ราชาซากศพ - บทที่ 26 ความลำบากในการอัปเกรด
บทที่ 26 ความลำบากในการอัปเกรด
แก่นคริสตัลจำนวนมาก อาจกล่าวได้ว่าได้รับการสะสมมาโดยกองทหารรับจ้างโลกันตร์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อหลินเว่ยดูดซับพวกมันทั้งหมดแล้ว นอกจากจะทิ้งชั้นแป้งหนา ๆ ไว้แล้ว
มันยังทำให้ทั้งร่างของหลินเว่ยปกคลุมไปด้วยหมอกพลังงานจำนวนมหาศาล
หมอกพลังงานเหล่านี้หลอมรวมกันกลายเป็นหมอกพลังงาน มากกว่าเจ็ดล้านละออง และในที่สุดก็กลายเป็นกลุ่มหมอกที่ควบแน่นมากเท่านั้น
เมื่อหลินเว่ยเงยหน้ามองไปที่มัน หมอกพลังงานครึ่งหนึ่งนั้นหายไปในการรับรู้ของหลินเว่ย เมื่อเขารู้สึกถึงเหตุการณ์นี้ ปากของหลินเว่ยก็กระตุกเล็กน้อยและเขาทำได้แค่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“เด็กน้อย! พลังงานเพียงเล็กน้อย เจ้าจะถอนหายใจไปทำไม! พลังงานระดับต่ำทั้งหมดนี้ รวมกันแล้วไม่เพียงพอสำหรับข้าที่จะแคะฟันเลยด้วยซ้ำ อันที่จริงมันน้อยมาก ๆ ! “เมื่อหลินเว่ยรู้สึกเจ็บปวดในใจ เสียงแก่ ๆ เย็น ๆ ก็ดังขึ้นในใจ พร้อมกับคำพูดดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง
“เพ่ย! ตาแก่ มือไม่พายยังเอาเท้าราน้ำ ตัวเองหาไม่ได้กลับมาด่าข้า! ที่จริงข้าไม่ได้อยากจะให้ท่านเลยด้วยซ้ำ!” เมื่อได้ยินคำพูดของเฒ่าหมิง หลินเว่ยก็แค่นเสียงด้วยความโมโห
“เอ่อ ว่าแต่ หมอกนั่นมันคืออะไร! เจ้าต้องการเลื่อนทักษะของเจ้าหรือ?” ชายชราหมิงรู้สึกอายกับคำพูดของหลินเว่ยในทันที เขาไอสองครั้งอย่างรวดเร็วและเริ่มเปลี่ยนหัวข้อ
“เจ้ามันโหดร้ายเกินไปแล้ว! หลินเว่ยเดิมอยากจะบ่นอีกสักสองสามคำ แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขาก็ทำได้แค่กลืนมันกลับไป และพูดอย่างโกรธ ๆ
“อืม! เดี๋ยวก่อน หลังจากที่ได้ยินเสียงของชายชรา หมอกพลังงานเดิมที่หายไปครึ่งหนึ่ง ก็หายไปอีกครั้งและอีกครั้ง ในท้ายที่สุด แม้ว่ามันจะดูไม่ได้บางเบามาก แต่ประเมินด้วยสายตาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่า มันหายไปอย่างลึกลับ
หลินเว่ยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของศิลปะการคืนชีพโครงกระดูก แต่เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่มิติ ไม่เพียงแต่มีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่พื้นที่ยังมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย
“เอาล่ะ ข้าช่วยเจ้าเลื่อนระดับแล้ว!” เมื่อการเลื่อนระดับเสร็จสิ้น เสียงของชายชราก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เข้าใจแล้ว! ต้องใช้พลังงานเท่าไหร่ สำหรับขั้นต่อไป?” เมื่อได้ยินคำพูดของชายชราหมิง หลินเว่ยก็พอใจ แต่เขากลับรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อรู้สึกถึงความผันผวนในหัวใจของหลินเว่ย ชายชรายิ้มอย่างเย็นชา และกล่าวว่า “ฮ่าฮ่า! ไม่มาก….ไม่มากหรอก! เพื่อไปยังระดับต่อไป เจ้าต้องใช้เพียง 100 หยดเท่านั้น!”
