้เปรียบ อิคารอสในโหมดควีนยูเรนัส(ราชินีแห่งท้องฟ้า)ก็คือตัวเธอตอนที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้างั้นในร่างปกตินี้ก็เป็นร่างที่เธองดงามที่สุด!
ปีกกระพือเบาๆทำให้ขนนกสีชมพูร่วงลงมา ในเวลานี้อิคารอสดูราวกับนางฟ้าที่ถูกห้อมล้อมด้วยขนนกอันงดงาม ต้องบอกเลยว่าตัวเธอในตอนนี้สวยสะกดตาผู้คนสุดๆ!
เธอสวยจนแม้แต่ คายะที่มีภูมิต้านทานเสน่ห์ของผู้หญิง ยังมองตาลอย……
เธอสวยจนแม้แต่ จาฟาที่มีทัศนคติดูถูกผู้หญิงยังอดไม่ได้ที่ต้องเงยหน้ามองเธอ……
เธอสวยจนแม้แต่ ซิลฟ์ที่มีสีหน้าเย็นชาตลอดยังต้องเงยหน้ามองอิคารอสด้วยแววตาชื่นชม…….
สวยขนาดผู้หญิงด้วยกันเองยังมองตาค้างหัวโล่งว่างเปล่า…….
ในเวลานี้เอง อิคารอสก็ได้กลายเป็นเทพธิดาในใจของคนนับไม่ถ้วนไปแล้ว!
เพียงแต่….น่าเสียดายที่ความงามนี้มีเจ้าของแล้วชั่วนิรันดร์ คนนั้นก็คือมาสเตอร์ของเธอ……
แน่นอนว่าถึงทุกคนจะยืนนิ่งอึ้ง แต่ว่าวู่หยานเรานั่นไม่ ความสวยของอิคารอสเขารู้ดีที่สุดและยังได้ลิ้มรสชาติไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้วด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ตะลึงเหมือนคนอื่น
ขณะที่ทุกคนกำลังยืนนิ่งไม่ไหวติง วู่หยานก็มีสีหน้าโกรธสุด กระทั่งแววตายังวาวโรจน์ด้วยความโมโหอันหนาแน่น
ทว่าพอหันไปมองอิคารอสใบหน้าโกรธๆของเขาก็ได้สลายหายไปเป็นรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะกลับเป็นเหมือนเดิมเมื่อหันไปมองยัยตัวดีทั้งสองคน!
วู่หยานกำหมัดแล้วชูขึ้นจากนั้นเขกลงไปบนหัวของมิโคโตะและซิลฟ์ ภายใต้คงามเงียบสงัดนี้เสียงหมัดกระแทกหัวจึงดังให้ได้ยินอย่างชัดเจน!
“เจ็บ!/เจ็บ……”มิโคโตะร้องออกมาแล้วยกมือทั้งสองกุมหัวโดยที่ตรงหางตาถึงขั้นมีหยดน้ำตาออกมา โมเอะสุดๆ……. ทว่ากับวู่หยานที่โกรธควันออกหัวย่อมไม่มีอารมณ์ที่จะไปชื่นชม
“รู้จักเจ็บด้วยเหรอ!”วู่หยานชี้นิ้วใส่หน้ามิโคโตะ แล้วตะโกนเสียงดัง “รู้มั้ยว่าถ้าฉันตอบสนองไม่ทัน เธอจะไม่มีแม้แต่โอกาศจะรู้สึกเจ็บหรอกนะ!”
มิโคโตะกุมหัวมองวู่หยานที่โทสะลงอย่างอึ้งๆ เพราะเท่าที่เธอจำได้มันไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะโกรธเธอขนาดนี้……
เผชิญหน้ากับวู่หยานในเวลานี้ มิโคโตะทำได้แค่พูดเสียงอ่อยๆ “ฉะ….ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่…..”
“ไม่ได้ตั้งใจ?!” วู่หยานแทบจะพ่นไฟออกจากปากใส่มิโคโตะ
“จะทำอะไรก็หัดรู้ลิมิตรบ้าง! มันไม่สนุกเลยนะที่จะล้อเล่นกับชีวิตตัวเองน่ะ! นี่มันเป็นแค่การประลองไม่ใช่สู้ถึงตาย! แต่…ต่อให้เป็นการสู้ถึงตายก็ต้องเป็นฉันไป! ไม่ใช่เธอ!”
