เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 81 ไม่ใช่แขก
ตอนที่ 81 ไม่ใช่แขก
ประโยคนี้ของซางเทียนซั่วทำให้ซ่งจื่อเซวียนหมดคำพูดจิงๆ พี่สาวของตัวเองไม่เพียงแต่ถูกเลี้ยงดูจากผู้ชายที่แต่งงานแล้ว แต่อีกฝ่ายยังมีท่าทีใช้ชีวิตเหลวแหลกอีกด้วย!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ซ่งจื่อเซวียนรู้สึกเลือดพลุ่งพล่านไปทั้งตัว ความใจเย็นที่อยู่ในใจเพียงน้อยนิดหายไปจนหมดสิ้นแล้ววิ่งพุ่งไปทางเซินซวี่
พอเดินเข้าไปใกล้เซินซวี่ ซ่งจื่อเซวียนก็จับคอเสื้อของเขา “ไอ้สารเลว แกมีเมียอยู่แล้วยังมายุ่งกับพี่สาวของฉัน แถมยังมีอะไรกับผู้หญิงนอกบ้านอีก ไม่กลัวเป็นโรคหรือไง!”
พูดจบ ซ่งจื่อเซวียนก็ต่อยหน้าเซินซวี่ไปหนึ่งหมัด เซินซวี่ไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างเห็นได้ชัด ล้มหงายไปข้างหลังโดยตรง นั่งอยู่กับพื้น
ซางเทียนซั่วมองด้วยความงุนงง อย่างน้อยเขาเคยเจอซ่งจื่อเซวียนมาหลายครั้ง แต่ซ่งจื่อเซวียนไม่เคยโหดแบบนี้มาก่อน เดินเข้ามาก็ต่อยเลย…
“แม่งเอ๊ย แกเป็นใคร ทำไมมาถึงก็ต่อยเลยเนี่ย!” เซินซวี่นั่งบนพื้นเอามือกุมหน้าพลางตะโกนพูด
“ประธานเซิน เกิดอะไรขึ้น” ผู้ชายใส่ชุดสูทคนหนึ่งเอ่ย
เซินซวี่พูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ “ไม่รู้ ไม่รู้ว่าเป็นหมาบ้าวิ่งมาจากไหน รปภ.ๆ มาหาฉันเดี๋ยวนี้!”
ซ่งจื่อเซวียนไม่สนใจคำพูดของเขาอย่างสิ้นเชิง เดินเข้าไปต่อ แล้วยกมือตบหน้าอีกครั้ง
ถึงแม้จะต่อยตีไม่เป็น แต่ซ่งจื่อเซวียนก็เป็นคนเลือดร้อนเช่นกัน ตบหนึ่งทีใช้แรงไม่น้อย เซินซวี่ในตอนนี้มึนงงเล็กน้อย หนังตาเหลือกขึ้นไปข้างบนนิดหน่อย
แต่ตอนนี้ รปภ.รีบพุ่งเข้ามาแล้ว จับตัวซ่งจื่อเซวียนไว้ จากนั้นก็หิ้วแขนทั้งสองข้างของเขาทันที
“ปล่อยฉัน ฉันจะเตะคนวิปริตอย่างแกให้ตาย!”
ซ่งจื่อเซวียนไม่คิดจะหยุดเลยด้วยซ้ำ สองมือโดนจับแต่ก็ไม่ปล่อยขาให้ว่าง ถีบเซินซวี่ต่ออีกหลายครั้ง แต่ รปภ.ลากเขาไปข้างหลัง จึงเตะไม่โดน
เมื่อเห็นซ่งจื่อเซวียนโดนจับ ฟางรุ่ยรีบเดินเข้ามา แต่ซางเทียนซั่วกลับกดไหล่ของเขา
“แกจะทำอะไร นายท่านรองโดนต่อยแล้วนะ!” ฟางรุ่ยกล่าว
“แกไม่ได้เรื่อง ถอยไป!”
ขณะพูด ซางเทียนซั่วเดินปรี่เข้ามา
เซินซวี่เอามือกุมหน้าพลางมองซ่งจื่อเซวียน “หมาบ้ามาจากไหน แกต่อยฉันทำไม ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ!”