“100 หยด เหรอ 100 หยด คืออะไร?” หลินเว่ยไม่เชื่อถือในคำพูดของเฒ่าหมิง แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจจำนวน 100 หยดว่ามันคืออะไร แต่เขารู้ทันทีว่า มากกว่าหนึ่งล้านแน่นอน
“โอ้! 100 หยดนี้ เป็นละอองพลังงานที่กลั่นตัวเป็นของเหลว และแต่ละหยดต้องใช้พลังงาน 100 ล้านหน่วย” สำหรับคำถามของหลินเว่ย ชายชราหมิงต้องการอธิบายให้ชัดเจน
“อะไรนะ ท่านหมายความอย่างไร แม้ว่าหลินเว่ยจะเตรียมตัวเตรียมใจ แต่หัวใจของหลินเว่ยยังคงสั่นคลอน และส่งเสียงร้องออกมา
“เจ้าไม่ต้องการเลื่อนขั้นอย่างนั้นหรือ ขั้นสี่ถ้าเปรียบเทียบกับสัตว์อสูร ความแข็งแกร่งของขั้นสี่และขั้นสามนั้น มันแตกต่างกันเพียงใด? ลองครุ่นคิดดูเอาเองว่า ข้าพูดถูกหรือไม่?”
“ดูเหมือนจะมีความจริงอยู่บ้าง!” หลังจากฟังคำอธิบายของชายชราหมิง หลินเว่ยครุ่นคิดอย่างรอบคอบ แล้วพยักหน้าเห็นด้วยกับอีกฝ่าย
“ถ้าอย่างนั้น ท่านต้องทำอะไรดี ๆให้ข้าบ้าง เพื่อเป็นการตอบแทนที่ข้าสามารถเลื่อนขั้นได้แล้ว” หลินเว่ยคิดถึงผลประโยชน์ ตอนนี้เขาใช้โอกาสนี้เพื่อกดดันชายชราหมิง
เมื่อได้ยินคำขอของหลินเว่ย ชายชราก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็พูดว่า “อืม! ในตอนแรก เจ้าอยู่ในขั้นแรกของการฝึกฝนเท่านั้น มันยังต่ำเกินไปกว่าจะเรียนรู้ แต่ในตอนนี้ เจ้ามาถึงขั้นสามแล้ว ข้าจะสอนทักษะศิลปะการต่อสู้และทักษะพลังจิต ”
“ต้องใช้เวลานานเท่าใด? การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ไม่เหมือนกับการสะสมแก่นคริสตัลเพื่อดูดซับ มันไม่มีทางลัดเหมือนการดูดซับแก่นคริสตัลหรือ ? ในตอนนี้ข้ามัวแต่ยุ่ง ๆ เกี่ยวกับการสะสมแก่นคริสตัลจะเอาเวลาใดไป ฝึกฝน แล้วข้าเองก็ต้องฝึกฝนลมปราณของตนเองอีกด้วย?” เมื่อเขาได้ยินว่าอีกฝ่ายต้องการสอนเขาให้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ขั้นสาม หลินเว่ยกลอกตาทันทีและบ่นอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อได้ยินคำบ่นของหลินเว่ย ผู้อาวุโสหมิงกล่าวว่า “หากเจ้าต้องการเลื่อนขั้นการฝึกฝนกำลังภายใน กินยาก็ไม่ช่วยอะไร!”
