- ตอนที่ 39 สเตตัส เลเวลอัพ เขินอายและการลงทัณฑ์จากสวรรค์
วู่หยานสัมผัสส่วนนึงของบ่อน้ำพุร้อน จากนั้นมันก็ค่อยๆหดเล็กลงจนกลายเป็นก้อนอัญมณีในมือเขา
เก็บอัญมณีลงแหวนมิติ เขานั่งลงกับพื้น ก่อนจะหยิบหินรอบๆมาวางเป็นวงกลม แล้วเอาบอลสีดำออกมาจากแหวนมิติ
วางบนสีดำไว้ใจกลางกองหิน แล้วด้วยวิธีบางอย่างวู่หยานสะบัดนิ้วไปมาไฟก็ลุกพรึบ
เขาหยิบเอาขวดหลายอันออกมาจากแหวนมิติ และก็หยิบเนื้อออกมาวางในตะแกรง แล้วเอาไปย่างไฟ
วู่หยานหยิบขวดข้างๆขึ้นมาเปิดออกแล้วโรยใส่เนื้อที่กำลังย่าง มือก็เปิดดูระบบสเตตัส
ชื่อ : วู่หยาน
ความสามารถ : ปรมาจารย์ดาบ ปรมาจารย์อาหาร ความจำสมบูรณ์ ดาราพลิกสวรรค์
อุปกรณ์ : ดาบคุซานางิ
ซัมมอน : มิซากะ มิโคโตะ
แต้มอุมกรณ์ : 51,000
แต้มไอเท็ม : 8,300,000
แต้มควาสามารถ : 81,000
แต้มอัญเชิญ : 11,000
เลเวล : 45
เมื่อเห็นเลเวลเขาอึ้ง ก่อนจะเรียกสติคืนอย่างรวดเร็ว
เห็นเลเวลพรุ่งพรวดมา15เลเวล ทำให้วู่หยานงุนงงเล็กน้อย แต่พอคิดกลับไปก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน กองทัพปีศาจเป็นพันๆตัว ยังมีปีศาจเลเวล40อีกสิบตัว และเลเวล30อีกหลายร้อยตัว เลเวลอัพขนาดนี้ก็สมเหตุสมผลอยู่
ถึงแม้พวกปีศาจเลเวล20จะไม่ได้ให้ค่าEXPมากเท่าไหร่ และส่วนนึงยังถูกฮินางิคุฆ่าไปด้วย แต่มันก็ทดแทนได้ด้วจำนวน แถมฮินางิคุยังเลเวลแค่18 จะสามารถฆ่าไปได้มากแค่ไหนกันเชียว?
แถมการโกงๆที่แค่เลเวลอีพก็เก่งขึ้นโดยไม่ต้องบ่มเพาะพลังหรือฝึกฝนอะไร คนในโลกซิลวาเรียคนไหนที่สามารถเก่งขึ้นทีเดียวหนึ่งแรงผ่านการฆ่ามอนสเตอร์ได้บ้างล่ะ? เฮ้ออ เกิดมาเป็นพระเอกนี่ช่างเป็นบาปเสียจริง……
สำหรับสเตตัสของมิโคโตะ ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก
ชื่อ : มิซากะ มิโคโตะ
ความสามารถ : Electro Master LV.5 (กระแสไฟฟ้า)
พลัง : C
ความอึด : C
ความเร็ว : B
จิตใจ : A
อุปกรณ์ : ไม่มี
Level : 69
เทียบกับก่อนหน้านี้ ที่เปลื่ยนไปมีแค่เลเวลเพิ่มมาหนึ่งเท่านั้น แต่อย่าคิดว่าแค่หนึ่งเลเวลมันจะเพิ่มง่ายๆเชียวล่ะ
เพราะมิโคโตะไม่เหมือนกันเขา ในกองทัพปีศาจมีตัวเลเวลสูงกว่าเขาเยอะมาก จึงไม่แปลกที่จะเลเวลพุ่ง ดูจากระบบมันเหมือนกับเขาสู้ข้ามเลเวลตัวเอง ดังนั้นEXPที่ได้เลยเยอะกว่าปกติ
แต่กลับมิโคโตะที่เลเวลสูงกว่า ปีศาจที่เก่งสุดก็แค่เลเวล40ยังห่างกับมิโคโตะอยู่มากนัก ดังนั้นค่าEXPที่เธอได้จึงน้อยมาก แต่ทดแทนด้วยปริมาณ เธอถึงเลเวลอัพได้ มันไม่ง่ายเลย….