“แม่มันเถอะ แกไม่รู้จักฉัน แต่ฉันรู้จักแก ไอ้ชาติหมา ทำร้ายพี่สาวของฉัน!” ซ่งจื่อเซวียนก่นด่าเสียงดัง
หากเป็นยามปกติ เขาย่อมไม่เป็นเช่นนี้ แต่ครอบครัวของตัวเองโดนรังแก เขาจะทนได้อย่างไร บวกกับนึกได้ว่าไอ้ชาติหมาตัวนี้เคยด่าแม่ของตัวเอง เขาจึงยิ่งโกรธจัด
“แม่งเอ๊ย ยังจะทำตัวถ่อย จับมันไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย ฉันขอคุยธุระก่อน แล้วค่อยจัดการแกอีกที!”เซินซวี่พูดกับซ่งจื่อเซวียน
“เหอะๆ ประธานเซินสุดยอดเลย!”
เสียงหนึ่งดังเข้ามา เซินซวี่ทอดมองด้วยความรำคาญ แต่ไม่ช้าสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป รีบแสดงความเคารพทันที
“อ้าว ท่านชายซาง คุณมาหลานหยวนไม่บอกกันสักคำ”
ขณะพูด เซินซวี่รีบแนะนำตัว “ท่านชายซาง สองคนนี้เป็นเถ้าแก่ใหญ่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์หลานหยวน ประธานหลี่กับประธานจาง ท่านทั้งสอง นี่คือท่านชายซางของโรงแรมในเครืออควาบลูเซ็นเตอร์”
เซินซวี่พูดเช่นนี้ สองคนนั้นยืนตัวตรงทันที ประธานหลี่เอ่ยว่า “โอ้ ที่แท้ก็ท่านชายซาง มีตาหามีแววไม่ ในธุรกิจการโรงแรม ผมยังโชคดีที่เคยได้ฟังการบรรยายของคุณครับ”
“ใช่แล้วท่านชายซาง อควาบลูสองสามปีที่ผ่านกิจการดีมาก ได้ยินว่าที่เกาะกำลังขอยื่นเสนอโรงแรมระดับห้าดาวอยู่ วันนี้ได้เห็นความสง่างามของท่านชายซางแล้ว เก่งมีความสามารถจริงๆ นะครับ”
แต่ถึงแม้สองสามคนนี้จะพูดจาประจบเอาใจอยู่ สีหน้าของซางเทียนซั่วก็ยังดูไม่ดีเหมือนเดิม ใบหน้าดูยาวยิ่งกว่าม้าเสียอีก ฟางรุ่ยที่อยู่ข้างหลังยิ่งโกรธจัด ขึงตามองสองสามคนนี้
“ท่านชายซาง วันนี้คุณ…”
ไม่รอให้เซินซวี่พูดจบ ซางเทียนซั่วทำเสียงฮึดฮัดเย็นชาหนึ่งที “ประธานเซิน วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
ขณะที่พูด ซางเทียนซั่วหันไปมองซ่งจื่อเซวียนหนึ่งที
“เอ่อ…” เซินซวี่มองซ่งจื่อเซวียน พูดด้วยใบหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ “ผมก็ไม่รู้ครับ คนคนนี้เหมือนกับหมาบ้า เข้ามาก็ต่อยผมเลย ผมเลยรีบเรียก รปภ.ให้มาควบคุมเขา ท่านชายซางอย่าเก็บไปใส่ใจ ทำให้คุณอารมณ์เสียเปล่าๆ ผมจะลากเขาออกไปเดี๋ยวนี้ครับ”
“เอาใครออกไป” ซางเทียนซั่วถามอย่างเย็นชา
“เขาสิครับ…” เซินซวี่งุนงงอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าทำไมซางเทียนซั่วถึงถามเช่นนี้
“เขาเป็นใคร”
“เขาคือ…” เครื่องหน้าทั้งห้าของเซินซวี่แทบจะหลอมรวมกัน ดูเหมือนจะมีคำว่าหดหู่เขียนอยู่บนใบหน้าของเขา