“ไร้สาระ! แน่นอน ข้ารู้ว่าการกินยาสามารถเลื่อนระดับได้ แต่ข้าไม่มีเงิน! ถ้าท่านมีอะไรดี ๆ ก็เอาออกมา ข้าจะเอาไปขายแลกเงิน”
“ข้าเป็นแค่วิญญาณที่อ่อนแอ ข้านั้นไม่สามารถควบแน่นร่างกายของตนเองได้ ขนาดพูดก็ยังต้องสื่อสารทางจิตกับเจ้า คิดว่าข้าจะเอาอะไรออกมาได้อย่างนั้นหรือ” ชายชราพูดอย่างหมดหนทาง
“อืม! ถ้าท่านไม่มี ก็ไม่มี!” เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเว่ยก็ไม่ได้ร้องขอผลประโยชน์ต่อไป
ขณะที่หลินเว่ยกำลังจะจบการสนทนากับเฒ่าหมิง เขาก็ได้ยินอีกฝ่ายพูดว่า: “อันที่จริง เจ้าไม่จำเป็นต้องซื้อ ก็แค่กลั่นมันออกมาเอง เพราะสมุนไพรนั้นมีราคาถูกมาก และเจ้าก็ไม่มีปัญญาหาซื้อยาระดับสูงได้ แม้ว่าจะมีเงินก็ตาม ”
“พูดตามตรง ท่านกำลังหมายความว่าท่านรู้วิธีปรุงยา?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของหลินเว่ย ชายชราก็หัวเราะและพูดว่า “เจ้าเด็กนี่ เจ้าฉลาดขึ้นขนาดนี้ เจ้าพูดถูกจริง ๆ ข้าเก่งเรื่องการกลั่นยา เจ้าอยากเรียนหรือไม่?”
เมื่อได้ยินว่าชายชราหมิงต้องการจะสอนหลินเว่ยปรุงยา หลินเว่ยก็พูดอย่างรีบร้อน: “แน่นอน ๆ ข้าต้องเรียน! มาเริ่มกันเลย!” หลินเว่ยกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ
“ดี!” เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลินเว่ย ลืมตาขึ้นและมองอย่างงงงวย เขาบอกว่าจะสอนให้เขากลั่นยา ทำไมจึงไม่สอนเขา เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลินเว่ยก็ทนไม่ได้ เขาถามว่า “ตาแก่….ทำไมยังไม่เริ่มอีกล่ะ”
“เริ่มอะไร?” เมื่อได้ยินคำถามของหลินเว่ย ชายชราหมิงก็ตอบ แต่น้ำเสียงของเขานั้น เต็มไปด้วยความสงสัย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของหลินเว่ยก็เบิกกว้างขึ้นและพูดอย่างโกรธ ๆ
“แน่นอน ข้าจะเรียน สอนวิธีกลั่นยาให้ข้าที!
“โอ้! เจ้าอยากเรียนกลั่นยา! เรียกข้าว่า อาจารย์สิ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชราหมิง หลินเว่ยก็ร้องออกมาอย่างรีบร้อน “อาจารย์!”
เมื่อได้ยินหลินเว่ยเรียกว่า อาจารย์ โดยไม่ลังเล เฒ่าหมิงก็มีความสุข ในที่สุดอารมณ์ของเขาก็เรียบเฉยอีกต่อไป เขาพูดอย่างมีความสุขว่า “โอเค เด็กดีมาเริ่มเรียนกัน เมื่อข้าสามารถสร้างร่างได้ เจ้าต้องมาคารวะข้า ขอเป็นศิษย์อีกรอบ”
“ไม่มีปัญหา!” ตอนนี้ชายชราหมิงกลายมาเป็นอาจารย์ของหลินเว่ย และหลินเว่ยตกลงที่จะคุกเข่ารับเขาเป็นอาจารย์โดยไม่ลังเล
“ดี! เดี๋ยวข้าจะสอนวิธีปรุงยาให้เจ้า” เมื่อสิ้นสุดคำพูดของชายชราหมิง หลินเว่ยก็รู้สึกได้ว่ามีคลื่นแห่งวิญญาณที่แข็งแกร่ง ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาและตรงไปที่จิตวิญญาณของเขา ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็มืดสนิท กลายเป็นสีดำ และเขาสูญเสียการรับรู้ทั้งหมดลงไป