ปิดระบบ วู่หยานครุ่นคิดในใจ
ตอนนี้ก็เลเวล45แล้ว เท่ากับนักรบแรงค์5ขั้นกลาง ตอนนี้เราควรซื้ออุปกรณ์กับความสามารถใหม่สักที…..
“อืม~” เสียงครางหวานๆปลุกเขา วู่หยานอดยิ้มไม่ได้เมื่อหันหน้ากลับไป
เปลือกตาน้อยๆสั่นไหว ก่อนที่มิโคโตะจะลืมตาขึ้น เธอยกมือมาปิดปาก แล้วหาวออกมา สิ่งแรกที่เธอเห็นหลังจากตื่นนอน คือวู่หยานกำลังนั่งย่างเนื้ออะไรสักอย่าง
“ตื่นจนได้นะ” โบกมือให้เธอ ส่วนมืออีกข้างก็ย่างเนื้อต่อไป ราวกับว่าต่อให้คุยกับเธอไปเขาก็ยังทำอาหารได้
มิโคโตะสะดุ้ง ลุกพรวดหันมองรอบๆตัว เมื่อเห็นศพหายไปหมดก็โล่งอก ถ้าต้องให้พักข้างกองศพ แม้จะไม่ใช้ศพของมนุษย์ก็เถอะ เธอก็ทนไม่ได้อยู่ดี เมื่อนึกถึงภาพเลือดนองเป็นแม่น้ำเศษซากศพ……
มิโครีบส่ายหัวไล่ความคิด ถึงแม้ตอนนี้จะรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยแล้ว แต่ในใจเธอก็ยังไม่ได้ผ่อนคลายมากนัก…..
วู่หยานมองท่าทางเธอตั้งแต่ต้น ถอนหายใจ เขารู้ดีว่าเธอยังไม่สามารถยอมรับมือตัวเองที่ชุ่มไปด้วยเลือดได้ แม้จะเตรียมใจมาก่อนแล้วก็เถอะ…..
กรอกตาไปมา จู่ๆวู่หยานก็หัวเราะแบบแปลกๆ
ได้ยินเสียงวู่หยาน มิโคโตะขมวดคิ้ว ทำไมไม่รู้ อยู่ๆเธอก็รู้สึกไม่สบอารมณ์มากเมื่อเห็นวู่หยานหัวเราะ ไม่สบอารมณ์มากขนมันกลบความรู้อื่นๆของเธอไปจนหมด
“ทำไมนายถึงหัวเราะน่าขยะแขยงแบบนั้นห๊ะ” มิโคโตะถลึงตามองวู่หยาน
“ไม่มีอะไรหรอก….” วู่หยานหยุดหัวเราะ แต่หน้ายังยิ้มแฉ่งอยู่ ทำให้มิโคโตะหงุดหงิดมาก
“เปรี๊ยะๆ” เสียงกระแสสไฟฟ้าดังขึ้น สื่อถึงอารมณ์เจ้าของที่ไม่ดีมากๆแล้วผลมันจะเป็นยังไง
หน้าวู่หยานแข็งค้าง มองมิโคโตะที่ตัวปกคลุมไปด้วยกระแสไฟฟ้าอย่างผวา ในใจเย็นวาบ แต่เมื่อเลื่อนสายตาลงไป สีหน้าเขาก็เปลี่ยนอีกครั้ง เป็นใบหน้าอิ่มเอมใจ
สีหน้าน่ากลัวของวู่หยานทำให้มิโคโตะพบว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง มิโคโตะมองลงไปที่ตัวเอง ทันใดนั้นตาเธอก็เบิกกว้าง ปากเล็กๆอ้าออก กระแสสไฟฟ้าก็หายไป
เสื้อสีขาวสะอาด กับกระโปรงสีเทา เป็นเสื้อผ้าที่เรียบง่ายมาก แต่ก็เป็นเพราะมันดูเรียบง่ายทำให้เธอมองอย่างกับเห็นผี
ชุดฉันเปลี่ยนไป……
มิโคโตะคิดออกทันที ในเมื่อเธอไม่ใช้คนเปลี่ยนแน่ๆ ฮินางิคุก็ยังหลับอยู่ ถ้าคำตอบก็มีเพียงหนึ่งเดียว!