“เขาเป็นอาจารย์ของฉัน! แม่งเอ๊ย นายจะบ้าเหรอ กล้าเรียก รปภ. มาจับอาจารย์ของฉัน นายเปิดโรงแรมกระจอกพวกนี้ก็คิดว่าตัวเองสำคัญมากนักเหรอ” ซางเทียนซั่วสีหน้าเปลี่ยนทันที แสดงใบหน้าโกรธเคืองขึงตามองเซินซวี่ในทันใด
เซินซวี่ในเวลานี้เหมือนลูกเจี๊ยบ ซางเทียนซั่วที่อยู่ตรงหน้าเหมือนสุนัขที่ดุร้าย รัศมีของทั้งสองคนแบ่งแยกอย่างชัดเจน
“เขา…เป็นอา…อาจารย์ของคุณ” หัวใจของเซินซวี่แทบจะจุกอยู่ที่คอ ถึงแม้ธุรกิจของตระกูลซางเทียนซั่วจะอยู่ที่ปักกิ่ง ไม่สามารถทำอะไรธุรกิจของพวกเขาที่หลานหยวนได้ แต่ในวงการนี้ ใครอยากจะผิดใจกับยักษ์ใหญ่กัน
ประเด็นสำคัญคือ วันนี้เขางงงวยจริงๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนคนคนนี้ต่อยหน้า และที่สำคัญคือคนผู้นี้ยังเป็นอาจารย์ของท่านชายยักษ์ใหญ่ในวงการ นี่มันอะไรกัน…
เมื่อเห็นดังนั้น ประธานหลี่กับประธานจางก็สังเกตเห็นถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ รีบพูดว่า “เอ่อ…ประธานเซิน ผมมีธุระด่วนขอตัวก่อน เรื่องร่วมงานกันพวกเราค่อยคุยกันวันหลังนะครับ”
“ใช่แล้วประธานเซิน ดูเหมือนผมก็ลืมว่าที่บริษัทยังมีงานต้องสะสาง พวกเราค่อยนัดกันใหม่นะครับ ท่านชายซางถ้ามีเวลาก็ไปนั่งเล่นที่บริษัทของพวกเราได้นะครับ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว”
“ประธานจาง ประธานหลี่ อย่าเพิ่งไปสิ…เฮ้อ…”
ถึงแม้เซินซวี่พยายามรั้งแล้ว แต่คุณชายยักษ์ใหญ่ในวงการโกรธขนาดนี้ พวกเขามีหรือจะยอมอยู่คุยเรื่องการร่วมงานกัน…
ซางเทียนซั่วถลึงตาใส่เขาหนึ่งที “ประธานเซิน ยังไม่รีบปล่อยอาจารย์ของฉันอีก”
เซินซวี่โกรธมาก โดนต่อยอย่างแรงแถมตอนนี้ยังโดนต่อว่า คุณบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ แน่นอน ประโยคเหล่านี้เป็นคำพูดในใจของเขา เขาได้แต่พยักหน้าเบาๆ “ปล่อยคนซะ!”
แต่ รปภ. เพิ่งจะปล่อยมือ ซ่งจื่อเซวียนก็พุ่งเข้ามาอีกครั้งราวกับเสือร้าย บีบคอของเซินซวี่ไว้ “ไอ้สารเลว ฉันจะบอกแกให้นะ รีบอธิบายกับพี่สาวของฉันให้ชัดเจน ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่!”
ซางเทียนซั่วมองออกว่าซ่งจื่อเซวียนโมโหแค่ไหน ปกติต่อให้เขาโกรธ ก็ไม่เคยเสียสติแบบนี้มาก่อน จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงประโยคว่าเอาแกตายแน่นอน นับว่าเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก
“พี่สาวของคุณเป็นใคร ผมไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ!” เซินซวี่พูด ไม่ว่าอย่างไรซางเทียนซั่วก็อยู่ที่นี่ เขาจึงใจเย็นลงไม่น้อย
“ซ่งอีหนาน แกอย่าบอกว่าไม่รู้จัก!”