คำด่าเป็นชุดดังออกมาจากปากวู่หยานใส่มิโคโตะที่ตอนนี้ตัวลีบก้มหัวลงด้วยความกลัวไม่กล้าเอ่ยปาก ราวกับเด็กที่ทำผิดแล้วโดนพ่อดุยังไงยังงั้น ในเวลาเดียวกันความรู้สึกอบอุ่นก็พุ่งพล่านในหัวใจเธอ………
ถึงมิโคโตะจะไม่เคยเห็นวู่หยานโกรธขนาดนี้มาก่อน แต่เธอที่คุ้นเคยกับเขาดีย่อมรู้ว่านี่เป็นเพราะเขาเป็นห่วงเธอมาก นี่ทำให้มิโคโตะที่ปกติแข็งกร้าวยังต้องยอมก้มหน้าฟังคำสวดของเขาอย่างโดยดี
“หยาน ฉันผิดไปแล้ว อภัยให้ฉันเถอะนะ…….”มิโคโตะพูดเสียงอ่อนทว่าใบหน้ากลับยิ้มกว้าง
“ยังมีหน้ามายิ้มอีก!” วู่หยานเขกหัวมิโคโตะอีกที เห็นแบบนี้ฮินางิคุก็รีบเข้ามาดึงมือวู่หยานพร้อมกับส่งสายตาดุๆใส่มิโคโตะ จากนั้นพูดกับเขาว่า
“พอแล้ว หยาน นายเองก็น่าจะเข้าใจมิโคโตะดีนี่ เธอที่อุตสาได้เจอคู่ต่อสู้เหมาะสมกับตัวเองเลยยากที่จะควบคุมตัวเองน่ะ……”
“เพราะงั้นก็เลยใช้ชีวิตเข้าเสี่ยงงั้นเหรอ?” วู่หยานเดาะลิ้นเสียงเย็น ทว่าความโกรธในใจก็ได้ลดลงไปมากแล้วเหลือเพียงแค่ความไม่พอใจ
เห็นแบบนี้มิโคโตะก็หันไปมองฮินางิคุด้วยความซาบซึ้ง ฮินางิคุตอบกลับด้วยการถลึงตาใส่ บ่งบอกว่าตัวเธอเองก็ไม่ชอบที่มิโคโตะหุนหันพลันแล่นเหมือนกัน
ขณะเดียวกัน ซิลฟ์ที่กำลังยกมือกุมหัวจุดที่โดนวู่หยานเขกไปก็ได้มองเขายืนสวดใส่มิโคโตะด้วยความไม่อยากเชื่อ ต้องรู้ก่อนว่าตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีใครกล้าตีเธอเลย
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอโดนตีถ้าไม่นับตอนต่อสู้ ทำให้ซิลฟ์เกิดความรู้สึกซับซ้อน
ไม่รู้ว่าซิลจะรู้สึกยังไงนะ ถ้ารู้ว่าสาเหตุที่วู่หยานเขกหัวเธอด้วยก็เพราะเขารู้สึกอยากทำเฉยๆ?
หลังจากได้สติกลับมา สีหน้าของซิลฟ์ก็ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมพร้อมลุกขึ้นจากพื้น แล้วพูดกับมิโคโตะเสียงเย็น “เรามาต่อกันเถอะ…..”
ได้ยินแบบนี้ทุกคนก็ช็อค วู่หยานแทบจะกัดลิ้นตัวเอง เกือบจะตายกันอยู่แล้ว ยังคิดจะต่ออีกรึ! นี่เธออยากตายขนาดนั้นเลย?
วู่หยานคิดอยากจะหันไปสวดใส่ซิลฟ์มาก แต่เขากับเธอไม่ได้สนิทกันแล้วเขาจะไปมีสิทธ์ว่าเธอเหรอ? ด้วยเหตุวู่หยานจึงหันไปจ้องมิโคโตะด้วยสายตาเย็นเชียบแทน
มิโคโตะตัวสั่นระริกทันที จากนั้นรีบโบกไม้โบกมือไปมา “ไม่ๆ ไม่เอาแล้ว พอแล้วไม่จำเป็นต้องต่อหรอก!”
ซิลฟ์ขมวดคิ้ว “เธอยอมแพ้?”
ได้ยินมิโคโตะก็ผุดรอยยิ้มขมขื่น ในใจรู้สึกไม่ยินยอม อยากให้ตัวเธออ้าปากยอมรับความพ่ายแพ้เองนี่มันยากเสียยิ่งกว่ายาก แต่ถึงยังงั้นหยานก็คงไม่ยอมให้เธอต่อแน่ ด้วยเหตุนี้มิโคโตะจึงตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
บางทีซิลฟ์อาจจะเดาความคิดมิโคโตะได้ เธอจึงหันไปมองวู่หยานแทน แล้วเงียบไปด้วยความลังเล
ผ่านไปครู่นึง เธอก็พูดว่า “ครั้งหน้าเรามาต่อกันที่งานประลองของโรงเรียน!”
พูดเสร็จก็ไม่ให้ความสนใจพวกวู่หยานที่ทำหน้าอึ้งๆ ซิลฟ์เงยหน้ามองอิคารอสด้วยแววตาเปร่งประกาย จากนั้นหันหลังเดินนำกลุ่ม ลำนำสีขาว ของตนออกไป…….
เห็นแบบนี้ จาฟา ก็เม้มริมฝีปาก หันไปมองมิโคโตะแล้วไปหยุดที่อิคารอส จากนั้นส่งเสียงฮึ้มดังๆทีนึงแล้วหันหลังเดินจากไป……
คายะไม่ได้เดินจากไปเหมือนทั้งสอง เขายังคงมองอิคารอสค้างมาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ สายตาที่เขามองเธอได้เปลี่ยนจากไร้คสามรู้สึกเป็น…..
สายตาที่มองคนรักแล้ว!
วู่หยานขมวดคิ้วแล้วเดินมาบังด้านหน้าอิคารอส ทำให้คายะได้สติกลับมาเขายกมือเกาแก้มอย่างกระอักกระอ่วน
เขามองอิคารอสแล้วฝืนยิ้ม “ไม่คิดเลยว่าคุณอิคารอสจะเก็บซ่อนได้ลึกขนาดนี้ คายะผู้นี้ช่างมีตาหามีแววไม่จริงๆ…….”
จากนั้นคายะก็ทำปากขมุบขมิบขณะที่มองปีกด้านหลังอิคารอส ทว่าสุดท้ายเขาก็ไม่เอ่ยถามอะไร จากนั้นหันหลังเดินจากไป….โดยที่ก่อนไปยังไม่ลืมส่งสายตาเว้าวอนไปให้อิคารอส…….
เห็นแบบนี้วู่หยาน มิโคโตะ ฮินางิคุก็หันมามองหน้ากันไปมา ส่วนอิคารอสก็หุบปีกลงมายืนอยู่ด้านหลังวู่หยานเหมือนเดิม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น…………