“ทะ…ทะ..ทำไม…” มิโคโตะทำหน้าเอ๋อๆมองวู่หยาน ปากก็พูดตะกุกตะกัก เป็นเพราะเธอรับความจริงตรงหน้าไม่ได้
เห็นเธอรู้ตัวแล้ว วู่หยานก็ยิ้มอย่างแจ่มใสพูดว่า “ทำไมอะไรเหรอ?”
มิโคโตะตรวจสอบทั่วทั้งตัว ก่อนจะค่อยๆยกมือสั่นๆมาปิดหน้าอก “..สะ..สะ..เสื้อผ้าฉัน”
วู่หยานยกนิ้มจิ้มที่ปากตัวเอง พูดว่า “ยังจะพูดอีก ชุดเต็มไปด้วยเลือดแบบนั้น แน่นอนว่าต้องเปลี่ยนอยู่แล้วสิ!”
“เปรี๊ยะ!” จิตใจที่ไม่มั่นคงของเธอถูกแสดงออกมาในรูปแบบกระแสสไฟฟ้า ด้วยความพยายามสุดชีวิต เธอบีบเค้นรอยยิ้มที่สดใสที่สุดออกมา
“ถ้างั้น ใครเป็นเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน? เป็นฮินางิคุที่ตื่นขึ้นมาก่อนหน้านี้ แล้วเปลี่ยนให้งั้นเหรอ?”
เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของมิโคโตะมองมาที่ตัวเอง วู่หยานรู้สึกกดดันมาก เขาเริ่มรู้สึกเสียใจนิดหน่อย ที่ไปพูดกวนเธอแบบนั้น
วู่หยานหยุด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงชอบธรรม “จะแบบนั้นได้ไงล่ะ ในโลกนี้คงมีแค่ฉันที่จะอุทิศตนเสียสละทำให้ ดังนั้นขอบคุณกันด้วยล่ะ!”
อุณหภูมิบนหน้าร้อนขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าเธอก็ค่อยๆแดงขึ้น ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ อุณหภูมิก็ได้ทะลุขีดจำกัดของเธอ เห็นเพียงแค่หน้ามิโคโตะมีเสียงดัง ‘ตู้ม’ ควันลอยขึ้นมาจากหัวเธอ
ด้วยใจที่ว่างเปล่า ทำให้หัวเธอแกว่งไปซ้ายทีขวาทีก่อนจะตกลง โดยไร้การควบคุม
อุหว่า….ปฏิกิริยานี้ ออกจะโอเวอร์เกินไปหน่อยนะ…….
มุมปากวู่หยานบิดเบี้ยว มองดูตามิโคโตะที่กำลังหมุน หน้าก็แดงก่ำ กับหัวเธอที่แกว่งไปมา ในใจคำผุดขึ้นมาคำนึงคือ ‘ไร้เดียงสา’
ขณะที่วู่หยานกำลังพอใจกับผลงานตัวเอง จู่ๆมิโคโตะก็หยุด ก้มหัวลง ด้วยสีหน้ามืดมน
“เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!” แสงสีฟ้าก็ส่องสว่างขึ้น กระแสไฟฟ้ารอบๆตัวมิโคโตะเปล่งแสงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง มิโคโตะเงยหน้ามองวู่หยานด้วยรอยยิ้มพังๆ
วู่หยานสันหลังเย็นวาบ ทำให้เขาตัวสั่น มองมิโคโตะที่ดุงดังเทพสายฟ้าค่อยๆยืนขึ้น วู่หยานมองฉากนี้ด้วยเหงื่อไหลเต็มหน้า
ฝืนยิ้มด้วยสีหน้าอยากร้องไห้ วู่หยานกลืนน้ำลาย แล้วพูดว่า “จะ..จะ..ใจเย็นก่อน มิโคโตะ!”
เสียงปีศาจดังออกมาจากปากเธอ “นายมีคำขอสุดท้ายอะไรมั้ย ถึงแม้ฉันจะจำไม่ได้ แต่ถ้าวันนึงฉันนึกออก ฉันจะพิจารณาช่วยนายให้สมปรารถนา!”
“อะฮ่าฮ่า….ฮ่าฮ่า” วู่หยานหัวเราะแห้งๆ “อย่าล้อเล่นสิมิโคโตะ ดูสิฉันทำเพื่อเธอนะ เป็นผู่หญิงต้องรู้จักสะอาด มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยๆเอง….”