“อีหนานเหรอ” เซินซวี่ทำสีหน้าตกใจ “คุณเป็นน้องชายของอีหนานเหรอ”
ซ่งจื่อเซวียนถ่มน้ำลายใส่หน้าเซินซวี่ “ถุย ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ฉันจะบอกแกให้นะ รีบตัดความสัมพันธ์กับพี่สาวของฉันซะ และอย่าทำร้ายเธออีก ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
เซินซวี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ หนึ่งที “คุณผู้ชาย ผมไม่สนว่าคุณกับอีหนานจะเป็นอะไรกัน แต่คุณน่าจะรู้ว่ายุคสมัยนี้จะรักใครชอบใครเป็นเรื่องอิสระใช่ไหมล่ะ พวกเราคบกัน คุณก็อยากจะเข้ามายุ่งด้วยเหรอ”
“คบกันงั้นเหรอ หน้าไม่อาย เมื่อวานแกพักอยู่ที่โรงแรมที่อยู่ข้างๆ ชุ่ยเหม่ยถิงใช่ไหม”
ประโยคนี้ถามจนเซินซวี่อึ้งไป เขารู้ตัวอยู่แล้ว เมื่อวานเขาพาผู้หญิงคนหนึ่งมาจากไนต์คลับไปเล่นสนุกกันที่นั่น ไม่รู้ว่าเล่นกันอย่างสนุกสนานมากแค่ไหน
“คุณ…”
“อันนี้ยังไม่นับ แกมีเมียกับลูกอยู่ที่บ้านแล้วยังคิดจะมาจีบพี่สาวของฉัน ถูกแล้ว พี่สาวของฉันเป็นผู้หญิง ไม่ค่อยได้เจอโลกกว้างอะไร หลงเชื่อคนง่าย แต่แกก็ไม่ควรหลอกเธอแบบนี้ไหม แกแม่งยังเป็นคนอยู่ไหม” ซ่งจื่อเซวียนตะคอก
ไม่มีคำพูดของเซินซวี่ รปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่กล้าขยับ ได้แต่มองอยู่ข้างๆ
ตอนนี้ การทะเลาะกันของพวกเขาสองสามคนดึงดูดผู้คนเข้ามาห้อมล้อม เซินซวี่รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว แบบนี้เรียกว่าขายหน้า
“เอาแบบนี้ดีไหม พวกเราไปหาที่คุยกันได้ไหมครับ”
“ฉันกับแกมีอะไรต้องคุยกัน ฉันรู้จักแกเหรอ ฉันให้โอกาสแกแค่วันนี้ไปพูดกับพี่สาวของฉันให้ชัดเจน ฉันจะพาเธอกลับตู้เหมิน ไม่อย่างนั้น…เซินซวี่ ฉันไม่ปล่อยให้แกอยู่เป็นสุขแน่!” ซ่งจื่อเซวียนขึงตาพูดใส่เซินซวี่อย่างแรง
เซินซวี่พ่นลมหายใจหนึ่งที พยักหน้า “ได้ ผมเข้าใจแล้ว”
ซ่งจื่อเซวียนจึงปล่อยคอเสื้อของเขา “วันนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นฉันจะปล่อยข่าวนี้ออกไป ถึงตอนนั้นแม้แต่ครอบครัวของแกก็จะรู้เรื่อง อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน!”
พูดจบ ซ่งจื่อเซวียนจึงหมุนตัวเดินออกจากโรงแรม ฟางรุ่ยเดินตามหลังติดๆ ซางเทียนซั่วก็ยักไหล่ให้เซินซวี่“แก้ปัญหาเอาเองก็แล้วกัน!”
เซินซวี่ก็รู้สึกขายหน้า เดินเข้าลิฟต์โดยตรง ขึ้นไปชั้นบนสุด โซนสำนักงานของโรงแรม
ตอนที่เดินใกล้ถึงห้องทำงาน เซินซวี่โกรธจนเตะกระถางต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ ต้นศุภโชคสูงประมาณห้าเมตรล้มลงบนพื้นทันที
ปกติเซินซวี่ชอบต้นไม้ต้นนี้มากที่สุด แต่วันนี้…โกรธจัดจริงๆ
เมื่อนั่งหน้าโต๊ะ ดูเหมือนยังจะไม่หายโกรธ เขากวาดเอกสาร โทรศัพท์บนโต๊ะทั้งหมดทิ้งไปบนพื้น หายใจหอบใหญ่ ที่หลานหยวน เขาไม่เคยโดนหยามให้ขายหน้าแบบนี้มาก่อน!
“ซ่งอีหนาน! เธอหาเรื่องมาให้ฉันใช่ไหม!”
ขณะพูด เซินซวี่นั่งพิงหลังเก้าอี้ปลดเน็คไท จุดบุหรี่หนึ่งมวน เส้นผมถูกซ่งจื่อเซวียนกระชากจนยุ่ง เมื่อปลดเน็คไท ปลดกระดุมคอเสื้อสองเม็ดแล้ว สีหน้าท่าทางของเซินซวี่เวลานี้กับตอนที่เดินเข้าประตูโรงแรมเมื่อครู่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดูโทรมและหดหู่…
เขาสูบบุหรี่เต็มแรงสองสามที หยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออก
“ประธานเซิน บังเอิญจัง เมื่อกี้กำลังจะไปหาคุณพอดี แต่เห็นว่าคุณกำลังมีแขกอยู่ เลยไม่ไปรบกวนคุณ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ปลายสายดังเข้ามา
“นายมาหาฉันเหรอ” เซินซวี่เชิดหน้าเล็กน้อย เอนหลังพิงเก้าอี้อีกครั้ง
“ใช่ครับ คราวที่แล้วช่วยคุณทำงานคุณยังไม่ได้ให้เงินผมเลย ผมกำลังจะไปถามคุณเรื่องนี้พอดี แต่เห็นคุณกำลังคุยกับแขกที่ห้องโถงใหญ่ของโรงแรม เลยไม่รบกวน” ผู้ชายคนนั้นกล่าว
“ไม่เชื่อใจคนอย่างเซินซวี่เหรอ ถึงต้องมาตามหนี้”
“ประธานเซินคุณพูดแบบนี้ ถ้าหากผมไม่เชื่อใจเมื่อกี้คงไม่ถอยไปหรอก แต่…ฮิๆ ช่วงนี้เงินขาดมือจริงๆ คุณก็รู้ผมไม่ได้แค่เลี้ยงดูตัวเอง ยังต้องเลี้ยงพี่น้องอีกสองสามคนใช่ไหมล่ะ” ผู้ชายคนนั้นหัวเราะฮิๆ พลางพูด
เซินซวี่ได้ยินแล้วจึงพยักหน้า “อย่างนั้นก็ดี คราวที่แล้วต้องให้นายเท่าไรนะ”
“ไม่เยอะ ห้าหมื่นหยวน สำหรับประธานเซินแล้วนับว่าจิ๊บจ๊อยครับ”
“อืม ฉันจะให้นายหนึ่งแสน นายช่วยงานฉันอีกอย่างหน่อย” เซินซวี่พูดพลางพ่นลมหายใจออกมา ควันบุหรี่ลอยออกมาเช่นกัน
“อะไรนะครับ ประธานเซินจริงหรือเปล่าครับ เรื่องนี้ผมจะทำได้เหรอ” ผู้ชายคนนั้นตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เซินซวี่พูดหัวเราะเยาะเย็นชา “ซานหู่อย่างนายถ้าเรื่องนี้ยังทำไม่ได้ ต่อไปก็ไม่ต้องอยู่ที่หลานหยวนแล้ว ง่ายมาก วันนี้เห็นสองสามคนนั้นในโรงแรมไหม นายไปสั่งสอนพวกเขาให้ฉันที!”
“หา ประธานเซิน นั่นเป็นแขกของคุณไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณ…” ซานหู่พูดอย่างไม่เข้าใจ
“แขก ฉันเคยพูดตอนไหน นั่นไม่ใช่แขก ศัตรูต่างหาก!”
ขณะพูด เซินซวี่ใช้มือบี้ก้นบุหรี่ในมือจนหัก ภายใต้สีหน้าที่เจ็บปวดเผยความบิดเบี้ยวน่ากลัวออกมา เรื่องในวันนี้ ฉันเซินซวี่จะปล่อยไปได้ยังไง ต่อให้แกเป็นท่านชายซาง มาถึงหลานหยวนก็ต้องทำความเคารพฉัน!
……………………………………………….