“เรื่องเล็กน้อย!” เสียงครางต่ำที่ไม่เมคเซ้นส์ดังขึ้นมา ทำให้วู่หยานใจคอไม่ดีมากกว่าเดิม
“ยังงี้นี้เอง สำหรับนาย มันเป็นแค่เรื่อง ‘เล็กน้อย’ สินะ ถ้ายังงั้นละก็….” ด้วยหน้าที่ยังแดงอยู่ เธอจ้องมาที่วู่หยาน “ไม่จำเป็นแล้วไอ้คำขอสุดท้ายอะไรนั้น นายจง…..”
“มิโคโตะ ถ้าฉันตาย เธอก็จะตายด้วยนะ!” วู่หยานส่งเสียงสุดท้ายด้วยความเศร้าโศก
“ตายซะ!!!”
“เปรี๊ยะๆ!!”
“อ๊าก!”
ฮินางุเพิ่งตื่นขึ้น ก็สะดุ้งตกใจกับเสียงร้องชวนให้คนอื่นรู้สึกสงสาร เธอก็คิดว่าปีศาจบุกโจมตีอีกครั้ง ดีดตัวขึ้น ในมือชิโระซากุระก็ปรากฏออกมา มองไปข้างหน้าอย่างตื่นตัว หลังจากเธอเห็นต้นเสียง ฮินางิคุก็ตกใจ
มิโคโตะมีสีหน้าแดงเถือก บนหัวก็มีควันลอยออกมาเป็นช่วงๆ มือทั้งสองข้างปิดหน้าอก ถลึงตามองไปที่พื้นซึ่งมีสิ่วสยดสยองนอนอยู่
บนพื้นวู่หยานกำลังนอนอยู่ ต่างจากมิโคโตะที่หน้าแดง หน้าเขาดำ เสื้อผ้าก็ดำ ปากก็พ่นควันออกมา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” ฮินางิคุมองฉากตรงหน้าอย่างอึ้งๆ
มิโคโตะหันมามองฮินางิคุ ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา เธอหันหน้าหนี แล้มก้มหน้าลง
จะให้เธอพูดออกไปได้ยังไง…….
ฮินางิคุมองมิโคโตะที่หน้าแดงถึงขั้นควันขึ้น และยังไม่กล้ามองหน้าเธออีก ทำให้ฮินางิคุรู้สึกแปลกๆ แต่ก็บอกไม่ถูกว่าตรงไหนที่แปลก
ฮินางิคุกรอกตา ก่อนจะเดินไปหาทั้งสองคน แต่แค่อ้าขาก้าวออกไปก้าวเดียว เธอก็แข็งค้าง
ทำไมส่วนล่างถึงรู้สึกเย็นกัน?…….
เอื่อมมือไปแตะ ฮินางิคุช็อคทันที เธอสัมผัสได้ว่าชุดชั้นในส่วนล่างที่เธอใส่เป็นประจำหายไป นิ้วมือเธอจับขอบที่ไม่คุ้ยเคย ก่อนจะเอื่อมมือไปจับขาอ่อน เธอจับได้แต่ผิวเนียนๆของเธอ
กางเกงในนิรภัยของฉันหายไป……. (@ขอเปลี่ยนจาก กางเกงขาสั้น นะครับ)
กับฉากตรงหน้า บวกกับผมของเธอที่ยังเปียกอยู่เล็กน้อย บวกกับร่างกายเธอที่รู้สึกสดชื่น และชุดที่เปลี่ยนไปซึ่งเหมือนกับชุดของมิโคโตะทุกอย่าง ฮินางิคุก็คิดอะไรบางอย่างที่เลวร้ายขึ้นมา…..
หน้าฮินางิคุค่อยๆแดงขึ้น มองมิโคโตะ เธอถามเสียงเบาๆ ว่า “มิโคโตะ หรือว่า ชุดของพวกเรา และยังคราบเลือดที่หายไปนี่ เป็นเพราะ……..”
ได้ยินเสียงฮินางิคุ มิโคโตะไม่ได้เอามือที่ปิดหน้าลง เธอแค่เปิดนิ้วเล็กน้อยเผยให้ดวงที่เปียกชื้น หันไปมองวู่หยานที่พื้น แล้วพยักหน้า
หลังจากมิโคตะพยักหน้า สีหน้าฮินางิคุก็แดงยิ่งกว่าสีผมตัวเอง ในอกมีไฟโทสะพรุ่งพล่าน เธอก้าวเดินฉับๆไปหาวู่หยาน แล้วตบลงไปอย่างแรง
“เพี๊ยะ!”
“!!”
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล